แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 676 เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่



บทที่ 676 เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

บริศร์รู้สึกว่านรมนจงใจทำให้ตัวเองลำบากใจ กำลังลงโทษตน

เห็นท่าทางกลัดกลุ่มของบุริศร์ จู่ๆ นรมนก็ยิ้ม

“คุณยังยิ้มอีก? คุณเห็นฉันเป็นอะไร?

บุริศร์ยิ่งกลัดกลุ้มแล้ว

เขามองนรมนด้วยใบหน้าตำหนิ สีหน้าท่าทางนั้นทำให้นรมน ยิ้มสุขใจยิ่งกว่าเดิม

ยากที่จะเห็นท่าทางของบุริศร์

เห็นบริศ อารมณ์ไม่ดีจริงๆ แล้ว นรมนก็รีบหุบยิ้ม แสดง ท่าทางพูดขึ้น “ไม่ใช่ให้คุณไปทำดีกับเธอ แต่ให้คุณไปลักพาตัว เธอมา ทางที่ดีให้เธอส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากโสธย ด้วย”

“ฉันไม่ไป กิมจิก็ทำเรื่องนี้ได้

บริศร์ปฏิเสธอย่างอึดอัด

เดิมทีเขาเกลียดนลินแทบตาย ตอนนี้ยังจะให้เขาไปลักพา ตัวผู้หญิงคนนั้นอีก ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะถือโอกาสนี้ เอาเปรียบตนก็ได้

เมื่อพูดถึงกิมจิ กิมจิก็พูดขึ้นทันที “ฉันทำได้”
ในที่สุดนรมนก็มองไปทางกิมจิ แต่มองด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นก็ส่ายหน้า แสดงท่าทางพูดขึ้น “คนอื่นไม่ได้ ได้แค่คุณ เท่านั้น คุณคิดว่านพื้นที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จะคิดไม่ได้เห รอ? เธอจะยิ่งระวังตัวมากขึ้น คนปกติไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้ ผู้หญิงคนนั้นฉลาดมากนะ”

บริศ เงียบไป

เขาไม่มีทางคัดค้านคำพูดนรมน ดังนั้นจึงยิ่งกลัดกลุ้ม

“ได้หรือไม่ได้?”

นรมนเร่งเร้า

สีหน้าบุริศ ยิ่งกลัดกลุ้มแล้ว

“คุณไม่กลัวฉันโดนเธอล่อลวงไปเหรอ?”

“โดนล่อลวงไปได้ก็แสดงว่าไม่ใช่โชคชะตาของฉัน แล้วฉันจะ ไปเสียดายอะไร?”

คำพูดนรมนเกือบทำให้บริศร์โมโหขึ้นมา เขาถือว่าเข้าใจ ตอนนั้นรมนไม่ได้จริงจังกับเขาจริงๆ

ความกลัดกลุ่มนี้มันท่วมท้นตัวเขา ทำให้เขากลืนความโกรธ ลงไป ไฟที่กำลังแผดเผา แต่ไม่สามารถระบายออกไปได้

เห็นนรมนกําลังรอคำตอบจากตน เขาก็พยักหน้าอย่างหดหู

มาก

“ก็ตามนั้น คุณรีบไป ฉันจะรอคุณควบคุมตัวนลินได้ จากนั้นก็เริ่มพยายามหาทางช่วยเหลือทางนี้

นรมนยิ้มเหมือนดอกไม้ แต่ในใจบริศร์ขมขื่น

มายด์คนเดียวทำให้เขาสามารถละทิ้งศักดิ์ศรี ถ้าเปลี่ยนเป็น คนที่สำคัญกว่า นรมนยังจะให้ตนละทิ้งศักดิ์ศรีอยู่ไหม?

เขายิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าใจ พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “หลังจาก เหตุการณ์ครั้งนี้คุณต้องชดใช้ฉัน

“ได้ๆๆ! รีบไปเถอะ”

นโมนเร่งเร้า

บริศร์มองนรมนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ท่าทางน้อยใจนั้นเกือบทำให้ นรมนกลั้นไว้ไม่อยู่

ทำไมเธอไม่รู้ว่าในใจบริศร์หดหู่?

จักรพรรดิแห่งเมืองชลธีผู้มีเกียรติไปยั่วยวนผู้หญิงคนหนึ่งที่มี เจตนาแอบแฝงกับตน พูดไปใครจะเชื่อ?

อย่าว่าแต่พูดออกไป มันเป็นเรื่องที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิด ตอนนี้ บริศ ทําเรื่องนี้ได้เพื่อเธอ ในใจนรมนก็ซาบซึ้งมาก

เหตุผลที่เธอจัดเตรียมแบบนี้ แน่นอนเพราะเชื่อใจความรู้สึกที่ บริศร์มีต่อตน ไม่ว่านลินจะมีกี่วิธี แค่บุริศร์ไม่ยินยอม เธอก็ทำไม่

สําเร็จ

เรื่องนี้นรมนมีความมั่นใจมาก

หลังจากบริศร์ออกไปแล้ว กิมจิกำลังมองนรมนต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่นรมนก้มหน้าทันที หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดู ข่าว เห็นเขาเป็นมนุษย์ล่องหนทันที

กิมจิขบฟัน รู้สึกค่อนข้างอิจฉาบุริศร์

อย่างน้อยบุริศร์ก็สามารถทำให้นรมนปฏิบัติด้วยความอ่อน โยน แต่เขาล่ะ? เดาว่าโดนนรมนลากเข้าไปในบัญชีดำแล้ว ถ้า ไม่ใช่เพราะแผนพิเศษพยายามหาทางช่วยเหลือในครั้งนี้ เกรง ว่านรมนคงไม่แม้แต่จะส่งแชทมาหาตนเลยด้วยซ้ำ

นรมนไม่ใช่ไม่รู้สึกถึงสายตากิมจิ แต่เธอไม่อยากถูกหักหลัง อีกแล้วจริงๆ

คมทิพย์ส่งสถานการณ์การบริหารห้างให้กับเธอ

ดูแล้ว คมทิพย์มีความสามารถด้านการบริหารธุรกิจอย่างมาก หลังจากได้รับกิจการไม่กี่วันก็สามารถจัดมันได้เป็นระเบียบ เรียบร้อย

นรมนคุยไม่กี่คำกับคุมทิพย์ คุมทิพย์กลัวว่าเธอจะมีเงินไม่ พอใช้จ่ายข้างนอก ก็เลยโอนเงินมาให้เธอบางส่วน นรมนคิดว่า เงินพวกนี้อาจจะเกินปริมาณการซื้อขายของห้างก็ได้

กานต์ก็ฝากบอกนรมนว่าขอให้เที่ยวอย่างมีความสุขและอื่นๆ ไม่ต้องเป็นห่วงเขากับกิจจา ถ้าเป็นไปได้ พวกเขาไม่รังเกียจที่จะ มีน้องชายหรือน้องสาวตัวน้อยเพิ่มอีกคน

มุมปากนรมนกระตุก

นี่เด็กอายุสี่ขวบเหรอ?
ทำไมรู้อะไรมากมายขนาดนี้?

เธอสั่งสอนกานต์สักหน่อย ทันใดนั้นก็รู้สึกคิดถึงกมลเป็น

พิเศษ

นรมินหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรไปที่เบอร์คฤหาสน์หลังเก่า ตระกูลโตเล็ก

เมื่อป้าอ้อยรับโทรศัพท์ นรมนก็ตกตะลึง

ตัวเองจะพูดอะไรได้ล่ะ?

ตอนนี้นอกจากแสดงท่าทาง ยังพูดอะไรได้อีก

คาดว่าตัวเองแสดงท่าทางไป กมลก็ไม่เห็นและไม่เข้าใจ

นรมนได้ยินเสียงทางด้านป้าอ้อยสอบถามตลอด และวางสาย ลงด้วยความเศร้านิดหน่อย

กิมจิเห็นฉากนี้ ก็รีบพูดขึ้น “นายหญิง ถ้าคุณคิดถึงคุณกมล ฉันไปรับเธอมาได้นะ

“ไม่จําเป็น”

นรมนแสดงท่าทางปฏิเสธ

ทันใดนั้นกิมจิก็พบระยะห่างของตัวเองและนรมน ในตอนนี้

เขามองท่าทางนรมน ไม่รู้จริงๆ ว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่ไม่ สามารถถามได้อีก กลัวจะไปทำร้ายศักดิ์ศรีในใจนรมน แต่ถ้าไม่ พูด เขารู้สึกว่าแบบนี้เป็นการทิ้งโอกาสครั้งนี้ บางทีอาจจะต้อง เป็นแบบนี้กับนรมนทั้งชีวิต
กิมจิไม่อยากห่างเหินกับนรมนอีกแล้ว เขาเกาหูเก่าแก้มพลาง คิด สุดท้ายก็พูดขึ้นว่า “นายหญิง ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ

นรมนไม่ได้เงยหน้า และไม่ได้แสดงออกอะไร ราวกับเรื่องที่ กิมจิจะพูดเธอจะฟังหรือไม่ฟังก็ได้

กิมจิยิ่งเสียใจ แต่ก็ยังพูดเสียงทุ้ม “การสะกดจิตของประธาน

บริศ ไม่เคยถูกรักษาเลย

บรมนเงยหน้าขึ้นทันที

“นายว่าไงนะ?”

เธอแสดงท่าทางพูดขึ้น

ถึงกิมจิจะไม่เข้าใจ แต่ก็พอจะเดาได้บ้าง อย่างไรแล้วสีหน้า แววตานรมนก็ร้อนรนใจ

เขาพูดเสียงทุ้ม “หลังจากประธานบริศร์กลับมาจากเมือง ใต้ดินก็ไม่เคยไปหานักสะกดจิตคนนั้นที่คุณกล่าวถึง เพื่อ ควบคุมประธานบริศร์ คุณแม่ของบุริศร์ก็ไม่เคยหาคนมารักษา การสะกดจิตให้ประธานบริศร์ ต่อมาเจอเรื่องอื่นๆ ประธานบริศร์ และทหารก็ไปจัดการ ตอนกลับมาก็พบว่านายหญิงเกิดเรื่อง เพื่อ ลงโทษตัวเอง ประธานบริศร์ก็ไม่ได้รักษามันเลย”

สีหน้านโมนเปลี่ยนไปแล้ว

ไม่ได้รักษาตลอดเลย?

หมายความว่าบริศรปวดศีรษะตลอดเวลา?
แต่ทำไมเธอไม่รู้ล่ะ?

ตลอดทางมานี้ เธอก็ไม่เคยเห็นบริศรปวดศีรษะเลย

กิมจิเหมือนรู้ว่านรมนกำลังคิดอะไร ก็พูดต่อ “ประธานบุรีศร์ ได้รับยาบางส่วนมาจากป้อง มันระงับได้ชั่วคราว แต่ระงับมันได้ แล้วก็จะดีดกลับอย่างรุนแรงมากขึ้น จะปวดจนนอนไม่หลับทั้ง คืน อยากจะตบตีตัวเองด้วยซ้ำ ตอนที่อยู่กับนายหญิง ประธาน ริศ อาจจะไม่อยากให้คุณได้รู้ ดังนั้น…….

นรมนยืนขึ้นมาทันที ลุกขึ้นแล้วเดินไป

เดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดลงอีกครั้ง

เธอมองกิมจิ รู้ว่าตัวเองแสดงท่าทางไปกิมจิก็อาจจะไม่เข้าใจ เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งวีแชทหากิมจิ

“ตอนนี้ฉันเชื่อนายได้ไหม?”

ในที่สุดกิมจิก็ได้รับประโยคนี้จากนรมน สะเทือนใจจนน้ำตา คลอเบ้า

“ฉันสาบานด้วยชีวิต ชีวิตนี้ฉันจะซื่อสัตย์ต่อนายหญิง ไม่ว่าจะ เกิดอะไรขึ้น ฉันจะยืนเคียงข้างนายหญิง

“ฉันไม่ต้องการชีวิตนาย หลังจากเรื่องครั้งนี้ ฉันจะให้เงินส่วน หนึ่งเป็นค่าตอบแทน นายไม่ต้องตามฉันหรืออะไร เดิมที อาณาจักรรัตติกาลนายเป็นคนบริหาร ทุกคนเป็นพวกพ้องของ นาย ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยว ครั้งนี้เราทำงานร่วมกัน ฉันจ้างนาย นายก ทำงานให้ฉัน ก็เป็นการเสร็จสิ้นของธุรกิจ ไม่เป็นหนี้ต่อกัน
คำพูดเหล่านี้ของนรมนเหมือนมืดนิ่มๆ แทงเข้าไปที่หน้าอกกิน อย่างรุนแรง

เขาอยากพูดอะไรบางอย่าง ต้องการอธิบายอะไรบางอย่าง ดิ้นรนอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็กลับมาสงบเหมือนเดิม

ในเวลานี้ในที่สุดเขาก็รู้ว่า บนโลกใบนี้ไม่มียาที่รักษาโรคแก้

เสียใจภายหลัง

นรมนไม่สนว่าเขาจะคิดอย่างไร ก็เขียนต่อ “ฉันจะออกไปแบบ หนึ่ง ทางนี้ถ้ามีเรื่องอะไร นายแจ้งฉันนะ โอเคไหม?”

“โอเค”

กิมจิพยักหน้า

เขารู้ นี่คือความเชื่อใจครั้งสุดท้ายที่นรมนมีต่อเขา ถึงความ เชื่อใจนี้มันเชื่อมโยงกับเงิน แต่เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่

อย่างไรแล้วแค่ปลอบตัวเองแบบนี้ เขาถึงสามารถยืนหยัดต่อ ไปได้

นรมนเห็นกิมจิตอบตกลงแล้ว ก็รีบขึ้นรถ กลับไปที่โรงแรม

ทันที

เธอไปหาผู้จัดการล็อบบี้โรงแรม เนื่องจากทำของหาย เลยให้ เงินผู้จัดการล็อบบี้บางส่วน จากนั้นก็ให้ผู้จัดการล็อบบี้พาเธอไป ที่ห้องควบคุม
เธอเริ่มเปิดกล้องวงจรปิดที่ตนกับบุริศร์มาตั้งแต่วันแรก หลักๆ คือห้องบุริศร

นรมนเห็นบริศร์กินยาเยอะมากทุกคืน จากนั้นก็เอนกายบน เตียงสักพัก ประมาณเที่ยงคืน เขาก็เริ่มปวดขึ้นมา

บุริศร์ปวดจนกุมศีรษะกลิ้งไปบนพื้น เส้นเลือดปูดขึ้นมาจาก คอ หน้าผากมีเหงื่อไหลตลอดเวลา แม้แต่ชุดนอนก็เปียกไปด้วย เหงื่อ

ความเจ็บปวดเช่นนี้ในตอนแรกเกิดขึ้นต่อเนื่องหนึ่งชั่วโมง ต่อมาระยะเวลายาวนานขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งหลังจากบุรีศร์เจ็บ ปวดก็จะทรุดตัวนอนลงบนพื้น ไม่สนใจว่าไอเย็นจะเข้าสู่ร่างกาย หรือไม่ แม้แต่แรงขยับนิ้วเขาก็ไม่มีด้วยซ้ำ

สีหน้าบุริศร์ซีดเซียว ท่าทางไร้เรี่ยวแรงทำให้นรมนเห็นแล้ว รู้สึกปวดใจเหลือเกิน

เขาที่เป็นแบบนี้ ในวันรุ่งขึ้นไม่เคยปล่อยให้เธอพบความผิด ปกติ ถึงขนาดออกไปเที่ยวเล่นกับเธอด้วยซ้ำ

เขาเป็นคนเหล็กเหรอ?

คิดจริงๆ เหรอว่าตัวเองไม่ต้องพักผ่อนก็สามารถยืนหยัดต่อ

ไปได้?

เขาไม่รู้เหรอว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่นานเขาก็จะทนไม่

ไหว?

หัวใจนรมนเหมือนถูกอะไรบางอย่างบีบเอาไว้
เธอรู้สึกปวดใจและเป็นทุกข์อย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อนรมนเดินออกไปจากห้องควบคุม หัวสมองก็เวียนศีรษะ

เธอส่งวีแซทหาโพนี่ ถามเรื่องบุริศร์

ในที่สุด โพนี่ก็รอจนกว่านรมนจะติดต่อตัวเอง และเห็นเธอถาม สถานการณ์ของบุรีศร์ เดาว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ด้วยกัน

“นรมน บอกบุริศร์ว่ายาแก้ปวดนั้นกินมากๆ ไม่ได้นะ ไม่งั้นจะ เกิดการเสพติดยา ป้องบอกว่าให้เขารีบกลับมารักษาปัญหานี้ให้ เร็วที่สุด พึ่งยาแก้ปวดอย่างเดียวไม่ได้ เส้นประสาทเขาไม่ได้ ปวดธรรมดาแบบนั้น ถ้ายังดำเนินต่อไปอาจจะเป็นอันตรายถึง ชีวิต”

นรมนรู้สึกเครียดจนหัวใจจะโผล่ออกมาจากลำคอ

อันตรายถึงชีวิต

เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่!

เป็นแบบนี้แล้ว ยังจะมาวุ่นวายอยู่กับตนอีกเหรอ?

ทันใดนั้นนรมนก็รู้สึกผิดต่อบริศมาก

ถึงรู้ว่าบุริศร์ทำแบบนี้เพราะกำลังลงโทษตัวเอง เธอก็ยอมรับ ไม่ได้หรอก

เธอหย่ากับบุริศร์ได้ไม่เจอเขาได้ แต่เธอหวังให้เขาอยู่อย่าง สุขสบาย ไม่ใช่เป็นแบบตอนนี้

นรมนทำการตัดสินใจ เธอต้องแก้ไขเรื่องทางนี้ให้เร็วที่สุดจากนั้นก็พาบุริศร์กลับไปรักษาอาการสะกดจิต

และในตอนนี้ โทรศัพท์นรมนก็ดังขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ