บทที่ 2433

เพื่อที่จะดึงอู่ตงไห่มาเป็นพวก ซูเฉิงเฟิง ให้พ่อบ้านของตัวเอง นำของขวัญ ไปเยี่ยมที่บ้านของตระกูล

พ่อบ้านของตระกูลซู คุณสมบัติและตำแหน่งเทียบเท่ากับถัง ชื่อไห่ ถึงขนาดเหนือกว่าด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นพ่อบ้านไม่เพียงแต่ เป็นตัวแทนของตัวเอง ก็ยังเป็นตัวแทนของเจ้าบ้านอย่างซูเฉิงเฟิ งด้วย ดังนั้น ให้พ่อบ้านไปเยี่ยมเยียนตระกูลด้วยตัวเอง ให้ เกียรติตระกูลมากพออย่างแน่นอน

ซูเฉิงเฟิงให้ความสำคัญมากกับเรื่องที่จะดึงตระกูลมาเป็น พวก ดังนั้นถึงได้ให้พ่อบ้านของตัวเองเป็นตัวแทนของตัวเองไป เยี่ยมเยียนถึงบ้าน

ในใจของซูเฉิงเฟิงรู้ดีมาก ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นคนน่า สมเพชเวทนาแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปที่เย่นจิงอย่างเปิด เผยในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้นเขาจําเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะอยู่ในซูหาง

เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกว่า เหมือนกับประวัติศาสตร์ที่กองทัพ อังกฤษฝรั่งเศสบุกรุกรานเป็นจิง ในปี 1860 และจักรพรรดิเสีย นเฟิงแห่งราชวงศ์ชิงเร่งรีบหนีตายไปชื่อเหอ

ตอนนั้น กองทัพอังกฤษฝรั่งเศสบุกโจมตีเย่นจิง จักรพรรดิเสีย นเฟิงก็เหมือนกับเขาเร่งรีบหนีไปด้วยความตื่นตระหนก
แต่ทว่า ชะตากรรมของจักรพรรดิเสียนเฟิงค่อนข้างน่าสังเวช

หลังจากที่รออยู่ในชื่อเหอหนึ่งปี ก็ไม่มีโอกาสกลับไปถิ่นฐาน เดิม ปรากฏว่าหนีไปที่ชื่อเหอในปีที่สองก็เสียชีวิตแล้ว อายุเพียง สามสิบเอ็ด

ซูเฉิงเฟิงเพื่อที่จะไม่ตามรอยเดิมของเสียนเฟิง ตั้งแต่วินาทีที่ หนีออกจากเล่นจิง ก็ได้วางแผนทั้งหมดให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว

เขามาที่ซูหาง ก็แค่ต้องการตั้งหลักอยู่ที่ซูหางอย่างเงียบๆ ไม่ เพียงแต่ผูกมัดใจตระกูลชั้นนำทั้งหมด ในท้องถิ่นของซูหาง เท่านั้น แต่ยังจะดำเนินการย้ายอุตสาหกรรมทั่วประเทศของ ตระกูลซู ไปที่ซูหางอย่างรวดเร็ว รากฐานของตระกูลซูอยู่ที่หาง จะได้แข็งแรง

เขาต้องการให้ทางเป็นค่ายฐานที่สองของตระกูลซู นอกเหนือจากนี้ เขายังต้องการยกซูโสบู่เต้าลูกชายคนโตขึ้น มาอีกครั้ง ให้เขาทำหน้าที่เป็นประธานรักษาการของทั้งซูชื่อกรุ๊ป

ถ้าเกิดซูโสเต้าดำรงตำแหน่งรักษาการประธาน ก็ หมายความว่าเขาได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นเจ้าชายของตระกูล อย่างเป็นทางการ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ซูโสบู่เต้ายึดติดกับตัว เองอย่างว่าง่าย ยังสามารถที่จะช่วยลดความสนใจจากภายนอก โลกที่มีต่อตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

สิ่งที่เขาคิดคือ ดึงซูโสบู่เต้ามาเป็นพวก ให้เขาเป็นหุ่นเชิดของ ตัวเอง แสดงตัวต่อหน้าสาธารณะ ในขณะที่ตัวเองซ่อนตัวสั่งการ ลับหลังอยู่ที่ซูหาง แบบนี้ก็สามารถที่จะแน่ใจว่าอำนาจของตัวเองไม่มีทางถูกทำให้อ่อนแอโดยซูโสบู่เต้า

ทั้งตระกูลซูจัดการบริหารอยู่ในมือของซูเฉิงเฟิงมาหลายปี แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นของบริษัท หรือว่าสิทธิ์ในการออกเสียงและ สิทธิ์การยับยั้งของคณะกรรมการบริษัท และชุดสิทธิ์ในการ ควบคุมสิทธิ์การจัดการของกองทุนทรัสต์เป็นต้น ทั้งหมดอยู่ใน มือของซูเฉิงเฟิงคนเดียว

ดังนั้น ตราบใดที่เขาไม่โอนสิทธิ์เหล่านี้ออกไป ต่อให้ซูโสว่ เต้าจะดำรงตำแหน่งรักษาการประธาน ก็ไม่มีอำนาจที่แท้จริงได้ นับประสาอะไรกับการฉวยโอกาสนี้วางแผนแย่งชิงตำแหน่ง

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวของซูเฉิงเฟิงก็จิตรบรรจงเป็นอย่างมาก เขา ได้ทำพินัยกรรมไว้ตั้งนานแล้ว ถ้าเกิดเขาเสียชีวิต ทรัพย์สิน ทั้งหมดของทั้งตระกูลซูถูกส่งไปให้กองทุนทรัสต์ที่จัดตั้งขึ้นโดย ธนาคารยูบีเอสมาจัดการ ทรัพย์สินที่เกินล้านล้าน ลูกหลานของ ตระกูลซูใครก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ทั้งนั้น พวกเราทำได้เพียงทำตามกฎที่ ซูเฉิงเฟิงกำหนดไว้ สามารถรับค่าครองชีพจากกองทุนทรัสต์ทุก เดือน

สำหรับมาตรฐานค่าครองชีพ ซูเฉิงเฟิงก็ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่นกัน ลูกชายลูกสาวของตัวเอง ทุกคนจะได้รับสิบล้านต่อเดือน และคู่สมรสจะได้รับเงินห้าล้านต่อเดือน, หลานทุกคนของตัวเอง จะได้รับหกล้านต่อเดือน และคู่สมรสจะได้รับสามล้านต่อเดือน ถ้าหากหลานมีทายาท ทายาททุกคนก่อนอายุสิบแปด จะได้รับ สองล้านต่อเดือน
คำนวณแล้ว ถ้าหากก่อนหน้าที่ซูเฉิงเพิ่งจะเสียชีวิตไม่ได้ เปลี่ยนพินัยกรรม หลังจากที่เขาเสียชีวิต บรรดาคนรุ่นหลังของ ทั้งตระกูลซู รวมกันแล้วก็จะได้รับค่าครองชีพสองถึงสามร้อย ล้านต่อเดือน

แต่ทว่า ทรัพย์สินของตระกูลเกินล้านล้าน กำไรสุทธิต่อเดือน ก็เกินหมื่นล้าน เงินที่เหลือนี้ ใครก็ไม่มีสิทธิ์เอาออกมา ก็ทำได้ เพียงใส่ไว้ในกองทุนทรัสต์เพื่อทำกำไรดอกเบี้ยเท่านั้น

ดูเหมือนว่า จะไม่ยุติธรรมกับลูกหลานอย่างซูโสบู่เต้าเหล่านี้ เป็นอย่างมาก เพราะว่าต่อให้พวกเขายังได้รับค่าครองชีพไปจน เสียชีวิต เงินของตระกูลซูก็จะยิ่งอยู่ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ทว่า เหตุผลที่ซูเฉิงเฟิงกำหนดแบบนี้ กลับมีแผนการของ ตัวเอง

ประการแรก พินัยกรรมวางอยู่ที่นี่ ก็เป็นเครื่องรางของ

เฉิงเฟิง

เพราะว่า ลูกหลานคนไหนในตระกูล ไม่มีทางเริ่มมีเจตนาที่ จะทำร้ายซูเฉิงเฟิงอย่างแน่นอน

เหตุผลคือ ถ้าเกิดซูเฉิงเฟิงเสียชีวิต พวกเขาไม่เพียงแต่ใครก็ ไม่สามารถที่จะสืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านได้ ถึงขนาดรายได้ก็จะ ลดลงอย่างมาก

เดิมทีครอบครัวหนึ่งได้รายได้หลายสิบถึงหลายร้อยล้านต่อปี ยังสามารถได้ทรัพยากรอื่นจากในตระกูลอีกไม่น้อย แต่ถ้าเกิด คุณท่านเสียชีวิตทุกคนก็นอนรับเงินเดือนที่คงที่ ครอบครัวหนึ่งสามารถได้รับไม่กี่ล้านก็สุดยอดแล้ว ลดลงสิบเท่าในคราวเดียว ถึงขนาดหลายสิบถึงหลายร้อยเท่า