บทที่ 1947
ซึ่งหวั่นถึงรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดเท็จ
ความจริงแล้ว บริษัทชั้นนำอย่างบริษัทนิปปอนสติ ล้วนแล้ว แต่เป็นที่หมายปองสำหรับหลายๆประเทศ
โดยเฉพาะศักยภาพในด้านเหล็กกล้า ก็ยิ่งอยู่ในอันดับสูงๆ ทั่วโลก
ผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมเหล็กกล้ามีกว้างขวาง ยิ่ง ขอบเขตสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นที่ต้องการมากเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่นอุตสาหกรรมอาวุธ
ปืนสั้นและปืนถังที่มีให้เห็นกันบ่อยๆ ล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งวัสดุ จากอุตสาหกรรมเหล็กกันทั้งนั้น
ถ้าวัสดุดี ความแม่นยำและอายุการใช้งานของปืนก็จะดีไป ด้วย แต่ถ้าวัสดุไม่ดี ความแม่นยำและอายุการใช้งานของปืน จะไม่ดีตามไปด้วย
ปืนบางกระบอก ยิงได้ไม่กี่นัด ก็สึกหรออย่างสาหัสจนต้อง เปลี่ยนอันใหม่
ปืนถังบางตัว ยิงได้ไม่กี่นัดก็หมดอายุการใช้งาน โชคร้าย เข้าหน่อยก็อาจระเบิด ถ้าหากนำไปใช้ในสนามรบ ก็มีความ เป็นไปได้สูงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพการณ์และผลลัพธ์ของสงคราม
นอกจากนี้แล้ว เหล็กยังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมที่ทำ เกี่ยวกับเสื้อเกราะกันกระสุน กราบเครื่องบิน และท้องเรืออีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าใครจึงอยากร่วมงานกับบริษัทนิปปอนสตีกันทั้ง
นั้น
แต่ว่าบริษัทนิปปอนสติก็ฉลาดมากเหมือนกัน
เวลาพวกเขาร่วมงานกับคนภายนอก ไม่ใช่แค่เลือกเยอะ แต่ ยังรอบคอบเรื่องสิทธิ์และผลประกอบการอีกด้วย
ต่อให้ร่วมงานกันแล้ว พวกเขาก็จะไม่ยอมหยิบผลประกอบ การชั้นยอดที่ซ้อนลึกอยู่ใต้ก้นหีบออกมา
การร่วมงานกับตระกูลซึ่งในครั้งนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือ
อำนาจควบคุมที่เด็ดขาด
ในขณะที่ตระกูลส่งออกกำลังคน ออกเงิน ออกที่ดิน ออกแรง ก็ต้องอยู่ภายใต้กามือของพวกเขา รอรับคำสั่งจากพวกเขาไป พร้อมกันด้วย
ขอแค่ตระกูลซงตอบรับเงื่อนไขนี้ พวกเขาก็จะใช้เวลาไม่กี่ปี ค่อยๆทำให้ตระกูลซึ่งกลายมาเป็นหุ่นเชิดของพวกเขา หรือไม่ก็ กวาดล้างตระกูลซง ให้หมดสิ้นซะ
ซึ่งหวั่นถึงไม่คาดคิด เธออุตส่าห์มอบโควตาพิเศษนี้ให้แก่ บริษัทนิปปอนสติ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตกลงเสียอย่างนั้น
ดังนั้น เธอจึงกัดฟันแล้วพูดว่า “คุณฮาชิโมโตะ ฉันให้สิทธิ์ รับผลกําไรเพิ่มอีกส่วนก็ได้ แบ่งให้บริษัทนิปปอนสตี55% ตระ กูลซ่ง45% แบบนี้เป็นไง?
เปอร์เซ็นขนาดนี้ สําหรับส่งหวั่นถึง มันคือการประนีประนอม และยอมถอยให้สุดๆแล้ว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ฮาชิโมโตะ ชินอิจิจะส่ายหัวปฏิเสธอย่าง ไม่ลังเล ยิ้มออกมานิ่งๆแล้วพูดว่า “คุณซ่ง สิ่งที่บริษัทของเรา ต้องการ ก็คือสิทธิ์ถือหุ้น ถ้าหากเรื่องนี้คุณไม่สามารถยอม ตกลงได้ งั้นเราก็คงไม่มีอะไรต้องเจรจากันต่อแล้วล่ะ”
ซึ่งหวั่นถึงรู้สึก โดนไล่ต้อน
เธอโอดครวญขึ้นมาในใจอย่างอดไม่ได้ว่า “ฉันเป็นตัวแทน
ตระกูลซง และเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอขอร่วมงานกับบริษัทนิปปอน
สตีก่อน ดังนั้นอีกฝ่ายจึงคิดที่จะไล่ต้อน เพื่อบีบบังคับให้ฝ่าย
ฉันมอบสิทธิ์ถือหุ้นให้สินะ อีกอย่างอีกฝ่ายยังไม่มีทีท่าว่าจะยอม
ถอยให้ด้วย….ถ้าหากฉันยังคงดึงดันต่อไป แบบนี้ก็คงไม่จำเป็น
ต้องเจรจาอะไรแล้ว….
“ถ้าหากครั้งนี้ไม่มีผลตอบแทนอะไรกลับมา แบบนั้นทุกอย่าง ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก็คงเสียเปล่า…
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ