ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1810



บทที่ 1810

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หม่าหลันก็ตระหนักในหัวใจตัวเอง เมื่อก่อน เธอปฏิบัติต่อเย่เฉินแย่มากๆ

เธอนึกถึงอดีตที่ตัวเองเคยอวดดีต่อหน้าเเฉิน สั่งเยเฉินทำ น่นทำนี่ กระทั่งกลั่นแกล้งและดูถูกเหยียบหยามเย่เฉินในอดีต ทำให้เธอก็รู้สึกเสียใจมากๆ

เธออดคิดไม่ได้ว่า “แล้วถ้าเยเฉินยังแค้นและเกลียดชังฉันอยู่ ฉันควรทำยังไงดี?การหายตัวไปของฉันในครั้งนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ เขาต้องการก็ได้ ถ้าเขาไม่อยากให้ฉันกลับไปละก็ เขาก็คงไม่มา ช่วยฉันอย่างแน่นอน บางทีฉันอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในเหมือง ถ่านหินดำและใช้แรงงานไปตลอดชีวิตก็ได้?!”

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หม่าหลันก็ร้องไห้ออกมาทันที

ในเวลานี้ อู่ตงไห่จ้องมองเยฉางหมิ่นและพูด ถ้าคุณเป็นคน ของตระกูลเย่จริงๆ งั้นฉันขอถามคุณหน่อย คุณมีหลักฐานอะไร มายืนยันเหรอ?”

เย่ฉางหมิ่นรีบพูดทันที “ในกระเป๋าของฉันมีสมุดเช็คเล่มหนึ่ง และมีตราประทับส่วนตัวของฉัน คุณสามารถเปิดดูได้!”

อู่ตงไห่มองไปที่เซียวไห่หลงและพูด: กระเป๋าของเธอละ?” เซียวไห่หลงรีบวิ่งกลับไปที่รถตู้ นำกระเป๋าแบ รนด์เนม Hermesออกมา
เมื่อเห็นกระเป๋าใบนี้ หัวใจของอู่ตงไห้ก็สะดุ้งทันที หม่าหลันไม่รู้จักสินค้าแบรนด์เนม และไม่รู้ว่ากระเป๋าใบนี้ ราคาเท่าไร แต่เขารู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้

ในตอนนั้น เซวหย่าฉันที่เป็นภรรยาของเขาได้เข้าร่วม งานHermesฤดูร้อน ในเวทีรันเวย์โชว์นั้น กระเป๋าใบนี้คือสินค้า ตัวสุดท้ายที่เดินโชว์บนรันเวย์

นอกจากนี้ ตามคําแนะนำอย่างเป็นทางการของHermes กระเป๋าใบนี้ทำขึ้นด้วยช่างฝีมือระดับแนวหน้าของHermes และ เป็นของแฮนด์เมดทั้งสิ้น และมันมีเพียงใบเดียวเท่านั้น และ ราคาสูงมากๆ

ตอนนั้นเซวหย่าฉันชอบกระเป๋าใบนี้มากๆ และจะซื้อกระเป๋า ใบนี้ให้ได้ แต่น่าเสียดาย ทางHermesก็ได้แจ้งว่ากระเป๋าใบนี้ ถูกจอง โดยไฮโซคนหนึ่งของเล่นจึงไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ สามารถขายกระเป๋าใบนี้ให้ใครอีก

เซวหย่าฉันไม่ยอมตัดใจ และออดอ้อนอู่ตงไห่ โดยหวังว่าตง ไห่จะมีวิธีช่วยเธอซื้อกระเป๋าใบนี้ได้

อู่ตงไห่พยายามแล้วหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธตลอด

ต่อมา มีเจ้าหน้าที่อาวุโสของHermes พูดกับอู่ตงไห่ กระเป๋า ใบนี้ได้ถูกคนของตระกูลระดับแนวหน้าของเล่นจิงจองไว้แล้ว และบอกให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะซื้อกระเป๋าใบนี้ได้แล้ว

เมื่ออู่ตงไม่ได้ยินว่าคนของตระกูลชั้นแนวหน้าของเล่นจิงจองกระเป๋าใบแล้ว เขาเข้าใจทันที อีกฝ่ายไม่คนตัวเองไปแย่งชิงด้วย

ดังนั้นจึงใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อสินค้ากับภรรยา จึงทำให้ภรรยาเลิกความคิดที่ซื้อ

ในเวลานี้ เมื่อเขาเห็นกระเป๋าเป็นคนของตระกูลเย่ๆ

ในเวลานี้ คงมีความคิดจะตายๆ

“แม่งทำไมตัวเองถึงซวยขนาดวันพ่อลูกตระกูลต้องการประจบความเกลียดชังที่ตัวเองมีเย่เฉิน ทำให้เขาอยากมาสิ่งเกิดขึ้น…

แต่ใครไปคาดคิด ไอ้สารเลวอย่างลูกตระกูลเซียวจับ สาวของเย่มา

“เธอคือคนของตระกูลเย่นะไม่พูดว่าสวะพ่อลูกนี้ เอาความกล้าจากขนาดนี้ ทำไมโดนลูกคู่ลักพาตัวมาได้ง่ายข้างหมิ่นไม่บอดี้การ์ดค่อยปกป้องเลยเหรอ?”

ในขณะที่กำลังครุ่นคิด เซียวไม่หลงใช้สองมือยื่นกระเป๋า ของเยฉางหมิ่นมาให้อู่ตงด้วยความเคารพ และพูดอย่าง ประจบประแจง “ประธาน ฉันคิดคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อคำคนนี้กำลังทะเลาะกับผู้หญิงอารมณ์ร้ายปากจัดอย่างหม่าหลับอยู่ และเธอก็ถูกหม่าหลับนั่งทับและตบหน้าอยู่ ถ้าเธอเป็นคนที่มี ฐานะสูงจริงๆ ข้างๆเธอทำไมถึงไม่มีบอดี้การ์ดไว้ปกป้องตัวเอง ละ?”

เยฉางหมิ่นรีบพูดทันที “ฉันพามาด้วย! ฉันพาบอดี้การ์ดสอง คนและเลขาส่วนตัวหนึ่งคนมาด้วย แต่ตอนนั้นฉันไปหาหม่าหลัน ที่ร้านเสริมสวยเพื่อพูดคุยเรื่องของเยเฉิน และไม่อยากให้หม่า หลันรู้ว่าฐานะของฉัน และไม่อยากให้เธอมาแบล็กเมล์ตระกูลเย่ ของพวกเรา ดังนั้นฉันก็เลยให้บอดี้การ์ดรออยู่ที่หน้าประตู…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่ฉางหมิ่นก็พูดด้วยความโกรธ แต่ฉันคิด ไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าของร้านเสริมสวยนั้น จะเป็นพวกเดียวกับคุณ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ