บทที่ 1096
แต่เนื่องจากที่นั่งเต็มแล้ว เธอเลยได้แต่ไปนั่งร่วมโต๊ะกับเฉิน เสียวจาว
ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยง นายผู้เฒ่าได้ลุกขึ้นมาก่อน กล่าวขอบคุณ เล็กๆ น้อยๆ
เมื่อถึงช่วงที่ต้องกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน คุณท่าน ซึ่งก็เอ่ยเสริมไปว่า “ขอบคุณอย่างยิ่งที่ปรมาจารย์เย่ให้เกียรติ มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของหลานสาวผู้แซ่ซึ่งในวันนี้!!
เมื่อคุณท่านซึ่งเอ่ยประโยคนี้ออกมาคุณชายสามตระกูลขงที่ นั่งอยู่ในโต๊ะแขกผู้มีเกียรติ ก็มีสีหน้าทะมึนลงทันที
เล่นบ้าอะไรอยู่?
นายผู้เฒ่าของตระกูลซึ่งคนนี้ไม่รู้จักประเมินคุณค่าขนาดนี้ เชียว? ตน ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดหลานสาวอย่าง เอิกเกริก แต่เขากลับไม่กล่าวขอบคุณตนเป็นลำดับแรกหรือ?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองเเฉินที่นั่งร่วมโต๊ะกัน อยู่แวบหนึ่ง
ไอ้หนุ่มนี้ดูธรรมดาสามัญ ไม่รู้เลยว่าทำไมนายผู้เฒ่าตระกูล ซ่งถึงได้เกรงเขาขนาดนี้
หลังจากเอ่ยขอบคุณไปตามระเบียบแล้ว ถึงได้เอ่ยขอบคุณคุณชายสามตระกูลข่ง
เมื่อเห็นว่าความโดดเด่นของตนถูกเยเงินที่หัวนอนปลายเท้า ไม่กระจ่างฉกชิงไปแล้ว คุณชายสามตระกูลขงก็รู้สึกโมโหอยู่ใน ใจ
ในเวลานี้ คุณท่านซึ่งกล่าวจบแล้ว จึงให้ส่งหวั่นถึงขึ้นไปเอ่ย
ขอบคุณบ้าง
ซึ่งหวั่นถึงยืนขึ้นอย่างสง่างามเช่นเดียวกับคุณท่านซัง ขณะที่ เอ่ยขอบคุณแขกเหรือก็แสดงความขอบคุณต่อเย่เฉินเป็นลำดับ แรกสุดเช่นกัน
ระหว่างที่พูดๆ อยู่นัยน์ตาโตก็มองไปทางเยเฉินย่างแฝงความ สิเน่หา เอ่ยอย่างจริงจังว่า “ขอบคุณปรมาจารย์เยเป็นอย่างยิ่งที่ แม้จะงานยุ่งรัดตัว ก็ยังสละเวลามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน ทำให้ฉันปลาบปลื้มตื้นตันนัก
หลังจากขอบคุณไปตามพิธีการแล้ว ซึ่งหวั่นถึงก็เอ่ยอีกว่า “นอกเหนือจากขอบคุณปรมาจารย์แย่แล้ว หวั่นถึงยังต้องขอ ขอบคุณสหายทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอบคุณสำหรับการ สนับสนุนของพวกคุณ”
พอกล่าวจบซ่งหวั่นถึงก็ค้อมกายให้ฝูงชนที่หนึ่ง คุณชายสามตระกูลขงโมโหจนลมใกล้ออกจมูกแล้ว
ถึงแม้คุณท่านซึ่งจะจัดตนไว้เป็นลำดับที่สอง แต่ดีร้ายอย่างไร ก็ยังไว้หน้าตน โดยเอ่ยถึงชื่อแซ่แล้วกล่าวขอบคุณ
แต่พอมาถึงซ่งหวั่นถึง ไม่น่าเชื่อว่าแม้แต่ชื่อแซ่ของตนก็ไม่ เอ่ยถึงเลย เอาตนไปเหมารวมกับคนอื่นแล้วพูดทีเดียว ทำให้เขา รู้สึกขุ่นเคืองอย่างยิ่งจริงๆ
เวลานี้ เขากระซิบถามข่งทรงที่อยู่ข้างกายแล้ว “เย่เฉินคน นั้นมีที่มายังไงกันแน่?
ซึ่งทรงไม่สบอารมณ์เยเงินอย่างยิ่งเสมอมา เพียงแต่ไม่กล้า เมินเฉยต่อเขา ยามนี้ได้ทีเห็นว่าคุณชายสามตระกูลขงคล้ายจะ ไม่พอใจเย่เฉิน ด้วยเหตุนี้จึงผลักเรือตามน้ำกล่าวไปว่า “ตอนนี้ เย่เฉินเป็นสุดยอดลูกเลยที่ค่อนข้างเลื่องชื่อในเมืองจีนหลังของ พวกเราครับ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นซินแสที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง ดู เหมือนจะเป็นแพทย์แผนจีนอยู่นิดหน่อยด้วย ดังนั้นผู้คนเลย เรียกเขาว่าปรมาจารย์เย่ครับ”
เมื่อคุณชายสามตะกูขงฟังประโยคนี้จบ ก็อดไม่ได้ที่จะเบะ ปากทีหนึ่ง “ปรมาจารย์หมาอะไรกัน รู้ฮวงจุ้ยแค่นิดหน่อย รู้ แพทย์แผนจีนเล็กน้อย ก็กล้าเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์แล้วงั้นสิ ถ้าไอ้คนประเภทนี้อยู่ในเย่นจึงล่ะก็ ไม่รู้ว่าจะถูกคนซ้อมตายไป สักกี่หนตั้งนานนมแล้ว”
ซ่งหรงรีบเอ่ยว่า “คุณชายสามพูดถูกแล้วครับ เมืองจินหลิง ของพวกเราก็แค่สถานที่เล็กๆ แต่คุณอย่าได้ดูหมิ่นที่เล็กๆ นะ ครับ แม้ว่าวัดจะเล็กแต่ลมมรสุมกลับรุนแรง แม้ว่าน้ำจะตื่นแต่ กลับไหลเชี่ยว ในบ่อน้ำแห่งนี้ใครบ้างที่ไม่เรียกขานว่าตนคือ มังกรที่แท้จริง”
“เรียกขานว่าเป็นมังกรที่แท้จริง?” คุณชายสามตระกูลซึ่ง หัวเราะเยาะ เลิกคิ้วเอ่ยถาม “เย่เฉินคนนี้บอกว่าตนเองเป็นพญา มังกรตัวจริงงั้นเหรอ?”
ซ่งหรงวี่เอ่ยกระซิบ “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าเขาเรียกตัวเอง ไหม เพียงแต่ในแวดวงยุทธภพของจินหลิง ล้วนบอกว่าปรมา จารย์เย่เป็นพญามังกรตัวจริงในหมู่มนุษย์
คุณชายสามตระกูลขงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น “เขาเป็น พญามังกรตัวจริงในหมู่มนุษย์? ฉันขงเต๋อหลงก็เป็นมังกรเหมือน กัน แถมยังเป็นมังกรจากตระกูลขงแห่งเมืองเป็นจิงด้วย วันนี้ฉัน จะทำให้ได้เห็นเองว่าใครกันแน่ที่เป็นพญามังกรตัวจริงในหมู่ มนุษย์!
ซ่ง รงรีบเอ่ยประจบประแจงทันที “ถ้าเอาเเฉินมาเทียบกับ คุณชายเข้าจริงๆ นั่นคงจะด้อยกว่ามากมากจริงๆ ครับ เกรงว่า คงจะเทียบแม้แต่ขนสักเส้นของคุณไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“นั่นมันแน่อยู่แล้ว” คุณชายสามตระกูลขงเชิดหน้าจมูกชี้ฟ้า เหลือบมองเย่เฉินแวบหนึ่ง ยิ้มเยาะอยู่ในใจ “แค่ไอ้กระจออกที่ โผล่มาในสถานที่เล็กๆ คนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้ามาแย่งความ โดดเด่นกับฉัน วันนี้คุณชายอย่างฉันที่เป็นพญามังกรข้ามธารา จะลงมืดกับแกก่อนเป็นอันดับแรก และจะทำให้พวกตาแก่หูตา ฟั่นเฟือนของเมืองจินหลิงพวกนี้ได้รู้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นพญา มังกรตัวจริงในหมู่มนุษย์!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ