แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1153 ทําไมถึงได้เป็นเขาล่ะ?



บทที่ 1153 ทําไมถึงได้เป็นเขาล่ะ?

“หม่ามี้ หม่ามีจะไม่โทรหาแด๊ดดี้เหรอครับ?”

กิจจาจับชายแขนเสื้อของนรมนเอาไว้ ร่องรอยของความวิตก กังวลเล็กน้อยได้ข้ามผ่านเข้ามาภายในดวงตาของเขา

นรมนลังเลอยู่พักหนึ่ง

เธอรู้ว่ากิจจาเป็นห่วงตัวเอง สถานการณ์เช่นนี้ก็ผิดปกติอยู่ บ้างจริงๆ แต่วันนี้เป็นวันพิเศษวันหนึ่ง ขบวนของผู้สละชีพทิวา ยังดำเนินอยู่ข้างหน้า และทหารทั้งหมดก็กำลังเดินตามขบวนไป ถ้าหากบุริศร์ถูกเรียกกลับมาเพราะเรื่องนี้ของเธอ ตามหลัก เหตุผลแล้วมันช่างไม่เหมาะสมจริงๆ

นรมนรู้สึกสับสนครู่หนึ่ง จากนั้นก็กอดกิจจาเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนที่จะปิดประตูรถ

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาบริษัทลากรถ แล้ว ตัวเองก็อุ้มกิจจาเดินอยู่ข้างหลังขบวน

กิจจามองไปที่นรมนซึ่งตอนนี้รอบคอบและเป็นผู้ใหญ่มากกว่า เมื่อก่อนมาก เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอีกสองครั้ง และพบ ว่าหม่ามีดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
แม้ว่านรมนจะไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่รถเสียนั้นตกลงว่าเป็น อุบัติเหตุหรือไม่ แต่หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จเธอก็ถอนหายใจ ออกมาอย่างโล่งอก

คนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในสุสานวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติแล้ว เพราะว่านรมนกับกิจจาไม่ใช่ทหารเลยไม่มีสิทธิ์เข้าไปข้างใน จึง ทำได้เพียงยืนรออยู่ข้างนอกเท่านั้น

สำหรับพวกเขาแล้ว การยืนรอกานต์กับบุริศร์อยู่ตรงนี้ก็ เป็นการอยู่เป็นเพื่อนอย่างหนึ่งเหมือนกัน

เมื่อพิธีไว้อาลัยด้านในเริ่มต้นขึ้น เพลงไว้อาลัยที่ดังขึ้นมาเป็น ระยะก็ทำให้ผู้คนรู้สึกอัดอั้นตันใจด้วยความเป็นทุกข์ และพอ หิมะบนท้องฟ้าได้โปรยปรายลงมา ก็ยิ่งเสริมให้ความรู้สึกที่เศร้า โศกอาดูรนั้นเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

ในขณะที่นรมนกำลังมองดูแม่ของทิวาร้องไห้จนเป็นลมไป สองสามครั้งอยู่ด้านนอก หัวใจก็เจ็บปวดเป็นอย่างมาก

แล้วกิจจาก็ถามด้วยความสงสัยเล็กน้อยว่า “หม่ามี แด๊ดดี้ ของพี่ทิวาล่ะครับ?”

นรมนจึงพูดกระซิบว่า “พ่อของเธออยู่ในเงื้อมมือของผู้ก่อการ ร้าย ยังไม่กลับมา เขาไม่ได้เห็นแม้แต่ใบหน้าสุดท้ายของลูกสาวตัวเองด้วยซ้ำ”

นี่คือความจําใจของคนที่เป็นทหาร และก็เป็นความยิ่งใหญ่ ของพวกเขา

นโมนแลกเปลี่ยนบทบาทด้วยการลองสมมุติว่าตัวเองเข้าไป อยู่ ณ จุดๆ นั้น และคิดถึงว่าถ้าคนที่เกิดเรื่องขึ้นในวันนี้คือกานต์ เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง?

พอคิดถึงตรงนี้ นรมนก็อดไม่ได้ที่จะมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา

คิดไม่ได้นะ!

เธอถึงกับรู้สึกตัวสั่นไปทั้งตัว

เธอไม่มีจิตสำนึกมากขนาดนั้น จึงทนไม่ได้ที่จะส่งลูกชายไปที่ สนามรบ แต่ถ้ากานต์ยืนกรานที่จะไปเองล่ะ?

นรมนรู้ดีว่า ตัวเองมาสามารถบังคับลูกชายได้ แต่ทว่าอาชีพ

จากนั้นเธอก็ส่ายหน้าไปมาทันที เพื่อไม่ให้ไปคิดถึงเรื่องพวก นี้ชั่วคราว

ทันใดนั้นก็มีเสียงดัง “ปัง” ดังขึ้นมา และพื้นดินทั้งหมดก็ดู เหมือนจะแกว่งไปมาเล็กน้อย กิจจาทรงตัวไม่อยู่ จึงตั้งใจจับนร มนเอาไว้
ในขณะที่นรมนกำลังประคองเขาอยู่ ตัวเองก็โซเซไปมาเช่น กัน แล้วถือโอกาสมองไปยังสถานที่ที่เกิดระเบิด ซึ่งนั่นคือรถที่ จอดเพราะเสียของตัวเองนั่นเอง!

กิจจากับนรมนหน้าเปลี่ยนสีขึ้นมา

ถ้าหากเมื่อสักครู่นี้นรมนลงรถไปดูสาเหตุที่รถเสียด้วยตัวเอง คาดว่าตอนนั้นรมนคงจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

การที่ได้รู้เช่นนี้ทำให้นรมเกิดความรู้สึกใจหายในภายหลัง อย่างไม่มีที่สิ้นสุด กิจจาจับมือของเธอเอาไว้โดยตรง แล้วเหงื่อ ออกเต็มฝ่ามือ

พอบริศร์และคนอื่นๆ ได้ยินเสียงระเบิดจึงวิ่งออกมาอย่าง รวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเขาเห็นว่ารถที่เกิดระเบิดคือรถของบ้านตัวเอง ทันใดนั้น

สีหน้าของเขาก็ขาวซีดเล็กน้อย

ดวงตาของกานต์ก็แน่นขนัดขึ้นทันใด

“หม่ามี้”

เขายกเท้าขึ้นวิ่งไป พร้อมด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า นรมนเห็นกานต์ออกมา ขณะที่กำลังมองดูสีหน้าของเขาอยู่ ก็รู้ว่าเขาถูกทำให้ตกใจจะแย่อยู่แล้ว จึงรีบก้าวไป ข้างหน้าและคว้าแขนของกานต์เอาไว้

“กานต์ แม่อยู่ตรงนี้ กิจจากอยู่ตรงนี้ เราไม่ได้อยู่บนรถหรอก นะ”

เสียงของนรมนช่วยดึงสายตาของกานต์ให้กลับมาแล้ว

การตายของทิวาเมื่อสักครู่นี้ยังอยู่ในหัวสมองอยู่เลย ตอนนี้ รถหม่ามีก็เกิดระเบิดขึ้นอีกแล้ว กานต์ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เล็กน้อย เมื่อเห็นนรมนเขาก็โผลเข้าไปในอ้อมกอดของเธอใน ทันที แล้วร่างกายของเขาก็สั่นเทาไปทั้งตัว

พอบุริศร์ได้ยินเสียงของนรมนก็เหลือบมองมาทางด้านนี้ใน ทันที เมื่อพบว่านรมนกับกิจจาปลอดภัยไร้กังวลแล้วเขาจึงถอน หายใจด้วยความโล่งอกออกมา

“เกิดอะไรขึ้น?”

เขาวิ่งมา แล้วถามเสียงเบาๆ

นรมนจึงเล่าเรื่องให้เขาฟังอย่างง่ายๆ สั้นๆ สักพักหนึ่ง และ เริ่มมีคนมาช่วยดับเพลิงแล้ว

พอบุริศร์ได้รู้ว่าเป็นคำเตือนของกิจจา เขาก็อดไม่ได้ที่จะลูบ ผมของเขาไปมา แล้วพูดด้วยเสียงทุ้ม าว่า “ขอบคุณมากเลยนะ กิจจา

กิจจาส่ายหน้าไปมา เห็นได้ชัดว่าเขาถูกขู่ขวัญให้กลัวเป็น อย่างมาก

นึกไม่ถึงเลยว่ารถของนรมนจะระเบิดไปเสียแล้ว หลังจากที่บุรี ศ แน่ใจแล้วว่าพวกเขาปลอดภัยไม่มีปัญหาใดใด เขาก็เลย เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการดับเพลิงทันที

กานต์สงบจิตสงบใจลงมาอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้แสงที่หนัก แน่นและทรหดซึ่งคนอื่นมองไม่เข้าใจกำลังเปล่งประกายอยู่ ภายในดวงตาหงส์ที่สวยงามคู่นั้น

ผู้ก่อการร้ายก็น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

มาระรานคนจีนอย่างฉัน แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องแก้แค้น

ให้ได้!

แต่ไหนแต่ไรมากานต์ไม่ได้รู้สึกถึงหน้าที่และความรับผิดชอบ ของการเป็นทหารที่แรงกล้ามากขนาดนี้ดั่งเช่นในเวลานี้มาก่อน เลย

เขาต้องเอาชนะอาการสองบุคลิกของเขา! เขาต้องขยันฝึก ซ้อม! และเขาจะต้องเข้าร่วมกองทัพต่อไป

ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่มีความสามารถในการปกป้องครอบครัวของเขาเลย
ไม่ว่านรมนก็ดี หรือบริศร์ก็ดี ด้วยฐานะและภูมิหลังของพวก เขาได้ถูกกําหนดไว้แล้วว่าชีวิตของพวกเขาล้วนไม่สามารถใช้ ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้ และชีวิตของพวกเขาล้วนเต็มไปด้วย แผนร้ายและวิกฤตการณ์

เขาเป็นลูกชายของพวกเขา และยังมีกิจจากับกมลอีก เขาจะ ต้องมีอำนาจจึงจะสามารถปกป้องพวกเขาได้

ในตอนแรกที่อยู่แอฟริกาใต้ ที่เขาฆ่าไม่ใช่คน แต่เป็นผู้ ก่อการร้ายที่ชั่วร้ายต่างหาก เขาเป็นผู้ผดุงความยุติธรรม แม้ว่า มือของเขาจะเปื้อนเลือด แต่เขาก็ทำเพื่อปกป้องญาติพี่น้องและ ประเทศชาติ!

ทันใดนั้นอุปสรรคที่กีดขวางอยู่ภายในหัวใจของกานต์ คลี่คลายออกไปแล้ว

เขาเหลือบมองดวงตาที่เป็นกังวลของนรมนและพูดด้วยเสียง

ต่ำๆ แต่ก็หนักแน่นขึ้นมาว่า “หม่ามี้ ผมจะไปช่วยเอง”

พูดจบกานต์ก็กระโจมเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว

“โอ้!”

นรมนอยากจะดึงกานต์เอาไว้แต่กลับไม่สามารถทำได้ดั่ง ความปรารถนา
ในเวลานี้เธอก็รู้สึกได้อย่างรำไรๆ แล้วว่าเส้นทางการเป็น ทหารของลูกชายดูเหมือนว่าจะยิ่งแน่วแน่มั่นคงยิ่งกว่าเดิมแล้ว

เธอไม่ยินยอม แต่กลับไม่สามารถบังคับกานต์ได้ ภายในใจ ของเธอจึงรู้สึกสับสนเล็กน้อยอยู่พักหนึ่ง กิจจาไม่ปล่อยมือของนรมนเลย ถึงแม้ว่าจะมีการจัดตั้งหน่วย

ทหารให้เคลื่อนกำลังออกไปปฏิบัติการแล้วก็ตาม และแม้ว่า สภาพแวดล้อมโดยรอบจะดูปลอดภัยมาก แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย นรมน ตรงกันข้ามเขากลับยิ่งจับแน่นขึ้นกว่าเดิม

บริเวณโดยรอบสับสนอลหม่านเป็นอย่างมาก เนื่องจาก บริเวณใกล้เคียงสุสานวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติค่อนข้างเงียบ และไม่มีผู้คนบาดเจ็บล้มตาย นี่จึงเป็นเรื่องเดียวที่ต้องชื่นชม ยินดี

เพลิงไหม้ถูกดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่รถถูกแจ้งเป็นของ รุดแล้ว

นักกู้ระเบิดที่อยู่ในหน่วยได้ทำการตรวจสอบหนึ่งครั้ง แล้วพูด กับบริศร์ว่า “หัวหน้า มันเป็นระเบิดเวลาครับ รถคันนี้ถูกคน ดัดแปลงไปแล้วครับ”

คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของบริศน์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างแย่เลยทีเดียว อากาศรอบๆ ก็ดูเหมือนจะตกลงมาที่ จุดเยือกแข็งอย่างกะทันหันเช่นกัน

คริชณะอยู่ข้างหลังบุริศร์พอดี ตอนที่ได้ยินคำพูดนี้เขาก็ชะงัก งันสักพัก แล้วถามว่า “มันพุ่งเป้าไปหาคนหรือภรรยาของคุณ หรือครับ?”

“ไม่รู้สิ อาจจะทั้งคู่”

เสียงของบุริศร์ไม่ใช่ไม่ดัง และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อิ่ม ครีมและเยือกเย็น

คริชณะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะซับซ้อนกว่าที่เขาคิด

“คุณพาพวกเขากลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมจะจัดการ เอง”

แต่บุริศร์กลับส่ายหน้า และพูดว่า “ผมจะอยู่ที่นี่ คุณสั่งคนให้ ส่งพวกเขาไปหาคุณตาของผมก็แล้วกัน”

คริชณะไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ถึงอย่างไรก็เป็นรถของ ตระกูลโตเล็ก จะต้องเหลือใครสักคนเอาไว้ที่นี่ก่อน

เขาเดินมาอยู่ข้างหน้านรมน และพูดคุยเกี่ยวกับการตัดสินใจของบุริศร์ให้เธอฟังสักพักหนึ่ง นรมนไม่ได้คัดค้าน อะไร

เธอเหลือบมองบุริศร์ แล้วพูดเบาๆ ว่า “พี่ใหญ่ช่วยดูแลเขา ให้ด้วยนะคะ”

“ผมทำได้”

คริชณะพยักหน้า

นรมนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นไปบนรถพร้อมกับกิจจา

กานต์เรียกพวกเขาขึ้นไปบนรถ แล้วจึงพูดเบาๆ ว่า “หม่ามี้ ผมจะอยู่ที่นี่! พิธีไว้อาลัยของทวายังไม่เสร็จสิ้นเลย ผมเป็น หัวหน้าทีม ผมจึงไม่สามารถจากไปในเวลานี้ได้”

ดวงตาของเขาแน่วแน่จนถึงขึ้นทำให้คำพูดทุกคำที่นรมน ต้องการจะพูดออกมาติดอยู่ในลำคอของเธอไปหมดแล้ว กานต์โค้งคำนับให้นรมนหนึ่งครั้งแล้วหันหลังวิ่งไปทางด้าน

นั้น

ฝีเท้าของเขามั่นคง ทำให้เบ้าตาของนรมนแดงขึ้นมาชั่ว ขณะหนึ่ง

กิจจาคิดว่านรมนรู้สึกเป็นกังวล จึงรีบพูดออกไปว่า “หม่ามี หม่ามีวางใจเถอะ แด๊ดดี้ก็อยู่ด้วย กานต์ไม่เป็นอะไรหรอก”

ในขณะที่นรมนกำลังมองกิจจา เธอไม่รู้ว่าจะบอกกับเขา อย่างไรเกี่ยวกับจิตใจที่สับสนวุ่นวายของเธอในตอนนี้

ทั้งสองคนถูกเจ้าหน้าที่ของคริชณะส่งตัวกลับไปที่บ้านคุณ ท่านตนวร คุณท่านตนวรก็ได้รับทราบข่าวนี้แล้วเช่นกัน เมื่อได้ เห็นว่านรมนูปลอดภัยกลับมา เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่ง ใจแล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น? ยังโอเคอยู่ไหม? แล้วกานต์ล่ะ? กมลล่ะ?”

กมลอยู่กับธรรศ นรมนจึงไม่กังวลสักเท่าไหร่

ขวัญตาตบไหล่ของเธอแล้วพูดว่า “อยากไปช่วยเจตต์ทำงาน หรือเปล่า?”

“ไม่ล่ะ บุริศร์สามารถจัดการได้อยู่แล้ว ฉันแค่รู้สึกอึดอัดนิด

หน่อยน่ะ”

นรมนฝืนยิ้ม หลังจากนั้นก็ไปที่ห้องของตัวเอง

กิจจาถูกคุณท่านตนวรเรียกไปแล้ว ไม่รู้ว่าสองคนหลาน กำลังพูดอะไรกันอยู่ แต่ทว่าอารมณ์ของคุณท่านตนวรกลับดี มากๆ

นรมนเปิดโทรศัพท์ขึ้น อยากจะโทรถามบุริศร์ดูว่าเป็นอย่าง บ้าง แต่สุดท้ายก็วางโทรศัพท์ลง
เป็น ใครกันนะ?

ใครสามารถเข้าใกล้พวกเธอแล้วติดตั้งระเบิดเวลาในรถได้ โดยที่พวกเธอไม่รู้ตัว?

คนรับใช้ในบ้าน ลาพักร้อนไปแล้ว หรือว่าจะติดตั้งก่อนหน้า

เป็นคนของกล้าณรงค์เหรอ?

ไม่ใช่บอกว่าจะลงมือในปีใหม่เหรอ? ทำไมมันถึงได้เร็วกว่า กําหนดล่ะ?

มีคําถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวสมองของนรมนอย่างไม่ขาด สาย ทําให้เธอคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก

ทันใดนั้นนรมนก็คิดถึงกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบ้านขึ้นมา

ในกล้องวงจรปิดจะมีภาพนี้หรือเปล่านะ?

พอคิดถึงตรงนี้ นรมนก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเดินไป ถึงประตูก็ต้องหยุดชะงัก

ถ้าเธอคิดถึงปัญหานี้ได้ อีกฝ่ายจะไม่คิดถึงได้อย่างไร?

ในตอนนี้เธอก็เลยรีบกลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กอย่าง ร้อนรนเช่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีใครบางคนกำลังดักรอเธออยู่ก็ได้
หากเกิดเรื่องอะไรกับเธออีกแม้แต่นิดเดียว บุริศร์ กานต์กับ พวกเด็กๆ จะทำยังไง?

เป็นไปได้ว่า ถ้าเธอกลายเป็นเป้าหมายในการคุกคามของ พวกเขาเช่นนั้นมันจะยิ่งได้ไม่คุ้มเสียมากกว่านะ

พอคิดถึงตรงนี้ นรมนก็หยุดฝีเท้าลง

จะทําอย่างไรดี?

เธอสับสนอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้น นรมนเหลือบมองดู คือสายที่กานต์โทรเข้ามา

หัวใจของเธอกระตุกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบรับสายอย่างรวดเร็ว “กานต์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

นรมนไม่ได้สังเกตเลยว่าเสียงของตัวเองกำลังสั่นเครือไปหมด แล้ว

กานต์จึงรีบพูดว่า “เปล่าครับ หม่ามี หม่าอย่าได้คิดฟุ้งซ่าน ไปเลย เมื่อกี้คุณบุริศร์บอกผมว่า รถถูกดัดแปลงแล้ว กล้อง วงจรปิดภายในบ้านจะต้องมีหลักฐานอย่างแน่นอน ผมได้ตัด เข้าไปในระบบของกล้องวงจรปิดภายในบ้าน พบว่ามีวิดีโอใน กล้องวงจรปิดเมื่อเวลาบ่ายโมงของวันก่อนถูกตัดออกหนึ่งชั่วโมงครับ”

ความคิดของบุริศร์กับนรมนได้รวมอยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนี้พอได้ยินกานต์พูดอย่างนี้แล้ว นรมนก็อดไม่ได้ที่จะ ขมวดคิ้วขึ้นมา

“พูดอย่างนี้ก็หมายความว่าไม่มีเบาะแสอะไรเลยเหรอ?”

แต่กานต์กลับพูดด้วยเสียงทุ้มออกมาว่า “ไม่เลยครับ มีผม อยู่ แม้ว่าวิดีโอจะถูกลบไปแล้ว ผมก็สามารถกลับมาได้ เพียง แต่หลังจากที่วิดีโอช่วงนี้ได้กลับคืนมาแล้ว ผมก็ไม่มั่นใจอยู่นิด หน่อย แต่ผมจะให้หม่ามีดูสักหน่อยนะครับ ส่วนจะทำยังไงต่อไป ก็แล้วแต่หม่าจะตัดสินใจเลยครับ”

พูดจบ กานต์ก็ส่งคลิปวิดีโอที่ถูกลบไปให้นรมนดูโดยตรง

นรมนรีบเปิดดูอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ดูเนื้อหาในวิดีโอเท่านั้น ก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาแล้ว

ทําไมถึงเป็นเขาได้ล่ะ?

ผิดพลาดอะไรหรือเปล่า?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ