บทที่ 1759

ซูรั่วหลี มีอายุเพียงยี่สิบเอ็ดปี ในปีนี้

อายุจริงของเธอ น้อยกว่า คือหนูหนึ่งปี อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เธอเกิดมาจนถึงอายุสิบแปดปีแล้ว ซูโสว่ เต้าก็ยังไม่รู้เรื่องการดำรงอยู่ของเธอเลย

มารดา โดยกำเนิดของซูรั่วหลี ซึ่งมีชื่อจริงว่าเหออิงซิ่ว เป็น ลูกสาวคนโตของตระกูลเหอหนึ่งในสี่ตระกูลศิลปะการต่อสู้ที่ สำคัญของจีน และเป็นหนึ่งในผู้คุ้มกันส่วนตัวของซูโสบู่เต้า

เหออิงซิ่วไม่เพียงแต่มีหน้าตาที่สวยงาม แต่ยังมีความ สามารถมาก เขาเกือบจะเป็นผู้นำของบอดี้การ์ดของตระกูลซูใน เวลานั้น

เธอมีอายุมากกว่า โสเต้าสามปี เมื่อซูโสบู่เต้าอายุสิบห้าปี เขาก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ เพื่อความปลอดภัยของเขา ซู เฉิงเฟิงจึงขอให้เธอมาจากตระกูลเหอ และกลายเป็นผู้คุ้มกันส่วน ตัวของซูโสว่เต้า

ในปีนั้น เหออิงซิ่วอายุสิบแปดปี และเพิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่ปีนั้นมา เธอก็ได้อยู่กับซูโสบู่เต้ามาโดยตลอด

อ่านหนังสือเป็นเพื่อนเขา ไปศึกษาต่อเป็นเพื่อนเขา ไปเรียนรู้ ในด้านธุรกิจของตระกูลเป็นเพื่อนเขา และไปมาทุกที่เป็นเพื่อนของเขา

แม้กระทั่ง ตอนที่ซูโสบู่เต้าตามจีบให้ชิงรรยาคนปัจจุบันของ เขาอย่างเมามัน เหอองซิ่วก็ยังแอบปกป้องเขาอยู่ในที่ลับตลอด เวลา

ในตอนที่เหออิงจิ๋วยังอ่อนประสบการณ์ ก็เริ่มเข้าร่วมโลกเพื่อ ปกป้องซูโสว่เต้า เธอคอยปกป้องเขามานานกว่าสิบปี และไม่มี ความเข้าใจกับชายอื่นใดเลย โดยธรรมชาติแล้วในใจของเธอ ก็ต้องมีความรู้สึกลับๆ ต่อซูโสบู่เต้าที่คุ้นเคยที่สุด

เนื่องด้วยความแตกต่างในอัตลักษณ์ อายุและภูมิหลังทาง ตระกูล เหออิงซิ่วจึงเก็บความรักนี้ไว้ในหัวใจของเธอ

จนกระทั่งชูโสว่เต้าแต่งงานกับตู้ไฟชิง เหออิงจิ๋วซึ่งอายุเกือบ

สามสิบปีก็ยังไม่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเขาเลย

ในปีที่สองของการเกิดของซูจือหยู ซูโสบู่เต้าอายุสามสิบปี และเหออิงซิ่วอายุสามสิบสามปี ซูโสบู่เต้าถูกลอบทำร้ายตัวอยู่ ต่างประเทศ เหออิงซิ่วพยายามอย่างสุดความสามารถ เสี่ยงชีวิต ถึงช่วยเขาออกมาได้ แต่เหออิงซิ่วเองก็ได้สูญเสียแขนไปข้าง หนึ่งเพราะเหตุนี้เหมือนกัน

เหออิง วซึ่งกลายเป็นคนพิการ มีความสามารถในการต่อสู้ที่ ลดลงอย่างมาก ดังนั้นซูโสบู่เต้าจึงต้องปล่อยให้เธอเกษียณและ กลับไปที่ตระกูลเหอก่อนเวลาอันควร

ตอนที่เหออิงซิ่วจากไป ซูโสบู่เต้าก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เธอ จากไปเช่นกัน
เพราะยังไงแล้ว สำหรับคนที่มีอายุสามสิบปีในขณะนั้น เหอถึง ซิ่วอยู่กับเขาแทบทุกย่างก้าวของครึ่งชีวิต

ดังนั้น เขาจึงถามเหออิงซิ่วว่า มีอะไรที่ตัวเองสามารถทำให้ เธอบ้างหรือไม่

เหออิงซิ่วลังเลไปสักพัก แล้วก็เล่าความในใจของตัวเองที่เก็บ

ความรู้สึกมาเป็นเวลานานหลายปี

ซูโสว่เต้าที่เป็นคนใจแข็งในเวลาที่ปกติ ก็รู้สึกอ่อนไหวไปกับ คําสารภาพของเหออิง ว

ในคืนนั้น เขาหาข้ออ้างที่จะออกไป และไปค้างคืนกับเหออิง วอยู่ข้างนอก

หลังจากคืนนั้น เหอองซิ่วก็ออกห่างจากซูโสว่เต้า และกลับไป

บ้านเกิดของเขาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

ผ่านไปกว่าเก้าเดือน ซูรั่วหลีก็ได้ถูกคลอดออกมาสู่โลก

ในตอนแรกซูรั่วหลีก็ไม่ได้ใช้นามสกุล แต่ใช้นามสกุลตาม มารดา ชื่อว่าเหอรั่วหลี

รั่วหลีที่เรียกว่า ก็หมายความว่าเหมือนจะใกล้ชิดแต่ก็รู้สึกห่าง

ไกล

นอกจากนี้ยังแสดงถึงความรู้สึกพิเศษของเหออิงซิ่วที่มีต่อ โสว่เต้าที่อยู่ในใจของเธออีกด้วย

เหอรั่วหลีถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีอยู่ในกำมือจากตระกูลเหอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอไม่เคยเข้าโรงเรียน และฝึกฝนศิลปะ การต่อสู้ ตั้งแต่อายุสองปีจนถึงสิบแปดปี

ดังนั้น ตอนที่เธอมีอายุสิบแปดปี ความสามารถของเธอก็ได้ แซงหน้าแม่ของเธอในตอนที่อายุสิบแปดปี และกลายเป็นคนรุ่น ใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเหอ

หลังจากเติบโตเป็นผู้ใหญ่เมื่ออายุครบสิบแปดปี เหออิงซิ่วก็ ได้เล่าเรื่องต้นกำเนิดชีวิตของเธอให้ฟัง

ในการบรรยายของเหออิงจิ๋ว ซูโสเต้าเป็นพ่อที่ดีที่ให้ความ สำคัญกับความรักและความชอบธรรม เหตุผลที่เขาไม่เคยสนใจ และเป็นห่วงเหอรั่วหลี เป็นเพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องการดำรงอยู่ ของเธอ

ดังนั้น เหออิงซิ่วจึงให้ทางเลือกแก่เรือรั่วหลีสองทาง

อยู่ต่อ และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ต่อไปในตระกูลเหอ หรือออกไปจากบ้าน ไปทำงานให้บิดาผู้ให้กำเนิดของเธอ