บทที่ 2181
เมื่อผละจากทิวทัศน์งดงามของแม่น้ำไข่มุก เย่เฉินก็รีบเร่งรุด มายังตลาดสด
เวลาล่าช้าไปไม่น้อยแล้ว หากยังไม่รีบซื้ออาหารกลับไปอีก เมียเลิกงานกลับมาบ้านก็จะไม่ได้กินอาหารเช้า
แม้จินหลิงจะเป็นเมืองโบราณเมืองหนึ่ง แต่กลิ่นอายแห่ง ความทันสมัยกลับยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ สิ่งปลูกสร้างของเมืองเก่า ที่ทำลายก็ทำลาย ที่รื้อถอนก็รื้อถอน ที่ปรับปรุงก็ปรับปรุง ตอนนี้ สภาพโดยรวมกลายเป็นตึกระฟ้าอาคารสูงอย่างเมืองใหญ่ใน สมัยปัจจุบันไปแล้ว
ตลาด ช่างฝีมือดั้งเดิมมากมายในอดีตต่างก็ค่อยๆ ถูกร้านค้า ใหญ่โตนานาชนิด รวมถึงห้างสรรพสินค้าเข้ามาแทนที่
ไม่กี่ปีก่อน ข้างทางมีช่างตัดผมอยู่จำนวนมาก ฝีมือในการ ตัดผม โกนหนวดดีอย่างยิ่ง มีเงินแค่สองสามหยวนก็สามารถนั่ง ตัดผมที่ข้างทางได้แล้ว
แต่เดี๋ยวนี้ ได้หายไปหมดแล้ว
แทนที่ด้วยสถานเสริมความงามบรรยากาศหรูหราอยู่เต็มไป หมด ช่างเหล่านั้นยังไม่เท่าไหร่ ช่างตัดผมที่ขนยังขึ้นไม่ครบด้วย นี่สิ ตัดผมให้คนตามประสา ก็เป็นเงินร้อยสองร้อยหยวน เข้าไปแล้ว บางครั้งพบเจอร้านที่ไร้จรรยาบรรณ ยังจะเล่นลูกไม้ให้ลูกค้าไปทำบัตร ตัดผมหัวหนึ่งก็ถูกไถไปหลายพันหยวน เป็น แบบนี้ทุกที่เต็มไปหมด
ในอดีต ริมทางมีรถม้า รถรามากมาย ล้วนเป็นเกษตรกรใน ชนบทเก็บผักจากที่ดินตัวเองแต่เช้าตรู่ จากนั้นก็ขี่รถมาขายใน เมือง ผักผลไม้ทั้งสด ใหม่อีกทั้งยังราคาถูก
แต่ว่าหลายปีมานี้รถที่ใช้สัตว์ลากเทียมไม่ยอมให้เข้าเมืองอีก แล้ว แม้แต่ตลาดสดดั้งเดิมนับวันก็ยิ่งมีน้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง คนส่วนใหญ่ได้แต่ไปซื้อผักในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ผักในซุปเปอร์มาร์เก็ต คุณภาพยังไม่เท่าไหร่ ราคากลับแพง หูฉี ซื้อผักกาดขาวหัวหนึ่งก็ตั้งสิบกว่าหยวนเข้าไปแล้ว
และนี่เป็นการทำให้เมืองโบราณแห่งนี้ ค่อยๆ สูญเสียกลิ่น ควันของการดำรงชีวิตในแบบดั้งเดิมไป
อันที่จริงยามปกติเย่เฉินไม่ชอบไปซื้อผักที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต
เป็นอย่างมาก เขามักรู้สึกว่ามันขาดความน่าสนใจไป
ดังนั้น เขาจึงมักไปที่สี่แยกเก่าที่ยังคงความเป็นมืองเก่าเอาไว้ ที่นั่นจะมีตลาดสดที่คึกคักเป็นพิเศษ
ที่ชอบไปสี่แยกเก่าแห่งนั้น ไม่เพียงเป็นเพราะที่นั่นติดดิน แต่ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่เย่เฉินเก็บซ่อนไว้ในใจ ไม่ได้บอกใคร
ในอดีต ตอนที่เขากับพ่อแม่เพิ่งมาถึงจินหลิง พ่อแม่จะชอบ บรรยากาศของเขตเมืองเก่าจินหลังเป็นพิเศษ
ที่นั่นมีสิ่งปลูกสร้างสมัยเก่าของยุคสมัยหมิงชิงและยุคลธารณรัฐที่เหลือทิ้งไว้อยู่มากมาย ลักษณะของสิ่งปลูกสร้างชนิดนี้ ไม่ ต่างกับทางภาคเหนือ พ่อแม่จึงชอบเป็นพิเศษ
และเพราะชื่นชอบวัฒนธรรมดั้งเดิมมากเป็นพิเศษ พ่อแม่เขา จึงเช่าบ้านเก่าหลังหนึ่งอยู่ในเขตเมืองเก่า หลังผ่านการบูรณะ ใหม่จากบิดา ทั้งครอบครัวก็อาศัยอยู่อย่างสบายใจยิ่ง
ต่อมาพ่อแม่เกิดเรื่อง เยเฉินเข้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขายัง คงหนีออกมากับเพื่อนสมัยเด็กจ้าวเท้ารวมถึงหลี่เสี่ยวเฟินบ่อยๆ เพื่อไปเที่ยวดูเขตเมืองเก่าด้วยกัน
เวลานั้น พวกจ้าวเหาและหลี่เสี่ยวเฟิน ต่างคิดว่าเเฉินเป็นคน เห็นแก่เล่น จึงอยากหนีออกมาเที่ยวเล่น
แต่ที่พวกเขาไม่รู้คือ อันที่จริงเเฉินเพียงแค่คิดถึงพ่อแม่ของ ตัวเองเท่านั้น
ปีนั้นหลังจากที่พ่อแม่ของเขาเกิดเรื่อง บ้านหลังนั้นก็ทยอย ปล่อยให้คนนอกเช่าบ้างเป็นบางปี เปลี่ยนคนเช้าครั้งแล้วครั้ง เล่า
จากนั้นต่อมา บ้านก็ถูกคนของอสังหาริมทรัพย์ซื้อไปเพื่อรอ วันเพิ่มมูลค่า
แล้วต่อมาอีก บ้านนี้รวมถึงสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่บริเวณใกล้ เคียงต่างก็ถูกกำหนดให้เป็นเขตคุ้มครองโบราณสถานทาง ประวัติศาสตร์ โดยมีคำสั่งห้ามรื้อถอนและปรับปรุง ด้วยเหตุนี้ บ้านจึงวางลงไปเป็นเวลานาน
เย่เฉินเองก็เคยได้ยินแว่วๆ มาว่ากันว่าคนที่ลงทุนบ้านหลังนี้ คือผู้ก่อตั้งกลุ่มประเมินบ้านคนหนึ่งของเมือง แม้บ้านหลังนี้จะทิ้ง ร้างอยู่ในมือไร้หนทางขายออกไปได้ แต่สำหรับเขาแล้ว เงินแค่ นี้ไม่นับเป็นอะไร ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงถูกทิ้งไว้เช่นนี้มาตลอด
ต่อมา เพราะนักประเมินบ้านผู้นี้ถูกตั้งข้อสงสัยว่าทำผิด กฎหมายหาเงินโดยมิชอบอยู่ต่างถิ่น ตกอยู่ในคดีความ บ้าน หลังนี้จึงถูกศาลอายัดไว้
สองสามปีก่อนก็เคยมีข่าวลือว่าต้องการจะประมูลขาย แต่ เพราะคดีที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นั้นขยายใหญ่ขึ้น สองปีมานี้จึงยัง สรุปคดีความไม่ได้มาตลอด ดังนั้นจึงไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนการ ประมูล
ตลาดสดที่เยเฉินไปซื้อกับข้าว ห่างจากบ้านเก่าหลังนี้ไม่ไกล นัก ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสวางแผนแวะไปดูอีกครั้ง
ระหว่างทางที่เย่เฉินกำลังขับรถไปข้างหน้า ก็มีรถโรลส์-รอยซ์
คันหนึ่งจอดอยู่หน้าบ้านเก่าลายพร้อยหลังนี้อยู่แล้ว
ตรงที่นั่งข้างคนขับของรถมีชายชราคนหนึ่งเดินลงมา คนผู้นี้ก็ คือพ่อบ้านชราที่อยู่ในหลิงของตระกูลตู้แห่งเย็นจึง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ