บทที่ 1637
ศิษย์น้องสองคนของฟูจิบายาชิมาสะจับตาดูสถานการณ์อยู่ รอบๆห้องโถงของโรงแรม
เมื่อเห็นเเงินกลับมาที่โรงแรมเพียงคนเดียวและท่าตัว เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาก็รีบรายงานให้ฟูจิบายาชิมาสะ ทราบทันที ในขณะเดียวกันพวกเขาสองคนก็รู้สึกประหลาดใจ ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนออกไปเดินเล่นเฉยๆ และมองไม่ออกว่าเขามี ร่องรอยการต่อสู้มาก่อน หรือว่าฟูจิบายาชิโอตะไม่ได้ลงมือต่อสู้ กับเขา?!
เหตุผลที่พวกเขาคิดแบบนี้ เพราะพวกเขาสองคนคิดว่า ถึงแม้ ฟูจิบายาชิโอตะจะสู้เยเฉินไม่ได้ แต่เขาคงไม่ได้อ่อนแอถึงขนาด รับมือเย่เฉินไม่ไหว
ถ้าหากตอนนี้เขาเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น งั้นคู่ต่อสู้ของเขาก็คงจะได้ รับบาดเจ็บบ้าง และเป็นไปไม่ได้ที่คู่ต่อสู้ของเขาจะไม่เป็นอะไร เลย
ฟูจิบายาชิมาสะที่ใส่เครื่องดักฟังหลายๆอันในห้องของเยเฉิน จนเสร็จ ก็แอบออกมาจากห้องของเเฉิน จากนั้นก็ใช้อินเตอร์ โฟนบอกพวกเขาสองคน “มาที่ห้องของฉัน!”
อันที่จริง ทันทีที่เย่เฉันเดินเข้ามาในโรงแรม ก็สังเกตเห็นพวก เขาสองคนทันที
เพราะพวกเขาสะกดรอยตามตัวเองตั้งแต่โตเกียวมาถึงนาโง ยะ และเขาก็คุ้นเคยกับสี่คนนี้มาระดับหนึ่งแล้ว
เมื่อเห็นคนพวกนี้มานั่งรอตัวเองที่ห้องโถงของโรงแรม เย่เฉิ นรู้ว่าพวกเขาต้องมีแผนอะไรบางอย่าง ดังนั้น เขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาเลย และนั่งลิฟต์
ขึ้นไปในห้องของตัวเอง
เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เขาก็รู้สึกว่าในอากาศมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นชิน
จาก (ตำราเก้าเสวียนเทียน) เยเฉันรู้ว่าทุกคนมีลมหายใจที่ ไม่เหมือนกัน
สิ่งที่เรียกว่าลมหายใจ มันก็คือสนามแม่เหล็ก ในวิชาฟิสิกส์
คนๆหนึ่งถึงแม้ว่าจะอำพรางตัวได้อย่างแนบเนียน แต่ถ้าเขา ไม่มีความสามารถเหมือนกับเย่เฉิน มันยากมากที่เขาจะซ่อนลม หายใจของตัวเองได้
ก็เหมือนรถยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่ ถึงแม้มันจะเป็นมิตรกับสิ่ง แวดล้อมแค่ไหน แต่มันก็ปล่อยควันไอเสียจางๆออกมา หลังจาก ที่รถยนต์วิ่งผ่าน ควันไอเสียก็จะอยู่ในอากาศ
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่มีประสาทสัมผัสไวในด้านการดมกลิ่น ก็จะสามารถพบกลิ่นของควันไอเสียได้
แต่ลมหายใจอันแผ่วเบาของร่างกายมนุษย์ มันจะระเหยไปได้ ง่าย เว้นแต่คนที่มีประสาทสัมผัสที่ไว ถ้าเป็นคนทั่วไปก็จะสัมผัสได้ยาก
ฟูจิบายาชิมาสะนึกว่าตัวเองอำพรางได้อย่างแนบเนียน แต่ เขาคิดไม่ถึง เมื่อเย่เฉินเข้ามาในห้อง ก็สัมผัสได้ถึงร่องรอยที่เขา หลงเหลือไว้
ดังนั้นเย่เฉินมองไปรอบๆห้องด้วยความสงบ และพบเครื่อง ดักฟังไร้สายหลายๆอันซ่อนอยู่ด้านหลังเฟอร์นิเจอร์ ด้านล่าง โซฟาและด้านในของโคมไฟแชนเดอเรียที่ติดอยู่บนเพดาน
เมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะเย้ย
ในเมื่อเพื่อนชาวญี่ปุ่นพวกนี้ใช้เครื่องดักฟังแล้ว ถ้าตัวเองไม่ แสดงละครฉากหนึ่งเพื่อหลอกพวกเขา ก็จะทำให้พวกเขาเสีย ความตั้งใจในสิ่งที่พวกเขาทำไว้
ดังนั้นเขาก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความตัวหนังสือทาง วีแชทให้เฉินจือข่ายกับหงห้า ห้องของฉันมีเครื่องดักฟัง หงห้า อย่าพึ่งมาที่ห้องของฉัน เหล่าเฉิน เดี๋ยวคุณมาเล่นละครฉากหนึ่ง กับฉันเพื่อหลอกพวกเขาหน่อย”
เฉินจือข่ายรีบส่งข้อความตัวหนังสือกลับมา ถามเขาว่าต้องเต รียมการอะไรบ้าง
เย่เฉินส่งข้อความตัวหนังสือมากมายเป็นสคริปต์ที่ตัวพึ่งคิด ออกมาให้เฉินจือข่าย จากนั้นก็ส่งข้อความเสียงไปให้เขาเหล่า เฉิน มาที่ห้องฉันหน่อย”
ผ่านไปครึ่งนาที เฉินจือข่ายก็มาเคาะประตูห้องของเย่เฉิน
เมื่อปิดประตูห้อง เย่เฉินก็พูดอย่างประหม่าเหล่าเฉิน ฉัน รู้สึกว่านาโงยะมีอะไรแปลกๆ
เงินอข่ายรีบอ่านตามสคริปต์ที่เย่เฉินส่งมาให้เขาและถาม ว่า “คุณชาย คำว่าแปลกๆ คุณหมายความว่าอะไร?” เย่เฉินพูดด้วยความกังวลว่า “เมื่อสักครู่ตอนที่ฉันออกไปเดิน
เล่น ฉันก็มีความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีคนสะกดรอยตามฉัน
ตลอดเวลา”
“คุณชาย มันเป็นเรื่องจริงเหรอ!”เฉินจือข่ายรีบถาม:”พวกเรา เดินทางออกมาจากโตเกียว ระหว่างทางก็แวะไปที่โยโกฮามา ตอนนี้ก็มาถึงนาโงยะ คงไม่มีใครสะกดรอยตามพวกเรามาถึงที่ นี่หรอก?”
“มันก็พูดยาก”เย่เฉินถอนหายใจ “ฉันเคยทำร้ายอันธพาลบน ถนนในโตเกียว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป มี สำนวนจีนที่พูดว่า คุณจะมีอำนาจและแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่ควร ไปมีเรื่องกับเจ้าถิ่น พวกเราออกมาข้างนอก และมีเรื่องผิดใจกับ ตระกูลใหญ่ในท้องถิ่น ยังไงก็คงมีเรื่องยุ่งยากลำบากตามมา อย่างแน่นอน!”
ในขณะนี้ ในห้องของฟูจิบายาชิมาสะ พวกเขาสามคนกำลัง ฟังการสนทนาอยู่ และพวกเขาก็ตกตะลึงมากๆ
น้องสามเอ่ยปากพูด:”ศิษย์พี่ ฉันฟังการสนทนาของพวกเขา ดู เหมือนเขาไม่ได้พบเจอโอตะซึ่งๆหน้า?”
ฟูจิบายาชิมาสะส่งสัญญาณมือให้เขาหยุดและเอ่ยปากพูด “ฟังต่อไป!”
ในเวลานี้ เฉินจือข่ายพูดอีกครั้ง “คุณชาย คุณคิดมากเกินไป หรือเปล่า? ฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีคนสะกดรอยตามพวกเราเลย”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ