บทที่ 2368

ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “ขอบคุณคุณมาก! คุณ ช่างดีกับผมจริงๆ เลย!

ซูโสว่เต๋อยิ้มเล็กน้อย และพูดกับ Steve ด้วยท่าทางสูงส่งว่า “ในหัวเซี่ย (ชื่อเรียกประเทศจีนสมัยก่อน) ตราบใดที่คุณมีความ สัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซู ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตามแต่ ก็สามารถ รับประกันได้ถึงความมั่นคงให้คุณได้

หลังจากพูดจบ เขาก็ถาม Steve ว่า “คุณรู้จักชื่อเพื่อนร่วมชั้น เรียนของลูกชายคุณในจินหลิงไหม? ผมจะให้คนไปตรวจสอบ ข้อมูลของเธอเดี๋ยวนี้เลย”

Steve รีบพูดว่า “ผมเคยได้ยินลูกชายของผมพูดถึงเรื่องนี้ ดู เหมือนจะซื่อหวังตงเสงี่ยน ว่ากันว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถ มาก เธอเป็นประธานของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่มากใน เมืองจินหลิง”

ซูโสเต๋อมองไปที่ผู้ช่วยของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ให้เวลาคุณห้านาทีในการตรวจสอบ ดูว่าหวังตงเสงี่ยนคนนี้มี ที่มาอย่างไร!”

“ครับเถ้าแก่!”

ห้านาทีต่อมา

ทันทีที่ซูโสเต๋อก้าวเข้าไปในห้องชุดระดับประธานาธิบดี ผู้ช่วยของเขาก็รีบวิ่งเข้ามา และเอ่ยปากพูดว่า “เถ้าแก่ ผมได้ ตรวจสอบออกมาแล้ว หวังตงเสงี่ยนคนนั้นเป็นรองประธานของ ตี้เหากรุ๊ปในเมืองจินหลิง มีชื่อเสียงอย่างมากในเมืองจีนหลัง และเป็นผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง

ซูโสเต๋อพยักหน้า และออกคำสั่งว่า “ก่อนเที่ยงคืนในวันนี้ นำหวังตงเสวียนคนนี้มาพบผม ผมมีเรื่องจะต้องถามต่อหน้า เธอ”

ผู้ช่วยรีบพูดว่า “เถ้าแก่ หวังตงเสงี่ยนบินไปฮ่องกงตอนเมื่อ เช้านี้แล้ว พวกเขามีความร่วมมือด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่ใน องกง”

“ไปฮ่องกงแล้วเหรอ?” ซูโสเต๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนแรกก็ สงสัยอยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่า ที่ตัวเองมาที่นี่ในวัน นี้ก็เป็นการตัดสินใจอย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าบุคคลนี้ไม่ได้หนี ไปจากเมืองจินหลิงโดยเจตนา บอกได้เพียงเป็นเรื่องที่บังเอิญ เท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงพยักหน้า และกล่าวว่า “งั้นคุณก็จับตาดูการ เคลื่อนไหวทางสนามบินให้ดี ทันทีที่หวังตงเสงี่ยนกลับมาที่เมือง จินหลิง แจ้งให้ผมทราบโดยเร็วที่สุด”

หลังพูดจบ เขาก็ถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “เหากรุ๊ปที่คุณพูดถึง นั้น มีที่มาอย่างไรกันแน่?

ผู้ช่วยอธิบายอย่างรวดเร็วว่า “ตี๋เหากรุ๊ปเป็นกลุ่มบริษัทที่ ใหญ่ที่สุดของเมืองจินหลิง โดยมีมูลค่าทางตลาดมากกว่าหนึ่งแสนล้าน เดิมทีเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดและเติบโตใน เมืองจินหลิง แต่ดูเหมือนว่าถูกตระกูลเปซื้อกิจการทั้งหมดในปีที่ แล้ว”

“ถูกตระกูลเยซื้อกิจการแล้วงั้นหรือ?” ซูโสเต๋อถามด้วย ความประหลาดใจว่า “ตระกูลเบ่มีเจตนาอย่างไรกันแน่ ที่มาซื้อ กิจการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเมืองจีนหลัง?”

“อันนี้ไม่รู้เรื่อง” ผู้ช่วยพูดตามความเป็นจริงว่า “รู้เพียงแค่มี ข่าวลือว่า เจ้าของเบื้องหลังของเหากรุ๊ปคือคนของตระกูลเ แต่จะเป็นใครของตระกูลเย่นั้น ในตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบ ออกมาได้

ซูโสเต๋อตะคอกอย่างเย็นชา “คนในตระกูลเยก็มีเพียงไม่กี่ คนนั่นไม่ใช่เหรอ เยฉางอิงตายไปแล้ว ดังนั้นหากไม่ใช่เยฉาง โคง ก็จะเป็นเยฉางหยุนหรือเยฉางหุ้น ล้วนเป็นคนโง่ทั้งนั้น

ผู้ช่วยพยักหน้า และถามว่า “เถ้าแก่ ในเมื่อหวังตงเสงี่ยนคนนี้

เป็นคนของตระกูลเย่ งั้นเราจะยังคงลงมือกับเธออีกหรือไม่?”

ซูโสว่เต๋อตอบทันทีว่า “ทำสิ ต้องทำแน่นอน! ผู้หญิงคนนี้เป็น เบาะแสเดียวที่เป็นไปได้ที่ผมสามารถหาได้ในเวลานี้ ไม่สามารถ ยอมแพ้ได้ เพียงเพราะเธอเป็นคนของตระกูลเย่

หลังจากพูดจบ ซูโสว่เต๋อก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ถึง เวลานั้นคุณก็ทำโดยไม่รู้ตัว และไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ ตระกูลเย่ ก็ไม่สามารถมาหาเรื่องของพวกเราได้”

“ครับ เถ้าแก่ ผมเข้าใจแล้ว!”
ซูโส เต๋อลดเสียงของเขาลง และออกคำสั่งต่อไปว่า “ตอนนี้ก็ เลือกผู้ยอดฝีมือสิบคน ไปตรวจสอบร่องรอยของตู้ให้งและ จื่อหยูในโรงพยาบาลใหญ่ทุกแห่งของ ในเมืองภายในปีนี้ ผมคิด ว่าถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เปอร์เซ็นต์ที่จะเข้าพักรักษาตัวอยู่ใน โรงพยาบาลบางแห่งอย่างลับๆ สูงมาก คุณน่าตนไปค้นหาพวก เขาออกมา ผมจะมีรางวัลให้อย่างแน่นอน!!

ผู้ช่วยรีบถามเขาว่า “เถ้าแก่ หลังจากพบแล้วต้องทำ อย่างไร?”

ซูโสเต๋อยิ้มอย่างเย็นชา “ฉีดไรซินเล็กน้อยให้แม่ลูกทั้งคู่ และใช้ปริมาณที่ร้ายแรงถึงสิบเท่า เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ สามารถหนีความตายไปได้ไม่ว่าดวงของพวกเขาจะแข็งมากแค่ ไหนก็ตาม!”