แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1026 ตรวจสอบไปเดี๋ยวก็รู้



บทที่ 1026 ตรวจสอบไปเดี๋ยวก็รู้

ตอนนั้นที่บุริศร์ย้ายโรงเรียนอนุบาลให้กมลได้พูดถึงภูมิหลัง ของครอบครัวตัวเองไหม? ต่อให้ไม่พูดก็ตาม เป็นไปได้ไงที่จะมี คน ในเมืองชลธีที่ยังไม่รู้จักบริศร์

นรมนรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้

ถ้าผู้อำนวยการรู้จักบริศร์ ต้องฝากฝังกับอาจารย์ที่ภายใต้ การดูแลอย่างแน่นอน แต่ครูอิงฟ้าคนนั้น กลับเห็นได้ชัดว่าไม่มี คุณสมบัติอะไรในการเป็นครูเลย

คิดได้อย่างนี้ นรมนรีบโทรหาชัยยศทันที

“หาข้อมูลของครูอิงฟ้าที่อยู่ในโรงเรียนอนุบาลABCอย่าง ละเอียดให้ฉันหน่อย

“ได้ครับ นายหญิง”

ชัยยศไม่ได้สอบถามถึงเหตุผล และทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็ว นรมนยังไม่ได้รับข่าวของกมล แต่ได้รับโทรศัพท์จากสมจิต

“คุณนาย สกายออกจากห้องผ่าตัดแล้วเย็บไปทั้งหมด12เข็ม ตอนนี้ไม่มีอันตรายอะไรมาก โชคดีที่คุณให้คนส่งหมอจากโรง พยาบาลทหารมา ไม่อย่างนั้น จากความสามารถของหมอ คุณภาพต่ำที่นี่ ไม่รักษาคนให้ตายก็ไม่เลวแล้ว”

คำพูดของสมจิตทำให้นรมนตื่นตัวขึ้นมาในทันที
“หมอคนนั้นมีปัญหา? อีกอย่าง หมอจากโรงพยาบาลทหาร มาแล้ว?”

“ใช่ คุณหมอหลิวจากโรงพยาบาลทหารออกตรวจนอกสถาน ทีละแวกนี้พอดี เมื่อผู้อำนวยการเรียกจึงรีบมา และหมอคุณภาพ าที่นี่ยังบอกอีกด้วยว่าจะผ่าตัดเปิดกะโหลกเด็ก บอกว่ามีเลือด คลั่งด้านใน แต่เมื่อคุณหมอหลิวดูฟิล์มเอกซเรย์ก็บอกว่ามีเลือด คลั่งเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดกะโหลก อีกทั้งเด็กยังเล็ก ขนาดนี้ การผ่าตัดเปิดกะโหลกอันตรายมาก ไม่รู้ว่าหมอคนนี้มี ใบประกอบวิชาชีพแพทย์จริงไหม”

คำพูดของสมจิตทำให้นรมนตื่นตัวขึ้นมาในทันที

“ตรวจสอบหมอคนนี้ให้ฉัน อีกอย่าง ตรวจดูด้วยว่าระหว่าง เธอกับอิงฟ้ามีความสัมพันธ์อะไรกัน

“คุณนาย คุณสงสัยว่าอิงฟ้าบงการให้หมอคนนี้ทำอย่างนี้ใช่

ไหม?”

สมจิตถามอย่างสงสัยเล็กน้อย

“ไม่รู้จะบอกยังไง ฉันแค่เดา มีหรือไม่มีเรื่องอะไรตรวจสอบดู เดี๋ยวก็รู้”

“ได้”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ สีหน้านรมนเคร่งขรึมขึ้นอีกเล็กน้อย

การผลักกันเล่นง่ายๆ ของเด็กๆ จะกลายเป็นเรื่องได้ขนาดนี้ถ้าอิงฟ้าคนนั้นมีปัญหาจริงๆ ละก็ ต้องมีผลกระทบที่ใหญ่ขึ้นแน่ๆ

คิดได้อย่างนั้นรมนรีบโทรหาชัยยศ

“ให้แผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัทACกรุ๊ปไปตรวจสอบ หน่อยว่าระยะนี้หมู่บ้านดอนวัวมีนักข่าวเข้าออกไหม และให้ แผนกประชาสัมพันธ์ตรวจสอบหน่อยว่านักข่าวในเมืองไปที่นั่น ไหม ถ้ามีรีบจัดการหยุดยั้งไว้ให้มากที่สุด

“หยุดยั้ง? ความหมายของคุณยายคือบังคับหยุดยั้งหรือ?” ชัยยศประหลาดใจเล็กน้อย

ถ้าเคลื่อนไหวขนาดนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะใหญ่ไปหน่อย

นรมนก็ไม่อยากบังคับหยุดยั้ง แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ตอนนี้เธอก็ ไม่มีความสัมพันธ์อื่นๆ และไม่รู้จะจัดการกับเรื่องในระยะเวลา สั้นๆ ได้ยังไง

ถ้าบุริศร์อยู่ก็คงดี

ใจของเธอคิดถึงบุริศร์ขึ้นมาอีกครั้งในชั่ววินาที

“บังคับหยุดยั้งเถอะ”

น้ำเสียงของนรมนเหนื่อยเล็กน้อย

ชัยยศกลับพูดเสียงเบาว่า “คุณนาย ผมมีข้อเสนอ คุณลองดู

ว่าโอเคไหม?”

“ว่ามา”
ให้หัวหน้าครขณะออกหน้า”

นรมนอดตกใจไม่ได้

“คริขณะ?”

“ใช่ หัวหน้าคริชณะมีเป็นร้อยวิธีที่จะแก้ไขปัญหานี้ โดยที่คุณ ไม่ต้องไปเผชิญอันตราย ถึงแม้ผมจะไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดเรื่องอะไร ขึ้น แต่ในเมื่อคุณนายให้ผมไปตรวจสอบครูอิงฟ้างั้นแสดงว่า เกี่ยวกับคุณหนูกมลแน่นอน คุณหนูกมลเป็นลูกสาวคุณ คุณออก หน้า ไม่ว่ายังไง ถ้าเกิดมีคนต้องการสร้างเรื่องนี้จริง ต้องใช้ข้อ อ้าง ผลักให้คุณกับคุณหนูกมลอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน ดัง นั้นวิธีที่ดีที่สุดคือคุณไม่ออกหน้า ตระกูลโตเล็กก็ไม่ออกหน้า

ชัยยศกระซิบ

นรมนยอมรับที่เขาพูดถูกทุกอย่าง แต่เธอกับคริชณะไม่เคย ติดต่อกันมาก่อน คนคนนั้นจะช่วยเธอไหม?

ตอนนี้บริศร์ไม่อยู่ เธอเป็นแค่คุณนายบุริศร์ ถึงแม้ความ สัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่แย่ แต่นรมนก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ

“ฉันไม่รู้จักหัวหน้าคริชณะ อีกทั้งเขาอยู่ในเขตทหาร ฉันเจอ เขาไม่ได้”

“คุณนาย คุณสับสนได้ยังไง? คุณเจอหัวหน้าคริชณะไม่ได้ แต่ เจอภรรยาคุณคริชณะได้ เขาอยู่ข้างบ้านของคุณท่านตนวร และ ผมได้ยินมาว่าดนัยลูกชายของพวกเขาชอบคุณหนูกมลมากๆ”

คำพูดของชัยยศทำให้จู่ๆ นรมนก็แปลกใจขึ้นมา
“รู้แล้ว”

หลงจากเธอวางโทรศัพท์ มองไปที่กมล กัดฟันแล้วกัดฟันอีก จึงขับรถไปที่บ้านตระกูลจ้านทันที

ระหว่างทางนรมนเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองขับรถฝ่าไฟแดงมาแล้ว เท่าไหร่กัน เมื่อไปถึงบ้านตระกูลจ้าน หลังของเธอก็เปียกไปหมด แล้ว

หยาดเหงื่อไหลเข้าไปในบาดแผล ปวดราวกับโรยเกลือลงบน แผล เจ็บปวดชั่วขณะ

บนหน้าผากของนรมนเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่กลับไม่กล้าหยุด พัก รีบตรงเข้าในบ้านตระกูลจ้าน

“ขออภัย กรุณาแสดงบัตรประจำตัว”

นรมนรีบส่งบัตรประชาชนไปให้อย่างรวดเร็ว

“ฉันมาหาภรรยาคุณคริชณะด้วยความบริสุทธิ์ใจ ฉันเป็น หลานสาวของคุณท่านตนวร ฉันมาเธอเพราะมีเรื่องด่วน

“รอสักครู่ ฉันเข้าไปรายงานก่อน

พนักงานรักษาความปลอดภัยเข้าไปไม่นาน ก็มีผู้หญิงสาว สวยคนหนึ่งเดินออกมา

“คุณนายบุริศร์? ฉันคืองามสุดา!”

“คุณนายงามสุดา ฉันมาหาคุณเพราะมีธุระ

นรมนคิดไม่ถึงว่างามสุดาจะอายุน้อยขนาดนี้
ครขณะอายุมากที่สุด แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีภรรยาที่อายุน้อย ขนาดนี้

งามสุดายิ้มพลางพูดว่า “เข้ามาคุยกันเถอะ”

“ฉันไม่เข้าไปแล้วกัน ลูกสาวของฉันกำลังรอความช่วยเหลือ อยู่ ฉันไม่สามารถอยู่ได้นาน

งามสุดาเห็นเหงื่อเย็นๆ บนใบหน้าของนรมนอย่างชัดเจน ต่างกันก็เป็นแม่ด้วยกันทั้งคู่ ย่อมมองออกอย่างชัดเจน

“คุณพูดมาเถอะ”

นรมนอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นโดยวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วจาก นั้นบอกความตั้งใจของเขาที่มาที่นี่

ฟังจบงามสุดาหยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรตรงไปหาค

ริชณะ

“คุณลุง ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ

นโมนเอ่ยปาก แต่กลับทำให้นรมนตกใจ

โทรหาคริชณะไม่ใช่หรือไง?

ทันใดนั้นมีเสียงดังมาจากอีกด้าน

“งามสุดา พูดกับฉันให้ดีหน่อย! ถ้ายังเรียกฉันว่าคุณลุงอีก คอยดูว่าฉันจะกลับไปจัดการคุณยังไง”

งามสุดาแลบลิ้น
“เรียกจนชินแล้ว ไม่สามารถแก้ได้ในทันที ฉันไม่เถียงกับคุณ แล้ว คุณนายบุริศ มีเรื่องอยากให้คุณช่วย

“คุณนายบุรีศร์ไหน?

“คุณนายงามสุดา”

คริชณะพูดขึ้นทันที “ภรรยาบุริศร์? มีเรื่องอะไร? ว่ามาสิ ตอน นี้ฉันมีเวลาพอดี”

งามสุดา จึงเล่าเรื่องของนรมนให้ฟัง

คริชณะพูดอย่างนิ่งเฉยว่า “ไม่มีปัญหา ฉันจะออกคำสั่งให้ เดี๋ยวนี้ให้เขตทหารต้องอยู่ในการฝึกซ้อม เขตนอกเมืองทั้งหมด อยู่ในกฎอัยการศึก ถ้าอย่างนี้นักข่าวพวกนั้นต่อให้อยากออกมา ก็เป็นไปไม่ได้ ส่วนการออกมา ฉันจะให้คนพาออกมาไม่ให้ขาด เลยแม้แต่คนเดียว สบายใจเถอะ”

“โอเค”

หลังจากวางสายงามสุดา ยิ้มพลางพูดว่า “คุณนายบุริศร์ จัดการเรียบร้อยแล้ว”

นรมนคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะดำเนินการได้ราบรื่นเช่นนี้ ขนาด เธอเองยังไม่ค่อยจะตอบสนองได้

“ขอบคุณ คุณเรียกฉันว่านรมนก็พอแล้ว”

“ได้ พี่นรมน ไว้คราวหลังฉันจะเชิญคุณมาเป็นแขกที่บ้าน ตอน นี้คุณกำลังเป็นห่วงลูกสาวใช่ไหม? คุณกลับก่อนเถอะ วันหลังพวกเราค่อยคุยกัน”

งามสุดา ยิ้มอย่าง ใจกว้าง แต่กลับเรียกพื้นรนจนงงไปหมด

เธอเป็นภรรยาของคริชณะ พูดตามหลักเหตุผลแล้วตัวเองควร เรียกเธอตามบุริศร์ว่าพี่สะใภ้ แต่วันนี้เธอกลับเรียกตัวเองว่าพี่ นรมนจนทำให้นรมนไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง

นรมนกลับมาถึงที่คฤหาสน์ตระกูลโตเล็กด้วยความมึนงง

รมิดาออกมาแล้ว และจัดการจัดเก็บตัวเองเรียบร้อยแล้ว “ออกไปทําอะไรมา?

“ธุระนิดหน่อย กมลเป็นยังไงบ้าง?

“ไม่เป็นไรแล้ว ฉันลงมือเองคุณสบายใจได้ หลับไปแล้ว ช่วงนี้ น่าจะเหนื่อยหน่อย ฉันว่าเธอนอนไม่พอเป็นอย่างมาก เพราะไป ฝึกทหารมาหรือเปล่า?”

คำพูดของรมิดาทําให้ความโกรธเกิดขึ้นในสายตาของนรมน

“ไปเขียนภาพร่างแล้ว”

“ภาพร่าง เขียนภาพร่างจนกลายเป็นอย่างนี้หรือ? ฉันดูแล้ว เธอไม่ได้พักผ่อนมาอย่างน้อยสิบชั่วโมงแล้ว

หัวใจของนรมนถูกทำให้เจ็บอีกครั้ง

นั่นหมายความว่าช่วงเวลานี้ลูกอยู่ด้านนอกเผชิญหน้ากับอะไร มา เธอที่เป็นแม่ไม่รู้อะไรเลยสักนิด!
“ฉันไปดูเธอหน่อยได้ไหม?”

“เบาเสียงหน่อย เพิ่งจะหลับไป

รมิดาเก็บของนิดหน่อยและเดินออกไป

นรมนมาที่ห้องของกมล เห็นกมลหายใจอย่างสม่ำเสมอ ก้าว ขาเบาลงอย่างช่วยไม่ได้

มองอย่างนี้จึงพบว่ากมลผอมลง

ปกติเด็กคนนี้กินจุ ตอนที่เธออยู่ กมลมีคางสองชั้น แต่ตอนนี้ คงของเธอแหลมหมดแล้ว

หัวใจของนรมนเจ็บปวดเพราะถูกดึง

เธอจับมือเล็กๆ ของกมล กมลส่งเสียงงอแงออกมาค่หนึ่ง และดึงมือกลับไป

นรมนรีบม้วนแขนเสื้อของกมลขึ้นทันที และพบว่าบนแขนมี

รอยสีม่วงหนึ่งวง ดูเหมือนจะโดนหนีบมา

เจ้าหญิงที่เธอเฝ้าทะนุถนอม โดนคนปฏิบัติด้วยอย่างนี้ นรมน โกรธจนแทบจะระเบิด

และตอนนั้นเอง สายจากชัยยศโทรเข้ามา

นรมนเกรงว่าจะรบกวนการพักผ่อนของกมล จึงรีบออกจาก

ห้องมา

“คุณนาย คุณเดาไม่ผิด มีนักข่าวมากมายเร่งเดินทางจากใน เมืองไปที่ทางใต้ของหมู่บ้านดอนวัว โชคดีที่หัวหน้าคริชณะประกาศให้ปิดเมืองเพราะการฝึกซ้อมทางทหาร ตอนนี้ไม่มีใคร สามารถออกมาได้ มีหลายคนที่พยายามหนีออกมาแต่ก็โดนพา ตัวกลับไป

คำพูดของชัยยศทำให้หัวใจของนรมนสงบลงมาก

“ตอนที่กมลไปโรงเรียนอนุบาลคุณอยู่ไหม?” “คุณนาย ตอนนั้นพฤกษ์ให้ผู้ช่วยพฤกษ์จัดการ

นรมนเข้าใจในทันที

“โอเค รู้แล้ว มีข่าวของอิงฟ้าไหม?

“มี แต่ที่แปลกก็คือ อิงฟ้าไม่ใช่อาจารย์ในโรงเรียนอนุบาล เธอไม่มีหน้าที่สอนอะไร เธอแค่จบจากมหาวิทยาลัยศิลปะเท่านั้น ปัจจุบันยังไม่ทำอาชีพอะไร

คำพูดของชัยยศทำให้นรมนหรี่ตาลงทันที

“ไม่มีคุณสมบัติการเป็นอาจารย์แต่กลับกล้าทำอย่างนี้กับ ลูกสาวฉัน! หาต่อไป ใครให้ท้ายเธอ! ”

“นรมนโกรธจนแทบจะควบคุมความโกรธไม่ได้ เกลียดจน อยากจะฆ่าอิงฟ้าคนนี้ด้วยมือตัวเอง

หลังจากวางสาย นรมนเข้าไปในครัว

หลายวันมานี้กมลได้กินอย่างอร่อยไหมก็ไม่รู้ ตอนนี้ป่วย กิน ของมันๆ ไม่ได้แน่นอน เธออยากจะทำโจ๊กให้กมล

หลังจากนรมนต้มโจ๊กเสร็จ กมลยังไม่ตื่น
เธอไม่อยากรบกวนเธอ ตัวเองก็ไม่อยากกินอาหารเลยสักนิด

สมจิต โทรมาบอกว่า พ่อแม่ของสกายเห็นว่าลูกไม่เป็นอะไร ความโกรธลดลงมาก แต่อิงฟ้าคนนั้นกลับยุให้พ่อแม่ของสกาย ฟ้องร้องเธอ โชคดีที่พ่อแม่ของสกายไม่ใช่คนไม่รู้กฎหมาย บวก กับที่นรมมหาหมอจากโรงพยาบาลทหารมารักษาเด็ก ค่าใช้จ่าย ที่ควรต้องจ่ายก็ไม่ขาดตกบกพร่อง พวกเขาเลยคิดว่าเรื่องนี้ก็ แล้วๆ กันไป

ขณะที่นรมนกำลังฟังสมจิตพูดอย่างนี้ มุมปากยิ้มเย็นชาออก มา

อิงฟ้าคนนั้นยังคงพยายามทำให้เธอและกมลต้องตกอยู่ใน อันตราย

เธอต้องการจะทําอะไรกันแน่?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ