แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่36 เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า



บทที่36 เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า

“ลูกรัก ขอโทษ ที่มามี้ทำให้ลูกเป็นห่วง”

นรมนจับไปที่มือของกานต์ สายตาเต็นไปด้วยความละอายใจ

ตอนที่บุริศร์ที่อยู่ข้างๆได้ยินกับหูว่านรมนเรียกกานต์ว่าลูกรัก

เขาก็มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อยากจะยืนยันอะไรในเหตุการณ์แบ บนี้สุดท้ายแล้วก็มามีคำถามอะไรออกมา กานต์ตัวสั่นคว่ำกกอยู่ในอ้อมแขนของนรมน สุดท้ายแล้วก็ยังคง

มีนิสัยของเด็กสี่ขวบอยู่ หมอและพยาบาลที่อยู่ด้านข้างไม่กล้า

รบกวน มองไปทางบุริศร์อย่างช่วยไม่ได้

บุริศร์ทำเสียงกระแอมแล้วพูด”ตัวเล็ก มามื้ลายเพิ่งตื่น ให้คุณหมอ ตรวจเช็คร่างกายมามีหน่อยดีไหม? ”

กานต์ขมวดคิ้ว แต่ก็ถอยมาออกมาข้างๆอย่างฟังความ บุริศร์ จูงมือเขาอย่างมารู้ตัว เขาอยากสะบัดออก แต่ไม่ได้มีแรงมากขนาด นั้น เงยหน้ามองค้อนใส่บุริศร์ แต่บุริศร์ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น สาย ตาตรงไปที่หมอและนรมน

นรมนได้ยินเอง คำที่บุริศร์พูดออกมาเมื่อกี้นี้ โดยเฉพาะ”มามี นาย”สามพยางค์ ตาของเธอมีแสงแวววับขึ้นมา

ดูท่าแล้วความสัมพันธ์ของเธอกับกานต์คงจะถูกเปิดโปงแล้วสินะ

ถึงแม้ว่าไม่เคยคิดที่จะปกปิดสถานะของกานต์ แต่สำหรับนรมน แล้วมันกะทันหันไปหน่อย ในแผนการที่เธอวางไว้ จะไม่ปล่อยให้กาน ต์ปรากฏตัวขึ้นมาไม่ให้เขาปรากฏตัวขึ้นมาจะเป็นการดีที่สุด สุดท้ายถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ เธอไม่ต้องการให้ เกี่ยวข้องไปยังเด็ก แต่เมื่อไม่มีทางเลือกกานต์ก็ต้องตามน้ำ

ตอนนี้บุริศร์รู้เรื่องที่เธอมีลูกแล้ว ความสงสัยเกี่ยวกับตัวเธอก็คง เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน หนึ่งในประเด็นที่นรมนกำลังสงสัยกังวลอยู่ ในตอนนี้อาจจะเนื่องจากการตรวจสอบตัวตนของกานต์ก็ได้

ถ้าหากเขารู้แล้วว่ากานต์เป็นใคร แล้วต้องการที่จะแย่งอำนา จการเลี้ยงดูกานต์ไปจะทำยังไง?

นรมนรุน

เธอรู้ว่าบุริศร์ไม่จำเป็นต้องแย่งอำนาจการเลี้ยงดูลูกไป แต่เมื่อเธอ มองไปที่กานต์ เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมา

หมอตรวจทั่วทั้งร่างกายนรมนเสร็จเรียบร้อย พบว่าเธอปกติดี จึง

ออกไป

คมทิพย์กลับมาประจวบเหมาะ สีหน้าไม่ดีทันทีเมื่อมองเห็นบุริศร์

“คุณมาทำไมอีกคะ? ประธานบุริศร์ว่างมากนักเหรอ? ”

สำหรับท่าทางการเยาะเย้ยของคมทิพย์ บุริศร์เพิกเฉยใส่โดยอัต โนมัติ

เขานำกานต์ไปยัดใส่มือของคมทิพย์ พูดอย่างเย็นชา”เด็กเล็กไม่ ควรอยู่ในโรงพยาบาลนานจะดีกว่า ที่นี่เชื้อโรคเยอะ อย่าให้เขาติด เชื้อ แล้วก็เด็กเล็กขนาดนี้ควรไปโรงเรียนได้แล้ว เธอเป็นครูไม่ใช่เห รอ? พาเขาไปโรงเรียนอนุบาลเถอะ ฉันอยู่ที่นี่เอง”

กานต์และคมทิพย์ค้อนใส่บุริศร์ในเวลาเดียวกัน แต่บุริศร์ทำเป็น ไม่รู้ไม่เห็น เดินตรงไปที่หน้าเตียงของนรมน แล้วนำอาหารเช้าที่นำถึงอย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ เธอไม่ต้องการให้ เกี่ยวข้องไปยังเด็ก แต่เมื่อไม่มีทางเลือกกานต์ก็ต้องตามน้ำ

ตอนนี้บุริศร์รู้เรื่องที่เธอมีลูกแล้ว ความสงสัยเกี่ยวกับตัวเธอก็คง เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน หนึ่งในประเด็นที่นรมนกำลังสงสัยกังวลอยู่ ในตอนนี้อาจจะเนื่องจากการตรวจสอบตัวตนของกานต์ก็ได้

ถ้าหากเขารู้แล้วว่ากานต์เป็นใคร แล้วต้องการที่จะแย่งอำนา จการเลี้ยงดูกานต์ไปจะทำยังไง?

นรมนรุน

เธอรู้ว่าบุริศร์ไม่จำเป็นต้องแย่งอำนาจการเลี้ยงดูลูกไป แต่เมื่อเธอ มองไปที่กานต์ เธอก็รู้สึกสับสนขึ้นมา

หมอตรวจทั่วทั้งร่างกายนรมนเสร็จเรียบร้อย พบว่าเธอปกติดี จึง

ออกไป

คมทิพย์กลับมาประจวบเหมาะ สีหน้าไม่ดีทันทีเมื่อมองเห็นบุริศร์

“คุณมาทำไมอีกคะ? ประธานบุริศร์ว่างมากนักเหรอ? ”

สำหรับท่าทางการเยาะเย้ยของคมทิพย์ บุริศร์เพิกเฉยใส่โดยอัต โนมัติ

เขานำกานต์ไปยัดใส่มือของคมทิพย์ พูดอย่างเย็นชา”เด็กเล็กไม่ ควรอยู่ในโรงพยาบาลนานจะดีกว่า ที่นี่เชื้อโรคเยอะ อย่าให้เขาติด เชื้อ แล้วก็เด็กเล็กขนาดนี้ควรไปโรงเรียนได้แล้ว เธอเป็นครูไม่ใช่เห รอ? พาเขาไปโรงเรียนอนุบาลเถอะ ฉันอยู่ที่นี่เอง”

กานต์และคมทิพย์ค้อนใส่บุริศร์ในเวลาเดียวกัน แต่บุริศร์ทำเป็น ไม่รู้ไม่เห็น เดินตรงไปที่หน้าเตียงของนรมน แล้วนำอาหารเช้าที่นำสัญญาสำคัญรเมศก็จะไม่ทุ่มเทให้ความสำคัญขนาดนั้น สิ่งเดียวที่ ทำให้เขาอยู่ห่างไม่ได้ก็น่าจะเป็นกมล

หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับกมลอีก?

ท่าทางวิตกกังวลของนรมนสำหรับในสายตาของบุริศร์แล้วมันไม่ เข้าตาสุดๆ ถึงขนาดที่หัวใจของบุริศร์ขึ้นมาเป็นไฟเลยทีเดียว

รเมศสำคัญสำหรับเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

ตัวเล็กที่เฝ้าคอยขนาดนั้นก็สิ้นลงแล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้วนรมนก็เฝ้า รอเหมือนกัน สีหน้าบุริศร์ก็แย่ทันที

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง เลขาของเขาบอกว่าที่บ้านมีธุระด่วนมาไม่ได้ แล้วต่อให้เธอสำคัญขนาดไหน เธอก็เป็นแค่นักออกแบบคนนึงของร เมศ เธอสำคัญเท่าคนในครอบครัวเขาได้หรือไง? ”

บุริศร์ไม่อยากพูดแบบนี้ แต่อยู่ๆเขาก็ควบคุมปากตัวเองไม่ได้

หัวคิ้วกานต์ขมวดเข้าด้วยกัน เสียงต่ำหวดขึ้นทันที “พ่อบุญธรรม ดีกว่าคุณเยอะ ถ้ามีพ่อบุญธรรมอยู่ที่นี่ มามีก็ไม่ต้องได้รับเจ็บแบ บนี้แน่ๆ! อีกอย่างพวกเราคือคนในบ้านของพ่อบุญธรรม! พ่อบุญ ธรรมเคยบอกไว้แล้ว แค่เพียงมามี้ยินยอม เขาก็พร้อมที่เป็นดาดี้ของ ผมได้ทุกเวลา!

ไฟร้อนของบุริศร์ยิ่งปะทุเพิ่มเข้าไปอีก

“เป็นดาดี้ให้นาย? นายไม่มีดาดี้หรือไง? ใครจะมาเป็นพ่อก็ได้ไม่ เป็นไรอย่างงั้นเหรอ? ”

“ดาดี้ผมตายแล้ว!

กานต์ตะโกนจบประโยค น้ำตาก็ไหลร่วงลงมา ดวงตาคล้ายบุรีศร์คู่นั้นแวววาวไปด้วยความเกลียดชังไม่พอใจ

นรมนตกใจอึ้งทันที

“กานต์ ลูก..”

เธอไม่คิดเลยสักนิดว่ากานต์จะมีทัศนคติแบบนี้กับบุริศร์

ดังนั้นดูเหมือนว่ากานต์จะรู้อะไรบางอย่างเข้าแล้วใช่ไหม? ไม่ อย่างงั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพูดกับบุริศร์แบบนี้หรอก

นรมนตกใจจนเหงื่อแตก ตอนที่อยากจะพูดอะไรออกมา กานต์ก็ ผลักตัวออกจากคมทิพย์ วิ่งไปข้างนอกราวกับคนบ้า

“กานต์! ”

นรมนอยากลุกขึ้น เสียดายที่แรงไม่พอ อีกนิดก็จะร่วงลงจากเตียง โชคดีที่บุริศร์พยุงไว้

คมทิพย์มองค้อนใส่บุริศร์ด้วยความเกลียดชังไปครั้งหนึ่งแล้วพูด “ประธานบุริศร์นี้อำนาจเยอะจริงเลยนะคะ ถึงขนาดรังแกได้ไม่เว้นแต่

กับเด็ก! ”

พูดจบเธอก็หมุนตัววิ่งตามกานต์ไป

ในใจของบุริศร์ตอนนี้เหมือนกำลังน็อคอยู่กับความรู้สึกที่ แปรปรวน ไม่รู้จะบรรยายออกมายังไงดี ยิ่งตอนที่กานต์บอกว่าดาดี้ เขาตายไปแล้วนี่ เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

ถ้าหากว่าเขาเป็นลูกของตัวเองขึ้นมาจริงๆ….

บุริศร์ไม่กล้าคิดว่าจะไปยังไงต่อจริงๆ

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดออกไปแบบนั้น ฉัน….”
บุริศร์พูดขอโทษน้อยครั้งมากวันไม่กี่วันมานี้เหมือนว่าเขาพูดกับ

นรมนมาสองครั้งแล้ว

นรมนกลับส่ายหัว สงบอารมณ์ลงแล้ว

“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก ดาดี้ของเขาก็ตายไปแล้วจริงๆ”

คำพูดเย็นชานรมนเหมือนกับกริชแหลมๆเสียบเข้าไปในขั้วหัวใจ

ของบุริศร์

“ตายแล้ว? ตายยังไงเหรอ? ”

เขาไม่ได้อยากถาม แต่ห้ามใจไม่อยู่

ถ้าหากว่าเธอเป็นภรรยาของตัวเองจริง ถ้าอย่างงั้นเขาก็ต้องรู้ว่า จริงๆแล้วห้าปีก่อนเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แต่นรมนไม่อยากคุย แล้วหลับตาลง

“ประธานบุริศร์คะ ฉันเหนื่อย อยากพักผ่อนแล้วคุณไม่มีธุระอะไร แล้วก็กลับไปเถอะค่ะ ช่วยพยาบาลพิเศษให้ฉันสักคนก็พอแล้ว ตอนนี้ สภาพฉันเป็นแบบนี้ คงจะไปทำงานไม่ไหวแล้ว”

“ไม่เป็นไร เธออยู่ในส่วนบาดเจ็บระหว่างการทำงาน ฉันจะอยู่ดู

แลเธอด้วยตัวเอง”

บุริศร์พูดแล้วนั่งลงข้างเตียงนรมน

“เธอจะพักผ่อนก็ได้ ดื่มซุปก่อน ฟื้นฟูร่างกาย ไม่ว่าเธอจะไม่เห็น ชอบหรือไม่พอใจกับฉันยังไง แต่ก็ทำไม่ดีกับร่างกายตัวเองไม่ได้ถูก

ไหม? ”

พูดอยู่ เขาก็ถือถ้วยซุปมาตรงหน้านรมน
กลิ่นหอมเข้มข้นลอยมา แต่กลับทำให้นรมนสะอิดสะเอียน และ คลื่นไส้ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

“เป็นอะไรไป? ”

บุริศร์รีบตบเบาๆไปที่หลังของเธอ สายตามีร่องรอยความสงสัย

และวิตกกังวล

นรมนปิดจมูกแล้วให้ถือซุปออกไป

ถึงแม้ว่าบุริศร์จะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่ก็ทำตามที่สั่ง

หลังกลิ่นซุปไก่จางหายไป นรมนก็รู้สึกดีขึ้นมา

แต่บุริศร์ก็ยังทนเห็นท้องเธอหิวไม่ได้ จำต้องไปซื้อข้าวต้มโจ๊กที่ โรงอาหารกลับมา

นรมนดีกว่าบุริศร์ไปแล้ว กำลังอยากจะวีดีโอไปหารเมศเพื่อถาม เรื่องกมล คิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะกลับมาอีกแล้ว

เธอรีบปิดโทรศัพท์แล้ววางไว้ข้างๆ

บุริศร์ตาเฉียบเห็นเข้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นำข้าวต้มโจ๊กเสิร์ฟ

ให้นรมน

“กินสักหน่อยนะ เธอเสียเลือดไปเยอะ กระดูกขาขวาหัก ต้องฟื้น ฟูกำลังกายหน่อยถึงจะดี”

ครั้งนี้นรมนไม่ปฏิเสธ รับข้าวต้มโจ๊กมาดื่ม

“ประธานบุริศร์ ตอนนี้คุณไปได้หรือยังคะ? ฉันหวังว่าจะมีเวลาพัก ผ่อนส่วนตัวและเวลาว่าง ขอบคุณนะคะ”

นรมนแสดงท่าทางออกห่างอย่างสมบูรณ์
บุริศวางตะเกียบลงบนโต๊ะ นั่งลงบนเตียงของนรมน โน้มตัวลง มาข้างหน้าเล็กน้อยจนแทบจะแนบชิดติดกับนรมนอย่างทันใด

นรมนคิ้วขมวดแน่น ความรังเกียจจากสายตาส่งผ่านออกมาเธอรีบ ยกแขนขึ้นบังบุริศร์ไว้

“ประธานบุริศร์ คุณทำอะไรคะ? ”

“ดูเหมือนว่าเธอจะรังเกียจฉันมากเลยนะ เราเคยรู้จักกันมาก่อน หรือเปล่า? ”

กลิ่นอายของบุริศร์ปะทะเข้ามาที่หน้า

เขายังคงมีเสน่ห์มาก แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่นรมนในปีนั้นอีก ต่อไปแล้ว

“ประธานบุริศร์พูดตลกแล้วค่ะ ฉันจะไปรู้จักกับประธานบุริศร์ได้ยัง

ไงล่ะคะ”

นรมนต้องการเว้นช่องระยะห่างของทั้งสองฝ่ายมาก แต่เหมือ นว่าบุริศร์จะตั้งใจ เธอเขยิบถอยออก เขาก็เขยิบเข้ามาข้างหน้า ระ ยะห่างของทั้งสองเว้นว่างเพียงหนึ่งนิ้ว

“ใช่เหรอ? ในเมื่อเราไม่รู้จักกันมาก่อน แล้วความแค้นและความ เกลียดชังที่เธอมีต่อฉันมันมาจากไหนกันล่ะ? อย่าปฏิเสธฉันเลย ตาฉันยังไม่บอด”

บุริศร์พูดนิ่งๆ ช่องระหว่างคิ้วมีร่องรอยการสำรวจ

คิ้วของนรมนขมวดกันมากเข้าไปอีก

ไม่ได้เจอผู้ชายคนนี้มาห้าปี ทำไมถึงไม่ใช่คนเย็นชาคนนั้นแล้ว ล่ะ? เขาเข้าใกล้ผู้หญิงแปลกหน้าชิดขนาดนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ประธานบุริศร์ไม่น่าจะลืมนะคะ ว่าฉันเพิ่งจะเข้ามาในบริษัทก็ถูก แฟนของคุณทำให้ขายหน้าต่อสาธารณชนไปแล้วรอบนึง หลังจา กลั้นประธานบุริศร์ก็มาหาแล้วเกือบจะถลกชุดของฉัน แล้ววันนี้ก็เป็น เพราะประธานบุริศร์ ฉันถึงต้องมานอนกระดิกตัวไม่ได้อยู่บนเตียง คนไข้ ประธานบุริศร์ยังคิดว่าฉันไม่ควรเกลียดคุณอีกเหรอคะ? ”

นรมนเงยหน้าขึ้นทันที โดยที่ไม่ปิดบังอารมณ์ในสายตาแม้แต่น้อย ความเกลียดชังท่าตลอดหลายปีตอนนี้มาอยู่ที่สายตาในพริบตา มี สีแดงน่ากลัว

บุริศร์ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

เขากระแทกคางนรมนขึ้น ลมหายใจอุ่นๆสาดเต็มหน้าของเธอ ทำให้ลมหายใจของเธอติดขัดอย่างประหม่า

“คุณจะทำอะไร? บุริศร์ ฉันจะเตือนคุณนะ ที่นี่คือโรงพยาบาล นีคือ

นะ! ”

เสียงของนรมนสั่นเทา ร่างกายต่อต้านอย่างสุดแรง

ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอเกลียดจนเข้ากระดูกดำ ตอนนี้สัมผัสของเขา ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ!

แต่ในเวลานี้ บุริศร์ก้มหัวลงโดยพลัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ