แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 770 ฉันมีความสามารถแบกรับภาระที่กดดันได้



บทที่ 770 ฉันมีความสามารถแบกรับภาระที่กดดันได้

มองไปยังดวงตาที่สุกสกาวของนรมน บุริศร์ยิ้มพร้อมทั้งลูบไปที่ จมูกของเธอ

“ทำไมจะไม่ได้? ภรรยาของผมจะวาดรูปให้ทั้งที อย่างไรผมก็ จะหาเวลามาให้ได้”

“ตอนนี้ปากคุณทาน้ำผึ้งมาหรือ หวานจังเลย รับไม่ไหวแล้ว นรมนรีบส่ายหน้า จากนั้นจึงรีบหมุนกายเดินไป

บุริศร์จับมือของเธอและพูดว่า “รับผมไม่ไหวแล้วคุณจะไปรับ ใคร?”

“ไม่รู้สิ บางทีคงจะหาคนที่เขาไม่ค่อยพูด

“คุณกล้า!”

“คุณคิดว่าฉันกล้าไหม

นรมนหันหลังกลับและวิ่งหนีไป

“ถ้ากล้า ก็อย่าหนีสิ!”

บริศ วิ่งไล่ตาม

นรมนยิ้มขณะวิ่ง และพูดว่า “ฉันไม่ใช่ผู้ชาย จะมีความกล้าได้

ไงเล่า”

“หยุดตรงนั้นเลย!”
“จับฉันให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพูด

นรมนและบุรีศร์กำลังวิ่งไล่จับกันตามถนนราวกับเด็กน้อยสอง

คน

เสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องไปทั่ว มันบริสุทธิ์และสะอาด ทำให้จิตใจผู้คนเบิกบาน

ทั้งสองไม่สนสายตาใครอื่นใด หัวเราะเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตามอำเภอใจ จนกระทั่งนรมนเหนื่อยและนั่งลงตรงขอบปูน แต่ กลับถูกบุริศร์ดึงขึ้นมา

“ทำอะไร? ฉันเหนื่อยจะตายแล้วนะ”

นโมนทําตัวเหมือนเด็กที่กำลังงอนงอแง

บุรีศร์ไม่ได้พูดอะไร และถอดเสื้อของเขาออก จากนั้นก็ปลง บนบันไดหินของปูน

“นั่งเถอะ เพิ่งเหงื่อออก อย่าให้เย็น

นรมนมองไปที่เสื้อคลุมข้างบน และพูดด้วยรอยยิ้ม “หมื่นกัน เสื้อนี่มีค่ากี่หมื่นกัน”

“ดูคุณท่าทางจะเป็นเศรษฐีขี้เหนียว กี่หมื่นก็ไม่สำคัญเท่า ร่างกายคุณหรอกนะ ผมหาเงินมาไม่ใช่เพื่อให้คุณและลูกๆ ใช้ จ่ายหรือ? อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าคุณคุยกับชาญแล้วหรือ? ครอบครัว ที่ยากจนของเราประหยัดเงิน เสื้อตัวละไม่กี่หมื่นนี่จะไปสนอะไร? พรุ่งนี้เริ่มเลย เมียของผมจะดื่มนมเปรี้ยวหนึ่งขวดในเทหนึ่ง ขวด”
นรมนไปยังท่าทางโกรธจัดของบุรีศร์ตอนนี้ ก่อนจะยิ้มและพูด “ทำไมต้องดื่มหนึ่งขวดรินเทอีกหนึ่งขวด?”

“มีสไตล์! ครอบครัวพวกเราสิ้นเปลือง”

“บุริศร์ คุณจะลำพองใจไปแล้ว”

นรมนแหย่ไปที่หัวของบุริศร์

บุริศร์นั่งลงข้างๆ เธออย่างไม่สนใจสักนิด

“มีคนที่สวยงามเช่นคุณเช่นนี้ ฉันไม่ลำพองใจไม่ได้

“หยุด หยุดเถอะ ร่ำรวยขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้ไม่เหมาะกับคุณ จริงๆ ประธานบริศร์ รักษาความเยือกเย็นของคุณเอาไว้ ขอบคุณ คะ”

นรมนหัวเราะจนตัวงอ

“ดีใจที่ได้เป็นตัวตลกของคุณนะครับ คุณผู้หญิงนรมน ผมมี ข่าวร้ายจะบอกคุณ”

บริศ กล่าวอย่างจริงจัง

“พูดมา ฉันมีความสามารถในการรับเรื่องกดดันมาก นรมนพิงไหล่ของบุริศร์และหาว

ขาดแคลนการออกกำลังกาย นึกไม่ถึงว่าจะเหนื่อย

บุริศร์ให้เธอหาตำแหน่งที่สบาย หลังจากนั้นจึงพูด “รถของ พวกเราห่างจากพวกเราประมาณห้ากิโล ทำอย่างไรดี? พวกเราเดินกลับไหม?”

“อ่า?”

นรมนรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

“เหนื่อย! ฉันไม่อยากเดินไป

“ให้ผมอุ้มไหม?”

ข้อเสนอของบริศ ทำให้ดวงตาของนรมนเป็นประกาย

“คุณแบกฉันรอดหรือ? ช่วงนี้ฉันหนักนะ”

“คุณจะกลายเป็นหมู ผมก็แบกไหวนา”

“บุริศร์ คุณนั่นแหละหมู

จู่ๆ นรมนก็ไม่อยากฟัง

บุริศร์ยิ้มและพูด “ใช่ ผมเป็นหมู และแบกภรรยา” นรมนจะฟังอย่างไรก็รู้สึกว่าบุริศร์กำลังด่าตัวเอง

“หึ นั่งยองลง! ฉันจะขึ้นข้างหลัง

เธอตบบุริศร์ให้นั่งลง

บุริศร์ก็ให้ความร่วมมือและนั่งยองๆ

เมื่อมองไปยังแผ่นหลังหนาของบุริศร์ นรมนก็รู้สึกอบอุ่น

ปลอดภัย

“ขึ้นมาสิ! มองหาอะไรอยู่เล่า!!
“ฉันดูว่าจะขึ้นอย่างไร

นโมนจะไม่บอกว่าเธอหลงใหลในแผ่นหลังของบุริศ เพียงใด

บริศร์แบกนรมนขึ้นหลัง จากนั้นเดินกลับช้าๆ

นรมนฟุบหน้าลงบนไหล่ของเขา สัมผัสได้ถึงลมหายใจของ ชายหนุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของบุริศร์ที่พัดผ่านผ่านใบหน้าของตัว เอง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคลิ้ม

“บุริศร์ ฉันง่วงแล้ว”

“นอนเถอะ ถึงบ้านแล้วผมจะเรียก

ใบหน้าของบริศร์ตามใจ

นรมนก็ไม่ได้ทำตัวไร้เหตุผลเช่นกัน เธอฟบนอนลงบนไหล่ของ บุริศร์ และหลับไปไม่นาน

เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของนรมน ริมฝีปากของบุริศร์ก็แย้ม ขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าถนนสายนี้จะไม่มีวันสิ้นสุด เข เขา สามารถเดินไปได้ตลอดทางโดยมีนรมนอยู่บนหลังของเขาไปยัง ที่รกร้างจนถึงจุดสิ้นสุดของโลก

เมื่อบริศร์ส่งนรมนกลับไปยังบ้านทวีทรัพย์ธาดา ทั้งธรณีและ ธรรศก็ยังไม่ได้นอน

เมื่อเห็นนรมนนอนหลับสนิทอยู่บนหลังของบุริศร์ เขาก็อดไม่ ได้ที่จะพูดว่า “นี่เด็กคนนี้ที่แท้ออกไปเที่ยวเล่นกับนายหรือ? ฉันก็นึกว่าเธอออกไปทําอะไร ไม่บอกพวกเรา ทำให้มันเป็นเรื่อง ลึกลับ กลัวมากว่าเธอออกไปคนเดียวจะเจออะไรเข้า นี่กี่โมง ยามแล้ว ถึงเพิ่งจะกลับมากัน โตเป็นสาวเป็นแส้แต่งงานแล้วยัง จะออกไปเที่ยวเล่น”

บุริศร์ยิ้มและส่งนรมนกลับไปที่ห้อง

ธรรศยืนพิงประตูดู มองบุริศร์ถอดรองเท้าให้นรมนออกอย่าง ระมัดระวัง จากนั้นห่มผ้าให้ออกจากห้องด้วยเสียงอันเบา จึง ค่อยเปิดปากพูด “นอนที่นี่เถอะ จะได้ไม่ต้องกลับไปมา

“ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องกลับไปบริษัทพฤกษ์รอยู่ บริศ บอกลาธรรศและธรณี แล้วก็จากไป นรมนนอนหลับอย่างปลอดภัยตลอดทั้งคืน เมื่อตื่นนอนมาก็เป็นเวลาเช้าแล้ว

เธอมองไปที่ห้องที่ค่อนข้างคุ้นเคย แต่ก็ไม่คุ้นเคย อดไม่ได้ที่ จะนิ่งไปครู่

เมื่อคืนเธอไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นกับบุริศร์หรือ?

กลับมาเมื่อไหร่กัน?

ตัวเองมานอนที่เตียงได้อย่างไร?

เธอจําไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่นรมนแปรงฟันและล้างหน้าแล้ว เธอก็ลงไปชั้นล่าง เมื่อเห็นธรรศกำลังทำอาหารเช้าอยู่ อดไม่ได้ที่จะทักทาย
“อาสาม อรุณสวัสดิ์ค่ะ

“อืม อรุณสวัสดิ์ ยังจำได้ว่าต้องกลับมา บอกว่าให้อาเหลือ ข้าวไว้ให้แล้วเป็นไงสุดท้ายก็ถูกบุริศร์แบกกลับมา นอนหลับ เหมือนหมู”

คำพูดหยอกล้อของธรรศ ทำให้นมันค่อนข้างเหนียมอาย

“ลืมแล้วค่ะ เมื่อวานหนูไปกินข้าวข้างนอกมากับบุริศร์” “กินแล้วก็ไม่รู้จักโทรกลับมา หนูนะ โตแล้วทำตัวเป็นเด็กๆ”

ธรรคที่พูดไม่หยุด ทำให้นรมนรู้สึกอบอุ่น เธอแลบลิ้นใส่ธรรศ แล้ววิ่งไปดูเด็กๆ ธรณีผลักรถเข็นเข้ามา

นายชอบพูดมาก ไม่กลัวนรมนหนีไปหรือ

ได้อย่างไรละ? นายต่างก็ไม่รู้ เมื่อวานตอนฉันเห็นบุริศร์แบก นรมนกลับมา จู่ๆก็คิดไปว่า ถ้าหากพี่ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ นรมน ตอนเด็กบางทีก็คงถูกพี่ใหญ่เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แต่เธอแต่ไหน แต่ไรมาก็ไม่เคยเห็นพี่ใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะให้พ่ออุ้ม

คำพูดของธรรคทำให้ธรณีถอนหายใจ

“ความเสียดายมันทดแทนกันไม่ได้ ได้แต่เพียงหวังว่าให้เธอมี ชีวิตที่แข็งแรงและสงบสุขก็นับว่าดีมากแล้ว”

“อืม นรมนเป็นลูกคนเดียวของพี่ใหญ่ พวกเราจะปล่อยให้เธอ ทำอะไรที่เกิดปัญหาไม่ได้ เมื่อวานตอนค่ำโชคดีที่เธอออกไปกับบุริศร์ ตอนนี้เมืองชลธีปัญหาเยอะเหลือเกิน ฉันกลัวเหลือเกินว่า เธอจะไม่รู้หนักเบาเพราะเรื่องของเจตต์ ”

คำพูดของธรรคทำให้ธรณีชะงักไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ ได้พูดอะไร

หลังจากที่นรมนดูแลเด็กๆ แล้วเสร็จ เธอก็กลับไปที่ห้อง

อาหาร และได้เห็นว่าธรรคได้เตรียมอาหารไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

บอกตามตรงว่า อาหารของธรรศนั้นอร่อยจริงๆ

ณ จุดนี้กมลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งกับธรรศอย่างรวดเร็ว กิจจากินอย่างเงียบ ๆ และในบางครั้งก็ตักอาหารให้นมน

“ขอบใจนะคะกิจจา

นรมนมีความสุขมาก

กมลก็ไม่น้อยหน้า ตักตีนไก่อันโตให้นรมน

“หม่าม เมื่อวานออกไปข้างนอกทำอะไรเหรอคะ? เอานี่ หนูตก ตีนไก่ให้ เสริมแรงของหม่ามี

“ขอบใจนะคะกมล แต่หม่ามีไม่อยากทาน กมลทานเถอะนะ

“หม่ามีกินเถอะ หนูมีอีก อาสามปีกไก่โค้กให้หนู อร่อย มากเลย”

ตราบใดที่ยังมีอาหาร กมลก็เป็นเด็กดี

สักพักทั้งครอบครัวก็หัวเราะขึ้นมา
นรมนยังคงอยู่ในบ้านทวีทรัพย์ธาดาต่อไป

เมื่อกานต์ที่อยู่ฝั่งนั่นเรียบร้อยดีแล้ว เขาโทรศัพท์หานรมน บอกว่าไม่กี่วันถึงจะกลับ ไม่ให้นรมนเป็นกังวลใจ

กมลได้ไปเรียนกับกิจจาแล้วภายใต้การจัดการของคนตระกูล

ทวีทรัพย์ธาดา

นโมนเริ่มชาร์จเวลาของตัวเอง

ตอนกลางวันเธอยังตัวเองอยู่ในห้องทำงาน เพื่อออกแบบ รูปภาพ หลังจากจบการวิดีโอคอลกับบุริศร์ในตอนเย็น ก็เริ่ม

วาดรูป

บางครั้งเมื่อเธอนอนดึก ธรรศก็เข้ามาบังคับให้เธอพักผ่อน

ครึ่งเดือนผ่านไป

บริศ ดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดภายในตระกูลโต เล็ก, ในบริษัทแตกตื่นชั่วขณะ หลายคนที่ทำงานให้ตระกูลโต เล็กเป็นเวลาหลายปีออกจากบริษัทฮัวกรุ๊ปจำกัดอย่างลึกลับ แต่ไม่มีใครบอกเหตุผล กลับจากไปอย่างง่ายดาย พนักงานที่ ออกจากตระกูลโตเล็กแล้ว ส่วนมากจะออกจากเมืองชลธีในวัน รุ่งขึ้น และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

นรมนได้ออกแบบภาพวาดเบื้องต้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่าน มา แต่ก็ยังคงมีที่ไม่สมบูรณ์นัก

เทย่าขอให้นรมนไปหามากกว่าหนึ่งครั้งในช่วงสองสัปดาห์ที่ ผ่านมา แต่ก็ถูกนรมนปฏิเสธ
คืนวันอย่างนี้นรมนคิดว่ามันจะดำเนินต่อไปอย่างเป็นระเบียบ ต่อไป แต่กลับโดนเจต ทําลายความเงียบสงบด้วยการโทรศัพท์ มาหา

“เป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อนรมนเห็นเจตต์โทรมาเธออึดอัดใจเล็กน้อย

เจตต์พูดเสียงต่ำ “นิตาหนีไปแล้ว”

นรมนนิ่งไป

เธอไม่ได้ถามเกี่ยวกับนิตาเลยในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา นิตาถูกส่งไปในมือเจตต์ เจตต์คิดอยากจะจัดการกับนิตา อย่างไร เธอไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้

และทุกครั้งที่เทย่าเชิญตัวเอง เธอไม่เคยพูดถึงนิตาเลย เมื่อ

เวลาผ่านไปนรมน ก็ลืมคนนี้ออกไปจากสมอง

ตอนนี้ที่เจตต์พูดถึงนิตา นรมนก็ไม่มีสติไปชั่วครู่

“หนีไปแล้วหมายความว่าอะไร?”

“หนีไปแล้วก็คือหนีไปแล้ว นรมน ตลอดชั่วชีวิตนี้ของฉันคงถูก กําหนดมาให้โสดแล้วละ

เจตต์หัวเราะแกมประชดประชัน แต่กลับทำให้ใจของนรมน

รู้สึกเป็นทุกข์

“บางทีบุพเพของคุณคงยังไม่มา ไม่ต้องคิดมากแล้ว บุญคุณ ความแค้นระหว่างคุณกับนิตา ในเมื่อไม่สามารถทำให้มันหมดสิ้นไปได้ เธอจะหนีก็หนีไปเถอะ ถ้ามันเป็นของคุณมันก็จะเป็น ของคุณ ไม่ใช่ของคุณก็บังคับให้อยู่ไม่ได้

“บางทีนะ คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า ผมก็หาเรื่องให้คุณ จะบอกคุณ ให้นะ นิตาเป็นคนใจแคบ เธอมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณ ผม กลัวหลังจากเธอหนีไปอาจจะไปทำอะไรคุณก็ได้ ระวังไว้หน่อย

เมื่อได้ยินคำพูดของเจตต์ นรมนรีบพูดว่า “ฉันรู้แล้ว ไม่ต้อง กังวลไป ฉันอยู่ที่บ้านทวีทรัพย์ธาดา ไม่มีอะไรหรอก”

ในขณะที่เธอกำลังพูด จู่ๆนรมนก็ได้ยินเสียง “ปัง” จากข้าง นอกหน้าต่าง ราวกับเสียงของตกดังเข้ามา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ