บทที่ 1651
ในเวลานี้ เย่เฉันกำลังเดินเล่นอยู่ที่ถนนคนเดิน ใน โอซาก้า
ที่ออกมาข้างนอก ในครั้งนี้ เขาก็ยังคงไม่ยอมให้เงินจือข่าย และคนอื่นๆ ติดตามมาด้วย
เหตุผลก็คือ เขาอยากจะใช้โอกาสจากเวลานี้ กำจัดนินจาที่ เหลืออีกสามคนที่ติดตามเขาอยู่โดยตรง
เนื่องจากโอซาก้าเป็นจุดสุดท้ายของธุรกิจ ในการเดินทาง ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ดังนั้น เขาอยากจะกำจัดผู้ติดตามสามคนนี้อย่าง รวดเร็ว จากนั้นก็รีบไปที่เกียวโต
เขาจงใจนำฟูจิบายาชิ มาสะทั้งสามคนออกจากย่านใจกลาง เมือง เตรียมหาสถานที่ที่เหมาะสมในการลงมือ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ แต่เดิมคนสามคนที่ เดินตามเขาอย่างเงียบๆ ซึ่งอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร ก็ เริ่มหันหลังและเดินกลับไป
เย่เฉันอดไม่ได้ที่จะแอบสงสัยว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? พวกเขาไม่ติดตามผมอีกแล้วเหรอ หรือว่าพวกเขาจะสังเกตได้ อะไรบางอย่างงั้นเหรอ?”
“แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ผมตัวคนเดียว ไม่ได้แสดงเจตนาการ โจมตีใดๆ แม้กระทั่งทำเหมือนไม่รู้ว่ามีพวกเขาอยู่ด้วยซ้ำ พวก เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
“หรือว่าพวกเขาจะมีเรื่องรีบร้อนอะไร? หรือว่า ทากาฮาชิ มา คนนั้นยอมแพ้ปล่อยให้พวกเขาเลิกติดตามผมงั้นเหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจ หันหลังกลับมา และเริ่ม ติดตามสามคนนี้กลับไป เขาไม่อยากทิ้งอันตรายที่ซ่อนอยู่ให้กับตัวเอง ยังไงซะนินจา
พวกนี้ก็ติดตามเขามานานมากแล้ว ถ้าตัวเองปล่อยให้พวกเขา จากไปแบบนี้ ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะกลับมาฆ่าเขาอีกหรือเปล่า?
แม้กระทั่ง ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่พวกเขารู้ว่าตัวเองได้ออก
จากญี่ปุ่นไปแล้ว จะตามไปหาเรื่องตัวเองที่เมืองจินหลิงหรือไม่?
เมืองจินหลังมีภรรยาของตัวเองเซียวซูหนอยู่ ซึ่งนั่นเป็นจุด อ่อนของตัวเอง ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอตกอยู่ใน อันตรายได้!
ดังนั้น ในวันนี้ ให้สามคนนี้ทิ้งชีวิตของพวกเขาไว้ที่นี่เลยจะดี
กว่า!
ฟูจิบายาชิ มาสะไม่คาดคิดว่าเธ่เฉินจะหันกลับมาติดตามพวก เขา เขารู้สึกมาตลอดว่าเย่เฉินน่าจะยังไม่ได้สังเกตเห็นการดำรง อยู่ของพวกเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงพารุ่นน้องสองคน และรีบวิ่ง ไปในทิศทางของโรงแรม
ตอนนี้ฟ้ามันเริ่มมืดแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่อยากจะเดินทาง จากโอซาก้าไปโตเกียวด้วยชิงกันเซ็งและเครื่องบิน ดังนั้นวิธีที่ดี ที่สุดก็คือการขับรถไปจนสุดทาง
ถ้าขับรถเร็ว ก็จะสามารถไปถึงโตเกียวได้ภายในห้าถึงหก ชั่วโมง
ดังนั้น พวกเขาต้องกลับไปที่โรงแรมเพื่อไปรับรถ จากนั้นก็ ออกเดินทางอย่างรวดเร็ว ไปยังกรุงโตเกียว
ทั้งสามคนเดินทางอย่างรีบร้อนตลอดทาง และมาถึงโรงแรม อย่างรวดเร็ว
ที่ทางเข้าโรงแรม ฟูจิบายาชิ มาสะกล่าวสั่งว่า “เจ้ารอง คุณ กลับไปเก็บของที่ห้องกับผม เจ้าสาม คุณไปเอารถที่ชั้นใต้ดิน แล้วมารออยู่ที่ทางเข้าโรงแรม เราจะรีบลงมาพบกับคุณโดยเร็ว ที่สุด!”
“โอเค!” เจ้าสามพยักหน้า และทั้งสามคนก็แบ่งออกเป็นสอง กลุ่ม สองคนใช้ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนไปที่ห้องและเก็บสัมภาระแบบ ลวกๆ และเก็บอุปกรณ์ตรวจสอบ และอีกคนหนึ่งก็ขึ้นลิฟต์ไปที่ โรงเก็บรถใต้ดินเพื่อไปเอารถ
ทันทีที่ฟูจิบายาชิ มาสะเข้าไปในลิฟต์ เขาก็รีบโทรไปรายงาน กับทากาฮาชิ มาจิ
ทันทีที่รับสาย เขาก็รีบพูดด้วยความเคารพว่า “คุณทากาฮาชิ เราจะกลับไปโตเกียวในอีกห้านาที และคาดว่าจะถึงในอีกสี่ ชั่วโมง! ภายในสองสามชั่วโมงนี้ โปรดคุณอยู่แต่ในบ้านและ อย่าเดินไปทั่ว ทุกเรื่องรอให้พวกเรากลับไปแล้วค่อยคุยกัน
ทากาฮาชิ มาจิพูดด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อยว่า “ฟูจิบา ยาชิ เมื่อกี้นี้ผมได้ให้คนไปสืบมาแล้ว ว่ากันว่าวิธีการของอีกฝ่ายนั้นดุร้ายมาก และแม้แต่ก๊าซซารินก็ถูกนำมาใช้ นี่แม่งมันบ้าไป แล้วจริงๆ ตอนนี้ผมกลัวว่าพวกเขาจะลงมือกับผมมาก ตระกูล ฟูจิบายาชิของพวกคุณยังมีผู้ยอดฝีมืออีกกี่คนในโตเกียว? รีบ ให้พวกเขามาปกป้องผมที่บ้านของผมทั้งหมด!
ฟูจิบายาชิ มาสะรีบพูดว่า “คุณทากาฮาชิ ตอนนี้เราไม่มีกำลัง คนมากพอที่จะใช้ได้ในโตเกียวแล้ว เพราะกำลังคนที่เหลืออยู่ ถูกส่งไปเกียวโตหมดแล้ว และกำลังจับจ้องไปที่อิโตะ นานาโกะ จะให้ผมแจ้งให้พวกเขารีบกลับไปไหม?”
ทากาฮาชิ มาจลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “ไม่จำเป็น! ให้ พวกมันอยู่ที่เกียวโตไปเถอะ! ตราบใดที่พวกเขาสามารถควบคุ มอิโตะ นานาโกะได้ ผมก็ยังพอจะมีทุนที่จะไกล่เกลี่ยกับนางา โกะ อิโตะไม่สามารถปล่อยให้ไข่ไก่อยู่ในกรงเดียวกันได้!!
ฟูจิบายาชิ มาสะพูดทันทีว่า “โอเค งั้นพวกเราสามคนจะกลับ ไปก่อน เราจะต้องปกป้องความปลอดภัยของคุณให้ดีอย่าง แน่นอน!”
ในเวลาเดียวกัน ศิษย์น้องสามของฟูจิบายาชิ มาสะก็ลงจาก ลิฟต์ที่ชั้นใต้ดินชั้นสอง และรีบวิ่งไปที่หน้ารถ
ทันทีที่เขากำลังจะปลดล็อคประตูเพื่อเข้าไปในรถ ทันใดนั้น
เขาก็รู้สึกว่ามีแรงเข้ากระชากคอของเขาโดยตรงจากด้านหลัง ทันทีหลังจากนั้น เขาก็เห็นคนใช้มีดคูไน ที่คอของตัวเอง อย่างแน่นหนา!
อีกอย่าง เขาก็รู้จักกับมีดไนนี้ด้วย! มันเป็นสิ่งที่ศิษย์น้องเล็กของตัวเองฟูจิบายาชิ โอตะที่เป็นเจ้าของ
เขาพึมพำอยู่ในใจด้วยความตื่นตระหนกว่า หรือว่า คนคนนี้ ก็คือคนที่ฆ่าศิษย์น้องเล็ก
เขาตกใจไปหมดทั้งคน และพูดโพล่งออกมาว่า “พี่ใหญ่โปรด ไว้ชีวิตผมด้วย อย่าฆ่าผมเลยนะครับ!
เยเฉันพูดอย่างเย็นซาว่า “ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ทำตามที่ ผมพูด!”
เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็วราวกับโขลกกระเทียม “ผมจะฟัง ของคุณทั้งหมดเลย คุณอย่าหุนหันพลันแล่น มีดคุไนนี้ทายาพิษที่ ดุร้าย ถึงแค่จะโดนผิวหนังเพียงเล็กน้อยก็คงไม่รอดแล้ว………..
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ