แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1270 ผมไม่ได้ตั้งใจ



บทที่ 1270 ผมไม่ได้ตั้งใจ

“ผมยังไม่ตอบคำถามตอนนี้ได้ไหมครับ?

เสียงของกิจจาเคร่งขรึม ถ้าตั้งใจฟังให้ดี จะสามารถได้ยิน ความร้อนใจ

เขาอยู่ในศาลบรรพบุรุษพูดว่าตนเองต้องพึ่งพาคนอื่น ตอนนี้ ค่านี้ออกมาจากปากบุริศร์ กิจจารู้สึกไม่ค่อยน่าฟัง

ตอนนั้นทำไมตนเองถึงได้พูดแบบนี้ออกมา?

ในตระกูลโตเล็ก นรมนก็ดี กมลก็ด้วย จนแม้แต่รวมบุริศร์ไป ด้วยซ้ำ พวกเขาปฏิบัติต่อตนเองเหมือนลูกแท้ๆ จะมีความรู้สึก ต้องพึ่งพาคนอื่นที่ไหน?

แต่วันนี้พูดออกไปแล้ว ก็เหมือนสาดน้ำออกไป เอากลับคืนไม่

ได้

กิจจากเคยแค้นเคือง เคยเสียใจ วันนี้ถูกบุริศร์บีบบังคับเช่นนี้ ในใจยิ่งไม่เป็นสุข

มองเห็นในตอนนี้กิจจามีท่าทางที่เด็กอายุห้าขวบควรมี บุริศร์ ถึงจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ รอไปไหว้หลุมศพพ่อของลูกกลับมา ลูกค่อยบอกแด๊ดดี้นะ”

“รออีกสองสามปีค่อยบอกไม่ได้เหรอครับ? ”

กิจจารู้สึกเวลาน้อยเกินไป
บุริศร์กำลังเคี่ยวเข็ญเขา

“ไม่ได้! ”

บริศ ตอบอย่างตรงไปตรงมาสุดๆ

กิจจาหดหู่ใจทันที

ทั้งสองคนวิ่งอีกรอบ แต่ครั้งนี้ไม่มีใครพูดอะไร

เมื่อกลับมาที่พัก นรมนกับกมลก็ตื่นแล้ว

กมลกำลังยิ้มอย่างเบิกบานใจอยู่ในอ้อมแขนนรมน ไม่รู้ว่า พูดเรื่องตลกอะไรกัน เย้าแหย่จนนรมนหัวเราะซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บริศ มองเห็นภาพแบบนี้ ใจอ่อนยวบอย่างห้ามไม่ได้

“คุยอะไรกันอยู่? หัวเราะมีความสุขขนาดนี้

บุริศร์ลูบศีรษะกมล

กมลกระโดดลงจากอ้อมแขนนรมนทันที ยิ้มพูด “นี่คือความ ลับของหนูกับหม่ามีค่ะ ไม่บอกแด๊ดดี้หรอก พี่กิจจา คิดไม่ถึงว่าพี่ จะออกไปวิ่งกับแด๊ดดี้! เป็นไงบ้าง? อากาศที่นี่ดีไหม? ”

“ค่อนข้างสดชื่น”

กิจจาอ่อนโยนกับกมลเสมอมา

“พี่กิจจา เมื่อกี้หม่ามีบอกว่าอีกสักพักจะไปที่อื่น ไปทำความ สะอาดสุสานของคุณอา วันนี้พี่จะรู้สึกแย่มากไหม? ถ้ารู้สึกแย่ มาก หนูสามารถให้พี่ยืมไหล่พักพิงได้นะ ถึงแม้จะเปราะบางไปหน่อย แต่ก็ได้อยู่นะ”

ได้ยินกมลพูดแบบนี้ กิจจารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที

“อืม”

“งั้นเอาตามนี้นะ เกี่ยวก้อยสัญญากัน

กมลยื่นนิ้วก้อยของตนเองออกไป

เด็กสองคนเกี่ยวก้อยสัญญากัน ท่าทางจริงจังสุดๆ นรมนเห็น แล้วซาบซึ้งใจเล็กน้อย

“พวกเราก็เคยเป็นเด็ก เห็นพวกเขาแล้วเหมือนกลับไปตอน นั้นเลย”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ นรมนนึกถึงพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน เธอ ส่ายหน้าทันที กล่าวเสียงเบา “กินข้าวเถอะ ฉันหิวแล้ว

“ได้ พวกคุณกินไปก่อนเลย ผมกับกิจจาจะไปอาบน้ำ เหงื่อ

โชกไปทั้งตัว ไม่สบายตัว

“อืม”

นโมนพยักหน้า

บุริศร์พากิจจาไปอาบน้ำ

กมลแกว่งผมเปียของตนเอง พูดอย่างเกียจคร้าน “หม่าม ได้ยินว่าที่นี่มีถนนเส้นหนึ่งเต็มไปด้วยของอร่อย ถ้ามีเวลาพวก เราไปเที่ยวสักหน่อยดีไหมคะ”
“จ๊ะ”

นรมนตอบรับอย่างสบายๆ กลับทำให้กมลชะงักไป

“หม่าม หม่ามตกลง? หม่ากับแอ๊ดดี้มาที่นี่เพื่อจัดการธุระ

ไม่ใช่เหรอคะ?”

“จัดการธุระเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญคือพาลูกทั้งสองออกไป เที่ยว อยากไปเที่ยวที่ไหนบอกหม่ากับแอ๊ดดี้ สามารถทำให้ ลูกๆ รู้สึกพอใจได้ก็จะต้องทำให้ลูกๆ พอใจ”

ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ กมลดีใจทันที

“จริงเหรอคะ เยี่ยมไปเลย ตอนนี้หนูอยากจะกินของอร่อยบน ถนนเส้นนี้ให้ถึงที่สุด”

“ไม่มีปัญหา”

นรมนหัวเราะขึ้นมา

รู้มาตลอดว่าลูกสาวของตนเองกินเก่ง จึงไม่แปลกใจสักนิด กับความต้องการที่เธอพูดขึ้นมา

“เย้! ขอให้หม่ามีอายุยืนหมื่นปี

กมลกระโดดสูงสามฟุต นรมน ใจหายวาบ

“ช้าหน่อยลูก ร่างกายตัวเองเป็นยังไงไม่รู้เหรอ? ดูลูก ถ้า หัวชนขึ้นมาจะทำยังไง? ”

สำหรับนรมน กมลก็ยังคงเป็นกมลเมื่อก่อน ถึงแม้ตอนนี้การ ผ่าตัดจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่สภาพร่างกายของเธอยังทำให้นรมนเป็นห่วง

กมลกลับพูดอย่างไม่สนใจ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ดนัยสอนท่า

หนูมากมาย สามารถทำให้หนูมีสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็ง

แรง หม่า หม่าอย่าเห็นหนูเป็นคนป่วยอีกได้ไหม” นรมนหัวเราะ พูดอย่างอ่อนโยน “ในใจของหม่ามี้ ลูกคือเด็ก น้อยของตลอดไป จะยอมเห็นลูกบาดเจ็บได้ยังไง? ”

“แหะๆ หม่ามี้ดีที่สุด”

กมลอวยจนโอเวอร์

นรมนถามด้วยรอยยิ้ม “เห็นลูกเล่นเข้าขากับดนัยได้ดีมา ตลอด ทําไม? ชอบ ดนัยมากเหรอ?

“อืม ก็นับว่าชอบค่ะ”

กมลเอียงหัวคิดสักพักจึงตอบออกมา “ในตัวพี่ดนัยมีอะไร หลายอย่างที่สามารถเรียนรู้ได้ พี่ชายของหนูคนนั้นเก็บตัวเกิน ไป ถึงแม้จะเป็นอัจฉริยะ แต่เป็นคนละส่วนกับพี่ดนัย หม่ามี้ หนู เล่นกับพี่ดนัยแล้วสามารถเรียนรู้อะไรได้มากมาย

“แบบนี้เหรอ? ”

“ถ้าไม่อย่างงั้นล่ะคะ? ”

นัยน์ตา ใสสะอาดของกมลมองนรมน ไม่เข้าใจความหมาย

ของเธอ

นรมนตระหนักขึ้นมาทันทีว่าลูกสาวของตนเองเพิ่งจะอายุห้าขวบ แถมยังกินเก่ง ในสมองเดาว่ามีแต่เรื่องกิน จะคิดเรื่องความ สัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงได้อย่างไร

เธอรู้สึกว่าความคิดของตนเองผิดปกติไปหน่อย

“เปล่าจ๊ะ หม่ามีแค่ถามดู

“อ้อ พี่เวธนีก็เก่งมาก หม่า หนูจะบอกความลับอย่างหนึ่งให้ ฟัง พี่เวธนชอบคุณอาของเธอมาก

เหมือนกับกมลค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่ กระซิบว่า “หม่ามี ห้ามบอกคนอื่นนะคะ นี่คือเรื่องส่วนตัวของพี่เวธน์

“แล้วลูกยังมาบอกหม่า? ”

มุมปากของนรมนโค้งขึ้นเล็กน้อย

“มันไม่เหมือนกัน นี่เป็นหม่ามีของหนู หม่าไม่มีทางหักหลัง หนูหรอก หม่ามีขา หม่ามีห้ามบอกคุณป้างามสุดา เข้าใจไหม คะ?

จู่ๆ กมลก็นึกอะไรได้ขึ้นมา จึงอดหงุดหงิดไม่ได้

เห็นลูกสาวกำลังจะบิดผมเปียของตนเองจนหลุด นรมนรีบพูด ด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะๆ เข้าใจแล้ว หม่ามีไม่พูด พวกลูกเพิ่งจะ อายุแค่นี้เอง รู้สึกคำว่าชอบแล้วเหรอ?

“แน่นอนหนูรู้จักค่ะ

“ฉลาดจริงๆ ?

สองสาวคุยกันมาถึงตรงนี้ บุริศร์กับกิจจาก็เดินออกมา
“กำลังคุยอะไรกันอยู่? ”

“ไม่บอกแด๊ดดี้หรอก”

กมลแลบลิ้นปลิ้นตาใส่บุริศร์ทันที จากนั้นแกว่งขาสองข้าง อย่างสบายๆ

บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย และพูดอย่างเอาใจทันที “ไม่บอกก็ช่าง

เถอะ แด๊ดดี้ไม่อยากรู้หรอก”

“เชอะ”

กมลเชิดคางแกล้งทำเป็นเย่อหยิ่ง มองเห็นกิจจากรีบโบกมือ

เรียก

“พี่กิจจา มาตรงนี้หน่อย หนูจะแบ่งน่องไก่ให้กิน

น่องไก่เป็นหนึ่งในอาหารที่กมล โปรดปรานที่สุด สามารถแบ่ง ให้กิจจาได้ เขารู้ว่าตนเองมีที่นั่งในใจของเธอ

เขาอดนึกถึงคำถามของบุริศร์ไม่ได้

พยายามช่วงชิง หรือยอมแพ้

ถ้าพยายามช่วงชิง กมลกับกานต์เป็นพี่น้องฝาแฝด เดาว่า คงจะทุกข์ใจแทนกานต์? ถึงตอนนั้นเธอจะตำหนิเขาไหม? แต่ถ้ายอมแพ้ ความฝันของแด๊ดดี้คงต้องจบลงจริงๆ

แด๊ดดี้เสียสละเพื่อเกียรติยศ ถึงแม้จะถูกเพิ่มเข้าไปกลายเป็น วีรชนผู้พลีชีพ แต่เขาไม่เคยอยู่ในกองทัพสักวัน และยิ่งไม่เคย สัมผัสว่าทหารที่แท้จริงมีชีวิตอย่างไร
คนอื่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฐานะที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร

กิจจารู้สึกว่าแบบนี้ไม่ยุติธรรมต่อแด๊ดดี้มากๆ

เขาอยากสมัครเป็นทหาร อยากสอบเข้าโรงเรียนทหาร อยาก ให้ทุกคนรู้ว่าเขาคือลูกชายของตนท์ แด๊ดดี้ของเขาเคยเป็นคือ ฮีโร่ที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อประชาชน ไม่ใช่ถูกคนพูดว่าเขาคือ ลูกชายของบุริศร์

กิจจาสับสนพอสมควร

“พี่กิจจา พี่คิดอะไรอยู่? ไม่ชอบกินน่องไก่เหรอ? ไม่เป็นไร ยังมีเกี๊ยวกุ้ง หนูแบ่งเกี๊ยวกุ้งให้พี่ก็ได้

กมลคิดว่ากิจจาสับสนเรื่องนี้ จึงรีบพูด

กิจจาได้สติกลับมา มองกมล พูดอย่างกลัดกลุ้ม “เธอกินไป เลย พี่กินข้าวต้มก็พอ วันนี้ไม่ค่อยอยากอาหาร

“เป็นอะไรไป?

ไม่สบายเหรอ?

นรมนได้ยินเขาพูดว่าไม่อยากอาหาร จึงรีบถามขึ้นมา

กิจจารีบส่ายหน้า “เปล่าครับ อาจเพราะเปลี่ยนสถานที่เลยไม่ เคยชิน เดี๋ยวผมกินยาก็ดีขึ้น

นรมนถึงจะพบว่าดูเหมือนกิจจากีดกันความห่วงใยของพวก

เขา

ความรู้สึกนี้ไม่สบายใจอย่างยิ่ง

นรมนเห็นกิจจาเป็นลูกชายแท้ๆ ของตนเองจริงๆ แต่ไม่คิดว่าการมาหมู่บ้านดารายน ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเปลี่ยน ไปเป็นกระอักกระอ่วนใจและทุกข์ใจอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้

บุริศ เหลือบมองกิจจา และมองท่าทางทุกข์ในของนรมน เอ่ย

ขึ้นมาอย่างเย็นชาทันที “กินข้าวตรงหน้าให้หมด แดดไม่สนใจว่าลูกจะไม่เคยชินกับ สถานที่ หรือว่าในใจรู้สึกอะไร ทำให้หม่ามีของลูกเป็นห่วงลูก

ทำไมถูกนะ”

คำพูดนี้ทำให้กิจจามีการตอบสนองทันที

เขารีบพูด “หม่ามี้ อย่าเป็นห่วงผมเลย ผมไม่เป็นไรจริงๆ

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว กินข้าวเถอะ”

นรมนรู้ เรื่องบางเรื่อง ปัญหาบางอย่างในใจกิจจาต้องเป็นคน แก้มันด้วยตนเอง

ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตรินท์ก็คือพ่อที่แท้จริงของเขา เรื่องนี้ไม่มี ทางเปลี่ยนแปลงได้

กิจจายังคิดจะพูดอะไร แต่อ้าปากแล้ว สุดท้ายกลับไม่พูดอะไร อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างอึดอัดใจ

หลังจากนรมนรับประทานอาหารเสร็จก็เก็บโต๊ะทำความ สะอาด บุริศ เหลือบมองกิจจา ด้วยแววตาเรียบเฉย แต่แฝงด้วย ความเย็นชาเล็กน้อย

กิจจารีบวิ่งไปที่ห้องครัว พูดกับนรมน “หม่ามี้ ผมช่วยครับ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวหม่ามทำเอง

นรมนจะให้กิจจาทำได้อย่างไร กิจจามองนรมน รู้สึกเสียใจมาก

“หม่าม ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ หม่ามีอย่าโกรธผมเลยนะ”

“โกรธ? ทำไมหม่ามีต้องโกรธลูกด้วยล่ะ? ”

นรมนเห็นกิจจาเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจมากๆ

กิจจาลังเลใจสักพัก จึงพูดออกมา “ตอนอยู่ในศาลบรรพบุรุษ ผมเมาควันสลบ เลยพูดเรื่องบางอย่างที่ไม่น่าฟังออกมา อาจจะ ทำให้แด๊ดดี้ไม่มีความสุข ผมไม่ได้คิดจะต่อต้านหม่าม และไม่ คิดจะต่อต้านแด๊ดดี้ ผมแค่……….….….……

“เอาล่ะ หม่ามี้เข้าใจ กิจจา ไม่ว่าในใจของลูกจะคิดยังไง หม่า กับบุริศร์ก็เห็นลูกเป็นลูกชายแท้ๆ นี่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงได้”

นรมนลูบศีรษะกิจจาอย่างอ่อนโยน

จู่ๆ กิจจาก็คิดถึงเขมิกาขึ้นมาฉับพลัน คิดถึงแม่ผู้ให้กำเนิด เขาแต่กลับไม่สนใจเขา

เขาคิดว่า ถ้าตนเองเติบโตข้างกายเขมิกา ตอนนี้จะกลายเป็น อย่างไรนะ?

ตนเองเคยเป็นคนธรรมดา ไม่รู้เรื่องอะไร ทุกวันถูกเขมิกา บังคับให้ใช้ความเจ็บป่วยหรือไม่สบายดึงดูดความสนใจของบุรีศร์ ไม่ได้เรียนรู้เรื่องอื่นที่สำคัญ

ถ้าไม่ได้เจอกับกานต์ ถ้าไม่ใช่เพราะได้เจอกับนรมนและคน อื่น เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองจะเป็นอย่างไร

สามารถพูดได้ว่านรมนกับกานต์สร้างกิจจาในตอนนี้ขึ้นมา และตอนนี้เขากำลังสับสนอะไรอยู่?

กิจจาทุกข์ใจทันที

เขาอ้าปาก กำลังจะพูดอะไร ด้านนอกมีเสียงปืนดังขึ้นอย่าง กะทันหัน นรมนอุ้มกิจจาไว้ในอ้อมแขนทันที ทั้งสองคนตกใจ พร้อมกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ