ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1079



บทที่ 1079

พอได้ยินลูกชายถาม ในใจของอู่ตงไห้ก็รู้สึกลำบากใจ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขายังรู้สึกว่าที่ลูกชายตนเองไปชอบซึ่ง หวั่นถึง ก็ถือเป็นความรุ่งโรจน์ของตระกูลซึ่ง

แต่ตอนนี้ ในใจเขากลับคิดว่า ซึ่งหวั่นถึงคงไม่มีทางหันมา มองลูกชายตนเองแน่ๆ

ตระกูลอู๋ในตอนนี้ ไม่เพียงรายได้ลดลง ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ชื่อเสียงที่เสียไป

บวกกับที่ราชาบู๊ทั้งแปดจบชีวิตไปอย่างน่าสงสัย ตอนนี้ตระ

กูลอู๋จะเอาอะไรไปเทียบกับตระกูลซึ่ง

ดังนั้นตอนนี้ตนเองก็เลยไม่อยากจะหวังอะไรทั้งสิ้น ว่าจะ สามารถไปสู่ของหวั่นถึงมาเป็นสะใภ้ได้

แต่น่าสงสารไอ้ลูกชายคนนี้ ดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจอะไร

หลายๆ เรื่อง

ตอนที่ตระกูลรุ่งเรือง ผู้หญิงเขาก็ไม่ยอมอยู่แล้ว นับประสา อะไรกับตอนนี้

พอกลับมาคิดดูอย่างละเอียด ว่าลูกชายตนเองคนนี้ไม่มีเรื่อง อะไรเลย แถมยังขาดการจัดการและทำความเข้าใจกับปัญหา ตรงหน้า
ดูเหมือนว่าคุณท่านจะบอกไว้ไม่มีผิด ตระกูล แย่ลงทุกๆ รุ่น

ตอนนี้ตระกูล อยู่ในมือตนเอง ขาดรายได้ไปกว่าครึ่ง ถ้า อนาคตไปถึงมือลูกชายตนเอง ไม่แน่ว่าอาจจะร่วงไปเป็นตระกูล กระจอกงอกง่อย

ดังนั้นเขาก็เลยบอกกับอู๋ซินว่า “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาจัดการ เรื่องผู้หญิง ตอนนี้พวกเราควรจะมาช่วยกันคิดว่าตระกูลเราจะ รอดพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร พอตระกูลได้หายใจหายคอบ้าง พวกเราก็จะสามารถไปคุยเรื่องแต่งงานกับตระกูลซ่งได้”

วินพยักหน้า แล้วก็ถอนหายใจพูดว่า ถ้าหากว่าพวกเรา สามารถไปอยู่กับตระกูลซึ่งได้ ชีวิตของพวกเราก็จะดีขึ้นหน่อย

อู่ตงไห้ก็ถอนหายใจอีก ในใจก็คิดว่าลูกชายตนเองคนนี้ คิด

ได้แต่เรื่องดีๆทั้งนั้น

ตอนที่เอ็งโดดเด่น คนอื่นยังไม่อยากจะมาเล่นด้วย แล้วจะนับ ประสาอะไรกับตอนที่ตกอับแบบนี้

แต่ว่าเขาไม่ได้เอาคำพูดเหล่านี้บอกกับลูกชายตนเอง เพราะ ว่าบ้านก็วุ่นวายมากแล้ว เขาไม่อยากไปโจมตีความตั้งใจและ ความมั่นใจของลูกชาย

จริงๆ แล้วนี่ก็คือสิ่งที่อู่ตงไม่ด้อยกว่านายท่าน

หรือบางทีก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ตระกูลอู่ด้อยลงทุกรุ่น

ตั้งแต่ตอนที่นายท่าน บุกเบิกกิจการ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะ เผชิญหน้าเอง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะแบกรับเอง
แต่หลังจากที่เขาเปิดกิจการได้แล้ว เขาก็เริ่มรักลูกชายตนเอง มาก รู้สึกว่าความลำบากบางอย่างที่ไม่จำเป็น ก็ไม่อยากจะให้ ลูกชายตนเองไปลิ้มลอง มีตนเองคอยปูทางเดินที่มั่นคง ให้แล้ว เขาไม่มีความจําเป็นที่จะต้องไปลำบาก

ที่สำคัญก็คือที่คนรุ่นก่อนก่อตั้งกิจการแล้วยิ่งใหญ่ ก็เพราะว่า พวกเขาถนัดทําเรื่องที่ลำบาก

เหมือนกับนายท่าน ปีนั้นก็เหมือนล้มลุกคลุกคลานในกอง โคลน ต้องแข่งขันราวกับแย่งอาหารในปากเสือ

คงจะต้องผ่านอะไรมาแบบนี้ ถึงจะมีความสามารถที่แท้จริง แต่น่าเสียดาย พอมาถึงรุ่นตงไห่ พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้ไป ผ่านความยากลำบากแบบนั้นแล้ว

พอมาถึงรุ่นของอู๋ซิน แม้กระทั่งอะไรที่เรียกว่าความยาก

ลำบาก ก็ยังไม่รู้จักเลย

พอหลังจากเย่เฉินกลับมา ก็มาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือน เดิม

แต่ว่าเขายังคงนึกถึงตลอด ว่าอยากจะธุรกิจผลิตยาให้มันดีๆ เลย เขาก็เลยโทรหาพอล ลูกชายของหานเหม่ยฉิง พอลก็ตาม เขาไปที่บริษัทผลิตยาเว่ยชื่ออีกครั้ง

บริษัทผลิตยาเว่ยชื่อเป็นกิจการที่ผลิตยาเป็นอันดับต้นๆ ของ เจียงหนาน เคยผลิตยาจีนออกมาเป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศจีน
แต่หลายปีมานี้ ธุรกิจยาจีนสำเร็จรูปได้เข้าสู่ช่วงขาลง ที่ สำคัญก็คือยาจีนที่ผลิต โดยเกาหลีญี่ปุ่น กลายเป็นที่โด่งดังแทน

ไม่ว่าจะเป็นยาจีนสําเร็จรูปหรือสูตรยาจีน จริงๆ แล้วก็ล้วน เป็นคัมภีร์ยาจีนที่บรรพบุรุษชาวจีนสืบทอดส่งต่อกันมา

ในมือเก๋เฉินมีสูตรยาที่ดีๆ มากมาย พอหยิบเอาออกมาก็อาจ จะทําให้แผ่นดินไหวกันได้เลย ดังนั้นเขายังไม่อยากจะทำให้ชาว โลกตื่นตัว ก็เลยได้แต่หยิบเอาสูตรยาทั่วๆ ไป ที่รักษาโรคใน ชีวิตประจําวันออกมา เพื่อให้บริษัทผลิตยาเว่ยชื่อทํายาดังๆ ออกมาก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ