บทที่ 1512
เย่เฉินเห็นว่าคงรั่งหลินเชื่อคําพูดของตนเองแล้ว ก็เลยเอ่ย ปากว่า “รั่งหลิน นี่ก็สายมากแล้ว พวกผมก็ไปก่อนล่ะ พรุ่งนี้พวก เราเจอกันที่สนามบินก็แล้วกัน
ต่งรั่งหลินพยักหน้าเบาๆ คิดอะไรขึ้นมาได้ รีบเอ่ยขึ้นว่า “ใช่
แล้ว เมื่อครู่นี้คุณช่วยชีวิตฉันไว้อีกครั้งหนึ่งแล้ว! ”
เย่เฉินหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “ที่ช่วยไม่ใช่คุณ คือสาวน้อยคน นั้น ชนขึ้นมาจริงๆ คุณคงจะไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไร แต่สาวน้อย คนนั้นอาจจะค่อนข้างอันตรายแล้ว”
ต่งรั่งหลินจงใจเบ้ปาก เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดื้อรั้นมาก “นั่นก็ ต้องขอบคุณคุณ!
เย่เฉินยิ้มขึ้นอย่างจนปัญญา “พอได้แล้ว พวกเราต้องไปก่อน ก็ไม่เกรงใจกับคุณอยู่ที่นี่แล้ว เรื่องนี้คุณจำไว้ อย่าเพิ่งบอกกับ หรับก่อน”
ต่งรั่งหลินพยักหน้า “ค่ะ ฉันรู้แล้ว จะปิดปากให้สนิทอย่าง แน่นอน สายมากแล้ว พวกเราสองคนก็ต้องไปแล้วเช่นเดียวกัน
ต่งรั่งหลินและน้องสาวจอดรถไว้ที่ลานจอดรถบริเวณใกล้ๆ เย่ เฉินกับกู้ชิวอี้เมื่อครู่นี้ก็นำรถจอดไว้ที่เรือนสี่ประสานของตระกูล กู้ ดังนั้นทุกคนไม่ใช่ทางเดียวกัน ก็เลยบอกลาที่ริมลานน้ำแข็ง
หลังจากแยกกัน เย่เฉินในที่สุดก็โล่งอก ดูเหมือน เรื่องนี้ในวันนี้ถือว่าผ่านด่านไปได้แบบหวุดหวิด
หลังจากที่เย่เฉินและกู้ชิวหมุนตัวเดินออกมาหลายสิบเมตร กู้ซิวถึงได้เอ่ยถามเขาเบาๆว่า “พี่เเฉิน ทำไมถึงต้องปิดบัง สถานะของตัวเองอยู่ตลอดเวลาด้วยล่ะคะ? หากพี่เปิดเผย สถานะของตัวเอง คนเหล่านั้นที่จินหลิงจะกล้ารังแกพี่ได้ยังไง
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ในตอนแรกพี่ตามพ่อแม่ออกจากตระกูล เย่ ย้ายถิ่นฐานมาที่จินหลิง พูดให้ชัดเจน ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง ไปจากเด็กกําพร้าธรรมดาทั่วไป ต่อให้เปิดเผยสถานะของ ตนเองแล้วจะยังไงได้? คนอื่นๆก็ไม่แน่ว่าจะเชื่อ”
กู้ชิวถามอีก “งั้นพี่หลังจากที่ลุงเยกับป้าเย่เสียชีวิต ก็ สามารถติดต่อกับคนตระกูลเย่ ให้พวกเขารับพี่กลับไปก็ได้แท้ๆ นี่คะ”
เย่เฉินสายศีรษะ เอ่ยอย่างสงบเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านว่า “สถานการณ์ตระกูลเย่ซับซ้อน ห่างไกลจากที่พี่ในตอนนั้นจะ สามารถควบคุมได้ ยิ่งกว่านั้น พ่อแม่พี่ก็ไม่อยากก้มหัวให้ตระ กูลเย่ ถึงได้มาไกลถึงจินหลิง ในปีนั้นแม้ว่าพี่จะอายุน้อย แต่ที่ ไหลเวียนอยู่ในร่างกายคือเลือดของพวกท่าน จะไปก้มหัวให้ตระ กูลเยก่อนหลังจากที่พวกท่านเสียชีวิต ย้อนกลับไปเพลิดเพลิน กับเงินทองและอำนาจของตระกูลเย่ได้ยังไงกัน?
รอบดวงตาของชิวแดงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอกอดแขนข องเย่เฉินเอาไว้แน่น เอ่ยด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ฉันก็แค่ปวดใจที่หลายปีมานี้ ได้รับความลำบาก ได้รับความไม่เป็นธรรม มากมายขนาดนี้ ปวดใจที่หลายปีนั้น ใครก็ตามต่างก็สามารถ ดูถูกพี่ ต่างก็สามารถรังแก
เยเฉินตบหลังฝ่ามือของเธอเบาๆ เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “คนก็ เป็นแบบนี้ ต้องทนต่อการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆได้ ทั้งชีวิตถูกคน ยกย่องชมเชยอยู่ตลอด บางทีทั้งชีวิตก็ยังไม่รู้จักความโหดร้าย ความทุกข์ทรมานภายในโลก แบบนี้อนาคตมีความเป็นไปได้ มากว่าจะเสียเปรียบหนัก ไม่เหมือนพี่ เริ่มตั้งแต่แปดขวบ ก็มอง เห็นชีวิตในโลกอย่างทะลุปรุโปร่ง ประสบการณ์เหล่านี้สำหรับ ชีวิตต่อไปในภายหลังของพี่แล้ว คือสมบัติที่ล้ำค่า
กู้ชิวพยักหน้าเบาๆ น้ำตาเม็ดโตไหลลงมาตามมุมหางตา
เธอสงสารชีวิตสิบกว่าปีที่ผ่านมาของเยเฉินจริงๆ ถึงแม้เย่เฉิ นพูดอย่างผ่านๆหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญเช่นนี้ แต่ทุกครั้งที่ส่วน ลึกภายในจิตใจของเธอคิดถึงขึ้นมา ล้วนรู้สึกจุกอยู่ที่คอ
เขาเป็นถึงคุณชายแห่งตระกูลเย่ กลับพเนจรอยู่ที่จินหลังอิ่ม เอมกับความทุกข์ยากระดับล่างสุดของสังคม ชิวไม่สามารถ จินตนาการได้เลยว่า หลายปีมานี้เขาผ่านพ้นมาได้ยังไงกันแน่
แม้จะบอกว่าอายุของเธอน้อยกว่าเย่เฉิน แต่ทุกครั้งที่คิดถึงสิ่ง เหล่านี้ เธอต่างหวังว่าจะสามารถรั้งเเฉินให้อยู่ที่เย็นจึงไปได้ ตลอด ตนเองไม่ทำอะไร ทุกวันอยู่ที่ข้างกายของเขาคิดหาทุกวิถี ทางทำดีกับเขา ชดเชยความทุกข์ที่เขาได้รับตลอดหลายปีมานี้
ในเวลานี้ เย่เฉินยังคงทอดถอนหายใจออกมาอย่างกะทันหัน“พรุ่งนี้ก็ไปแล้ว วันนี้เจอตั้งชื่อให้สักหน่อยก็แล้วกัน กู้ชิวอี้เอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจ “พี่เเฉิน พี่จะไปพบลุง ถัง?”
เยเฉินพยักหน้า เอ่ยว่า “เรื่องพ่อแม่พี่ในปีนั้น พี่ยังต้องไปถาม เขาให้ชัดเจนต่อหน้า
กู้ชิวอี้พูดโพล่งออกมา “งั้นฉันไปด้วยกันกับพี่! “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ