แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1058 พวกเรามีการเตรียมการแล้ว



บทที่ 1058 พวกเรามีการเตรียมการแล้ว

งานออกแบบเขตทหารเหรอ? ตอนนี้บริษัทเราเริ่มทํางานของ เขตทหารแล้วเหรอ?”

นรมนเงยหน้าถามวิศวกรพงศ์ภร

วิศวกรพงศ์ภรมองซ้ายมองขวาแล้วพูดขึ้น อันนี้เป็นแค่ ต้นแบบ ประธานบุริศร์ต้องการให้เราออกแบบตอนนี้ เผื่อว่าต้อง ใช้งานจะได้เอาไปคุยกับเขตทหารในการร่วมงานกันได้ ถ้า หากว่าสามารถคุยกันได้จริงๆ กลุ่มนักออกแบบของพวกเราก็จะ ขึ้นกับทหารครึ่งหนึ่ง แบบนั้นจะดูสุดยอดมากเลย”

“ฉันว่าให้ผลงานพูดแทนเถอะ นักออกแบบของเขตทหารก็มี อยู่ไม่น้อย

นรมนูพูดให้พวกเขา เพื่อจะได้ไม่ให้หลงตัวเองมากเกินไป

“ใช่ใช่ใช่ แคทเธอรีพูดถูก”

นักออกแบบโค้ชแม้อายุจะเยอะแล้ว แต่ว่าก็ยังให้ความ เคารพนรมนมาก ก็ใช้ไม่ได้ ใครใช้ให้นรมนมีความสามารถสูง ล่ะ แม้ว่าช่วงนี้เธอจะยอมวางมือจากการแข่งออกแบบแล้ว แต่ ว่าที่เนตราขโมยความคิดไปนั้นแสดงถึงว่าได้ยกให้นรมนอยู่ใน ระดับสูง

นรมนยกการออกแบบส่วนหนึ่งออกมาพูด “ตรงนี้ต้องทำให้ สมบูรณ์หน่อย ฉันคิดแบบนี้ สำหรับรถทั่วไปจะทำยังไงก็ได้ แต่ถ้าเป็นรถในเขตทหารจะต้องมีการป้องกันการระเบิด เรื่องความ ปลอดภัยต้องมาก่อน การออกแบบ ในส่วนนี้ดูฉูดฉาดไป และไม่ ค่อยเหมาะสม ดังนั้นฉันแนะนำว่าให้แก้ไขตรงนี้อีกหน่อย ส่วน รายละเอียดพวกคุณดูกันเองก็ได้”

นักออกแบบโค้ชหันมามองตรงส่วนที่นรมนูแนะนำ พร้อมกับ ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น นักออกแบบแคทเธอรี ถ้าหากว่าต้องการ เพิ่มความปลอดภัยตรงนี้ รูปแบบก็ต้องดูโดดเด่นหน่อย แต่ถ้า ให้ตรงนี้โดดเด่น ความน่าดึงดูดของรถก็จะได้รับผลกระทบ คุณ เองก็รู้ สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือสีสัน ถ้าหากสีสันไม่โดดเด่น ก็ ไม่สามารถเทียบใครได้

“แต่ว่าก็ไม่ควรเห็นแก่ความน่าสนใจจนลดความปลอดภัยลง นะ คุณดูแก้ตรงนี้อีกหน่อยก็ดูดีขึ้นแล้วจริงไหม? นรมนหยิบ ปากกาออกมาแล้ววงในแบบ รูปแบบรถทั้งคันดูเปลี่ยนไปทันที

“สุดยอดมาก”

นักออกแบบโค้ชพูดออกมาอย่างคาดไม่ถึง

นรมนเองก็รู้สึกดีไม่น้อย

เธอชอบการออกแบบรถเป็นที่สุด ตอนนี้เธอละทิ้งตรงนี้เพื่อไป เปิดบริษัท ถึงเธอจะบอกว่าไม่เสียดาย แต่พอกลับมาจับปากกา อีกครั้งก็ยังรู้สึกถึงความสุขในการทำอีกครั้ง

“โอเค ที่เหลือก็ยกให้เป็นหน้าที่ของพวกคุณค่อยๆ คิด ฉัน ขอตัวกลับก่อน เดี๋ยวคุณบุริศร์หาฉันไม่เจอก็จะเริ่มโทรมาแล้ว”
นรมนลุกขึ้นพร้อมเตรียมจะออกไป

แม้ว่าเธอจะรักในการออกแบบ แต่ว่าการออกแบบกลุ่มนี้ ตัว เองก็แค่แนะนำไปนิดหน่อย ถ้าหากว่ามันมากเกินไปอาจจะ ทำให้คนอื่นเกลียดได้

เธอรู้ดีว่าเวลาไหนควรไม่ควร

นักออกแบบโค้ชได้ออกมาส่งนรมนจากห้องออกแบบ

และพอออกมาเธอก็เห็นบุริศร์ยืนตรงทางเดินพร้อมกับยิ้มๆ

แล้วจ้องเธออยู่

เธอแลบลิ้นใส่เขา แล้วก็เดินไปหาเขาทันที

“ทำไมรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่?”

“ในบริษัทฉันนอกจากที่นี่แล้ว เธอจะชอบไปไหนได้อีก?”

บุริศร์ยื่นแขนออกมา

นรมนก็ยื่นมือไปเกาะทันที

“คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเหรอ?”

“ใช่ ไมค์บอกว่าตอนบ่ายจะพาตุลยามาที่เมืองชลธี เธอคิดว่า จะทํายังไง?”

บุริศร์ไม่ได้กลัวว่านรมนจะขังตุลยาไว้ แต่การที่จะให้ตุลยาอยู่ แต่ในที่ที่หนึ่ง ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย

นรมนกลับหัวเราะออกมา “อะไรคือทำยังไง? ก็พาไปหาตาของฉันที่ลานใหญ่เขตทหารก็สิ้นเรื่อง ไม่ว่าจะพูดยังไง ตุลยาก็เป็น หลานสาวคุณตา ไม่เจอกันนานหลายปี คุณตาต้องจัดการสั่ง สอนหล่อนในเรื่องของกฎของตระกูลพรโสภณอยู่แล้วไม่ใช่เห รอ?”

บุริศร์นิ่งไปชั่วขณะ แต่ว่าจะไม่พูดไม่ได้ว่านี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง

ไม่ว่าใครที่เข้าไปในลานใหญ่แล้ว ถ้าไม่มีคำสั่งของท่านหัว หน้าตนุวร ถึงตุลยาอยากจะออกมาก็ออกมาไม่ได้ และยังบอกได้ ว่าให้นางไปอยู่เป็นเพื่อนคุณตาด้วย

“แต่แบบนี้ควรจะไปบอกกล่าวคุณตาก่อนดีไหม?”

“ต้องไปบอกอยู่แล้ว ไม่อย่างงั้นคุณตาต้องไล่ตะเพิดหล่อน ออกมาแน่”

นรมนหัวเราะแล้วเดินออกมาพร้อมกับบริศร์

เป็นครั้งที่คนในบริษัทเห็นบริศร์ยิ้ม แถมยังยิ้มออกมาด้วย ความอ่อนโยน จนผู้หญิงบางคนหัวใจแทบจะกระโดดออกมา

ประธานบริศร์หล่อมากเลย

แต่บุริศร์กลับไม่ได้สนใจพวกหล่อน ในสายตาของเขามีเพียง นรมนคนเดียว แล้วหลังจากเดินขึ้นรถแล้ว นรมนก็หยิบโทรศัพท์ ออกมาแล้วโทรหาคุณท่านตนวร

“คุณตา หนูกับคุณบุริศร์กำลังจะไปเยี่ยมนะคะ คุณตาอยาก กินอะไรไหม? หนูจะซื้อเข้าไปให้
นโมนพูดขึ้นด้วยน่าเสียงหวานหยดย้อย

คุณท่านตนวรแสยะยิ้มที่มุมปากทันที

“ซื้อกล้วยมาก็ได้ ช่วงนี้ตากินอะไรไม่ค่อยได้ “ได้ค่ะ”

นรมนวางหูโทรศัพท์ บุริศร์ก็ขับรถมาถึงร้านขายผลไม้

พวกเขาไม่ได้ซื้อแค่กล้วย และยังซื้อผลไม้อื่นๆ ไปอีก และ สุดท้ายบุริศร์ยังซื้อใบชาเกรดพรีเมี่ยมไปอีกหนึ่งกล่อง แล้วทั้ง สองคนถึงได้ขับรถไปที่บ้านของคุณท่าตนวร

โตษิณเห็นพวกเขามาแล้ว ก็รีบออกมารับทันที

“คุณหนูนรมน คุณหนูกมลคนแล้ว หัวหน้าไม่ยอมให้ดิฉัน บอกคุณหนู แต่ว่าอีกฝั่งดูจะมีอำนาจ ในเมื่อคุณหนูมาแล้วก็ช่วย จัดการหน่อยนะคะ

โตษิณพูดเสียงเบาๆ

ปากนรมนขมุบขมิบนิดหนึ่ง พร้อมกับหันไปมองบุริศร์

“น้องสาวผู้น่ารักของเธอไม่ใช่รู้จักแต่กินเหรอ? ทำไมถึงได้ เรียนแบบลูกสาวคุณรมิดา ที่ชอบใช้กำลังแล้วล่ะ?”

“ฉันจัดการเอง”

บุริศร์รับฟังเรื่องพวกนี้ด้วยอารมณ์ดี

นรมนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็พลางยิ้มออกมา
“คุณตา หนูมาถึงแล้วนะคะ

นรมนเดินตรงไปที่ห้องรับแขกทันที

คุณท่านตนวรกำลังอ่านหนังสือพิมพ์ทหารอยู่ มองเห็นนรมน เดินเข้ามา ก็พลันหลตาแล้วพูดขึ้น” โอ้ ซื้ออะไรมาให้เยอะแยะ ตาเดาว่าคงจะมีเรื่องอะไรมาให้ช่วยล่ะ? ไม่อย่างงั้นตาคงไม่มี วาสนาได้ของพวกนี้

“คุณตาก็ ทําไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ? เหมือนกับว่าหนูเป็นคน อกตัญญูเลย”

นรมนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

เธอทั้งพูดและเดินเข้าไปกอดแขนเขาไว้

“ดูฝีปากสี ตายังไม่ว่าอะไรเลย กลับพูดจนตาพูดไม่ออกแล้ว เด็กคนนี้อยู่บ้านคงไม่มีใครกล้ารังแกเลยสินะ?”

คุณท่านตนวรรีบหันไปมองบุริศร์ทันที

เดิมทีคิดว่าบุริศร์จะหันมาคุยกับเขา แต่ไม่นึกเลยว่าคุณบุริศร์ กลับหัวเราะออกมาก็ดีครับ นรมนเป็นแบบนี้ในบ้านถึง คึกคัก”

“คุณคงจะชินสินะ”

คุณท่านตนวรส่ายหน้า แต่ดูท่าทางดูจะพอใจในคำตอบของบุ

ริศร์อยู่พอสมควร

“คุณตา ท่านหมายความว่ายังไง? หรือว่าคุณตาต้องการให้คุณบุริศร์ทำไม่ดีกับหนูเหรอ?”

“ตาไม่ได้พูดแบบนั้นซะหน่อย

คุณท่าตนวรหัวเราะอย่างชอบใจ และเพราะพวกเขามาหาจึง

ทำให้อารมณ์ดีไม่น้อย

“กลมล่ะ? ทำไมถึงไม่เห็นเด็กนั่นเลยคะ?”

นรมนูทำเป็นถามขึ้นอย่างไม่รู้เรื่อง

คุณตาตนุวรจึงรีบพูดขึ้น เด็กนั่นเอาแต่ทำอาหารที่ตระกูลทวา ทสิน กมลของพวกเราจะกลายเป็นคนในตระกูลนั้นแล้ว บุริศร์ คุณลองไปดูสิ ถ้าไม่ได้ก็ให้คุยกับคริชณะ อย่าให้ลูกชายบ้านนั้น เอาแต่ล้อมกมลไว้ทั้งวันแบบนั้น ต่อไปกมลยังต้องแต่งงานออก เรือนอีก”

นรมนจึงหัวเราะขึ้นมาทันที

“คุณตา กมลเป็นคนรักการกิน ถ้ามีคนเอาอะไรให้กิน สิบวัน หรือเป็นเดือนก็คงไม่มีทางกลับมา

“ดูเธอพูดสิ กมลไม่ได้ไม่ดีขนาดนั้น

บริศร์ไม่ชอบฟัง

“ไปไปไป ไปตามคนรักของคุณไป

นรมน โบกมือไล่เขาออกไปทันที

บริศร์หัวเราะออกมา พร้อมกับเดินไปที่ตระกูลทวาทสิน
นรมนเห็นว่าบุริศร์ไปแล้ว ถึงได้ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น คุณตา คะ หนูมาขอให้คุณตาช่วยเรื่องหนึ่ง

“ตาคิดไว้แล้วเชียวว่าผลไม้ของหลานไม่ได้กินง่ายขนาดนั้น และนี้ยังมีใบชาชั้นยอดอีก ดูแล้วเรื่องนี้ไม่น่าใช่เรื่องเล็ก”

คุณท่านตนวรส่ายหน้าไปมา

นรมนเขย่าเขานิดหน่อย

“คุณตาจะช่วยหรือไม่ช่วยล่ะ?”

“ช่วยช่วยช่วย ตาก็มีแค่หนูเป็นหลานสาวคนเดียว ตาไม่ช่วย หนูแล้วจะให้ช่วยใครล่ะ?”

“มีแค่หนูคนเดียวที่ไหนล่ะ ไม่ใช่ยังมีตุลยาเหรอคะ?” นโมนพูดชื่อตุลยาออกไปตรงๆ

สีหน้าของคุณท่านตนวรเปลี่ยนไปทันที

“คนแบบนั้นยังเป็นหลานสาวตาเหรอ? ตาไม่เคยยอมรับ”

“คุณตา ขอร้องล่ะนะ คุณตายอมรับหน่อยนะ จะสิบวันหรือ หนึ่งเดือนก็ได้”

“หมายความว่ายังไง?

คุณท่านตนวรขมวดคิ้วทันที

นรมนจึงได้เล่าเรื่องของซาวีที่ทำกับตัวเองและแผนการของตัว เองให้เขาฟัง
และคุณท่านตนวรก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดทันที

“หนูต้องการให้ตาดูหล่อนเอาไว้ แล้วให้ขังนางไว้ที่นี่ถูก ไหม?”

“อย่าพูดแบบนั้นฟังดูไม่เพราะเลยค่ะ ก็แค่ให้หล่อนมาอยู่เป็น เพื่อนตา คุณตาคิดดู ยังไงตุลยาก็เป็นลูกของคุณแม่ จะพูดยังไง ก็ยังเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลพรโสภณ หนูไปทำกับญาติ หล่อนไว้ หล่อนจะไม่จัดการหนูได้ไงละ? คุณตาถือซะว่าช่วยหนู นะคะ”

นโมนพูดเสียงออดอ้อนพร้อมกับเขย่าแขนเขาไปมา

มีเหรอที่คุณท่านตนวรจะทนกับท่าทางของนรมนแบบนี้ได้? “ก็ได้ก็ได้ แต่ว่าตาบอกไว้ก่อนนะ ถ้าหล่อนมาแล้วตาจะทำ อะไร หลานห้ามเข้ามายุ่งนะ

“ไม่ยุ่งค่ะ ไม่ยุ่ง”

นรมนรีบทำท่าทางยืนยัน

และตอนนี้คุณท่านตนวรถึงได้กลอกตาไปมา

“เออใช่ ได้ยินว่าเจตต์จดทะเบียนแล้วเหรอคะ?” ข่าวของคุณท่านตนวรถือว่าน่าเชื่อถือมาก

“ใช่ เขาแต่งงานกับขวัญตาแล้ว พิธีแต่งงานยังไม่ได้เตรียม เลย ไม่ว่าจะพูดยังไง ตอนนี้เขาก็ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรง พยาบาล รอให้ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วก็จะเริ่มดูแลแล้ว”
นรมนรีบพูดขึ้นทันที

คุณท่านตนวรหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งให้นมน

“นี่มันคืออะไรคะ?”

นรมนรู้สึกสงสัย

คุณท่านตนุวรจึงพูดขึ้น “นี่เป็นห้องติดโรงเรียนที่ตาซื้อไว้มอบ ให้ภรรยาของเจตต์ ถือซะว่าเป็นของขวัญที่ผู้อาวุโสมอบให้ รอ อีกสองวันตาจะไปเยี่ยมเจตต์ที่โรงพยาบาล แล้วจะกลับมาจัด งานแต่งงานให้พวกเขา

“คุณตา จะยอมเป็นฝ่ายแม่ให้กับเจตต์เหรอคะ?”

“รู้จักพูดดีๆ บ้างไหม? อะไรคือยอมเป็น? เดิมทีตาก็เป็นตา ของเจตต์ พ่อของเขาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน แถมยังไม่สนใจ เรื่องของเจตต์ ยังจะหวังอะไรจากเขาได้เหรอ? แม่ของเขาตอน ……..เฮ้อ! ตาไม่สนใจแล้วใครจะสนใจล่ะ”

คุณท่านตนวรถอนหายใจออกมา

แต่นรมนนั้นดูดีใจมาก ถ้ามีคุณตาออกหน้า การแต่งงานของ เจตต์ในครั้งนี้ก็ถือว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่แล้ว

“กุญแจนี้ ให้ตาเป็นคนเอาให้เขาเถอะ นี่ก็ใกล้ถึงวันเกิดบุริศร์ แล้ว หนูว่าจะออกไปเที่ยวกับเขาสองสามวัน ลูกๆ ก็ต้องลำบาก คุณตาแล้วนะคะ”

นรมนยัดกุญแจใส่มือเขากลับไป
เรื่องการมอบของแทนใจแบบนี้ให้คุณตาทำเองจะดีกว่า ตอน นี้เธอแทบจะอยากอยู่กันสองคนกับบริศมาก

พอคุณท่านตนวรได้ยินนรมนูพูดแบบนั้น ก็ทำให้นึกถึงสองคน นี้ที่ค่อนข้างห่างกัน และยังเจอเรื่องลำบากทรมาน ก็อดไม่ได้จึง พูดขึ้นวางแผนจะไปเที่ยวไหน? ต้องการให้ตาช่วยอะไรพวกเรา ไหม?”

“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราวางแผนกันเรียบร้อยแล้ว”

กำลังคุยกันอยู่ โตษิณก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก

“ท่านหัวหน้า คุณหนูนรมน รีบออกมาดูแลเร็ว กมลลงไม้ ลงมือกับคนอื่นอีกแล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ