ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2324



บทที่ 2324

ถ้าอีกฝ่ายไม่ตอบ หลิวร้านก็ทำได้แค่ถ่วงเวลาอยู่ที่หอเพชร นิลจินดา อีกฝ่ายตอบเมื่อไหร่ ก็จะออกไปเมื่อนั่น

ตอนนี้ อีกฝ่ายให้คำตอบที่ชัดเจน หลิวจ้านก็ไม่คิดจะอยู่ต่อ ให้เสียเวลา เขาหันไปมองผู้คนที่หมอบอยู่ในห้องโถง จากนั้นก็ พูดเสียงเย็นว่า “รถที่ฉันต้องการพวกนั้นก็เตรียมมาให้แล้ว ดัง นั้นก็ได้เวลาที่ฉันต้องไปจากที่นี่ ขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วม มือ หลังจากที่ฉันไปแล้วพวกแก็จะเป็นอิสระ”

หลายร้อยกว่าคนในห้องโถงได้ยินแบบนี้ ก็ถอนหายใจออก มา

บนใบหน้าของทุกคน ปรากฏรอยยิ้มเมื่อคิดว่ารอดชีวิต

เนื่องด้วยการรักษาความปลอดภัยของประเทศดีมาตลอด หลายๆคนจึงไม่เคยประสบพบเจอกับอะไรแบบนี้ แต่พอมาเจอก ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความโชคดีอย่างหาที่สุดไม่ได้

ดังนั้น ในตอนนี้ทุกคนจึงโล่งใจ ตอนนี้รอแค่ไอ้มหันตภัย ออกไป ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตอันตรายนี้ไปได้แล้ว

ในตอนนี้เอง จู่ๆหลิวจ้านก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ทุกคน ยังมีอีก เรื่องหนึ่งที่ฉันอยากให้พวกแกช่วย และก็หวังว่าพวกแกจะเห็น แก่ที่ฉันรักษาคำพูด ไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือจากฉัน

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนี้ ก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันที
ไม่มีใครรู้ว่าหลิวจ้านคนนี้ ต้องการอะไรกันแน่

ถ้าเขาต้องการเงิน อันที่จริงแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา ขอแค่ ไม่ทําร้ายใครก็พอ ทุกคนต่างก็ยินยอมที่จะมอบทรัพย์สินที่มีอยู่ ติดตัวให้เขา

แต่กลัวก็แต่เขาจะมีความคิดอย่างอื่น

ในตอนนี้เอง หลิวร้านก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้คนพวกนั้น เตรียมรถโรลด์รอยซ์ไว้ให้แล้ว แต่ว่า ถ้าฉันไปขึ้นรถแค่คนเดียว พวกนั้นต้องไม่ยอมปล่อยฉันไปง่ายๆแน่ ดีไม่ดีอาจจะเล่นงาน ฉันกลางทางก็ได้”

“ดังนั้น ฉันต้องการคนสองคนให้ไปกับฉัน รอจนกว่าฉันออก ไปจากเมืองจินหลิงได้อย่างปลอดภัย ฉันก็จะปล่อยสองคนนั้น ไป!”

พูดถึงตรงนี้ หลิวจ้านก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เอ่ยถามว่า “ไม่รู้

ว่าในนี้มีใครจะยอมเป็นอาสาสมัครไหม?”

เมื่อทุกคนได้ยินแบบนี้ แต่ละคนต่างก็ก้มหน้าลง

เหมือนเด็กเรียนไม่เก่งที่ไม่ได้ทบทวนบทเรียน พอครูสุ่มเรียก ชื่อให้ตอบ แต่ละคนต่างก็อธิษฐานในใจว่าอย่าเป็นตัวเอง

แต่ว่า เบื้องลึกในใจของทุกคนในห้องโถง กลับรู้สึกสบายใจ ไปแล้วเปลาะหนึ่ง

ทุกคนต่างก็คิดว่า จำนวนคนในห้องโถงมีเป็นร้อย ถ้าเลือก มาแค่สองคน แบบนั้นก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ถูกเลือก
อันที่จริง หลิวจ้านมีคนในใจอยู่แล้ว ทว่าการแสดงละคร ต้องดำเนินต่อไป ไม่อย่างนั้นถ้าถูกจับได้ จนทำให้นายจ้างที่อยู่ เบื้องหลังไม่พอใจเข้าล่ะก็ เขาคงแย่แน่ๆ

ดังนั้น เขาจึงทำเป็นมองไปรอบๆ เอ่ยพูดอย่างไม่พอใจว่า “พวกแกนี่มันไม่ได้เรื่อง ฉันยังพูดคำไหนคำนั้นกับพวกแกเลย พอตอนนี้ฉันต้องการความช่วยเหลือบ้าง พวกแกแต่ละคนกลับ หดหัวอย่างกับเต่าในกระดอง ขนาดมองหน้าฉันยังไม่กล้ามอง แบบนี้มันมากเกินไปหรือเปล่า?”

ในช่วงสถานการณ์อย่างนี้ แน่นอนว่าไม่มีใครต่อสนทนากับ เขาอยู่แล้ว

เพราะใครๆต่างก็เข้าใจคำว่ายื่นหน้าเข้าหาปืน ตอนนี้ถ้าใคร เงยหน้า จนกลายเป็นจุดสนใจของเขา แบบนั้นก็อาจจะถูกเขา เลือกก็ได้

ดังนั้น ทุกคนต่างก็พากันมุดหัวเหมือนเคย ไม่มีใครกล้าเงย หน้ามองเขาเลยสักคน

หลิวบ้านตะคอกออกมาอย่างมีน้ำโห “แม่งเอ้ย! พวกมึงคิด จะลองดีกับกูใช่ไหม?? กูอุตส่าห์จริงใจกับพวกมึง แต่พวกมึงไม่ แม้แต่จะมองหน้ากูเนี่ยนะ?? ได้! กูจะนับหนึ่งถึงสาม ใครไม่ เงยหน้ามองกูล่ะก็ กูจะยิงหัวมัน! ”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา คนร้อยกว่าคนก็เงยหน้าขึ้นมา อย่างไม่ลังเล มองมาที่หลิวบ้านอย่างตาไม่กะพริบ

ไม่มีใครไม่รักชีวิตตัวเอง ดังนั้น จึงไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของอันธพาลที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ในเวลาแบบนี้

ดวงตาของหลิวจ้านมองสำรวจไปรอบๆ จากนั้นก็หยุดสายตา ไว้ที่ใหญิงกับซูจือหยู เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “คิดไม่ถึง เลยว่าจะมีสาวสวยทั้งสองคน ระหว่างที่หนี ถ้ามีสาวสายอย่าง พวกแกร่วมทางไปด้วย ต่อให้ตายก็ถือว่าคุ้ม ฉันเลือกพวกแก แล้วกัน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ