ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1720



บทที่ 1720

เอมิ นานาโกะจัดขบวนรถไปเป็นเพื่อนด้วยอย่างรวดเร็ว ขณะ ที่เย่เฉินยังคงขับรถที่ตนขับมาไป

อิโตะ นานาโกะเองก็เข้าไปนั่งอยู่ในรถของเยเงินอย่างไม่ ลังเล

จากนั้น เย่เฉินก็ขับรถไปที่คฤหาสน์ของตระกูลอิโตะใน โตเกียวภายใต้การนำของขบวนรถด้านหน้า

แม้ว่าโตเกียวจะเป็นเมืองที่ที่อยู่อาศัยและที่ดินแพงที่สุดใน โลกเมืองหนึ่ง แต่ว่าตระกูลอิโตะเองก็มีครอบครองคฤหาสน์ส่วน ตัวเอาไว้ที่นี่ด้วยเช่นกัน

คฤหาสน์ทั้งหมดใช้การออกแบบตามสไตล์อาคารโบราณ

ของญี่ปุ่น แม้จะเรียบง่ายอย่างมาก แต่ก็เผยให้เห็นความหรูหรา

ถ่อมตน ในทุกๆที่ เย่เฉินพบว่า แม้แต่ไม้ที่ใช้สร้างคฤหาสน์ที่มีความพิเศษอยู่

ดูเหมือนว่า ตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ นั้นจะมีเงินจำนวนมาก เกินไปจนไม่มีที่จะใช้ ดังนั้นเมื่อทำการก่อสร้างและตกแต่งบ้าน พวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ หากสามารถใช้ของระดับไฮเอน ได้ พวกเขาก็ไม่มีทางใช้ของธรรมดาเป็นอันขาด และหาก สามารถใช้นำเข้าได้ พวกเขาก็จะไม่ใช้ของในท้องถิ่นแน่

พูดไปแล้วสุดท้ายก็คือ เลือกอันที่แพงเท่านั้น ไม่ใช่อันที่ใช่
เนื่องจากเอมิ นานาโกะ โทรมาล่วงหน้า คนรับใช้ของ คฤหาสน์ตระกูลอิโตะทั้งหมดจึงแต่งกายอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยและยืนรออยู่ที่ประตูของคฤหาสน์ ในสนาม และ ภายในคฤหาสน์อย่างเคารพนอบน้อม

เย่เฉินจอดรถไว้ ภายใต้การนำของอิโตะ นานาโกะ เขาเดิน ผ่านลานภายในอันงดงาม ระหว่างที่เดินไปถึงประตูคฤหาสน์ คน รับใช้ทุกคนล้วนโค้งคำนับ 90 องศา ให้ด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อม ตนอย่างมาก

คฤหาสน์ของตระกูลอิโตะในโตเกียวเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ หลายชั้น อาคารทั้งหลังมองดูแล้วคล้ายวัดโบราณขนาดใหญ่ และพื้นที่ภายในมีขนาดใหญ่จนน่าประหลาดใจ

ทันทีที่เขามาถึงประตูห้องโถงใหญ่ อิโตะ นานาโกะจู่ๆก็ก้มลง และคุกเข่าลงบนพื้น ก่อนจะแบมือติดกัน และเอ่ยกับเย่เฉิน “เย่ เฉินซัง ได้โปรดให้นานาโกะเปลี่ยนรองเท้าแตะให้คุณ!”

เย่เฉินตะลึงไปและโบกมืออย่างรวดเร็ว ไม่ต้องไม่ต้อง เอา รองเท้าแตะให้ฉันเถอะ ฉันทำเองก็ได้แล้ว”

อิโตะ นานาโกะกลับยังคงยืนกรานว่า “ให้นานาโกะช่วยเย เฉินซังเปลี่ยนให้เถอะค่ะ นี่เป็นประเพณีของญี่ปุ่น เย่เฉินซังถือซะ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

เย่เฉินคิดในใจ ประเทศจีนของเราชายหญิงเสมอภาคกันแล้ว ทำไมในญี่ปุ่น ผู้หญิงยังต้องคุกเข่าเปลี่ยนรองเท้าให้ผู้ชาย?

แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง เนื่องจากนี่คือธรรมเนียมของผู้อื่น พวกเขาอาจไม่คิดว่านี้มีอะไรไม่เหมาะสม หากตนยังยืนกรานที่จะต่อ ต้าน แบบนั้นกลับถือเป็นการฝ่าฝืนกฎของอีกฝ่ายแทน

ดังนั้นเขาจึงต้องยกเท้าขึ้นและพูดอย่างจริงใจว่า “แบบนั้นก็

ลำบากคุณหนูนานาโกะแล้ว” อิโตะ นานาโกะที่บนตัวยังคงสวมชุดกิโมโนมองขึ้นไปที่เย่ เฉิน เธอยิ้มอย่างเขินอาย งดงามอย่างไม่มีใครเทียบได้

จากนั้น ทั้งสองมืออ่อนนุ่มของเธอก็ค่อยๆ ยกเท้าของเเฉิน จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะให้เขาอย่างอบอุ่น และค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดกับเย่เฉินว่า “เย่เฉินซัง เชิญค่ะ!”

เย่เฉิน พยักหน้าเล็กน้อยและเดินเข้าไปกับเธอ

อิโตะ นานาโกะเอ่ยแนะนำให้เขา “คฤหาสน์หลังนี้มีประวัติมา อย่างยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว ในช่วงแผ่นดินไหวที่คันโต มันเคย ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง เนื่องจากค่าซ่อมแซมสูงเกิน ไป ดังนั้นจึงถูกคนละเลยมาตลอด ภายหลังคุณพ่อซื้อมันขึ้นมา จากนั้นจึงใช้เงินจำนวนมหาศาลซ่อมแซมมันขึ้นมา ถึงค่อยเป็น เช่นทุกวันนี้”

เย่เฉินถามด้วยความสงสัย “คุณอิโตะดูคล้ายจะชอบคฤหาสน์ เก่าแบบนี้เป็นพิเศษใช่ไหม? คฤหาสน์ในเกียวโตหลังนั้น มองดู แล้วยังแก่กว่าหลังนี้มาก

อิโตะ นานาโกะเอ่ยยิ้มอย่างอ่อนหวาน “อันที่จริงเป็นเพราะ ฉันชอบสถาปัตยกรรมสไตล์นี้ค่ะ หลังจากที่ฉันย้ายจากเกียวโต มาที่โตเกียวตอนอายุ 14 ฉันก็ไม่เคยชินกับการใช้ชีวิตในโตเกียวเลย ดังนั้นคุณพ่อก็เลยซื้อที่นี่และใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อซ่อมแซมมัน ก่อนจะกลายมาเป็นดั่งเช่น ในตอนนี้”

พูดไป อิโตะ นานาโกะก็เอ่ยอย่างเต็มไปด้วยความรู้สึก “แต่ ว่าฉันยังคงชอบเกียวโตมากกว่าอยู่ดี”

เยเฉินพยักหน้าและกล่าวว่า “คฤหาสน์หลังนี้มีความเงียบ ท่ามกลางความวุ่นวาย มีกลิ่นอายแบบโบราณ ถือได้ว่าดีมาก

แล้ว แต่ว่าหลังนั้นในเกียวโตก็ดีกว่าจริงๆ”

อิโตะ นานาโกะพูดอย่างเศร้าใจอยู่บ้าง “คุณพ่อขอให้ฉัน ดูแลกิจการตระกูล จากนี้ไปดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้ กลับไปแล้ว…”

พูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเเฉิน และเอ่ยถามอย่างอ้อนวอน อยู่หลายส่วน “เย่เฉินซัง นานาโกะมีคำขอร้องอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ ทราบว่าคุณพอจะรับปากได้หรือไหม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ