แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 163 เหนือมนุษย์อย่างผมมีข้อเสียบ้างก็ดี เหมือนกันนะ



บทที่ 163 เหนือมนุษย์อย่างผมมีข้อเสียบ้างก็ดี เหมือนกันนะ

“ตระกูลวัชโรทัยชักจะมากเกินไปแล้ว ไม่เพียงแค่เอา คุณกับลูกของผมไปซ่อนไว้ตั้งห้าปี ตอนนี้ยังคิดจะแย่ง คุณไปซึ่งๆหน้าอีก คิดว่าคนอย่างผมมันน่ารังแกมากหรือ ว่ายังไง?”

ยิ่งพูดบุริศร์ก็ยิ่งโกรธ ถึงขนาดที่อยากบินไปเคลียร์กับร เมศที่อเมริกา

นรมนไม่ได้พูดอะไร

ผู้ชายคนนี้บกพร่องทางสติปัญญาหรือไง

พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์ ปล่อยให้เขาติดอยู่ในทางตัน ของเขาไป คงไม่มีความรู้สึกนึกคิดอะไรแล้วล่ะมั้ง

เดิมทีบุริศร์ว่าจะรอดูว่านรมนจะง้อเขายังไง แต่โมโหมา ก็นานแล้ว นรมนกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด เขารีบ หันกลับไปมอง เมื่อเห็นท่าทางนิ่งๆของนรมน ไฟโกรธที่ อยู่ในใจก็ยิ่งรุนแรง

“นรมน คุณอยากให้ผมเกลียดคุณ แล้วทิ้งคุณไปใช่ ไหม? จากนั้นคุณก็จะได้ไปอยู่กับรเมศใช่ไหม? ผมจะบอก คุณให้นะว่า ฝันไปเถอะ!”

เมื่อเห็นบุริศร์เดือดขึ้นกว่าเดิม นรมนก็ชักมือกลับมา แล้วพูดเสียงเย็นว่า “ฉันไม่พูดกับคนปัญญาอ่อน”

พูดจบเธอก็เหยียดกายลุกขึ้น
บุริศร์รู้สึกเหมือนโดนเหยียดหยาม

คนไอคิว180อย่างเขา ถูกนรมนด่าว่าปัญญาอ่อนเหรอ?

“นรมน คุณหยุดเลยนะ! คุณจะไปไหน? กิจจายังไม่ ออกมาเลยนะ!”

“ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ คุณจะไปด้วยไหม?”

นรมนเหลือบตามองบน รู้สึกว่าบุริศร์ในตอนนี้ช่างไร้ เหตุผลซะยิ่งกว่ากานต์เสียอีก

ไม่สิ!

กานต์ไม่เคยทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้ด้วยซ้ำ นรมนส่ายหัว แล้วก้าวเดินไปยังห้องน้ำ

บุริศร์โกรธฮึดฮัดคนเดียวอยู่ที่เดิม

ไม่ได้ดั่งใจเอาซะเลย!

ลูกชายก็ไม่เห็นหัว ตอนนี้นรมนยังมาทำแบบนี้ใส่เขาอีก เขาไม่เหลือเสน่ห์แล้วเหรอ?

แค่ตระกูลวัชโรทัยมาขอแต่งงานเธอก็นั่งไม่ติดแล้วใช่

ไหม?

บุริศร์หงุดหงิดจนกัดฟันกรอด รู้สึกว่าบริเวณหน้าอก ปวดหน่วงอย่างรุนแรง น่าเศร้าที่ข้างๆ ไม่มีใครคอยปลอบ เขาเลย

เขารู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารเอามากๆ ทำไมถึงได้ไปรักผู้หญิงเฉยชาแบบนี้นะ?
เมื่อรอบข้างไร้ผู้คน บุริศร์ถึงได้สงบจิตใจลงและนึกไป

ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ตระกูลวัชโรทัยขอนรมนแต่งงานเหรอ ได้ที่ไหนกัน!

แต่เมื่อกี้นรมนพูดว่าอะไรนะ?

ราวกับสมองของเขาเริ่มประมวลผลย้อนหลัง

นรมนพูดว่า “ฉันปฏิเสธไปแล้ว”

ปฏิเสธไปแล้ว!

หลังจากที่บุริศร์ร่ำลึกได้ว่านรมนพูดอะไร ตัวของเขาก็

นิ่งอึ้ง

เธอบอกว่าปฏิเสธไปแล้ว แล้วตอนนั้นเขาเป็นบ้าอะไร?

บุริศร์พูดไม่ออกในทันที

นี่เขาเป็นอะไรไป?

บาดเจ็บตรงหน้าอก แต่ทำไมรู้สึกเหมือนสมองได้รับ บาดเจ็บไปด้วยเลยล่ะ!

บุริศร์รู้สึกหน้าแตก รู้สึกว่าเมื่อสักครู่ตัวเองทำตัวอย่าง กับเด็กที่ไม่ได้กินลูกอม

เขากะพริบตาปริบๆมองไปทางห้องน้ำ ผ่านไปนานนร มนก็ยังไม่ออกมาเลย บุริศร์เริ่มจะนั่งไม่ติดแล้ว

คงไม่ได้มีเรื่องอะไรใช่ไหม?

เขาลุกขึ้นเตรียมจะไปดู แต่กลับพบว่าตอนนี้หน้าประตู ห้องผ่าตัดมีแค่เขาคนเดียว เขาจะไปไหนไม่ได้
ทำยังไงดี?

ทันใดนั้นบุริศร์ก็นึกถึงพฤกษ์

ใช่

ให้พฤกษ์กลับมาเฝ้า แล้วเขาค่อยไปหาเธอที่ห้องน้ำ เมื่อคิดได้แบบนี้ บุริศร์ก็จับโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพฤกษ์ ในตอนนี้เองนรมนก็เดินออกมา

“คุณโทรหาใคร?”

นรมนคิดว่าตอนนี้อารมณ์ของบุริศร์น่าจะเย็นลงแล้ว จึง

กลับออกมา

เมื่อเห็นนรมนกลับมา บุริศร์จึงจับมือของเธอไว้แล้วพูด ว่า “เมื่อกี้เหมือนผมจะเข้าใจผิด”

“อือ”

เมื่อนรมนเห็นท่าทางของเขาแบบนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเขารู้ตัว แล้ว จึงพูดกลั้วยิ้มว่า “ประธานบุริศร์เข้าใจผิดเป็นด้วยเห รอ?”

“คนเราก็มีโง่บ้างเป็นบางครั้งน่า เหนือมนุษย์อย่างผมมี ข้อเสียบ้างก็ดีเหมือนกันนะ”

บุริศร์หาข้ออ้างให้ตัวเองอย่างลื่นไหล

“หน้าไม่อาย”

นรมนปล่อยให้บุริศร์ลากกลับไปนั่งที่เดิม

“รเมศเป็นคนดีมากๆ ห้าปีก่อนถ้าไม่ได้เขา ฉันกับลูกอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ตระกูลวัชโรทั ยไม่เคยชอบฉันกับลูกเท่าไหร่หรอก คอยแต่หาสารพัด เรื่องมาทำให้ลำบากใจ แต่ก็มีรเมศนั่นแหละคอยกันลมกัน ฝนให้พวกเรา ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบให้ฉันพูดถึงผู้ชายคนอื่น แต่ว่าสำหรับฉันแล้ว รเมศน่ะไม่เหมือนใครจริงๆ บุริศร์ คุณคือคนที่ฉันรัก แต่ว่าเขากลับเป็นคนที่ฉันสนิทใจมาก ที่สุด”

นรมนพูดออกมาทีละคำชัดๆ มองมาที่บุริศร์ด้วยแววตา ใสแจ๋ว

บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าจะค่อนข้างระคายหู แต่ ในเมื่อนรมนอยากพูด เขาก็จะรับฟัง

“แล้วคุณต้องการพูดอะไรกับผมเหรอ? หรือว่าตระกูล วัชโรทัยคิดจะทำอะไรกับผม?”

เมื่อประโยคนี้ถูกถามออกมา นรมนก็เริ่มขลาดกลัว

บุริศร์ฉลาดเกินไปแล้ว ฉลาดถึงขนาดที่เธอยังไม่ทันได้ พูดอะไร บุริศร์ก็จับสังเกตอะไรได้แล้ว

เธอรู้ว่าคำร้องขอของเธอที่มีต่อบุริศร์ในตอนนี้เป็นอะไร ที่ค่อนข้างโลภมาก จนบางทีอาจถึงขั้นทำให้บุริศร์ผิดหวัง แต่ว่าเธอไม่สามารถทำให้รเมศเสียใจได้อีกต่อไป

นรมนสับสน เธอครุ่นคิด จากนั้นก็พูดเสียงต่ำว่า “บุริศร์

ห้าปีที่ผ่านมาฉันกับลูกติดค้างรเมศไว้เยอะมาก ถ้าหาก

สามารถชดใช้ด้วยเงินได้ ฉันจะไม่อิดออดที่จะชดใช้เลย

แต่ว่าสิ่งที่เขาต้องการฉันให้เขาไม่ได้จริงๆ ที่ฉันปฏิเสธคำขอแต่งงานจากตระกูลวัชโรทัยในครั้งนี้ ฉันไม่รู้เลยว่า รเมศจะทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะกับคุณ หรือกับตระกูลโตเล็ก ฉันก็ไม่มั่นใจทั้งนั้น ถ้าหากเขาทำอะไรจริงๆ คุณ อย่า….”

คำพูดถัดมานรมนไม่สามารถพูดมันออกมาได้ เธอรู้ว่าตัวเองทำเกินไป แต่ว่าเธอจะทำยังไงได้? เธอคงพูดกับรเมศไม่รู้เรื่องแน่ๆ ทำได้แค่ขอร้องให้บริ ศร์เห็นแก่ที่รเมศดูแลเธอและลูก ไม่ให้ใช้ไม้แข็งกับรเมศ

บุริศร์เข้าใจที่นรมนจะสื่อ

เขากุมมือของนรมนแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้อยากเป็นอริกับ เขา แต่ว่านรมน ผมไม่สามารถปล่อยให้ใครที่ไหนมา ทำลายตระกูลโตเล็กได้หรอกนะ เอาแบบนี้ ผมจะ รับปากคุณ ขอแค่เขาไม่ทำอะไรเกินขอบเขต ผมก็จะไม่ ถือสาเขา”

เมื่อบุริศร์พูดออกมาแบบนี้ นรมนก็ไม่กล้าขออะไรมาก ไปกว่านี้อีกแล้ว

เมื่อพูดถึงรเมศ ความสงสัยในใจของบุริศร์ก็ตีรวนขึ้นมา อีกครั้ง

“ที่คุณกลับมาครั้งนี้ใช่เพราะรเมศไหม?”

“ไม่ใช่”

นรมนตอบกลับอย่างรวดเร็วฉับไว จึงทำให้อารมณ์ของ

บุริศร์ดีขึ้นมาก
สำหรับเขา ขอแค่เธอไม่ได้ทำเพื่อรเมศต่อให้นรมนจะ หลอกเขาหรือใช้ประโยชน์จากเขา ก็ไม่มีอะไรให้น่า โกรธ

กลายเป็นว่าเส้นตายในขอบเขตความรักของเขาถูก ขยายออกไปเรื่อยๆ

บุริศร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปล่อยนรมนแต่ อย่างใด

นรมนอยากบอกเขาเรื่องของกมล แต่ดูจากสถานการณ์ ของกิจจาตอนนี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไงต่อ

ถ้าหากต้องถ่ายเลือด คิดว่าบุริศร์จะไม่สนก็คงไม่ได้ แล้ว ถึงยังไงเด็กคนนั้นก็เป็นลูกหลานและสายเลือดที่ เหลืออยู่แค่คนเดียวของตรินท์

ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวของกมลเท่าไหร่ อาการน่าจะ คงที่แล้ว ดังนั้นรอไปก่อนก็แล้วกัน

นรมนบอกกับตัวเองอย่างนี้ ถึงแม้จะกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดออกไป

เมื่อปมในใจของบุริศร์คลี่คลาย อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น

ไปด้วย

เขาพูดเสียงต่ำออกมาว่า “ช่วงนี้ผมอยากพักรักษาตัวให้ ดีๆ ถ้าต้องคอยแบกร่างกายป่วยๆทำนุ่นทำนี่ก็คงไม่ดีเท่า ไหร่ ขนาดอยากทำเรื่องแบบนั้นก็ยังทำไม่ได้เลย”

ประโยคนี้แอบแฝงความนัย แค่ได้ยินนรมนก็เข้าใจแล้ว
ใบหน้าของเธอพลันแดงซ่าน

“สมองของคุณมีแต่เรื่องพวกนี้หรือไง?”

“อัดอั้นมาตั้งห้าปี คุณยังจะให้ผมอัดอั้นไปอีกนานแค่ ไหน? เอาแต่กินเจมันไม่ดีต่อร่างกายนะ”

บุริศร์พูดเป็นนัย

นรมนหันหน้าหนี ใบหน้าร้อนไปหมด

ถึงจะเป็นคนเคยๆกันแล้ว แต่ทุกครั้งที่พูดเรื่องพรรค์นี้ กับบุริศร์ เธอก็ยังคงเหมือนสาวน้อยที่ยังไม่ประสีประสา

เมื่อเห็นท่าทางของนรมน หัวใจของบุริศร์ก็คันยุบยิบ แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้

ต้องมาอดทนแบบนี้เป็นอะไรที่ทรมานมาก เขาคงต้อง รีบรักษาตัวเองให้หายดีซะแล้ว

นรมนไม่รู้เลยว่าบุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ตอนนี้เธอคิดถึงแต่เรื่องไร้สาระพวกนั้น แม้จะรู้ว่ามันไม่ ดีเท่าไหร่ แต่พอถูกบุริศร์พูดยั่วก็กอดคิดขึ้นมาไม่ได้

เมื่อบุริศร์เห็นท่าทางเขินอายของเธอ ก็แทบอยากจะ สำเร็จโทษเธอ แต่เสียดายที่บรรยากาศไม่เป็นใจ

ทั้งสองก้อร่อก้อติกกันอยู่สักพัก ในที่สุดอารมณ์ก็เย็น

ลง

บุริศร์มองเวลา ก็พบว่ากิจจาเข้าไปนานแล้ว จนตอนนี้ก็ ยังไม่ออกมาเลย สีหน้าของเขาจึงค่อยๆเป็นกังวลขึ้นมา
“เรื่องของกิจจาคุณคิดยังไง?”

“ไม่รู้ ฉันเองก็ได้ยินแม่บ้านหลิวบอกมาอีกที ว่าคนใช้ ในครัวที่ชื่อป้าเกสรน่าสงสัย อีกอย่างยังติดต่อกับป้าโอ อีกด้วย แต่ฉันเชื่อว่าป้าโอไม่ได้ลงมือกับกิจจา ถึงยังไง เธอก็ดีกับคุณและกิจจามาก จุดนี้มันไม่มีอะไรให้สงสัย เลย”

เมื่อนรมนพูดถึงป้าโอ ก็ถูกจุดกับที่เขาประเมินเอาไว้ ริศร์เอ่ยถามเสียงต่ำว่า “คุณไม่โทษเธอ?” บุ

“โทษสิ จะไม่โทษได้ยังไงล่ะ? ป้าโอที่เคยดีกับฉันขนาด นั้น แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน แล้วยิ่งทำ แบบนั้นกับลูกชายของฉัน ฉันก็ต้องรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้วสิ แต่จะพูดยังไงดีล่ะ ต่อให้เธอจะทำไม่ดีกับฉันสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถมองข้ามความรักที่เธอมีต่อคุณกับกิจจาได้ หรอกนะ ฉันมองออก ว่าเธอหวังดีกับคุณจริงๆ เธอ สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อคุณ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณเป็นลูก หลานของตระกูลโตเล็ก ฉันก็คงคิดว่าเธอเป็นแม่แท้ๆของ คุณแล้ว”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์นิ่งเงียบ

“ป้าโอดีกับผม และตรินท์มาก เธอคอยเลี้ยงดูพวกเรามา ตั้งแต่เล็กจนโต แม่ของผมยุ่งทุกวัน เดี๋ยวก็ไปบริษัท เดี๋ยวก็ไปข้างนอก เลยไม่มีเวลาดูแลผมกับตรินท์ ถ้าไม่ ได้ป้าโอ ผมกับตรินท์ก็ไม่รู้จะเติบโตมาเป็นคนยังไง ผม ขอบคุณที่เธอดีกับผมและน้องชายอยู่เสมอ และผมก็ พยายามมองเธอเป็นผู้หลักผู้ใหญ่คนหนึ่ง แต่ถ้าเธอทำร้ายคุณกับลูกผมก็คงทนไม่ได้เหมือนกัน”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนซาบซึ้ง

“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณคุณที่พยายามเพื่อกานต์ แล้วก็ ขอบคุณที่คุณตัดสินใจแบบนั้นเพื่อฉันกับกานต์ ถึงฉันจะ เห็นใจป้าโอ แต่ฉันก็คงไม่ให้โอกาสเธอได้ขอร้อง เพราะ ว่าตอนนี้ฉันเองก็เป็นแม่คนเหมือนกัน ถ้าฉันรู้ว่ามีคนคิด จะมาข่มขู่ลูกของฉันอีกล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอได้อยู่ ใกล้ๆพวกเราแน่ บุริศร์ ฉันอย่ามาโทษฉันล่ะ”

“ไม่หรอก ผมเข้าใจ เรื่องพวกนี้ให้ผมจัดการเถอะ”

บุริศร์ถอนหายใจออกมา กับป้าโอเป็นการเลือกที่ค่อน ข้างลำบากใจ ที่สำคัญคือตอนนี้ป้าโอไม่อยากไปเอง ไม่ เพียงเท่านี้ เธอยังมักจะเพ่งเล็งนรมนอีกด้วย แบบนี้มันจะ ดีได้ยังไง?

มนไม่ได้พูดอะไรอีก นรมน

บางคำพูดคงพูดได้เพียงเท่านี้แล้วยิ่งเป็นป้าโอที่เปรียบ เสมือนแม่ของเขาแล้วด้วย

ทั้งสองกลับมาเงียบอีกครั้ง

ไม่นาน ไฟห้องผ่าตัดก็ดับลง จากนั้นหมอก็เปิดประตู ออกมา หัวใจของนรมนและบุริศร์แทบจะทะลุออกมานอก

อก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ