แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 920 ฉันเชื่อคุณกับผีสิ



บทที่ 920 ฉันเชื่อคุณกับผีสิ

“ฉันเดาถูกใช่ไหม ? คุณไม่ได้ต้องการแค่บันทึกในมือของคุณ แม่เล่มนี้ ที่คุณต้องการยังมีของที่อยู่ในมือของบุริศร์อีกไม่ใช่เห รอ ?”

คำพูดของนรมนทำให้คิมชะงักไปเล็กน้อย แต่เชษฐ์กลับยิ้ม แล้วพูดว่า “นรมน เธอนี่ฉลาดจริงๆ แต่ว่าบางทีถ้าฉลาดเกินไป มันก็ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ”

“คุณพูดเรื่องไร้สาระให้มันน้อยๆหน่อย ถึงแม้ว่าพ่อของฉันจะ ค้นคว้าชุดข้อมูลออกมาได้ชุดหนึ่ง แต่ว่าก็เป็นข้อมูลที่ไปเสริม กับชุดข้อมูลของตระกูลโตเล็ก ดังนั้นคุณก็เคยพูดไว้ว่า ไม่ได้ใช้ ฉันมาเป็นเหงื่อล่อบริศร์แค่คนเดียว ก่อนหน้านี้ฉันยังไม่เข้าใจว่า เพราะอะไร แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว เชษฐ์ ที่ฉันไม่เข้าใจก็คือ แม้ว่าคุณจะสร้างปาฏิหาริย์ทางพันธุกรรมได้ จนสร้างมนุษย์ ก๊อบปี้ขึ้นมาได้จริงๆแล้วมันยังไง ? คุณจะไม่แก่ไม่ตายเหรอ ? หรือว่าสามารถสร้างลูกหลานได้จำนวนนับไม่ถ้วน ? ขนาด ลูกสาวแท้ๆของตัวเองคุณยังไม่เหลียวแลเลย คุณสร้างร่างกาย ดัดแปลงพันธุกรรมออกมาได้มากมายแล้วมันยังไง ? คุณรับ ประกันได้เหรอว่าทุกคนจะเชื่อฟังคำสั่งของคุณได้ทุกอย่าง ?”

คำพูดของนรมนทำให้สีหน้าของเซษฐ์เริ่มย่ำแย่ขึ้นมาเล็ก น้อย

“ฉันจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ”
“ฉันจะไม่เกี่ยวด้วยก็ได้ แต่คุณอย่าลากคนที่ฉันใส่ใจที่สุด เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยสิ ถึงคุณจะสร้างโลกทั้งใบขึ้นมาฉันก็ไม่ อยากจะยุ่งด้วยหรอก แต่ฉันขอเตือนคุณไว้ก่อน ถ้าหากคุณกล้า ทําร้ายคนในครอบครัวของฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันรับประกันได้ เลยว่าจะทำให้คุณกินไม่ได้นอนไม่หลับแน่

” ก็แค่เชลยคนหนึ่ง เธอคิดว่าเธอมีสิทธิ์มาพูดจาแบบนี้ใส่ ฉันด้วยเหรอ ?”

เชษฐ์ทำเสียงเย็นในลำคอที่หนึ่งแล้วเดินจากไปทันที

คิมเอาแต่ครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างมาตลอด พอเห็นเชษฐ์ไป แล้ว ก็พูดเสียงต่ำออกมาว่า “เมื่อก่อนแม่ไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้

“คุณแม่คะ หนูรู้ค่ะว่าความหวังของคุณแม่ก็คือการได้เจอกับ คุณพ่อ แต่ว่าแม่จะรู้ได้ยังไงคะว่าในมือเขามีร่างของคุณพ่ออยู่ จริงๆ ? บางทีความรักก็ทำให้คนเราตาบอด แล้วตอนนี้แม่ก็เป็น แบบนั้นจริงๆ……

คิ้วยิ้มแล้วส่ายหัวก่อนพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก แม่ไม่มีความสุข เลยมาตลอดชีวิต ! สิ่งที่แม่อยากทำก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ คนที่แม่ อยากจะรักก็ไม่สามารถรักได้ คนที่ไม่อยากรักกลับต้องมาเจ็บ เพราะแม่ ในชีวิตแม่มีลูกเพียงสองคน แต่กลับทำผิดต่อพวก เขา ตอนนี้ใกล้จะตายแล้ว แม่ไม่ได้อยากจะลบล้างความผิดของ ตัวเอง แม่แค่อยากจะทำในสิ่งที่แม่ปรารถนาที่สุด ลูกวางใจ เถอะนะ บันทึกเล่มนั้นแม่ไม่มีทางให้เขาหรอก และมาก็จะพยายามปกป้องความปลอดภัยของลูกอย่างเต็มที่ นรมน เห็น แก่แม่เถอะ ที่จริงให้รอความตายอยู่ที่บ้าน แม่ว่าออกมาสักครั้ง ยังจะดีกว่า อย่างน้อยแม่ก็ยังไม่มีความหวัง สวรรค์อาจจะเห็นว่า แม่น่าสงสาร เลยจะส่งเสริมแม่ด้วยก็เป็นได้นะ ?”

คำพูดเหล่านี้ของคิม ทำให้นรมนไม่รู้ตัวเองยังจะพูดอะไรได้ อีก คิมที่เธอรู้จักเหมือนจะไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ว่ากลับไม่สามารถ โต้แย้งได้ ภายในใจของทุกคนต่างก็มีจุดอ่อนไหวที่ไม่อยากให้ ใครไปแตะต้องทั้งนั้นอยู่

และจุดอ่อนของเธอก็คือชินทร

นรมนไม่พูดอะไรอีก เธอจึงอยู่กับอกของคิม ฟังเสียงหัวใจ เต้นของคิมเงียบๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า มันแข็งแรงขนาดนั้น แต่กลับ แฝงไปด้วยความเปลี่ยวเหงา

เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงบุริศร์ขึ้นมา

ตอนนี้ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่เธอหายตัวไป คิดว่าบุรี สร้คงจะร้อนใจเป็นอย่างมาก

ผู้ชายคนนั้น เอาแต่ขึ้นๆลงๆ เพราะตัวเธอเสมอ

นรมนลูบบนตัว แล้วพบว่าโทรศัพท์ยังอยู่ แต่กลับไม่มี

สัญญาณเลย

ที่นี่เป็นเมืองชลธี ไม่มีทางที่จะไม่มีสัญญาณ สิ่งเดียวที่ สามารถอธิบายได้ก็คือเชษฐ์ปิดกั้นสัญญาณเอาไว้ ดังนั้นเขาถึง

ได้วางใจให้เธอมีโทรศัพท์ติดตัวได้
นรมนเปิดอัลบัมรูป ในนั้นมีรูปของกานต์กับกมลอยู่มากมาย ต่อมาก็มีกิจจา แต่ว่าน้อยมากที่จะมีบุริศร์อยู่

เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว ต่อหน้าลูกๆจำเป็น จะต้องเก็บบันทึกภาพความทรงจำดีๆเอาไว้ แต่ว่าเธอกลับลืมไป ว่าในโลกของผู้ใหญ่เองก็จำเป็นต้องสามารถความทรงจำดีๆ ด้วยเช่นกัน

นรมนเลื่อนดูรูป แล้วในใจก็รู้สึกอิ่มเอมกับการเติบโตของ พวกลูกๆ และดีใจกับสิ่งนั้น

คิมเห็นว่านรมนสามารถ ใจเย็น ไม่ได้ ได้แล้ว ก็อดวางใจออกมา

ชีวิตที่อยู่ท่ามกลางท้องทะเลนั้นค่อนข้างน่าเบื่อ

เชษฐ์หลังจากที่เจอหน้ากันครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย อาจเพราะไม่อยากเจอพวกเขา หรืออาจเพราะที่นี่มีการควบคุมที่ เข้มงวด ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาหนีรอดออกไปได้แน่ นรมน ว่า คิมไม่มีทางหนีไปแน่ ถ้าคมไม่ยอมหนีไป เธอเองก็ยิ่งหนีไป ไม่ได้เช่นกัน

เวลาผ่านไปบนเรือวันแล้ววันเล่า ระหว่างนั้นก็มีเรือลาด ตระเวนผ่านเข้ามาหลายลำ แต่ยังไม่ทันที่นรมนจะร้องขอความ ช่วยเหลือ ก็ถูกเชษฐ์รับมือเอาไว้ก่อนหมดแล้ว

ในบางครั้ง แรงปรารถนาของชีวิตก็สามารถที่จะค่อยๆหมดไป
นรมนเห็นคิมห้ามไม่ให้ตัวเองหนีไปครั้งแล้วครั้งเล่า จน สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้

ช่างเถอะ ในเมื่อติมอยากจะเจอร่างของซินทรก่อนตายสักครั้ง เธอก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ของลูกคนหนึ่งแล้ว ช่วยเธอสักหน่อยแล้ว กัน

ในที่สุดเรื่องที่ลอยอยู่กลางทะเลมาห้าวันก็เข้าไปเทียบท่าที่ฝั่ง

พอนรมนกับคิมถึงท่าเรือแล้วก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินขึ้นมา โดยเฉพาะนรมนไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาตอนอยู่ในเรือหรือเปล่า พอขึ้นฝั่งมาแล้วก็เริ่มอวก อวกจนกระจัดกระจาย จนเหมือนจะ อ้วกเอาลำไส้ออกมาด้วยยังไงอย่างนั้น

คิมมองดูเธออย่างเป็นห่วง

เชษฐ์มอบยาให้เธอตัวหนึ่ง นรมนไม่ค่อยกล้ากิน แต่ก็ได้ยิน เชษฐ์พูดว่า “วางใจเถอะ ยานี้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเธอ และไม่เป็นอันตรายต่อลูกในท้องของเธอด้วย

“นายจะใจดีขนาดนั้นเหรอ ?

“ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอเป็นอะไรขึ้นมาก็เท่านั้นแหละ” พอเชษฐ์พูดประโยคนี้ออกมามันช่างเป็นอะไรที่น่าขำมาก

จริงๆ

นรมนมองดูเขาแล้วยิ้มอย่างเย็นชา เชษฐ์เองก็ไม่ได้อธิบาย เพียงก็พูดเรียบๆว่า “จะกินหรือไม่กินถ้าไม่กินแล้วพวกเธอตายกันก่อน ฉันก็ไม่ช่วยฝังให้หรอกนะ”

พูดจบเขาก็ยกเท้าเดินออกไปทันที

ตลอดทางทีมาเชษฐ์นั้นค่อนข้างเงียบสงบ ไม่โหวกเหวก เหมือนตอนอยู่ที่เมืองชลธี ซึ่งไม่เยือกเย็นเหมือนตอนอยู่ที่เมือง ชลธี ตอนนี้เชษฐ์เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทั่วร่างดูเต็มไป ด้วยความเปรมปรีดิ์ ถึงแม้ว่าจะซ่อนไว้ดีแค่ไหน แต่นรมนก็ยัง สัมผัสได้

คิมขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ยังทนได้ไหม ?

“น่าจะได้ค่ะ”

นรมนโยนยาทิ้งไป

เพื่อเด็กที่อยู่ในท้อง และเพื่อตัวเอง เธอไม่กล้าลองมันจริงๆ คิมเองก็ไม่ได้ห้าม เพียงแต่พอเห็นท่าทางเจ็บปวดของนรมน แล้วก็รู้สึกทนไม่ค่อยได้

“เดี๋ยวแม่ไปดูก่อนนะว่ามียาอื่นๆที่ลูกกินได้อีกไหม

“ค่ะ”

นรมนเดินตามฝีเท้าของเชษฐ์ไปขึ้นฝั่งด้วยแรงช่วยพยุงจาก

คิม

ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆที่ไม่รู้จักชื่อ ถ้าหากไม่ได้ตามเชษฐ์มาที่นี่ นร มันก็คงไม่รู้ว่าในกลางทะเลจะมีเกาะที่เล็กขนาดนี้อยู่ด้วย

ที่นี่ใช้เรือเป็นเครื่องมือในการคมนาคม รอบๆเป็นทะเลทั้งหมด

ขนาดของเกาะนี้ไม่ใหญ่ ขนาดเท่ากับมณฑลเล็กๆมณฑลหนึ่ง เท่านั้น แต่ระบบความปลอดภัยของที่นี่แน่นหนามาก จนดู เหมือนประเทศอิสระเล็กๆประเทศหนึ่ง เสี้ยววินาทีที่เชษฐ์พาพวกเขาเหยียบย่างขึ้นมาบนเกาะก็มี

ตำรวจติดอาวุธจํานวนนับไม่ถ้วนกำลังถือปืนกลจ่อมาทางพวก

เขาอยู่

“หัวหน้า คุณกลับมาแล้วเหรอ ?”

พอผู้นำทีมเห็นเชษฐ์เข้าก็รีบทำความเคารพทันที

เชษฐ์พยักหน้า แล้วพูดเสียงต่ำว่า “เตรียมตัวไว้ให้ดี ถ้ามี อะไรเกิดขึ้น ให้รีบรายงานฉันทันที

“ครับ”

อีกฝ่ายโค้งคํานับแบบทหารให้ที่หนึ่ง

นรมนแอบตรวจสอบโดยละเอียด แล้วก็พบว่าคนเหล่านี้มี ฝีมือไม่เลวเลย ถึงขั้นที่ตัวเธอก่อนหน้านี้เทียบไม่ติดด้วยซ้ำ ตอน นี้เธอตั้งครรภ์อยู่ด้วย ฝีมือเลยยิ่งเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้เลย อยากจะหนีไปจากที่นี่ ดูเหมือนจะยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

เชษฐ์เองก็ไม่ได้กลัวว่าเธอจะมองสำรวจ เพียงแต่พูดอย่างเย็น ชาว่า “ทางออกเพียงหนึ่งเดียวก็คือทางที่พวกเราเข้ามา ถ้าหาก พวกเธอคิดอยากตายล่ะก็ ลองดูให้เต็มที่เลย ฉันรับรองได้ว่าคน อื่นคงหาศพไม่เจอด้วยซ้ำ แต่ถ้าพวกเธอยอมฟังค่าสั่งฉัน ฉันก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเธอได้ก็แล้วกัน”

“ให้ฉันเชื่อคุณกับผีสิ”

นรมนตอบกลับไปทันที

เชษฐ์ขมวดคิ้วต่อคำพูดของนรมนเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูด อะไรอีก

“โดม พาพวกเขาไปพักผ่อน ตอนที่ต้องการตัวพวกเขาฉัน จะแจ้งพวกนายเอง”

พูดจบเชษฐ์ก็จากไปอย่างรวดเร็ว

นรมนไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหน แต่พอเห็นฝีเท้าที่เร่งรีบของเชษฐ์ แล้ว จู่ๆเธอก็มีความรู้สึกบางอย่าง ดูเหมือนว่าเชษฐ์กำลังจะไป เจอคนที่ตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

คนที่ชอบเหรอ ?

ผู้ชายอย่างเชษฐ์เองก็มีคนที่ชอบด้วยเหรอ ?

นรมนรู้สึกว่าตัวเองน่าตลกอยู่บ้าง

เขาค้นหาข้อมูลการดัดแปลงพันธุกรรมและการทดลอง ดัดแปลงพันธุกรรมมาตลอดชีวิต คนแบบนี้จะไปมีคนที่ชอบได้

ยังไง ?

ถ้าหากมีคนที่ชอบจริงๆ เขาจะไปทำเรื่องบ้าบอคอแตกแบบ นั้นได้ยังไง ?

นรมนส่ายหัว เดินเข้าไปในเกาะเล็กๆ ภายใต้การประคองของคิม ยิ่งเดินเข้าไปด้านใน เธอก็ยิ่งตกใจและหวาดกลัว

การป้องกันของที่นี่เป็นระบบระเบียบมาก อย่าว่าแต่เธอคน เดียวเลย ถึงแม้ว่าพวกของบุริศร์จะตามมาทั้งหมด ก็ไม่เห็นว่าจะ มีทางหนีไปจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยครบถ้วนเลย

ก่อนหน้านั้นรมนยังหวังให้พวกบุริศร์มาช่วยตัวเองอยู่เลย ตอนนี้เธอไม่อยากให้พวกเขามาเลยสักนิด

โดมพาพวกเธอเดินเข้าไปในเกาะเล็กๆ ภายใต้การตรวจสอบ ของเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ในที่สุด พวกเธอก็ผ่านด่านต่างๆเข้ามาได้ จนมาถึงที่พัก

สภาพแวดล้อมของที่พักของที่นี่สวยงามมาก จนถึงขั้นเหมือน สวนสวรรค์เลยก็ว่าได้

นรมนไม่รู้ว่าเชษฐ์เสียเงินไปเท่าไหร่กับการสร้างที่นี่ แต่ตอนที่

เธอเห็นสวนลาเวนเดอร์ที่สวยงามนั้น เธอก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย

“คุณแม่คะ แม่ว่าบนเกาะนี้จะมีผู้หญิงไหมคะ ? ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เชษฐ์รัก ?”

จู่ๆนรมน เปิดปากพูด น

คิมซะงักไปทันที จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่รู้สิ ไม่เคย ได้ยินมาก่อนว่าเชษฐ์มีผู้หญิงที่ชอบ เขาตามหาการดัดแปลง พันธุกรรมและการกำเนิดชีวิตเหมือนคนบ้ามาทั้งชีวิต เหมือน หมอประหลาดคนหนึ่ง คนแบบนี้จะมีผู้หญิงที่ชอบด้วยเหรอ ? ถ้า หากมีจริง แล้วเขาจะไปทำเรื่องที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมากมายขนาดนั้นยังไง ? ๆหนึ่ง พอเคยกับความความแล้ว ไม่มีทางไปทำลายคนได้หรอก”

มันไม่แน่นะคะ คนบางประเภท เพื่อความของตัวเอง

แล้วสนอะไรทั้งสิ้น แม้ต้องเป็นกับทั้งนรมนไม่ว่าทำไมตัวเองถึงพูดอะไรแบบออกมา แต่พอออกมาแล้วก็รู้สึกว่าค่อยตรงเท่าไหร่

แต่คนอย่างเชษฐ์จะจริงเหรอ ?

ถ้าหากล่ะก็ อย่างนั้นผู้หญิงที่เชษฐ์ฝากไว้ในอ้อมใจเป็นใคร

ทุ่งลาเวนเดอร์ช่างสวยงามจริงเธอเชื่อหรอกว่าเชษฐ์มาการวิจัยอยู่ที่ลำบากแบบนี้เพื่อผู้หญิงคนไหนกัน

เป็นคุณธิดาเหรอ

นรมนครุ่นคิดอยู่ในไม่หยุด กลับไม่ได้คำตอบๆเลย พวกเธอถูกโดมจัดให้มา

มาพูดเตือนพวกคุณไว้นะ พักผ่อนและทำกิจกรรมอยู่ที่ให้เต็มที่ อย่าเข้าไปที่ห้องโถงหลักเด็ดขาด”

“ทําไม

นรมนอถามออกไปหนึ่ง แล้วหน้าของโดมเปลี่ยนเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ