ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1882



บทที่ 1882

ครั้งก่อนตอนที่อยู่ญี่ปุ่น เขาเคยช่วยเหลือจือเฟยกับชื่อถือห ยูเอาไว้ เดิมคิดว่าแค่ช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติเอาไว้เท่านั้น แต่ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกของศัตรู หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นเขาเองก็ รู้สึกหดหู่ใจมาก

คิดไม่ถึง ทั้งสองคนนี้จะวิ่งมาหาถึงบ้านของกู้เย็นจึง หรือว่า ตระกูลซูคิดจะดึงตระกูลเข้าไปเป็นพรรคพวกด้วย แต่ว่า เย่เฉินเองก็ไม่ได้พูดอะไรในวิดีโอคอล เพราะว่า กู้เย็น จงก็ไม่รู้ว่าตนเองได้ประสบพบเจอเรื่องราวอะไรบ้างในญี่ปุ่น

ตอนนี้เอง น้องรองของตระกูลก็คือกู้เย็นเจิ้งพูดขึ้นว่า “พี่ ใหญ่ คนรุ่นหลังของตระกูลซูมาส่งของขวัญทำไม อันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตระกูลซูพบเจอตอนที่อยู่ ญี่ปุ่นก่อนหน้านี้มั้ง ช่วงนี้ ตระกูลซูเสียหายอย่างมากจริงๆ ไม่แน่ ว่าตอนนี้อาจจะมีความคิดที่จะดึงตระกูลอื่นๆเข้าร่วมด้วย

กู้เย้นจงพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ทั้งเล่นจิง ที่ไม่เข้าตาฉันที่สุด ก็ คือซูโสว่เต้าคนนั้น เป็นไอ้สารเลวตั้งแต่หัวจรดเท้า ตอนนั้น พันธมิตรต่อต้านตระกูลเยีที่เล่นงานพี่เย่ ก็มีเขาคอยยุแยง เศษ สวะที่ลอบทําร้ายคนอื่น”

หลินหว่านชิวที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมาบ้าง “ไม่เข้าตาก็ส่วนเรื่องไม่ เข้าตา แต่โบราณท่านว่าไว้มือที่ยื่นมาย่อมไม่ตบคนคนที่ส่งยิ้มให้ ยิ่งตอนนี้คนที่มาเป็นลูกชายหญิงสองคนของซูโสเต้า คุณก็ อย่าส่งต่อความแค้นที่สั่งสมมาไปยังคนรุ่นหลังเลย ถ้าหากเรื่อง นี้ถูกพูดออกไป จะไม่กลายเป็นที่หัวเราะเยาะเหรอ”

กู้เย็นจงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พยักหน้าพูดว่า “เอาเถอะ ดูสิว่าพวก เขามีอะไรแอบแฝงกันแน่

พูดจบแล้ว เขาก็พูดกับเยเฉินว่า “เฉินเอ๋อ คนตระกูลซูมาส่ง ของขวัญ ฉันต้องไปต้อนรับสักหน่อย

เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “ครับคุณลุง ลุงไปเถอะ ผมขออวยพร ล่วงหน้าขอให้ครอบครัวคุณลุงมีความสุขในวันขึ้นปีใหม่

กู้เย้นจงหัวเราะเหอะเหอะพยักหน้าติดๆกัน มีความสุข มี ความสุข หลายปีมานี้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่เคยจะมีความสุขเท่า วันนี้มาก่อนเลย”

พูดแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เฮ้อ ถ้าหากเฉินเอ๋อสา มารถอยู่ร่วมเทศกาลปีใหม่ที่เป็นจิงก็ดีสินะ ถ้าหากพวกเราทั้ง ครอบครัวสี่คนได้อยู่กันพร้อมหน้า ในวันปีใหม่ มันดีเสียยิ่งกว่า อะไรทั้งนั้น ถึงตอนนั้นฉันจะปิดประตูบ้าน ซึมซับความสุขของ การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แม้ว่าพระเจ้าจะมาเคาะประตู ฉัน ก็จะไม่ออกไปเจอเด็ดขาด”

เย่เฉินรู้ดี กู้เย้นจงกับภรรยาของเขา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะ กลายเป็นลูกเขยของพวกเขา ที่จริงพ่อแม่ที่ตายไปแล้ว ก็คงจะ หวังอย่างนี้เหมือนกัน

แต่ว่า เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องที่จะหย่ากับเซียวซูหนเลยสักนิดฉะนั้นตอนนี้เวลานี้ ก็ไม่รู้ว่าจะตอบกู้เย็นจงอย่างไรดี

ตอนนี้เอง หลินหวานชิวก็ออกมาพูดไกล่เกลี่ยว่า “พอแล้ว พอแล้ว เป็นเออเองเขาก็คงคิดไว้แล้ว ไม่แน่ว่าอีกไม่กี่ปีความ หวังของคุณก็คงจะสมหวังแล้ว ตอนนี้จะร้อนใจไปทำไม

กู้เย็นจงพยักหน้า “ไม่รีบไม่รีบ สิ่งดีๆคุ้มค่าแก่การรอคอย

เสมอ รอมาตั้งหลายปีแล้ว อีกแค่สามปีไม่เป็นไรรอได้

พูดจบแล้ว เขาก็หันมาพูดกับเย่เฉิน “เฉินเอ๋อ ลุงต้องหยุดคุย กับหลานก่อนนะ วันหลังค่อยคุยกันใหม่ ลุงเองก็ขออวยพรให้ หลานมีความสุขในวันปีใหม่

เย่เฉินรีบพูดขึ้นว่า “ขอบคุณคุณลุง

กู้ชิวก็พูดขึ้นตอนนี้ว่า “พ่อ แม่ พวกท่านไปเถอะ หนูจะคุยกับ พี่เยาเฉินอีกสักหน่อย

กู้เย้นจงพูดว่า “แกก็ไปพร้อมกันดีกว่า ฉันเองก็ไม่มีอะไรจะคุย กับคนรุ่นหลังของตระกูลซู พวกแกรู้จักกันไม่ใช่เหรอ แกช่วยพ่อ ทักทายถามสารทุกข์สุกดิบแทนพ่อหน่อย จากนั้นก็หาข้ออ้างส่ง แขกซะ”

กู้ชิวอี้พูดอย่างจนใจ “งั้นก็ได้

พูดจบ กู้ชิวก็พูดกับเย่เฉินว่า “พี่เขาเฉิน ถ้าอย่างนั้นฉันจะ วางสายแล้วนะ”

เย่เฉินพยักหน้ายิ้มๆ “ได้ เธอไปยุ่งเถอะ”
ณเวลานี้ ในห้องโถงของเรื่องนประสานแห่งตระกูล

บุคคลที่มีความสามารถอย่างซูจือเฟย และคนที่ดูบริสุทธิ์ สูงส่งอย่างซูจือหยุต่างก็นั่งรออยู่บนโซฟาไม้จื่อถาน

คนรับใช้ของตระกูลกู้หลังจากส่งน้ำชาแล้วก็ขอตัวออกไป ก่อน ตอนนี้ในห้องโถงมีพวกเขาแค่สองคนเป็นการชั่วคราว

ซูจือหนูเห็นซูจือเฟยมีท่าทีตื่นเต้นอยู่บ้าง ก็กระซิบตำหนิที่ ข้างหูว่า “พี่อีกเดี๋ยวถ้าเจอหน้าสาวที่พี่ชอบแล้ว พี่อย่าแสดง ท่าทีตื่นเต้นจนออกนอกหน้าล่ะ “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ