บทที่ 125 ทำธุรกิจเอง(1)
หานเฉียงทรุดตัวลงรู้สึกว่าชีวิตพังทลายลง ตอนนี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เหตุผลที่เขามีบทบาทสำคัญ กลายเป็นผู้บริหารตั้งแต่ อายุยังน้อย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เขาขอเซ็นสัญญาขาย จิตวิญญาณ
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการควบคุมพนักงานของ บริษัทสิ้นเหอ ได้มีสัญญาการบริหารจัดการที่พิเศษ ซึ่งเมื่อ เซ็นสัญญานี้แล้วสามารถเลื่อนขั้นได้ทันที แต่หลังจากเซ็น สัญญาแล้ว ก็จะถูกบริษัทสิ้นเหอผูกมัดอย่างเต็มที่เช่นกัน
เช่นนี้ หลังจากที่หานเฉียงเซ็นสัญญาฉบับนี้แล้ว ก็มี บทบาทสำคัญ แต่ต้องทำงานหนัก และซื่อสัตย์สุจริต หากไม่ ตั้งใจทำงาน หรือมีใจคิดไม่ซื่อ บริษัทสิ้นเหอจะเรียกร้องให้ ชดใช้ด้วยเงินจำนวนมหาศาล
คนส่วนใหญ่กลัวที่จะรับผิดชอบ จึงไม่กล้าเซ็นสัญญา ฉบับนี้ แต่หานเฉียงเพิ่งเรียนจบในปีนั้น เพื่อความก้าวหน้า เขาจึงเซ็นสัญญาฉบับนี้
คาดไม่ถึง ตอนนี้ชีวิตกลับขมขื่นเช่นนี้!
หานเฉียงคุกเข่าอยู่ที่พื้น รู้สึกว่าชีวิตพังทลายลงแล้ว เขาเดิมพันชีวิตของเขาทั้งหมดไว้ที่บริษัทสิ้นเหอ แต่
ตอนนี้ บริษัทสิ้นเหอฟ้องร้องเขาเรียกร้องเงินชดเชยจำนวน 5 ล้าน ในขณะเดียวกัน หวังเจิ้งกางก็จะแบล็กลิสต์เขา ด้วย……
ด้วยประการฉะนี้ ตัวเองจะหางานได้อย่างไร? ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ชีวิตก็จะเดือดร้อนลำบากแน่นอน และในขณะเดียวกัน เขาถูกเร่งให้ชดใช้เงิน5ล้าน เขา ไม่มีเงินชดใช้ สุดท้ายคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากติด
เขาคุกเข่าลงบนพื้น ก้มกราบอย่างบ้าคลั่ง ร้องไห้น้ำมูก น้ำตาเต็มหน้า “ประธานหวัง ขอร้องท่านโปรดยกโทษให้ผม สักครั้ง ให้โอกาสผมอีกสักครั้ง! ถ้าหากผมถูกแบล็กลิสต์ แล้ว ผมจะหาเงิน5ล้านที่ไหนมาจ่ายให้บริษัท ขอร้องท่านได้ โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง ให้ผมมีโอกาสได้ทำงานในบริษัท ต่อไป ผมจะตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์สุจริต ทำงานอุทิศตนเพื่อ บริษัท !
หวังเจิ้งกางเตะไปที่ตัวเขาอีกครั้ง จนตัวเขากระเด็นไป ไกล และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ยอมรับผิดตอนนี้ มันไม่มี ประโยชน์อะไรแล้ว? แกคิดว่าโลกนี้เป็นของครอบครัวแกเห รอ แกสร้างปัญหาแล้วก็พูดว่าขอโทษแล้วมันก็จะจบเหรอ? ฉันจะบอกแกว่า ถ้าหากอาจารย์เย่โกรธฉันเพราะเรื่องนี้ ฉันก็ จะเอาชีวิตแก! ”
หานเฉียงตัวสั่นด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาซีด ราวกับกระดาษ เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเย่เฉินซึ่งเป็นขยะใน สายตัวเอง จะมีความสำคัญต่อหวังเจิ้งกางขนาดนี้ ที่สามารถ ทำให้หวังเจิ้งกางคิดจะฆ่าตัวเองเพื่อเย่เฉิน
ถ้าหากรู้เรื่องนี้แต่แรก ตัวเขาเองจะยอมคุกเข่าให้เซียว ชูหรันตั้งแต่ที่พบกัน ให้เรียกเธอว่าแม่ก็ยังได้ จะไม่ปฏิเสธ เธอเด็ดขาด …….
ตอนนี้ พูดอะไรมันก็สายเกินไปแล้ว ชีวิตนี้ของตัวเองสิ้น
หวังจบกันแล้ว
ตอนนี้ หวังเจิ้งกางขมวดคิ้ว แล้วก็สังเกตเห็นถังเจียนกับ หลิวเจี้ยนหัว ถามว่า “พวกคุณสองคนเป็นใคร? เป็นเพื่อนกับ หานเฉียงเหรอ? หรือว่าเป็นพนักงานของบริษัทสิ้นเหอ? ”
ถังเจียนกับหลิวเจี้ยนหัวตกใจชั่วขณะ รีบตอบกลับว่า “ไม่ ๆ ๆ พวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหานเฉียง พวกเราไม่รู้ จักเขาด้วย ”
ในเวลานี้ ต้องรีบเคลียร์ความสัมพันธ์กับหานเฉียง จะ ยอมรับได้อย่างไร
หวังเจิ้งกางกล่าวอย่างสงสัย “จริงเหรอ? ถ้าอย่างนั้น ทำไมพวกคุณถึงหัวเราะพูดคุยกับเขาในห้องทำงานของเขา ล่ะ? ”
เมื่อหานเฉียงเห็นเช่นนี้ เขาพูดอย่างโมโหว่า “ประธาน หวัง พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนตอนมหาวิทยาลัย พวก เขาเป็นคนที่สนับสนุนผมให้ปฏิเสธเซียวชูหวั่น”
หานเฉียงกำลังจะบ้าแล้ว ที่เขามีจุดจบที่น่าสังเวชเช่นนี้ ถังเจียนกับหลิวเจี้ยนหัวก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย พวกเขาสอง คนก็อย่าคิดว่าจะมีจุดจบที่สวยงาม
หวังเจิ้งกางยิ้มอย่างเย็นชา “ ที่แท้ก็เป็นหมากัดกันเอง สองคนนี้ก็แบล็กลิสต์พร้อมกันด้วย!”
เมื่อหลิวเจี้ยนหัวได้ยินประโยคนี้ เขากระวนกระวายใจ ขึ้นมาทันที เข้าไปหานเฉียงและสองคนนั้นชกต่อยกันอย่าง บ้าคลั่ง “หานเฉียงแกกล้าลากพวกเรามาเดือดร้อน? แกต้อง ไม่ตาย แน่!”
ในตอนนี้ เย่เฉินนั่งแท็กซี่กลับบ้านพร้อมกับเซียวชูหรัน แล้ว
เย่เฉินมองไปที่เซียวซูหรัน เห็นว่าเธอไม่ได้พูดอะไรเลย ระหว่างทาง และครุ่นคิดอะไรอยู่ เขาจึงกล่าวว่า “สำหรับ เรื่องงาน อีกสองวันค่อยหาก็ได้ พวกเขาไม่รับคุณเข้าทำงาน เป็นเพราะว่าพวกเขามีตาแต่ไร้แวว ผมว่าบริษัทนี้ไม่ใหญ่ การ ที่คุณทำงานที่นั่น มันจะจำกัดการพัฒนาของคุณในอนาคต”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ