ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1539



บทที่ 1539

การอุทานของเซียวฉางควน ทำให้เยเฉินสายหัวอย่างจน

ปัญญา

พ่อตาคนนี้ช่างไมไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อนเลยจริงๆ การเล่นของคนหัวโบราณคงเล่นได้แค่ของปลอมเท่านั้น และ การดื่มชาก็เช่นเดียวกัน

นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้สถานะในตระกูลเดี่ยวของเขาตกต่ำ อย่างมากเพราะเมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของนายหญิง ใหญ่เลย ต่อมาเขาก็ยังคงถูกหม่าหลันบีบคั้นมาอีกหลายปี การใช้ชีวิตของเขาจึงไม่เคยได้ดังใจ และด้านการเงินของเขาก็ ไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่ด้วย

แต่ก็ดีที่อุปนิสัยของเซียวฉางควนนั้นก็ถือว่าไม่เลว ถ้า เปลี่ยนไปเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะปลงไม่ตกจนเป็นโรคซึมเศร้า ไปนานแล้ว

และในอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่ครอบครัวของเยเฉันกำลังรอ ชิมซาชั้นเลิศอย่างมีความสุขอยู่นั้น เฉียนหงเป็นอยู่ที่ข้างบ้าน ในวิลล่าหมายเลข 404 ก็กำลังเตรียมอาหารกลางวันให้กับ ครอบครัวอยู่ด้วยเช่นกัน

เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยท้องลูกของผู้คุมงานเหมืองถ่านหิน ดำมาก่อนทั้งยังได้แพร่เชื้อไปให้เซียวฉางเฉียนอีก ดังนั้นเรียนหงเป็นที่อยู่ในบ้านหลังนี้

จึงถูกบีบคั้นมาโดยตลอด

แต่เนื่องจากอู่ตงไห่คอยหนุนหลังเธอ ตระกูลเซียวจึงไม่กล้า ทําอะไรเธอ

ในตอนแรกนั้น เฉียนหงเล่นยังใช้ทุกวิถีทางประจบนายหญิง ใหญ่เซียวและเซียวฉางเฉียน โดยหวังว่าจะสามารถแลกกลับ กับการให้อภัยของพวกเขาได้ กระทั่งยังจัดเลี้ยงหอยเป๋าซื้อให้ เขียวฉางเฉียน และซื้อปูอลาสก้าราคาแพงเพื่อบำรุงร่างกาย ของเขา แม้ว่าจะเป็นการทำดีประสงค์ร้าย แต่ก็ถือว่ามีความ ตั้งใจที่จะเลียแข้งเลียขาจริงๆ

แต่ว่า เฉียนหงเช่นก็เห็นว่าตัวเองมักจะสรรเสริญเยินยอด้วย ความประจบ แต่คนอื่นกลับไม่เคยสนใจใยดีอะไรเลย ดังนั้นใน ตอนนี้เธอจึงไม่อยากทำให้สถานการณ์มันแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว

และในช่วงนี้ หลังจากที่บริษัทเชียวชื่อได้รับการลงทุนจาก ตงไห้แล้ว ธุรกิจก็เริ่มต้นขึ้นใหม่ ซึ่งด้วยความช่วยเหลือของ ตงไห้ ในที่สุดทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะปกติดังนั้นตระกูลเซียว ทั้งหมดจึงกลับไปทํางานในบริษัทเชียวชื่อ

นายหญิงใหญ่เชียวยังคงเป็นท่านย่าที่มีอำนาจส่วนเซียวฉาง เฉียนรับตำแหน่งเป็นผู้จัดการ และเซียวไม่หลงเป็นผู้จัดการ ธุรกิจและเซียวเวยเวยเป็นผู้จัดการการตลาด

ครอบครัวสี่คนนี้ จึงเข้างานและเลิกงานด้วยกันทุกวัน ดัง นั้นพวกเขาจึงยิ่งเหินห่างไปจากเฉียนหงเป็น

บทบาทของเฉียนหงเล่นของบ้านหลังนี้ ณ ขณะนี้จึงแทบจะกลายเป็นแม่บ้านของพวกเขาทั้งสี่คนไปแล้วซึ่งเธอก็เอาแต่ ทํางานบ้านทุกวัน

ในขณะนั้นเองเธอเพิ่งจะเตรียมอาหารเสร็จ แต่คนในตระกูล เขียวยังไม่ได้กลับมา เธอจึงถอดผ้ากันเปื้อนออก และนั่งเล่น มือถือบนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า

เมื่อเลื่อนดูโมเมนต์ในวีแชตไปเรื่อยเปื่อย ก็เลื่อนไปเจอหน้า โมเมนต์ของหม่าหลิน ทันทีที่เห็นหมาหลันอวดแอร์เมสกอง หนึ่งในโมเมนต์เฉียนหงเช่นก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจอย่างมาก

“หม่าหลันคนนี้ช่างเป็นคนที่มีเงินหน่อยก็อวดรวยจริงๆ! แอร์ เมสแค่ไม่กี่ชิ้นเองไม่ใช่เหรอ? มีอะไรให้น่าอวดบ้าง?

เฉียนหงเล่นบ่นไปสองสามคำ และแค่ครูเดียวเฉียนหงเล่นก็ รู้สึกเป็นทุกข์ขึ้นมา

“หญิงปากร้ายอย่างหม่าหลันนั้น ก็ยังมีลูกเขยที่ดีอย่างเ

เงินคอยสนับสนุนเธอ แล้วฉันล่ะ? ฉันมีอะไรบ้าง?

“สามีงั้นเหรอ? ทั้งทุบตีฉัน ดุด่าฉันยังไม่พอ ยังต้องการจะ หย่ากับฉันอีก และถ้าไม่ใช่เพราะประธานช่วยขวางไว้ ตาแก่ คนนี้คงไล่ฉันออกไปตั้งนานแล้ว”

“ส่วนอีแก่นั่นงั้นเหรอ? ยิ่งไม่ใช่คนดีอะไร! อีแก่คนนี้เลวจน ไม่สามารถเลวได้อีกแล้วถ้าไม่ใช่เพราะคำเตือนของอู่ตงไห้อีก เกรงว่าคงจะวางแผนกับเซียวฉางเฉียนทุบตีฉันจนตายแล้ว!”

เฮ้อ ลูกชายคนนั้นของฉันก็ไม่เอาการเอางานสะเลย ได้สาระอย่างที่สุดความสามารถอะไรก็ไม่มีเลย วันๆ เอาแต่คุยโม้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น และไอ้คนแบบนี้ต่อไปคงไม่มีอนาคตอะไร กับเขาแน่นอน และยิ่งพึ่งพาอะไรเขาไม่ได้เลย”

“เวยเวย…เห้อ…ถ้าเวยเวยยังคบกับหวังเหวินเฟยก็คงจะดี มากเลยล่ะ แต่ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน การให้เป็นคนรักของเซียว เขียนต่อไปก็ยังดี แต่ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ชื่อเสียงของเธอก็ถูก ลือไปทั่วแล้วและอีกหน่อยเธอจะได้แต่งงานหรือเปล่านั้นก็อีก หนึ่งเรื่อง แต่คงยิ่งเป็นคนที่พึ่งพาอะไรไม่ได้ ”

“เฮ้อ ทั้งชีวิตของฉัน ยังมีอะไรให้คาดหวังอะไรได้อีก ไหม? แล้วใครจะสามารถซื้อกระเป๋าแอร์เมส ให้ฉันได้ล่ะ?

เมื่อนึกถึงจุดนี้ เฉียนหงเช่นก็รู้สึกเป็นทุกข์อีกครั้งและเมื่อ นึกถึงความทุกข์ยากเหล่านั้นที่ได้พบเจอมา น้ำตาก็ไหลออกมา ในทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ