หวังเกิงเฟยไม่รู้ว่าเหตุผลคืออะไร ดังนั้นจึง รู้สึกร้อนรุ่มภายในใจ ตอนนี้นักเรียนหลายคน ต่างก็จับจ้องเขา เขาทำได้แค่กัดฟันกรอด แล้ว ติดต่อหาคนอื่น
เขาโทรไปหาคนที่รับผิดชอบสํานักสันติ บาลระดับเขตอีกครั้ง
คนนี้ก็รู้จักกับพ่อของเขาอยู่ไม่น้อย
พอโทรติด หวังเถิงเหยก็พูดขึ้นทันที : “ผู้
อำนวยการเฉิน นี่ผมเอง หวังเถิงเฟย ผมเจอ
ปัญหาที่เขตบุกเบิกเกี่ยวกับ….. หวังเถิงเฟยเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง
อีกฝั่งนั้นพูดขึ้นอย่างประหม่า : “เถิงเฟย พวกนั้นเป็นคนของเปียว อ เขาเป็นคนของท่าน
หงห้า ทางที่ดีอย่าไม่ยุ่งกับเรื่องนี้เลยนะ”
หวังเถิงเฟยถามขึ้น “คุณจะไม่ช่วยเลยเห รอ?”
อีกฝั่งเลยตอบว่า : “ตำแหน่งของท่านหงห้า นั้น คุณเองก็น่าจะรู้จักดีนะ”
หวังเถิงเฟยเองก็รู้สึกหวั่นเล็กน้อย พลาง พูดขึ้น: “แล้วคุณสามารถช่วยพูดเพื่อรักษาหน้ากับเขาบ้างได้หรือเปล่า?”
อีกฝั่งยิ้มแห้งพลางพูดขึ้น : “อันนี้ผมช่วย ไม่ได้จริงๆ ขอโทษด้วยนะ”
หวังเถิงเฟยพูดขึ้นอย่างฉุนเฉียว : “ผู้ อำนวยการเฉิน ผมจำได้ว่าคุณอยากให้กลุ่ม บริษัทบริจาครถตำรวจให้คุณไม่ใช่เหรอ? หรือว่า คุณไม่อยากได้แล้ว?”
อีกฝั่งตอบกลับมาทันที อย่างไม่เกรงใจ : “หวังเถิงเฟย พ่อของคุณถูกไล่ออกแล้ว คุณไม่รู้ เหรอ?”
“ไล่ออก!? เรื่องเกิดขึ้นตอนไหน?”
“ครึ่งชั่วโมงก่อน!”
และเขาก็พูดขึ้นอีก : “คุณคิดให้ดีก่อนค่อย
พูดจะดีกว่านะ”
พูดจบ เขาก็ตัดสายทันที!
ชายหน้าบากหันไปมองเขาที่ดูท่าทางอึ้งๆ
พลางหัวเราะเยาะ : “ทําไม? หาไม่ได้เหรอ?”
หวังเถิงเหยกำลังจะพูดขึ้น โดยที่ไม่คิดว่า ชายหน้าบากจะตบเข้าที่ใบหน้าตัวเอง จนเขาถึง กับเซล้มทับโต๊ะเก้าอี้ล้มเป็นหน้ากอง!
ทุกอย่างพังลงทลาย!
สีหน้าทุกคนต่างขาวซีด แต่ก็ไม่มีใครกล้า เข้ามาขวางเขาไว้
แกกล่าตบฉันเหรอ?”
หวังเก็งเฟยจับหน้าตัวเอง ใบหน้าที่ขาวใส ของเขาแสดงความโมโหขึ้นมาอย่างชัดเจน
“ฉันตบแกแล้วมันทำไม?”
ขายหน้าบากหัวเราะออกมาอย่างสะใจ แล้วก็ถีบเข้าที่ท้องของหวังเถิงเฟย จนเขาล้มไป กองที่พื้น พลันขึ้นไปครอมแล้วทุบตีอย่างหนัก!
หวังรนหาที่เฟยถูกตีจนร้องอวดครวญ แต่ ว่าในเวลาอย่างนี้นั้น ไม่มีใครที่จะช่วยเขาได้เลย
ผ่านไปไม่นาน เขาถูกตีเหมือนหมูเหมือน หมา มีเลือดอาบเต็มใบหน้า ดูแล้วน่าหวาดกลัว อย่างมาก
เขาถูกตีจนหัวหด ทั้งร้องไห้ทั้งร้องขอ ชีวิต : “พี่ พี่ ผมผิดไปแล้ว! อย่าตีผมเลยนะ!”
“ผิดไปแล้วงั้นเหรอ?” ชายหน้าบากสบถ แล้วพูดขึ้น : “ผิดแล้วก็พอเหรอ? อย่ามาเสแสร้ง กับฉัน ฉันไม่ตีแกให้ตาย ต่อไปจะมีหน้าอยู่ได้ยัง ไง?”
พูดเสร็จ เขาก็หันไปพูดกับคนอื่น : “แม่ง ตี มันให้ตาย!”
คนทั้งกลุ่มต่างรุมเข้าไป แล้วก็รุมเตะหวัง เชิงเฟยทันที!
บางคนก็ใช้กระบอกเหล็กฟาดลงไปที่ตัวเขา ตอนนี้สถานการณ์นั้นดูน่าอนาถมาก
พอเห็นว่าหวังเถิงเฟยถูกตีปางตายแล้ว ขายหน้าบากก็เดินมาด้านหน้าของหวังเต่าคุน แล้วพูดเสียงข่มขู่ : “เพื่อนของแกโดนไป ตอน แรกมีแค่สองขา แต่ตอนนี้กลายเป็นสี่ขาแล้ว! ถ้า หากแกไม่รับปากละก็ แกก็จะเป็นแบบนั้น!”
หวังเต้าคุนกระวนกระวายใจทันที แต่ว่า พอ พูดว่าอยากได้ส่วนแบ่งหนึ่งในสี่ของตัวเอง นั่นก็ เท่ากับว่าตัวเองต้องทำงานให้เขาอย่างนั้นไม่ใช่ เหรอ?
ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้นด้วยความกล้า : “ถ้าจะ ให้ฉันเป็นแบบนั้น งั้นแกไม่สู้ฆ่าฉันเถอะ!”
ขายหน้าบากขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นเสียงยาก เย็น : “ได้! งั้นฉันจะสงเคราะห์ให้!”
พูดจบ เขาก็ดึงมีดปลายแหลมออกมาจาก กระเป๋า
ทุกคนต่างตกใจจนนิ่งไป นักเรียนหญิงต่าง พากันกรีดร้องขึ้น
เย่เฉินเห็นว่าปลายมีดกำลังจะฟันลงที่มือ ของหวังเต้าคุน เขาจึงพูดขึ้นทันที : “ทิ้งมีดนั่น ชะ!”
ชายหน้าบากหันมาอย่างฉุนเฉียว พลาง สบกด้วยคําด่า : “ใครยังอยากจะรนหาที่ตาย อีก?”
พอหันไปเห็นเปเฉิน สายตาของเขาก็ เหมือนกำลังครุ่นคิด หลังจากนั้นก็กลายเป็น หวาดกลัว มีเสียงของตกลงที่พื้น แล้วเขาก็พลัน คุกเข่าลง!
และตอนทุกคนยังไม่ทันได้สตินั้น ชายหน้า บากก็ได้ทิ้งมีดปลายแหลมเล่มนั้นแล้ว แล้วทุก คนต่างก็ก้มลงคำนับเขา พลางพูดขึ้นด้วยเสียง สํานึกผิด : “ขอโทษด้วยครับคุณชายเย่! ผมมีตา แต่ไม่มีแวว ไม่เห็นว่าคุณอยู่ที่นี่!”
เย่เฉินชะงักไปนิดหน่อย พลางหันไปมอง ชายหน้าบาก : “แกรู้จักฉันเหรอ?”
ชายหน้าบวกพยักหน้าอย่างเร็วและพูด เย่เฉินเข้าใจทุกอย่างทันที ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
ขึ้น : “คุณชายเย่ ผมเป็นลูกน้องของพี่เปียว เคย เห็นคุณ เทียนเซียง…..
วันนั้นคนที่มาหาเรื่องหวังเหวินเฟยกับเซียว ไห่หลงก็คือลูกน้องของท่านหงห้า ที่ชื่อเปียวจื่อ และคนนี้ก็เป็นลูกน้องของเปียวจื่อ
มิน่าล่ะ พอมองเห็นเขาแล้วถึงกับหวาดกลัว เลยทันที
ขนาดหงห้ามองเห็นเขายังเข่าอ่อนเลย
ประสาอะไรกับลูกน้องของหงห้า… เพื่อนในห้องต่างพากันอึ้งทึ่งไปหมด! หลิวลี่ลี่เองก็นิ่งเหมือนตัวเองอยู่ในฝัน
ทุกคนต่างไม่เข้าใจ ว่าทําไมกลุ่มนักเลงป่า เถื่อนแบบนี้ ขนาดหวังเกิงเฟยยังถูกตี จะมา คุกเข่าให้กับคนอย่างเย่เฉิน! แถมยังมีท่าทีว่า หวาดกลัวเขามากด้วย?
เซียวซูหรินเองก็มองอย่างงงๆ พลางถาม ขึ้น : “นี่มันเรื่องอะไร? นายรู้จักเขาเหรอ?”
เย่เฉินกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิดว่าเขาไปมี ส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งนี้ จึงรีบพูดขึ้น: “ฉันไม่รู้จัก พวกมัน!”
ชายหน้าบากเห็นเช่นนั้น จึงรีบพูดขึ้น :
“ไม่รู้จักไม่รู้จัก! ฉันไม่รู้จักคุณชายเย่ คุณชายเย่ ก็ไม่รู้จักฉันด้วย ฉันแค่ได้ยินชื่อเสียงของคุณ ชายเย่เท่านั้น และก็เคารพ…..
การยกยอคนแบบนี้มันช่าง…..
เคารพเย่เฉินเหรอ?
ทุกคนแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น เหมือน กับว่าเป็นภาพจินตนาการ!
ชายหน้าบากรีบหันไปพูดกับหวังเต้าคุนทัน ที : “คุณเป็นเพื่อนของคุณชายเย่ งั้นหลังจากนี้ที่ นี่ผมจะเป็นคนดูแล แต่ไม่เก็บค่าดูแลจากพวก คุณ! ถ้ามีเรื่องอะไร ผมจะช่วยเหลือให้ความเป็น ธรรมกับคุณเอง!”
พอเขาพูดออกมาแบบนั้น ทุกคนต่างพากัน
หลิวลี่ลี่เองก็ตะลึงจนแทบจะร้องไห้ ฟ้าดินนี่ก็ช่างเปลี่ยนไปจนน่าตกใจมากเ
เป็นเพราะบารมีของเย่เฉิน เธอถึงไม่ต้อง เสียส่วนแบ่ง 40% ให้เขา และที่สำคัญ ชายคนนี้ เพื่อไม่ให้บาดหมางกับเย่เฉิน ยังยินยอมมาคุ้มกัน ร้านให้โดยไม่คิดเงินอีก!
และครั้งนี้เธอก็สบายใจในการทําธุรกิจ แล้ว!
เย่เฉินช่างเป็นผู้มีพระคุณจริงๆ !
หวังเต้าคุณรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก พลางพูด ขึ้น : “เย่เฉิน เรื่องนี้ต้องขอบใจนายมากๆ เลยนะ เย่เฉินยิ้มๆ : “ยังจะมาขอบใจทำไมกัน นาย ก็เกรงใจเกินไปแล้ว”
ชายหน้าบากหันไปเห็นหวังเถิงเฟยที่ถูกตี ปางตาย ก็พลันพูดขึ้นอย่างหวาดกลัว : “ขอโทษ ด้วยครับคุณชายเย่ ผมจัดการเพื่อนคุณ…..
เย่เฉินพูดขึ้นเสียงธรรมดา : “ไม่เป็นไร เขา ไม่ใช่เพื่อนฉัน แค่คนรู้จักเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มี ความสัมพันธ์อะไรมากด้วย”
พูดเสร็จ แล้วเขาก็พูดต่อ : “พวกนายพาเขา ไปส่งโรงพยาบาลเถอะ เดี๋ยวจะมีปัญหาในการ เปิดร้าน
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ