ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1781



บทที่ 1781

พอเยฉางหมิ่นเดินจากไป เฉินจือข่ายก็รีบร้อนถามพนักงาน คนที่สามว่า “เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ลิลี่ผู้นั้นสะอื้นให้กล่าวว่า “ผู้จัดการทั่วไปเฉิน คุณหนู โกรธจน คโตะไปแล้ว พี่หนานพาพวกเรามาเก็บกวาดเศษแก้วที่นี่ กลับ กลายเป็นว่าจู่ๆ คุณหนูใหญ่ก็มาลงไม้ลงมือกับพวกเรา ซ้ำยังถีบ ท้องพี่หนาน พี่หนานเธอยังตั้งครรภ์อยู่ด้วย ฉันจะโทรเรียกรถ พยาบาล คุณหนูใหญ่ก็ฟังมือถือฉัน….

พี่หนานนั่งอยู่บนพื้นใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเอ่ยปาก กล่าวว่า “ผู้จัดการทั่วไปเฉิน เรื่องนี้ต้องโทษฉันค่ะ คุณอย่าได้ พาลใส่พวกเธอสองคนเลยนะคะ หากบริษัทจะลงโทษล่ะก็ โปรด ลงโทษฉันคนเดียวเถอะ!”

เฉินจือข่ายถอนหายใจ กล่าวว่า “เรื่องนี้ต้องตำหนิฉัน เป็นฉัน ไม่ได้ดูแลทุกคนให้ดี ฉันจะให้คนรีบพาพวกเธอไปส่งโรง พยาบาลก่อน นอกจากนี้ยังให้พวกเธอลางานอีกอย่างน้อยหนึ่ง เดือน แล้วก็ให้ค่าชดเชยพวกเธอคนละสองแสน

กล่าวจบ เขาก็มองหัวหน้าพนักงานที่นั่งอยู่บนพื้น แล้วกล่าวอ ย่างจริงจังว่า “พี่หนาน ผมจะติดต่อหมอสูตินรีเวชที่ดีที่สุดในจิน หลิงช่วยรักษาเด็กในท้องให้คุณเดี๋ยวนี้ ต่อให้ต้องแลกทุกอย่าง ก็ต้องรักษาเด็กเอาไว้ให้ได้ หากเด็กรักษาไว้ได้แล้ว ผมจะให้ค่า ทำขวัญเด็กอีกสองแสน หากรักษาไว้ไม่ได้ ผมจะชดใช้ให้คุณห้าแสน แล้วจะให้คุณลาพักหนึ่งปีพร้อมจ่ายเงินเดือนให้ด้วย กลับ ไปพักผ่อนบำรุงร่างกายให้ดีๆ เตรียมการตั้งครรภ์ใหม่!!

พอเฉินจือข่ายพูดเช่นนี้ ทุกคนพลันถอนหายใจออกมาอย่าง โล่งอกได้ในที่สุด

พวกเธอยังกังวลว่าเฉินจือข่ายจะฟังความต้องการของเยฉาง หมิ่น ลงโทษพวกเธออย่างหนัก

คิดไม่ถึงว่าเฉินจือข่ายจะดูแลทุกคนเช่นนี้ เจ้านายที่มากน้ำใจ มากคุณธรรมเช่นนี้ ช่างหาได้ยากจริงแท้

เห็นผู้หญิงสามคนพากันร้องห่มร้องไห้กล่าวขอบคุณ เฉินจื้อ ขายก็ไม่สนใจจะไปปลอบ รีบเรียกหน่วยรปภ. ให้พาคนไปส่งโรง พยาบาลอย่างเร่งด่วน

หลังรอคนทั้งสามส่งไปยังโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ส่งเสียงถอน หายใจติดๆ กันอย่างกลุ้มใจอยู่ในห้องทำงานเพียงคนเดียว “เฮ้อ ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าผู้หญิงอย่างเยฉางหมิ่น จะอยู่ทรมานกันที่ จินหลิงไปจนถึงเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเธอยังจะทำเรื่องที่เกินเลย อะไรออกมาอีก น่าเสียดายที่ฉันอย่างไรก็เป็นเพียงคนรับใช้ของ ตระกูลเย่ ไม่ว่ามองจากทางใด ก็ข่มเธอไม่ได้โดยสิ้นเชิง หาก เธออยากจะก่อกวนคว่ำฟ้าอยู่ที่จินหลังจริงๆ ฉันเองก็คงอับจน ปัญญา เห็นทีถึงเวลาคงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่คุณชายแล้ว!

เย่เฉินไม่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในสายตาตน แล้วก็ไม่ได้เอามา ใส่ใจ หลังกลับบ้าน ก็เริ่มเตรียมเรื่องฉลองปีใหม่พร้อมกับทุกคน

เนื่องจากเป็นตรุษจีนแรกในคฤหาสน์Tomson Rivieraหลัง ใหญ่ ดังนั้น คนครอบครัวจึงยิ่ง ให้ความสำคัญกับเรื่องพิธีการ ของตรุษจีนปีนี้

เซียวซูหรับซื้อของประดับจำพวกกระดาษแก้ว สติ๊กเกอร์และ โคมแขวนสีแดงอันใหญ่ที่ใช้ประดับตกแต่งมามากมาย วางแผน ว่าจะนํามาตกแต่งในบ้านเองกับมืออย่างยินดีปรีดาเล็กน้อย

แม้หม่าหลันจะเป็นคนขี้เกียจมาก แต่ทิฐิในใจแข็งแกร่งกว่า เลยคิดจะรีบจัดแต่งบ้านออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นค่อยถ่าย รูปลงอวดในโมเม้นหลายๆ รูปสักหน ดังนั้นจึงยังง่วนอยู่กับ เซียวซูหนไปด้วย

หลังเก๋เฉินกลับมา ก็เข้าร่วมกับพวกเขาด้วย

เซียวซูหรินหยิบโคมแขวนสีแดงอันใหญ่ใบหนึ่งที่ทำมาอย่าง สวยงามออกมาจากกล่องกระดาษใบเรื่องที่สั่งมาจากช็อปปิ้ง ออนไลน์ ก่อนจะเอ่ยกับหม่าหลันว่า “แม่คะ หนูอยากตกแต่ง ระเบียงชั้นสองกับชั้นสาม แขวนโคมแดงแบบนี้ไว้ที่ราวกั้น ระเบียง หลังฟ้ามืดไฟเปิด ผลลัพธ์จะต้องดีมากแน่

หม่าหลับตอบรับอย่างไม่ลังเล “ตกลง! ปีใหม่ทั้งที ก็ต้อง ฉลองกันหน่อย เดี๋ยวแม่จะไปแขวนเดี๋ยวนี้!!

เซียวซูหนรีบกล่าวว่า “แม่คะ หนูยังมีอีกเรื่อง อยากจะ ปรึกษากับแม่หน่อย
หม่าหลินยิ้มตาหยีพลางกล่าว “ได้! มีเรื่องอะไรก็พูดมาได้ เลย!!

เซียวซูหนกล่าวขึ้นอย่างเก้อเขินเล็กน้อย “บนระเบียงชั้นสาม ของแม่ แขวนหมวกสีเขียวนานาชนิดไว้กองหนึ่งมาตลอด ปีใหม่ หนนี้ แขวนหมวกเขียวไว้มากขนาดนี้ ไม่ค่อยเหมาะนัก ถ้าอย่าง นั้นพวกเรามาถอดหมวกเขียวออกกันเถอะ!

พอหมาหลับได้ยินเช่นนี้ พลันพูดโพล่งออกมาอย่างไม่ลังเลว่า “นั่นจะได้ยังไงกัน! หมวกเขียวเหล่านั้นล้วนเป็นของเก่าที่เตรียม ไว้ให้เชียวฉางเฉียน ทำเพื่อให้เขาหลังตื่นนอนทุกวัน ลืมตาเห็น หมวกเขียวกองนี้ จากนั้นก็จะหดหูไปทั้งวัน หากแม่เอาออกแล้ว จะไม่เป็นการเอาเปรียบเขาฟรีๆ เหรอ?”

เซียวซูหรันจนปัญญา “แม่คะ! นี่ปีใหม่แล้วนะคะ ทุกบ้านต่าง แขวนโคมผูกผ้าแพรหลากสี หากบ้านเรายังแขวนหมวกเขียว มากขนาดนี้ไว้ ถึงเวลามันจะยิ่งดูไม่ดีนะคะ!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ