แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1006 กลิ่นที่คุ้นเคย



บทที่ 1006 กลิ่นที่คุ้นเคย

นรมนไม่ได้พูดความสงสัยภายในใจออกมา นาวินรีบให้คน ไปยกน้ำอุ่นมาให้นมน

“รีบนั่งเถอะ ท้องเธอเริ่มโตแล้ว ลำบากแย่เลย

นรมนคิดขึ้นมาได้ว่าเธอและธิดาตั้งครรภ์ในระยะเวลาไล่เลี่ย กัน แต่ตอนนี้ลูกของธิดายังคงอยู่ แต่ตัวเองไม่มีแล้ว จึงอดไม่ ได้ที่จะเศร้าใจ แต่เธอเก็บอารมณ์ของเธอได้ดี ไม่ให้ธิดาเห็น ความเศร้าโศก

ใบหน้าของธิดาเต็มไปด้วยความสุข

“อืม ไม่เป็นไรหรอก ผู้หญิงต้องผ่านสิ่งนี้สักครั้งในชีวิตไม่ใช่ หรือ? ฉันไปดูมาแล้ว คุณหมอบอกว่าท้องเดี่ยว ฉันค่อนข้างผิด หวังนิดหน่อย”

ธิดาคือลูกสาวของเชษฐ์ และตระกูลโตเล็กมียีนฝาแฝด เธอ มักจะมองไปที่กานต์และกมล และรู้สึกว่ามีผู้ชายหนึ่งผู้หญิงหนึ่ง แล้วมันดีมาก ให้กำเนิดสองคนพร้อมกัน และยังท้องได้อีก แต่ นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะไม่ได้สืบทอดยืนของตระกูลโตเล็ก คาดไม่ ถึงว่าจะมีลูกน้อยเพียงหนึ่ง

นรมนยิ้มพลางพูด “ขอแค่ลูกแข็งแรงก็พอแล้ว”

“ก็จริง”
ธิดาหัวเราะร่าขึ้นมาทันใด

นาวิน งธิดาออกมา ก่อนพูดเสียงต่ำ “พี่สะใภ้เพิ่งกลับมา คุณให้พี่สะใภ้พักผ่อนเถอะ ไว้มีเวลาว่างค่อยคุย

ถึงอย่างไรตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่พิเศษ นรมนกลับมาก็เพื่อบุรี ศร์ ธิดาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร นาวินไม่สามารถไม่รับรู้ว่าอะไร

ควรหรือไม่ควรได้

ธิดาจึงค่อยมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ ก่อนจะรีบพูด “พี่สะใภ้ มองฉันสิ แค่มีความสุขก็ไม่ต้องสนอะไรแล้ว คุณรีบขึ้นไปพัก ผ่อนเถอะ นักข่าวข้างนอกก็ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะออกไป? ต่อไปก็ ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องวุ่นวายอะไรเกิดขึ้นอีก พี่ไม่อยู่บ้านหลังนี้ต้องได้ รับการสนับสนุนจากคุณ”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ฉันจะขึ้นไปพักผ่อนก่อน ไว้ค่อยคุยนะ”

ความเจ็บปวดบนร่างกายของนรมนรุนแรงมาก ไม่ง่ายเลยที่ จะอดทนมาจนถึงตอนนี้ เกือบที่จะทนไม่ไหวอีกต่อไป

“โอเค”

ธิดารีบหลีกทางให้

นรมนยิ้ม ก่อนจะขึ้นไปยังห้องนอนชั้นบน

เมื่อตอนเธอวางแผนจะถอดเสื้อผ้าออก ภายนอกก็มีเสียงธิดา ลอยเข้ามา

“พี่สะใภ้ คมทิพย์กับคุณหมอตระกูลพรโสภณมาแล้วค่ะ”
“ให้พวกเขาเข้ามา

ขณะที่นรมนกำลังกังวลว่าจะถอดเสื้อผ้าอย่างไรรมดาและคน อื่นๆ ก็เข้ามา ทันใดเธอก็รู้สึกว่าไว้วางใจได้

เมื่อคมทิพย์เข้ามาพร้อมกับรมิดา นรมนก็ถอดเสื้อนอกออก

วันนี้เธอสวมเสื้อคลุมสีดำ จึงไม่มีใครมองเห็นอะไร แต่เมื่อ ถอดเสื้อคลุมออก เสื้อเชิ้ตข้างในก็เปื้อนเลือดเสียจนชุมนานแล้ว

แถมเกรอะกรังไปหมด ไม่สามารถถอดออกมาได้ “พระเจ้า นรมน เธอไม่ใช่คนเหรอ? รู้สึกเจ็บบ้างไหม? สภาพอย่างนี้ไปเยี่ยมบริศที่สถานีตำรวจเนี่ยนะ?”

สีหน้าของคมทิพย์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

นรมนเจ็บ แต่ตอนนี้เธอกลับพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เธอรู้ได้ ไงว่าฉันไปสถานีตำรวจ?

“ป้องบอก”

เมื่อรมิดาพูดจบ นรมนก็ชะงักไป “พวกเธอไปบ้านของป้องมาเหรอ?”

“เปล่า ตอนกลับมาฉันบังเอิญเจอป้องนั่งเครื่อง ก็เลยคุยกัน”

รมิดาพูดออกมาเสียงแผ่วเบา แต่นรมนกลับเอะใจเล็กน้อย

“ป้องนั่งเครื่องไปไหน?”

“เมืองB”
รมิตายิ้มเหมือนไม่ยิ้ม มองไปยังนรมน

นรมนรู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจเธอเต้นแรง

“เกิดอะไรขึ้นกับบริศร์?”

นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เธอนึกขึ้นได้

ตอนนี้โพนี่ท้องแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ป้องจากมา และยิ่ง ไปกว่านั่นคือห่างโพนี่ออกมาด้วย ตอนนี้ที่เขาออกจากเมืองชล ไปยังเมือง ไม่ว่านรมนจะคิดอย่างไรก็น่าจะเกี่ยวข้องกับบริศร์

คมทิพย์ถลึงตาใส่รมดา ก่อนจะรีบพูด “โอย ไม่ต้องกังวลน่า จะเกิดเรื่องอะไรกับบริศร์กัน? ป้องไปที่นั่นเพื่อเข้าร่วมสัมมนา ทางการแพทย์ มันบังเอิญพอดี”

“จริงไหม?”

นรมนไม่ได้มองไปที่คุมทิพย์

คมทิพย์นิสัยเป็นอย่างไรนรมนรู้ดี เธอแทบอยากจะนอนรักษา แผลบนเตียงตัวเองอย่างไม่รู้อะไรเลย

รมิดายักไหล่เล็กน้อย ปิดปากเงียบ

นรมนเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว

ต้องเกิดอะไรสักอย่างกับบุริศร์แน่ ตอนออกไปยังไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วทำไมจู่ๆถึงเกิดเรื่องกัน เกิดอะไรขึ้นกับเขา?
โรคอะไรกันแน่?

หรือมีคนทําร้ายเขา รมิดาพูดเบา ๆ “อะไรนะ? เธอจะกลับแล้วเหรอ?” นรมนอดไม่ได้ที่จะนิ่งไป

สมองของนรมนแล่นคิดอย่างเร็ว

กลับไป?

ไม่ได้

ตัวเองทำตามความคิดของอีกฝ่ายและในที่สุดก็กลับมาที่ เมืองชลธี และบริศร์ก็ไม่ได้อยู่ข้างกาย โอกาสดีเช่นนี้ พวกเขาจะ ให้เธอไปได้อย่างไรกัน?

ตอนนั้นรมนเป็นเป้า ทุกคนที่กำลังมุ่งเป้าไปที่เขากำลังมอง เธออยู่ ถ้าเขากลับมาตอนนี้ แน่นอนจะทำให้สถานการณ์ของ บุรี

ศร์อันตรายมากขึ้น

หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นรมนก็พูดเบา ๆ ว่า “ไม่จำเป็น ฉันเชื่อว่าเขาจะกลับมา ทำแผลให้ฉันหน่อย จัดการอะไรเสร็จฉัน ต้องออกไปข้างนอกอีก”

“อยากตายเหรอ? ยังจะออกไปอีก? นรมน เธอรู้ไหม ตอนนี้ เธอคือเป้าเดินได้? เธอกลัวว่าคนเหล่านั้นจะไม่สามารถเข้ามาใน บ้านตระกูลโตเล็กเพื่อจัดการกับเธอ?”

คมทิพย์รู้สึกว่านรมนต้องบ้าไปแล้วแน่
ทันทีที่ผู้หญิงคนนี้เจอกับเรื่องของบุริศ เธอก็ไม่สนอะไรแล้ว

อย่าพูดถึงสิ่งที่จะตามหลังมาจากเรื่องฆ่าคนของบริศร์ก่อน เลย พูดถึงตอนนี้ก่อนที่มันค่อนข้างจะอันตรายสำหรับเธอที่กลับ มาคนเดียวตอนนี้ แม้ว่าตระกูลตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูล พรโสภณจะคอยปกป้อง แต่ใครเล่าจะรับประกันได้ถึงความสูญ เสีย

นรมนยิ้มและพูดว่า “เธอกลับมานี่ ไม่ไปดูพฤกษ์หน่อยเหรอ?”

คมทิพย์กลอกตา ก่อนพูดว่า “ฉันยังเป็นห่วงเธอ? เลยมาดู เธอก่อน ในเมื่อเธอไม่เป็นอะไร แถมยังใจกล้า ฉันก็จะไปดูบ้าน ของพวกเราแล้ว ขี้เกียจจะอยู่ที่นี่ เกรงว่าจะถูกเธอโกรธอีก

หลังจากพูดจบ เธอก็มองบน ใส่นรมน

“คุณหมอรมิดา ดูเธอหน่อยสิ อย่าปล่อยให้เธอก่อเรื่อง คมทิพย์กำชับรมิดาอย่างไม่วางใจ

“โอเค”

รมิดารับปาก แต่จะดูได้ไหมก็ไม่รู้สินะ

หลังจากที่ผมทิพย์เดินจากไป หูของนรมนก็พบกับความโล่ง ชั่วขณะหนึ่ง

“คมทิพย์เป็นห่วงฉันเกินไปแล้ว”

“เพื่อนสนิทอย่างนี้ดีมากเลยนะ

รมิดาเป็นคนค่อนข้างเย็นชา รอบกายไม่มีมิตรสหาย ดังนั้นจึงรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

“ช่วยฉันจัดการแผลหน่อยสิ”

“นอนคว่ำาเถอะ”

รมิดาหยิบกล่องยามา

นรมนนอนคว่ำบนเตียง เมื่อได้ยินเสียงรมดาน่ากรรไกออก มาตัดเสื้อ เธออดไม่ได้ที่จะกัดฟันแน่น

รอยเลือดแห้งกรังยากที่จะจัดการ รมิดาพยายามอย่างมากที่ จะจัดการกับมัน เหนื่อยจนล้มฟุบ

แต่นรมนก็นอนแผ่ลงไปบนเตียงเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีใครเป็นคนช่างพูดจ้อ ทั่วห้องพลันเงียบลงทันที

เมื่อนรมนนอนลงเพื่อฟื้นพลัง รอจนพูดได้จึงเปิดปากพูด ประโยคแรกคือ “บุริศร์เป็นอะไร?”

“เป็นลมด้วยอาการปวดเส้นประสาท ไม่มีทางเลย โรคของ เขาเป็นผลสืบเนื่องจากการป่วยมาจากครั้งที่แล้ว นอกจากป้อง แล้วไม่มีใครกล้าบอกเขา ดังนั้นตำรวจจึงเรียกตัวป้องไป

รมิดารู้ว่านรมนต้องการถามอะไรเสมอ ดังนั้นจึงควรแจ้งให้ เธอทราบแทนที่จะปล่อยให้เธอคิดกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

นรมนผงะไปครู่หนึ่ง

“อาการปวดเส้นประสาทของเขานานแล้วที่ไม่กำเริบ
“ไม่แน่ใจ บางครั้งอาจเป็นกำลังใจที่เหนียวแน่น เลยสามารถ อดกลั้นไว้ได้ จนคนภายนอกมองไม่ออก บางครั้งหลังทานยาก พอบรรเทาได้ ถึงมันจะเงียบไปซักพัก แต่เธอก็รู้ ผลสืบเนื่องจาก อาการป่วยอย่างนั้นไม่ใช่จะสามารถแก้ไขได้ในระเวลาสั้นๆ ฉัน ได้ยินป้องพูดมาว่า เลวร้ายที่สุดคืออาจเป็นตลอดชีวิต ดังนั้นสิ่ง นี้จึงพูดไม่ได้”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ รมิดาพูด ใจของนรมนรู้สึกหนักอึ้งมาก

“มีวิธีรักษาไหม?”

“น่าจะไม่มี แต่ไม่รู้ว่าป้องพอจะมีทางไหม ตอนนี้ทำได้เพียง เกลี้ยกล่อมให้เขาพักผ่อนมากขึ้นและใช้สมองให้น้อยลง แผนการหรือกลอุบายเหล่านั้นก็อย่าไปคิด ใช้ชีวิตอย่างเรียบ ง่ายก็ดีมากแล้ว พวกเธอสองสามีภรรยาไม่ได้ขาดเงิน ถ้าฉันเป็น เธอ บางทีฉันอาจจะออกไปเที่ยวกับเขา จิตใจดีแล้ว ความกดดัน มีเล็กน้อย และเพิ่มการรักษาที่มีคุณภาพไป คงดีขึ้นมาก

ข้อเสนอของรมิดา นรมนจดจำไว้ในใจ

หลังจากจัดการกับเรื่องนี้แล้ว เธอต้องไปเที่ยวกับบริศร์ “ไม่ไปจริงเหรอ?”

เมื่อรมิดา เห็นว่านรมนไม่กระโดดขึ้นมา และยิ่งไม่ต้องหาที่จะ กลับไปยังเมืองB เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถาม

นรมนลุกขึ้นมาช้าๆ มองหาเสื้อผ้าที่จะสวม ก่อนพูดเสียงต่ำว่า “ป้องไปแล้ว คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถ้าฉันรักเขาจริง ควรจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นจึงทำตามที่เธอพูด คือพาเขาออกไปพัก ผ่อน ฉันไปตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ไม่ไปดีกว่า”

ร่องรอยชื่นชมพาดผ่านในดวงตาของรมิดา

“นี่เธอจะไปไหน?”

“จะไปหาคุณตา”

นรมนูพูดเบาๆ แต่เมื่อเห็นรมิดา ลุกขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “แล้วเธอจะไปไหน?”

“กลับบ้าน ทำไม? เธอคงไม่ให้ฉันอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ฉันไม่ชิน

หรอกนะ”

คำพูดของรมดา ทำให้นรมนนิ่งไปเล็กน้อย

“เธอมีบ้านที่เมืองชลธีด้วยเหรอ?”

“สามีของฉันเป็นหนึ่งในสี่คุณชายของเมืองชลธีเชียวนะ ถึง แม้ตอนนี้ตัวจะไม่อยู่นี่ แต่ก็มีบ้านที่นี่

รมิดา ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะบอกลานรมน

นรมนรู้สึกว่าตัวเธอเองโง่จริงๆ ทำไมไม่คิดถึงระดับนี้นะ

หลังจากจัดการตัวเองเสร็จแล้ว นรมนก็ลงไปหาของสะสมใน ห้องใต้ดินออกมา วางแผนที่จะนำไปให้คุณท่านตนวร ในชีวิต ของเขาไม่มีงานอดิเรกอะไร นอกจากดื่มชา และสะสมของเก่า นโมนหยิบใบชาออกมา แต่ทันใดเธอก็หรี่ตาลง
ชาในห้องชาบุริศร์ให้คนส่งมาเป็นประจำ ไม่อะไรมากกว่าเขียวและชาด แต่นรมนไม่คิดจะพบชาชนิดเหล่าด้วย

ก้านรากของของใบ

แต่ใบชาเช่นนี้มานรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย คว้ามันแล้วเอามาใส่ไว้ในถุง สูญญากาศ

เมื่อออกจากห้องชา เธอก็ได้เจอกับแพรวากลับมาจาก

เมื่อแพรวาเห็นนรมนนิ่งชั่วขณะ จากหน้า และพูดอย่างโศกเศร้าว่า เธอคงเธอลูกไป? ทำไมถึงไม่ระวังอย่างนั้น ถึงอย่างไรพวก เธอมีลูกสองคนแล้ว ไม่ต้องปวดใจมากเลย”

เข้าใจแล้วค่ะ คุณน้าแพรวา

นรพยักหน้า แต่เธอกลับได้กลิ่นที่คุ้นเคยลอยมาจากตัวของแพรวา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ