บทที่ 2003
เมื่อรู้ว่าพ่อได้จัดการกับแผนการทั้งหมดแล้ว ซึ่งตรงก็ถอน
หายใจด้วยความโล่งใจในทันที สิ่งที่เขาและพ่อต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าผู้นำตระกูลของตระ
กูลข่ง แต่เป็นทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตระกูลซึ่ง
หลังจากที่กำจัดส่งหวั่นถึง สามารถพอที่จะควบคุมตระกูลซึ่ง ทั้งหมดได้ก็ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดเป็นธรรมดา แต่ถ้าหาก เป้าหมายนี้ไม่สำเร็จ ถอยหนึ่งก้าวมาพูด สามารถที่จะได้ ทรัพย์สินส่วนใหญ่ สำหรับพวกเขาสองคนพ่อลูก ก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้น ซึ่งเทียนหมิงไม่ได้กลัวว่าเรื่องราวที่ฆาตกรรมซึ่งหวั่น ถึงจะถูกเปิดเผย เขาเพียงแค่กลัวว่าเรื่องราวจะถูกเปิดเผยเร็ว มากเกินไป
เขาต้องการชนะระยะเวลาต่างนี้ ซึ่งระยะเวลาต่างนี้ต้องเพียง พอที่เขาจะกำจัดคุณท่านซึ่งแล้วค่อยนำทรัพย์สินทั้งหมดของตระ กูลซงไปเปลี่ยนเป็นเงินสดต่อจากนั้นหนีไปสหรัฐอเมริกา
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของตอนนี้ ก็คือระยะเวลาต่างนี้นานมีมาก แค่ไหนกันแน่
เนื่องจากว่าเรื่องนี้เย่เฉินและตระกูลอิโตะกำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งเทียนหมิงก็กังวลว่าจะถูกเปิดเผยก่อนเวลาอันควร ดังนั้นถึง ได้เตรียมที่จะลงมือกับคุณท่านซึ่งล่วงหน้า
รีบกำจัดปัญหาอย่างคุณท่านข่ง ถึงสามารถที่จะให้ซึ่งทรง กลับประเทศได้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น ถ้าซึ่งทรงยังคงอยู่ที่ ประเทศญี่ปุ่น สำหรับซ่งเทียนหมิงก็เหมือนกับการเหลือตัว ประกันให้ฝ่ายตรงข้าม
ในสมัยโบราณ สองประเทศที่เป็นปฏิปักษ์หรือภัยคุกคามซึ่ง กันและกัน มักจะแลกเปลี่ยนตัวประกันซึ่งกันและกัน
สิ่งที่เรียกว่าตัวประกัน ก็คือจักรพรรดิของประเทศแห่งหนึ่ง ส่ง เจ้าชายคนหนึ่งของตัวเองไปเป็นตัวประกันในประเทศที่เป็นศัตรู ด้วยเหตุนี้มาแสวงหาสันติภาพ
หากในช่วงเวลานี้ทั้งสองฝ่ายขัดใจกัน ถ้าอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ สามารถที่จะกำจัดตัวประกันท่านนี้ได้ตลอดเวลา
ซึ่งเทียนหญิงกลัวว่าปล่อยให้ซึ่งทรงอยู่ในโตเกียวนานมาก เกินไป ไม่อย่างนั้นเกิดเย่เฉินตรวจสอบพิรุธอะไรออกมา จะจับ ลูกชายเป็นตัวประกันหรือว่าฆ่าทิ้งแก้แค้นแทนซึ่งหวั่นถึงให้รู้ แล้วรู้รอด ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็จะขาดผู้สืบสกุลแล้ว!
แต่ทว่า สิ่งที่ทั้งซ่งเทียนหมิงกับซุงหรงไม่รู้ การสนทนา ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนนั้น อันที่จริงแล้วถูกนินจาของตระกูลอิ โตะดักฟังทุกด้าน
หลังจากที่ทั้งสองสนทนากันเสร็จ การสนทนานี้ของพวกเขาก็ ถูกอัดเสียงไว้ทั้งหมดแล้ว และก็ส่งไปยังในโทรศัพท์ของอิโตะ นานาโกะ
อิโตะ นานาโกะเปิดการบันทึกเสียงนี้ให้เย่เฉินฟังในทันทีหลังจากที่เย่เฉินฟังจบ ขมวดคิ้วแน่นในทันที
อิโตะ นานาโกะที่อยู่ด้านข้างก็ทอดถอนหายใจพูดว่า “เย่เฉิน ซึ่งรู้เหมือนหลับตาเห็นจริงๆ ซึ่งทรงคนนี้เป็นคนร้ายจริงๆ ด้วย!”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย และพูดอย่างจริงจังว่า “อันที่จริงแล้วนี่ก็ไม่ ได้ถือว่ารู้เหมือนหลับตาเห็น คุณจำเอาไว้เรื่องหนึ่ง ตอนที่บาง คดีหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงไม่ได้ ผู้กระทำผิดที่แท้จริงมักจะเป็น ผู้รับผลประโยชน์ของคดีนี้
จากนั้น เย่เฉินก็พูดอีกว่า “ซึ่งทรงเป็นลูกชายหลานชายคน โตของตระกูลซง ว่ากันตามเหตุผลแล้ว อันที่จริงพ่อของเขาควร ที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลซง หลังจากที่พ่อของ เขาเกษียณ ค่อยสละตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับเขา
“แต่ว่าคุณปู่ของซ่งหรงดันยกตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ซึ่งหวั่น ถึง ซึ่งนำความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงมาสู่ซ่งหรงทั้งสองพ่อลูก อย่างมองไม่เห็น”
“ดังนั้น ไม่ว่าจะเวลาใด ตราบใดที่ซึ่งหวั่นถึงเสียชีวิตแล้ว สองพ่อลูกจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่มากที่สุด ในฐานะของผู้ ได้รับผลประโยชน์ที่มากที่สุด ความสงสัยก็ย่อมมากที่สุดเป็น ธรรมดา”
อิโตะ นานาโกะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพยักหน้าเห็นด้วย “เ เฉินซังพูดได้มีเหตุผลมากจริงๆ! บางครั้ง ผลกำไรก็เป็นแรง จูงใจที่ใหญ่ที่สุดในการก่ออาชญากรรม”
เย่เฉินพูดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเล็กน้อย ซึ่งทรง พวกเขา สองคนพ่อลูกเพื่อทรัพย์สินแค่นั้น ก็คิดแผนร้ายจนเจนจบจริงๆ คิดไม่ถึงว่าไม่เพียงฆาตกรรมซ่งหวั่นถึงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดพ่อของตัวเองและของตัวเองก็ไม่เว้น น่ารังเกียจมาก จริงๆ!”
อิโตะ นานาโกะรีบถามว่า “เย่เฉินซัง ขั้นตอนนี้คุณตั้งใจจะทำ ยังไง? จะให้ฉันให้คนจับตัวของซึ่งทรงในทันทีมั้ย ต่อจากนั้น บีบบังคับให้พ่อของเขาไปมอบตัวเหรอ?!
เย่เฉินแสยะยิ้ม: “การกระทำแบบนี้ จะทำได้ก็ได้นะ แต่ก็มี ความเสี่ยงเช่นกัน”
อิโตะ นานาโกะถามว่า: “เยเฉินซัง มีความเสี่ยงอะไรเหรอ?”
เย่เฉินอธิบายอย่างจริงจังว่า: “ถ้าหากซึ่งเทียนหญิงยินยอมที่ จะทอดทิ้งซ่งหรง แม้ว่าผมจะฆ่าซุงหรง ก็ไม่สามารถที่จะหยุด เขาได้”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ