แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1324 ฉันเป็นแค่ผู้ชายของคุณ



บทที่ 1324 ฉันเป็นแค่ผู้ชายของคุณ

“คุณดูแลสุขภาพให้ดีเถอะ นี่มันแค่ไม่กี่วันเองจะออกมาเที่ยว แล้ว คิดว่าตัวเองทำจากเหล็กจริงๆ หรือไง?

นรมนรีบปฏิเสธ ใช้สุขภาพร่างกายขวัญตาเป็นข้ออ้าง

ขวัญตากลับยิ้มขณะพูดขึ้น “ฉันไม่เป็นอะไร แข็งแรงอยู่นะ

“นั่นก็ไม่ได้”

การต่อต้านอย่างรุนแรงของนรมน ขวัญตารู้สึกถึงอะไรบาง อย่างไม่มากก็น้อย

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ถ้าฉันไปจะไม่สะดวกกับพวกคุณใช้ ไหม?”

“รู้แล้วคุณยังจะถามอีก คุณอยู่ในเมืองชลธีแล้วพักฟื้น

ร่างกายไปดีๆ นั่นแหละ เดี๋ยวมีเวลาและโอกาสค่อยออกมา

ตอนนี้อย่าอวดเก่งเลย

นรมนกลัวว่าขวัญตาจะถามเรื่องอื่นอีก จึงต้องพูดแบบนี้

“โอเคๆๆ ฉันเชื่อฟังคุณแล้วก็ยังไม่โอเคอีกเหรอ?” ขวัญตาทนคำสั่งนรมนไม่ไหวแล้ว ทำได้แค่เลิกต่อต้าน

เจตต์ยกซุปน้ำข้นเข้ามา เห็นพวกเธอสองคนคุยกันอย่าง ร่าเริง ก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ขณะพูดขึ้น “นรมนจะกลับมาเมื่อไร? เอาของอร่อยมาฝากขวัญตาด้วย
“รู้แล้ว”

นรมนชอบเจตต์ในตอนนี้มาก เดิมทีแล้วคิดว่าการตายของ พรรษาจะสร้างปมในใจให้กับเขา โชคดีที่มีขวัญตาคอยอยู่เคียง ช้างเขา

“พี่ ขอคุยกับพี่ตามลำพังได้ไหม?

บรมนขยิบตาให้กับเจตต์

เจตต์มองไปทางขวัญตา ขวัญตายิ้มขณะพูดขึ้น “ไปเถอะ ฉัน ยังจะกลัวว่าพวกคุณจะทำอะไรลับหลังฉันอีกเหรอ? แววตาอะไร นั่นน่ะ”

“แค่กๆ”

นรมน โดนว่าจนรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เจตต์หัวเราะชอบใจรับโทรศัพท์มาแล้วเดินออกไปนอกห้อง

หลังจากออกมาจากสายตาขวัญตาแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้า เจตต์ก็หุบลง เขามองนรมน ถามขึ้นเสียงทุ้ม “เกิดเรื่องอะไรใช่ ไหม?”

“จะเกิดเรื่องอะไรได้ล่ะ? อย่าคิดอะไรไม่มีจุดมุ่งหมายทั้งวัน หัวใจนรมนเต้นตึกตัก แต่ใบหน้าไม่แสดงมันออกมา

เจตต์เป็นใคร?

อยู่กับนรมนมาตั้งนาน จะไม่รู้จักนิสัยนรมนได้อย่างไร?
เขาพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเธอไม่โทรหาพวกเรา หรอก พูดมาเถอะ เกิดเรื่องอะไร?”

นรมนค่อนข้างหดหู

สองคนที่รู้จักเธอดีมากที่สุดบนโลกใบนี้ หนึ่งคือบริศร์ อีก หนึ่งคือเจตต์

“พี่ เราจับพิรุณได้แล้ว แต่ปล่อยให้มันหนีไปได้อีกครั้ง ตัวตน

ของมันก็มีปัญหามากเหมือนกัน”

นรมนรีบเล่าเหตุการณ์ในช่วงนี้ให้เจตต์ฟัง

การตายของพรรษาดูแล้วมีความเกี่ยวข้องกับกล้าณรงค์ แต่ ฉัตรพลเตรียมการอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ก็ไม่มีใครแน่ชัด ในฐานะ เจตต์ เขามีสิทธิ์ที่จะรู้ความจริง และบอกเรื่องนี้กับเจตต์ได้ เท่านั้น เขาคงไม่ปล่อยให้ขวัญตามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมปัญหาหรอก

คิ้วของเจตต์ขมวดเข้าหากันแน่น

เขาไม่รู้ว่าเรื่องราวมันจะซับซ้อนแบบนี้ และเข้าใจความกังวล ของนรมน ในพริบตาเดียว

“เธอกลัวขวัญตามาเจออันตรายใช่ไหม? และกลัวว่าหล่อนอยู่ ที่นี่แล้วจะถูกฉัตรพลเล่นงานใช่ไหม?”

“ใช่ ดังนั้นพี่ดูแลขวัญตาให้ดีนะ ฉันรู้ที่มีความแค้นกับกล้า ณรงค์และฉัตรพล เรื่องนี้ฉันจัดการแทนพี่โอเคไหม? ตอนนี้พี่ สะใภ้แท้งไปแล้ว ร่างกายยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ถ้าพี่มาแล้วเธอจะ ทำยังไง? และคราวก่อนกล้าณรงค์ยังคิดอุบายกับเส้นทางการเดินเรือของตระกูลปวนะฤทธิ์ด้วย ถ้าพี่ไปแล้ว ตระกูลปวนะฤทธิ์ เกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? ที่ฉันบอกพี่เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่อยากให้พี่ รีบมา แต่อยากให้พี่เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า กันไว้ดีกว่าแก้ยังไง แล้วตอนนี้ที่เมืองชล คนที่ต้องการการปกป้องจากพี่มันไม่น้อย เลย พี่เข้าใจความหมายฉันไหม?”

นโมนพูดอย่างรวดเร็ว กลัวเจตต์จะรีบมาโดยไม่สนใจอะไรทั้ง นั้นเหมือนเมื่อก่อน

ถ้าเจตต์ยังไม่แต่งงาน ตอนนี้เขาต้องรีบไปโดยไม่สนใจอะไร ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว

บรมนพูดถูก ตอนนี้เขามีคนที่ต้องปกป้องมากเกินไป ถ้าออก มา ที่เมืองชลธีจะไม่มีใครเฝ้าดูแลจริงๆ

“บอกเรื่องนี้กับอาธรณีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาหรือยัง?”

“ยังค่ะ ตั้งใจว่าบอกพี่เสร็จแล้วจะไปบอกเรื่องนี้กับอาธรณี นรมนตั้งใจแบบนี้

เจตต์พูดเสียงทุ้ม “ทางด้านคุณตากับอาธรณีตระกูลทวีทรัพย์ ธาดาให้พี่บอกเองดีกว่า เธอไม่ต้องโทร โทรมากไปมันก็ไม่ดี ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้มีคนดักฟังโทรศัพท์พวกเธอหรือเปล่า นี่โทร เสร็จแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไปเลยนะ แล้วเปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนบัตร โทรศัพท์ด้วย และไม่ต้องบอกใคร พวกเธอรู้เองก็พอ เรื่องนี้มัน

ใหญ่เกินไป ต้องระวังหน่อย

นี่คือประสบการณ์ของเจตต์
นรมนได้ยินแล้วก็ตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้า “ค่ะ”

“อีกอย่าง การปฏิบัติการในอนาคตห้ามบอกใครทั้งนั้น รวม ถึงฉันด้วย มีบุริศร์อยู่เคียงข้างเธอ ฉันก็วางใจ ผู้ชายคนนั้นยอม ทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อไม่ให้เธอเป็นอะไร ดังนั้นเธอไว้วางใจเขาได้ เต็มที่ก็พอ”

เมื่อเจตต์พูดสิ่งเหล่านี้ในใจก็หงุดหงิดมาก ถึงแม้จะทิ้งความ รักหนุ่มสาวกับนรมนไปแล้ว แต่ตอนนี้ในฐานะพี่ชายนรมน ต้อง มอบนรมน ให้กับบริศร์อย่างเชื่อมั่นเต็มที่ ในใจเขาก็รู้สึกไม่ค่อย

“ที่เมืองชลธีเธอไม่ต้องเป็นห่วง มีฉันอยู่ มีอาธรณีตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาอยู่ มีคุณตาอยู่ ทุกอย่างจะไม่เป็นอะไร ถ้าจัดการไม่ ได้จริงๆ ฉันยังโทรหาคุณชายธเนศพลที่เมืองหลวงได้ ดังนั้นไม่ ต้องเป็นห่วงพวกเรา คนที่เธอเป็นห่วงฉันจะดูแลให้ ทางด้าน พฤกษ์ฉันก็จะติดต่อ นรมน ตัวเองต้องระวังความปลอดภัยนะ เราจะรอพวกเธอกลับมา

เจตต์โตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ไม่รู้ว่าเพราะ แต่งงาน หรือเพราะขวัญตา แต่ผลสรุปการจัดการแบบนี้ก็ยัง ทำให้นรมนพึงพอใจ เธอโทรหาเจตต์เดิมทีแล้วก็เพราะเหตุนี้ ตอนแรกนึกว่าจะอธิบายไปเสียเปล่า ตอนนี้ดูแล้วทั้งหมดเป็น ความคิดมากของตัวเอง

เราทุกคนเติบโตโดยไม่รู้ตัว เพื่อคนข้างกาย ปรับปรุงตัวเองให้สมบูรณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อคนที่รักทุกคน

“พี ระวังด้วยนะ

“อืม”

หลังจากวางสายไป ในใจนรมนก็ไม่สงบเลย

จริงๆ แล้วเธออยากโทรหาเยอะมาก เช่นนภดลกับปาณี เช่น ชัยยศ แต่เธอก็รู้ว่าเจตต์พูดถูกต้อง ช่วงเวลาพิเศษแบบนี้ห้ามใช้ อารมณ์จัดการจริงๆ

หลังจากวางโทรศัพท์ลงแล้ว ก็นึกถึงสิ่งที่เจตต์พูด นรมนก็ไป หาบุริศร์

บริศร์กำลังคุยอะไรบางอย่างกับคริชณะอยู่ เมื่อเห็นนรมนเข้า มาก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินมาตรงหน้านรมน

“เกิดอะไรขึ้น?”

นรมนเล่าสิ่งที่เจตต์พูดหนึ่งรอบ บุริศร์พยักหน้าแล้วพูดขึ้น “เรื่องนี้ฉันกับพี่ใหญ่คริชณะก็คิดไว้แล้ว เตรียมโทรศัพท์ไว้ เรียบร้อยแล้วด้วย กำลังจะบอกพวกคุณพอดี”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็รีบถามขึ้น แล้วโทรศัพท์พวก เรา ในตอนนี้จะจัดการยังไง?”

งไปเลย”

เรื่องนี้บริศร์ไม่ปวดใจสักนิด เมื่อเทียบกับความปลอดภัย ระหว่างพวกเขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องสนใจโทรศัพท์เครื่องหนึ่งเกินไป

บรมนมีหน้าที่รวบรวมโทรศัพท์คนอื่นๆ แล้วให้บริศร์ทิ้งมันไป และคริชณะก็เอาโทรศัพท์สำหรับทหารมอบให้ทุกคน เบอร์ โทรศัพท์เป็นแบบสุ่ม สามารถใช้แบบไร้สาย ซึ่งเป็นการป้องกัน ความเป็นไปได้ในการดักฟังจากภายนอก

หลังจากจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คริชณะก็ให้ทุกคน ไปพักผ่อน เริ่มปฏิบัติการในตอนกลางคืน

ถึงแม้นรมนไม่รู้ว่าทำไมต้องปฏิบัติการในตอนกลางคืน แต่ เพราะมีบุริศร์อยู่ เธอจึงไม่ได้ถาม

เหลือเวลาว่าง บุริศร์จูงมือนมนมาด้านนอก มองทิวทัศน์ด้าน นอก บุริศร์ยิ้มขณะพูดขึ้น “จริงๆ แล้วถ้าดูดีๆ ทิวทัศน์ที่สวย จริง ฉันจำได้ว่าคุณไม่ได้จับพู่กันมานานมากแล้วใช่ไหม? ยัง วาดเป็นไหม?”

“แน่นอนสิ”

นรมนคันไม้คันมืออยากแสดงฝีมือนิดหน่อย

ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน หาแท่งไม้ บุริศร์ทำกระดานวาดภาพให้ เธอที่นั่น จากนั้นก็หากระดาษวาดรูปและพู่กัน

นรมนมองทิวทัศน์ในป่า แสงแดดส่องผ่านใบไม้เข้ามา ส่อง ประกายบนร่างบริศ เป็นเวลานาน ราวกับถูกเคลือบด้วยแสงสี ทองหนึ่งชั้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาดูเป็นภาพลวงตาที่ไม่มีตัวตน และยิ่งมีผลกระทบต่อจิตใจผู้คน
“อย่าขยับ

ทันใดนั้นนรมนก็สนใจ

เธอต้องการวาดภาพบุคคลให้กับบริศร์

บุริศรชะงักเล็กน้อย เข้าใจความหมายนรมินทันที จึงยกมุม ปากขึ้นเล็กน้อย เริ่มเป็นแบบให้กับนรมนอย่างมีสมาธิ

ในสายตานรมน บุริศร์เหมือนเทพที่ถูกเนรเทศ งดงามจน หายใจไม่ค่อยออก เธอถึงขนาดรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถใช้พู่กัน วาดนิสัยเฉพาะตัวของเขาออกมาได้

ในดวงตาบุริศร์ ท่าทางจริงจังของนรมนมันดูดีมาก ทำให้ ดวงตาของเขาอ่อนโยนขึ้นมากโดยไม่รู้ตัว

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งสองคนในป่าราวกับผสมผสานเข้า ด้วยกันกับทิวทัศน์อย่างสมบูรณ์ เงียบสงบมาก สวยงามมาก

เมื่อนรมนเสร็จเส้นสุดท้ายของปากกา ก็พูดขึ้นอย่างสุขใจ

“เสร็จแล้ว”

บริศร์รู้สึกทั้งร่างจะแข็งหมดแล้ว แต่ในใจก็มีความสุขเป็น พิเศษ

“ไหนฉันดูสิว่าวาดฉันน่าเกลียดหรือเปล่า?”

“พูดอะไรน่ะ? ไม่เชื่อใจฉันขนาดนี้เลยเหรอ?”

นรมนไม่ได้ยินคำยกย่องจากบริศร์ แต่กลับรู้สึกเหมือนโดน โจมตี ก็ม้วนกระดาษวาดรูปขึ้นมาทันที
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณก็อย่าดูเลย

พูดจบนรมนก็หันตัวเดินไป

บริศ กอดเอวบางของเธอจากด้านหลัง ยิ้มขณะพูดขึ้น “โกรธ เหรอ?”

“จะกล้าที่ไหนล่ะ”

นรมนเบ้ปากเล็ก ขณะที่พูดปากไม่ตรงกับใจ

บุริศร์ยิ้มอ่อนโยนยิ่งขึ้น

“ฉันพูดผิดไปแล้ว ฉันควรพูดว่าไหนดูสิว่าคุณวาดฉันหล่อกว่า หรือเปล่า”

นรมนหัวเราะคิกคัก

“ประธานบริศร์ คุณพูดมั่วแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ ไม่เหมือนท่าน ประธานเลย”

“ต่อหน้าคุณฉันไม่เคยเป็นประธานอะไรนั่นอยู่แล้ว ฉันเป็นแค่ ผู้ชายของคุณ”

บุริศร์หันตัวนรมนกลับมา ใช้ปลายจมูกแข็งแรงจิ้มปลายจมูก กลมของนรมน ลมหายใจอุ่นรด ใบหน้านรมน ทำให้ตัวสั่นโดย ไม่มีเหตุผล ความรู้สึกคุ้นเคยเต็มไปทั้งร่างกายด้วย ราวกับจะ ทะลุเข้าไปในผิวกาย

นรมนรู้ มันคืออารมณ์พลุ่งพล่าน

เธอรีบใช้มือปิดหน้าอกบริศร์ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “จะทำอะไร?”
มือเธออ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ทำให้บริศร์ค่อนข้างชอบ มือใหญ่ ของเขากุมมือเล็กของเธอ เสียงกลมกล่อมนั้นกระซิบแผ่วเบาข้าง หูนรมน “อยากเอาคุณ

หน้านรมนแดงขึ้นมาทันที

“คุณอย่าทำตัวเล่นๆ สิ เดี๋ยวจะเข้าภูเขาแล้ว ในสมองมีแต่ เรื่องแบบนี้ทั้งวัน”

นรมนจ้องมองเขา โดยแสร้งทำเป็นโกรธ สิ่งที่พูดออกมาถูกบุ ริศร์จูบเข้าไปในปากโดยตรง

กลิ่นอายคุ้นเคยล้อมรอบนรมน เธอเกือบจมลึกลงไปในนั้น เมื่อกำลังอยากผลักบุรีศร์ จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้ามาจากไกลๆ ทำให้ ร่างทั้งสองแข็งทื่อทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ