แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1341 นี่เป็นชาติ



บทที่ 1341 นี่เป็นชาติ

บริศร์ก็เห็นเงาร่างหนึ่งกระโจนเข้ามาหาเขา เขาจึงยกเท้าขึ้น ด้วยสัญชาตญาณ ถีบเข้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย

เสียงร้องอู้อี้ดังขึ้น แล้วอีกฝ่ายก็กระเด็นออกไปทันที นรมนรีบมาที่ด้านหน้าของบริศร์ มองเขาด้วยความเป็นห่วง

“เป็นอะไรไหม?”

“ไม่เป็นไร”

ดวงตาของบุริศร์จับจ้องไปที่ร่างๆนั้น

ผมยาวๆของคนๆนั้น ปกปิดใบหน้าเอาไว้ จึงมองเห็นใบหน้า ได้ไม่ชัดเจน ส่วนเสื้อผ้าบนร่างของเธอก็ขาดรุ่งริ่ง เหมือนกับไม่ ได้เปลี่ยนมานานมากๆ แต่ทว่าดูจากลักษณะรูปร่างแล้ว น่าจะ เป็นผู้หญิง

ผู้หญิงงั้นเหรอ?

บริศ ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เจอผู้หญิงคนหนึ่งในสถานที่แบบนี้ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงเสียสติ คงจะดีที่สุดนรมนก็รู้สึกถึงจุดนี้ได้อย่างชัดเจน

“คุณเป็นใคร?”
ปืนของนรมนเล็งไปที่ผู้หญิงคนนั้นทันที

เธอเช็ดเลือดที่มุมปาก มีดสั้นในมือพุ่งมาทางนรมนกับบุตร อีกครั้ง

ครั้งนี้ นรมนขวางอยู่ที่ด้านหน้าของบริศร์ เอาปืนจ่อไปที่หน้า ผากของผู้หญิงคนนั้น

“คุณอยากจะลองดูไหมล่ะว่าระหว่างมีดสั้นของคุณ กับปืนของ

ฉันอะไรจะเร็วกว่ากัน?

เสียงของนรมนเย็นยะเยือก เย็นจนไม่มีอุณหภูมิใดๆ

การเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นหยุดนิ่งอย่างฉับพลัน

“ปิดผมออกไปข้างๆ คุณเป็นใคร?”

นรมนถามต่อ

แต่ผู้หญิงคนนั้นแค่คำรามอย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไรออกมา

บริศ ขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากจะเดินเข้าไปใกล้ๆ โดยไม่รู้ตัว แต่ผู้หญิงคนนั้นราวกับมีความรู้สึกขยะแขยงผู้ชายที่เป็นไปโดย ธรรมชาติ ตอนที่เผชิญหน้ากับนรมนไม่เป็นอะไร แต่ตอนที่บุริศร์ เดินเข้ามา เธอก็โบกมีดสั้นในมือไปมาด้วยความประหม่า ไม่ สนใจเลยว่าอาจจะทำให้ตนเองบาดเจ็บได้

นรมนมองท่าทางของผู้หญิงคนนี้ พบว่าผมยาวๆของเธอมีผม หงอกแซมอยู่บ้าง คงจะอายุไม่น้อยแล้วสินะ หรืออาจจะเพราะ เกี่ยวเนื่องกับอยู่ที่นี่เป็นเวลานานไม่ได้เจอแสงอาทิตย์เลยผมจึงเปลี่ยนเป็นสีขาวไป

“ขอโทษด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะจู่โจมเข้ามา จริงๆแล้วคิด ว่าที่นี่ไม่มีคนอาศัยอยู่ จึงอยากเข้ามาหลบลมหลบหิมะที่นี่”

นรมนนึกถึงที่พวกเขาจู่โจมเข้ามา ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอจะ ป้องกันตนเอง ถึงได้เก็บปืนลงมา

ผู้หญิงคนนั้นได้ยินนรมนพูดอย่างนี้ ทั้งยังเห็นว่าเธอเก็บปืน

แล้ว จึงเก็บมีดสั้นกลับมา

เธอไม่ได้พูดอะไร เดินผ่านข้างกายของนรมน ไปที่ห้องครัว ยกน้ำร้อนที่บุริศร์ต้มเอาไว้ออกมา ซึ่งน้ำชากาหนึ่ง วางไว้บน โต๊ะ แล้วจัดวางถ้วยสามใบเอาไว้

นรมนเห็นท่าทางการชงชาที่เป็นธรรมชาติของเธอ แค่เห็นก็รู้ แล้วว่าต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ บางทีอาจจะเป็นหญิงสูงศักดิ์ก็ได้

เพียงแต่หญิงสูงศักดิ์ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?

นรมนไม่เข้าใจ

“สวัสดีค่ะ คุณชื่ออะไรเหรอคะ? ฉันชื่อนรมน นี่สามีของฉันบุรี ศร์ รบกวนคุณแล้ว”

นรมนเป็นฝ่ายแนะนำตนเองกับบริศร์อย่างมีมารยาทก่อน ผู้ หญิงคนนั้นชะงักเล็กน้อย แล้วจึงพูดขึ้น “นั่งลงดื่มชาร้อนๆ หน่อยเถอะ ที่นี่ไม่มีเครื่องให้ความอุ่น แม้จะอุ่นกว่าด้านนอกนิด หน่อย แต่กลางดึกจะหนาวมากๆ”
เสียงของผู้หญิงแหบพร่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ไม่ได้พูดมานาน หลายปีหรือเปล่า ตอนที่พูดจึงดูค่อนข้างอื่นๆ

บริศ เดินเข้ามา

อยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย ถ้าไม่มีคนอยู่ บางทีน้ำชานบริศร์อาจจะ ยอมให้นรมนดื่มก็ได้ แต่ตอนนี้เจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ตัวตนไม่ แน่ชัด เขาก็ไม่กล้าให้นรมนเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดใดๆเลย

ถึงบุริศร์จะไม่ได้พูดอะไร แต่นรมนก็รู้อากัปกิริยาของเขา เธอ มองผู้หญิงคนนั้น ดวงตาของผู้หญิงสอดส่องออกมาจากผม ยาวๆ มาพร้อมกับการพิจารณาเล็กน้อย

นรมนยิ้มพูดขึ้น: “ขอบคุณนะคะ

พูดจบเธอก็ไม่สนใจบุริศร์ที่กำลังห้ามปราม ยกถ้วยชาขึ้นมา

ดื่ม

ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างประหลาดใจ ส่วนแววตาของบุริศร์เต็ม

ไปด้วยความไม่พอใจ

“คุณกลับเป็นคนที่ใจกล้า แต่ก็ถือว่าเขาเป็นห่วงคุณ

เธอตัดสินบุริศร์กับนรมนได้ในทันที แล้วเอาผมทัดหู เปิดเผย ใบหน้างดงามละเอียดอ่อนออกมา

แต่ถ้ามองใบหน้านี้ นรมนบอกไม่ถูกว่าเธออายุเท่าไหร่กันแน่ เพราะผู้หญิงคนนี้ดูแล้วยังสาวอยู่มาก แต่บุริศร์กลับตะลึงเล็ก น้อย ถามขึ้นเบาๆ “คุณนามสกุลธนเกียรติโกศลใช่ไหม?”
แค่พูดออกไป ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นก็คมกริบขึ้นมาทันที

“คุณเป็นใคร?”

ท่าทีที่พึ่งผ่อนคลายลงเมื่อครูของเธอประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับกำลังเตรียมป้องกันตัว

นรมนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แค่รู้สึกว่าเมื่อครู่ผู้หญิงคนนี้ยังดีๆ อยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเจตนาร้าย ถึงกับอยากจะฆ่า คนด้วยซ้ำ จึงดึงบุริศร์เข้ามาโดยปริยาย

แต่บุริศร์กลับไม่ขยับเขยื้อน มองผู้หญิงคนนั้นแล้วถามขึ้น อย่างชัดเจน: “คุณรู้จักธเนศพลใช่ไหม?”

แค่พูดออกไป มีดสั้นในมือของผู้หญิงคนนั้นก็โบกสะบัดขึ้นมา อีกครั้ง จี้ไปบนคอของบุริศร์ทันที

“คุณเป็นใครกันแน่?

“คุณคือคุณน้าชัญญาใช่ไหม? แววตาของบริศร์ค่อนข้างประหลาดใจ

ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าตนเองที่เพิ่งจะเข้ามาในประเทศ ก็จะได้ เจอคุณน้าธนเกียรติโกศลชัญญาเลย

ชัญญาโดนขานชื่อออกมา มองแววตาที่ดีอกดีใจและตื่นเต้น เล็กน้อยของบุริศร์อีกครั้ง จึงอดไม่ได้ที่จะคิดอะไร

“คุณเป็นคนของธเนศพลงั้นเหรอ?”

“ครับ ผมเป็นคนของคุณชายธเนศพล คุณชายธเนศพลตามหาคุณมาโดยตลอด ครั้งนี้ส่งพวกเราสองสามีภรรยามาตามหา คุณที่นี่ เขาบอกว่าต่อให้ต้องสูญเสียอะไรไปก็ต้องหาคุณให้เจอ ยังหวังว่าพวกเราจะพาคุณกลับประเทศไปได้

คำพูดของบุริศร์ทำให้ดวงตาของสัญญาชุ่มชื้นขึ้นมาทันที “ธเนศพลเอาใจใส่แล้ว”

ชัญญาเก็บมีดกลับมา

มิน่าล่ะแค่ได้เห็นบุริศร์ก็จำเธอได้แล้ว อันที่จริงพวกเขาน้า หลานหน้าตาคล้ายกันมาก

ชัญญาถอนหายใจ นั่งลงไปอีกครั้ง

“นั่งเถอะ ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ไม่ต้องระมัดระวัง อะไรหรอก น้ำชานี้ไม่มีพิษ ดื่มสิ”

ชัญญารินน้ำชาให้นรมนอีกครั้ง

ครั้งนี้บริศร์ไม่ได้ห้าม ตนเองก็ดื่มด้วย ชัญญาก็ยกขึ้นมาดื่ม

เช่นกัน

นี่เป็นชาดื

บุริศร์แทบจะรู้สึกได้ในทันทีที่เข้าปาก เพียงแต่ในเขตรกร้าง ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ เอาใบชานี้มาจากไหนล่ะ?

นึกถึงชัญญาที่โดนคนของสมชัยพาตัวมา ส่วนที่นี่คงเพราะมี สัตว์ป่าออกมาเป็นครั้งคราวถึงได้กลายเป็นเขตรกร้าง เขาคิดถึง บางอย่างไปโดยปริยาย
“คุณน้าธนเกียรติโกศล ที่นี่คงจะไม่มีสัตว์ป่า นะครับ?

บริศร์คาดเดาว่าเพราะสมชัยคุมขังซัญญาไว้ที่นี่ ไม่อยากให้ ใครรู้เข้า ดังนั้นจึงตั้งใจสร้างเขตรกร้างไร้ผู้คนขนาดนี้ออกมา เพื่อตบตา ข่มขวัญผู้อื่นไม่อนุญาตให้เหยียบเข้ามา นานวันเข้าที่ นี่จึงปลอดภัยที่สุดแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะโดนซัญญาปฏิเสธ ในทันที

เห็นท่าทางประหลาดใจของบุริศร์ ชัญญาจึงพูดขึ้น: “ที่นี่มี สัตว์ป่า เสือ สิงโต แล้วก็หมาป่า เป็นสมชัยทั้งนั้นที่เคลื่อนย้าย พวกมันออกมาจากในป่า ก็เพื่อไม่อนุญาตให้ใครก้าวเข้ามาที่นี่ ไม่ให้ใครพบการมีตัวตนของฉัน ฉันอยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว

ตัวตนของชัญญาสูงศักดิ์ แต่กลับต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องเล็กๆ นี่มาสิบกว่าปี ที่ๆไปได้ก็มีแค่ห้องนอนกับห้องครัว ถึงขั้นไม่ได้ ก้าวออกไปนอกประตูด้วยซ้ำ

นี่เป็นความทุกข์ใจของเธอ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น

เธอเคยคิดจะหลบหนี แต่เกือบจะตายในปากเสือซะแล้ว ตอน ที่โดนคนช่วยกลับมาเหลือเพียงแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ตั้งแต่ตอนนั้นสัญญาก็รู้แล้วว่า เธอออกไปจากเขตรกร้างนี้ไม่ได้ เพียงแต่ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอบุริศร์กับนรมน

“พวกเธอเข้ามาได้ยังไง?”

ชัญญาประหลาดใจมาก
นรมนยิ้มพูดขึ้น: “พวกเรานั่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามาค่ะ สถานที่ ลงจอดไม่ไกลจากที่นี่ พอดีว่าฉันอยากเข้าห้องน้ำ จึงเดินมาทาง นี้ แล้วก็เห็นบ้านหลังนี้

ได้ยินนรมนพูด ชัญญาจึงอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

“พวกเธอนั่งเครื่องบินเข้ามา? นี่ไม่โดนระบบดาวเทียมพบเข้า จริงๆเหรอ?”

“นักบินของพวกเราเป็นนักบินที่ยอดเยี่ยมที่สุด เมื่อกี้ฝ่าด่าน เข้ามาด้วยการบินต่ำๆ ดังนั้นจึงทะลุผ่านระบบการป้องกันของ พวกเขาอย่างเงียบๆ บินแนบกับพื้นเข้ามาครับ

คำพูดของบริศทำให้แววตาของสัญญาเป็นประกายขึ้นมา

“บินแนบกับพื้น? ประเทศพวกเราทำสำเร็จแล้วเหรอ?”

“แน่นอนครับ!”

“ดีมากเลย!”

ท่าทางตื่นเต้นดีใจของสัญญาทำให้นรมนค่อนข้างปวดใจ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะถูกขังอยู่ที่นี่นับสิบปี แต่ในใจยังคงคิดถึง ความแข็งแกร่งของประเทศบ้านเกิดตนเอง เรื่องนี้บางทีคนที่ไม่ ได้พบเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงในต่างประเทศคงจะสัมผัสไม่ถึง ความรู้สึกที่ได้เป็นเจ้าของแน่ๆเลย

บุริศร์เห็นชัญญา ให้ความสนใจในด้านทหาร จึงอดไม่ได้ที่จะ พูดขึ้น: “ตอนนี้พวกเราไม่เพียงแต่เริ่มมีเทคโนโลยีเครื่องบินอาวุธด้านทหารอื่นๆที่น่าหน้าทั่วโลก ถ้าจะต่อสู้กับประเทศขึ้น มาจริงๆ สมชัยคงมองไม่ทันหรอกครับ

“เยี่ยม ยอดเยี่ยมเลย!”

ชัญญาลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เดินไปเดินมา

“สมชัยคิดจะยึดครองประเทศบ้านเกิดของพวกเราด้วยความ โหดเหี้ยม ฉันหวังจริงๆว่าคนของพวกเราจะจัดการเขาได้อยู่ หมัด

“ต้องมีสักวันแน่ๆครับ แต่ว่าคุณน้าธนเกียรติโกศล ผมคิดว่า คุณควรกลับไปก่อน”

นี่เป็นบทสรุปที่บุริศร์ได้ครุ่นคิดออกมา

พวกเขาอยู่ที่นี่ยังมีภารกิจอื่นอีก เรื่องของสมชัยที่ด้านนี้ต้อง ได้รับการแก้ปัญหา เดิมที่คิดว่าคงใช้เวลานานกว่าจะหาชัญญา พบ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเธออย่างรวดเร็ว ทำให้บริศร์ทั้งปลื้ม ใจและเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอในเวลาเดียวกัน

อยู่กับพวกเขามันอันตรายเกินไป

แต่ชัญญากลับส่ายหน้าพูดขึ้น “ไม่ ที่พวกเธอเข้ามาโดยไม่มี ใครรู้เป็นเรื่องที่เกินคาด ฉันไม่สามารถเพิ่มเรื่องที่คาดไม่ถึงให้ พวกเธอได้อีกแล้ว อีกอย่างมีฉันอยู่ พวกเธอจะมีคนหนุนหลัง แล้วก็จะปลอดภัย”

ได้ยินชัญญาพูดอย่างนี้ นรมนกลับรู้สึกไม่เข้าใจ แต่บุริศร์ เข้าใจแล้ว จึงตะลึงงันไปเลย
นี่ชัญญากำลังระแวงธเนศพลงั้นเหรอ?

เธอกลัวว่าหลังจากเธอกลับไป ธเนศพลจะไม่สนใจความเป็น ความตายของพวกเขาสองสามีภรรยา หมายความเช่นนี้ไหม? แต่จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ?

เขากับธเนศพลเป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นเขายัง เป็นลูกน้องที่จงรักภักดี เป็นไปไม่ได้ที่ธเนศพลจะไม่สนใจตนเอง แต่เพราะคำพูดของชัญญา ในใจของบุริศร์จึงค่อนข้างหงุดหงิด

“คุณน้าธนเกียรติโกศล ระหว่างผมกับคุณชายธเนศพลไม่มี เรื่องนี้หรอกครับ”

บุริศร์พูดอย่างนี้ นรมนถึงมีปฏิกิริยากลับมา อดไม่ได้ที่จะ ชะงักงัน

ชัญญามองแววตาที่เด็ดเดี่ยวของบุริศร์ สักพักใหญ่จึงพูดขึ้น “แต่ต่อให้นายจะคิดถูก ฉันโดนขังอยู่ที่นี่มาสิบกว่าปีแล้ว ไม่เชื่อ ใจใครทั้งนั้น ฉันรู้แค่ ถ้าอยากได้รับการปกป้องที่ดีที่สุด ก็ต้องมี จุดอ่อนที่อีกฝ่ายใส่ใจอยู่ด้วย นี่ถึงจะเป็นทางหนีทีไม่เพียง หนทางเดียว”

สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เธอใช้ชีวิตยังไงบุริศร์ไม่รู้หรอก นรมน ไม่รู้ ดังนั้นได้ยินเธอพูดอย่างนี้ พวกเขาจึงไม่พูดอะไรอีก แค่ เงียบเท่านั้น

แล้วตอนนี้เอง จู่ๆเสียงโซ่เหล็กกระทบกันก็ลอยเข้ามา ทำให้ สีหน้าของชัญญาเปลี่ยนไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ