แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 554 คิดถึงลูกคนรักตัวน้อยคนนี้ไม่ได้เหรอ



บทที่ 554 คิดถึงลูกคนรักตัวน้อยคนนี้ไม่ได้เหรอ

“ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ ทำไม? คุณไม่ชอบเหรอ? ” คุณหมอยิ้มบางๆ แต่ในแววตากลับไม่มีรอยยิ้มสักเท่าไหร่

“เอาของของฉันคืนมานะ! ”

นรมนสูดลมหายใจโดยพลัน ตัดสินใจลองเสี่ยงดูสักครั้ง ตราบใดที่สามารถควบคุมคุณหมอเอาไว้ได้ เธอก็จะมีวิธีให้เธอ ส่งของของตนเองมาให้

แต่ทันทีที่นรมนออกแรง เธอพบว่ากระดูกของตนเองเจ็บ เหมือนมีเข็มทิ่มแทง จนต้องส่งเสียงอู้อี้ออกมาอย่างอดไม่ได้ และล้มลงไปบนเตียงทั้งตัวอีกครั้ง

คุณหมอมองเธออย่างเย็นชาและกล่าวว่า “คุณควรเชื่อฟัง ฉันจะดีที่สุด ฉันเป็นหมอ และในฐานะหมอ สามารถช่วยชีวิตคน และก็สามารถฆ่าคนได้ ถ้าคุณอยากตายให้ไวขึ้น

พูดจบ เธอก็หันตัวเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย โดยไม่พูดอะไร ต่อ กา

นรมนรู้สึกเหน็บหนาวหัวใจขึ้นมาฉับพลัน

เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเหมือนกับเข็มทิ่มแทง

ไปทั่วร่างกาย

เธอไม่รู้ว่าคุณหมอทำอะไรกับตนเอง อาจพูดได้ว่านี่คืออาการหลังจากใช้ยาทำให้พละกำลังของร่างกายเกินขีดจำกัด เธอไม่ เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนก็คือ ตอนนี้เธอเหมือน ปคนไร้ค่า

ไม่เพียงแค่เป็นคนไร้ค่า ตอนนี้ยังอยู่ในสถานที่ทุรกันดาร แถมยังถูกคุณหมอคนหนึ่งที่เหมือนจะมีอคติควบคุมเอาไว้

ทําอย่างไรดี?

เธอต้องทําอย่างไรจึงจะสามารถเปลี่ยนสภาพการณ์และ สถานการณ์ตอนนี้ได้?

ส่วนเด็กผู้หญิงก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ถึงแม้คุณหมอจะบอกว่า เธอได้ช่วยชีวิตให้พ้นจากอันตรายแล้ว แต่นรมนไม่ได้เห็นด้วย ดาจึงยังคงไม่วางใจ

ไม่แน่คุณหมอคนนี้อาจจะหลอกเธอก็ได้

เธอพยายามดิ้นรน คิดอยากลุกขึ้น แต่ยิ่งดิ้นรน ความเจ็บ ปวดบนร่างกายก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้น สุดท้ายเธอจำต้องพบ หอบลงบนเตียงผู้ป่วย และทุบตีเตียงผู้ป่วยอย่างรุนแรง

ทำไมถึงทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ด้วย?

ไม่แน่บริศร์กับเจตต์อาจจะรอตนเองไปช่วยอยู่ เธอจะมาติด อยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

นรมนรู้สึกหดหู่ใจ แต่เธอใช้พละกำลังทั้งหมดของร่างกาย และศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่มี ก็ยังไม่สามารถพาตนเองออกไป จากเตียงผู้ป่วยนี้ได้ กลับจะหอบด้วยความเหนื่อยไป
เธอนอนหงายบนเตียง มองไปที่จุดบนเพดาน ก็พบกับกล้อง วงจรปิดเครื่องหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่า โรงพยาบาลที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด

นรมนขมวดคิ้วเบาๆ

เธอไม่กระโตกกระตาก สายตาจ้องมองกล้องวงจรปิด ไม่รู้ว่า คุณหมอกำลังมองเธอจากกล้องอยู่หรือเปล่า

สมองของนรมนทํางานอย่างรวดเร็ว

มองแวบแรกดูเหมือนเป็นโรงพยาบาลที่ไม่มีความพร้อมอย่าง ยิ่ง คิดไม่ถึงว่าในห้องผู้ป่วยจะมีกล่องวงจรปิด นี่มันหมายความ ว่าอะไร?

ดูเหมือนตัวตนของคุณหมอคนนี้จะไม่ธรรมดา

เธอเป็นใครกันนะ?

ตอนนั้นรมนรู้ว่าตนเองไม่มีทางออกไปจากที่นี่ แทนที่จะ

พยายามดิ้นรนแบบนี้ สู้เก็บสะสมกำลังจะดีกว่า และออกไปจาก ที่นี่โดยอาศัยจังหวะตอนที่คุณหมอไม่ได้เตรียมป้องกัน

คิดถึงตรงนี้ นรมนสงบลง จึงสัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอช่าง

ว่างเปล่า

บางทีคุณหมออาจจะพูดถูก เธอรนหาที่ตายจริงๆ

ใช้กำลังของร่างกายเกินขีดจํากัด และชีวิตของตนเอง ก็เพื่อ เป็นคนที่อยู่ในหัวใจของเขาคนนั้น
ในสมองปรากฏภาพความฝันก่อนหน้านี้ไม่นานอีกครั้ง

หรือจะเกิดเรื่องขึ้นกับบริศร์จริงๆ ?

นรมนรู้สึกไม่สบายใจมากๆ

เธอพบว่าคุณหมอไม่ได้เก็บมือถือของตนเองไป แม้แต่มือถือ ของเจคต่ก็ไม่ได้เก็บไปด้วย

นรมนต้องการของความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้จะขอความช่วย เหลือจากใครนะ?

กิมจิไม่รู้หายไปไหน แต่ถึงแม้จะอยู่แถวนี้ ดูจากก่อนหน้านี้ไม่ นานที่เขาต้องการจะฆ่าตัวตาย นรมนก็ไม่กล้าหาเขาง่ายๆ

หากป้องกับโพนี่จะมาที่นี่ต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอ ยังต้องทำให้กานต์ไม่สังเกตเห็น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือไม่ทำให้ พวกเขาโพนี่ตกใจ

ตอนนี้คุณนายตระกูลโตเล็กถูกตรินท์ควบคุมอยู่

จู่ๆ นรมนก็พบว่าตนเองหัวเดียวกระเทียมลีบ

แม้แต่คนที่จะช่วยเธอสักคนก็ไม่มี

นรมนถอนหายใจเบาๆ หยิบมือถือของเจตต์เปิดขึ้นมา คิดหา เบาะแสอะไรสักอย่างจากในนี้ แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ มือถือของ เจตตนอกจากสมุดรายชื่อก็คือสมุดรายชื่อ

เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

ในขณะนั้นเอง นรมนพบว่าเจตต์โทรหาเบอร์หนึ่ง แต่โทรไม่ติด หลังจากนั้นก็ไม่ได้โทรไปอีก

นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ตั้งโต๊ะ

บางทีเจคตอาจจะเกด โทรผิด? นรมนไม่รู้ แต่ลางสังหรณ์บอกเธอว่า นี่อาจจะเป็นเบาะแสหนึ่ง

เธอหยิบมือถือของตนเองกดโทรออกไป

ปลายสายด้งสามครั้งจึงรับสาย

“สวัสดีค่ะ นี่คือโรงแรมอิมพีเรียล ไม่ทราบว่าคุณต้องการ อะไรคะ? ”

เสียงของพนักงานบริการดึงออกมา บรมนชะงักงันเล็กน้อย โรงแรมอิมพีเรียล?

ตอนมาถึงที่นี่เธอยังเคยลังเลที่ประตูโรงแรมอิมพีเรียล โรงแรมอิมพีเรียลที่เจิดจรัสเช่นนี้ หรือว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ เจด?

นรมนรีบตัดสายทิ้ง

หรือว่าเจตต์อยู่ที่โรงแรมอิมพีเรียล

สถานที่ทุรกันดารแบบนี้คิดไม่ถึงว่าจะมีโรงแรมห้าดาว แน่นอนว่าทำให้คนยากที่จะเข้าใจอยู่บ้าง

มองดูผู้คนที่นี่ก็ไม่เหมือนคนที่จะสามารถเข้าพักโรงแรมห้า ดาวได้ แต่ดูแล้วเหมือนกับกิจการของโรงแรมจะไปได้สวย หรือว่าที่นี่จะมีเบื้องหลังอะไรที่เธอไม่รู้?

นโมนขมวดคิ้วเบาๆ ลางสังหรณ์บอกว่าเจตต์อาจจะอยู่ที่ โรงแรมอิมพีเรียล แต่ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าตนเองออกไป ไม่ได้ ถึงแม้จะออกไปได้ เธอตัวคนเดียวไม่รู้อะไรเลย และดู เหมือนจะไม่สามารถบุกเข้าไปในโรงแรมอิมพีเรียลแบบนี้ได้

คิดถึงตรงนี้ นรมนจึงโทรหากานต์

“หม่าม ในที่สุดหม่ามีก็คิดถึงผมคนรักตัวน้อยคนนี้แล้วเหรอ ครับ?”

เสียงของกานต์ขุ่นเคืองเล็กน้อย

นรมนตะลึง และกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันพวก

เราก็วิดีโอคอลไปแล้วไงคะ? ”

“หม่ามีไม่รักผมแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ส่งวิดีโอให้ผมหลายวันแล้ว และก็ไม่โทรมาหา ยังจะมาพูดเหมือนไม่มีอะไรอีก หม่ามีคนรัก ตัวน้อยคนอื่นแล้วเหรอ?

ถึงแม้กานต์จะถามแบบนี้ แต่สามารถฟังออกว่าเขาอารมณ์ดี

มาก

“เอาล่ะ อย่างอแงไร้เหตุผล เล่นกับเรนนี่เป็นไงบ้าง?

“เรียกว่าเล่นอะไรกัน? ผมอยู่เป็นเพื่อนเรนนี่เพื่อทำความคุ้น เตยกับสภาพแวดล้อม”

กานต์ดูเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย มุมปากของนรมนก็ยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

“จ้ะ อยู่เป็นเพื่อน”

“ไข่แล้ว”

กานต์หัวเราะเบาๆ และถามขึ้นมาทันที “หม่ามี คุณบุริศร์ กลับมาหรือยัง? แล้วหาเด็กที่ถูกพาไปขายเจอหรือยังครับ?

ในที่สุดก็ได้ยินลูกชายถามเรื่องนี้ นรมนจึงตอบเสียงเบา “แด๊ดดี้ของลูกยังไม่กลับมา เดาว่าคงไม่นานนี้ ลูกถามถึงเด็กคน นั้นทําไมเหรอ? ”

“เด็กคนนั้นคือพี่สาวของเรนนี่ ชื่อมายด์ เรนนี่เอาแต่เป็นห่วง อยู่ตลอด ผมจึงถามดู

สำหรับกานต์ ไม่มีอะไรที่บุริศร์ทำไม่ได้ เพียงแค่หาพ่อค้าหนึ่ง

คน เขาไม่มีทางคาดคิดว่าตอนนี้บุริศร์จะหายตัวไป แถมนรมน

มาที่ เมืองA

พอได้รู้ตัวตนของเด็กผู้หญิง นรมนก็ชะงักงันเล็กน้อย บางที อาจจะเป็นฝีมือของพระเจ้า ที่ทำให้เธอช่วยชีวิตมายด์ มิฉะนั้นไม่ รู้ว่าเรนนี่จะเสียใจมากแค่ไหน

นึกถึงชะตาชีวิตที่ขมขื่นของมายด์กับเรนนี่ นรมนรู้สึกทุกข์ใจ เล็กน้อย

“หม่ามี้จะบอกกับแด๊ดดี้ของลูก ให้เขาพยายามช่วยมาย ออกมาให้ได้ ลูกวางใจได้เลย
ตอนนั้นรมนไม่สามารถบอกกับลูกชายได้ว่าเจอมายแล้ว ทําได้เพียงเล่นละครตบตาเขา

กานต์กลับพูดด้วยความดีใจสุดๆ : “ขอบคุณครับหม่า ว่า แต่ หม่ามีโทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ? “

“ต้องมีธุระหม่ามีถึงจะโทรหาลูกใต้เหรอ? ไหนบอกว่าลูกเป็น คนรักตัวน้อยของหม่าม หม่ามีจะคิดถึงลูกคนรักตัวน้อยของหม่า มีไม่ได้เหรอ? ”

คำพูดของนรมนูทําให้กานต์หัวเราะขึ้นมา

“หม่ามี้ ถึงแม้ผมจะชอบคำนี้มาก แต่รบกวนหม่ามีพูดสิ่งที่ ตนเองต้องการมาเถอะครับ”

“ไอ้เด็กหน้าเหม็น เสแสร้งสักหน่อยจะตายเหรอ? นรมนรู้สึกว่าตนเองน่าขายหน้ามาก

ในสถานการณ์ที่อับจนเช่นนี้ สามารถได้ยินเสียงหวานหวาน ของลูกชาย สามารถพูดจาหยอกล้อกับเขา นรมนยังไม่รู้สึกสิ้น หวัง

กานต์กลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม : “หม่า ตอนนี้เป็นที่อยู่ในบ้าน คุณอาป้องดูจุ่มง่ามมาก มีสิ่งของมากมายที่เธอใช้ไม่เป็น ผม ต้องไปสอนเธอ ถ้าหม่าไม่มีธุระจริง ผมต้องขอตัววางสายก่อน นะครับ”

“ไอ้เด็กหน้าเหม็น มีคนบอกว่าแต่งเมียแล้วจะลืมแม่ นี่ลูกยัง ไม่แต่งงานมีเมียเลยนะ”
นรมนูรู้สึกอิจฉาขึ้นมาอย่างไม่ตั้งตัว

กานต์หลุดหัวเราะออกมา

“หม่ามี เรนนี่เป็นแค่เพียงพี่สาวของผม แม่คิดมากไปแล้ว ครับ”

“อืม จ้ะ แม่คิดมากไป ไอ้เด็กหน้าเหม็น ช่วยแม่หาโรงแรม หน่อยสิคะ”

นโมนตัดสินใจไม่เบี่ยงประเด็นกับลูกชายแล้ว มิฉะนั้นรับรอง ได้ว่าตนเองต้องอิจฉาจนบ้าตายแน่

พอกานต์ได้ยินว่าต้องการหาโรงแรมปุ๊บ ก็อดถามไม่ได้ “หม่าม หม่าจะไปเที่ยวเหรอครับ? จะไปกับคุณบุริศร์สอง คน? หรือจะพาพวกผมไปด้วย?

“ไม่ได้ไปเที่ยวจ้ะ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย ลูกช่วยหม่ามี้ตรวจ สอบให้หน่อยว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลัง โรงแรมอิมพีเรียลคือใคร ที่ เมืองA”

นโมนพูดจบ กานต์ก็ชะงักไป

“หม่ามี้ หม่ามีไป เมืองแล้วเหรอครับ?”

“เปล่าจ๊ะ แค่อยากตรวจสอบโรงแรมนี้ แม่มีธุระ นรมนแปลกใจกับสัญชาตญาณของลูกชาย แต่กลับไม่กล้าย อมรับ ทําได้เพียงลวกลวกขอผ่านไปที่

โชคดีที่กานต่ไม่ได้ถามซักไข้
“ได้ครับ อีกสักพักผมจะให้ข้อมูลกับหม่ามี

หลังจากทั้งสองคนวางสายลง นรมนก็พบว่ามีใครบางคนอยู่ ด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว

เธอหันไปทันที ก็พบคุณหมอกำลังมองเธอด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ดูเหมือนเป็นวิญญาณ

เธอเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?

ได้ยินไปแค่ไหน?

ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคุณหมอเลยสักนิดเดียว?

นรมนรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที

“คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? ว่าต้องเคาะประตูก่อนหรือไง? คุณหมอ ก่อนเข้าห้องคนอื่นไม่รู้

น้ำเสียงของนรมนไม่ดีมากๆ

ไม่ว่าจะเป็นใคร ถูกคนแอบฟังเตาว่าทุกคนคงรู้สึกไม่ดีเอา

มากๆ

คุณหมอกลับเหมือนจะไม่ได้ยิน เธอมองมือถือในมือของนร มน และเอ่ยถามเสียงเบา: “คุณโทรหาใคร? ”

“มันเกี่ยวอะไรกับคุณ? หรือจะบอกว่าแม้แต่มือถือของฉันคุณ ก็จะยึดไปด้วย? ”

นรมนออกแรงดึงมือถือไว้ในมืออย่างตึงเครียด
ตอนนี้นี่คือสิ่งเดียวที่เธอสามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ไม่ สามารถถูกคุณหมอ อคติคนนี้เอาไปได้

ราวกับว่าคุณหมอมองเห็นการระมัดระวังของนรมน จึงตอบ เสียงเบา “คุณวางใจเถอะ ฉันไม่คิดจะเอามือถือของคุณไป หรอก มิฉะนั้นตอนนี้คุณคงไม่ได้ถือมันอยู่ ฉันแค่อยากรู้ว่า คุณ โทรหาใคร? ”

“ฉันจะโทรหาใครมันสำคัญอย่างไร? *

นโมนพบว่าคุณหมอมีน้ำตาซึมออกมาจากหางตา สีหน้า ท่าทางยิ่งโศกเศร้า แต่เธอยังไม่กล้าคลายความระมัดระวัง

คุณหมอมองนรมน มองอยู่นานสองนาน นานเสียจนนรมนคิด ว่าเธอจะมองแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “เด็กผู้ หญิงคนนั้นฟื้นแล้ว ถ้าคุณอยากจะไปดู ฉันสามารถเข็นคุณไป

นรมนคิดว่าคุณหมอจะวุ่นวายกับหัวข้อที่ว่าเธอโทรหาใคร คิดไม่ถึงว่าเธอจะเปลี่ยนหัวข้ออย่างฉับพลัน และหัวข้อที่พูดขึ้น มาก็ตรงกับสิ่งที่ตอนนี้เธอต้องการรู้ที่สุด

“ฉันอยากไปหาเธอ”

นรมนรีบร้อนมาก แต่คุณหมอกลับก้มตัวลง ขยับเข้ามาใกล้ ตรงหน้าของนรมน และกล่าวเสียงเบาว่า : “สามารถไปหาเธอ ได้ แต่คุณจําเป็นต้องรับปากเงื่อนไขข้อหนึ่งกับฉัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ