แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1276 คุณทำตัวให้เหมาะสมหน่อยได้ไหม



บทที่ 1276 คุณทำตัวให้เหมาะสมหน่อยได้ไหม

บริศ เห็นดวงตาที่เปล่งประกายของนรมนแล้ว ความทุกข์

ทั้งหมด ในใจก็จางหายไป

จริงๆแล้วสิ่งที่เขาต้องการในชีวิตนี้ธรรมดามากๆ แค่ได้ใช้ ชีวิตเรียบๆง่ายๆ ในแต่ละวันกับคนที่ตนเองรักก็เพียงพอแล้ว

“ภรรยาอยากไปไหนก็ไปที่นั่น!”

กมลที่อยู่ข้างหลังจึงแสดงอาการขนลุกขนชั้นออกมา “พี่กิจจา หนูคิดว่าพวกเราเหมาะจะไปนั่งที่รถคันข้างหลังนั้น นะ”

“แค่กๆ”

กิจจารีบก้มหน้า แต่มุมปากกลับอมยิ้ม อารมณ์ดีสุดๆเลย นรมน โดนลูกสาวของตนเองหยอกล้อ จึงค่อนข้างทำตัวไม่ถูก

แล้ว

เธอผลักบุริศร์แล้วพูดขึ้น “คุณทำตัวให้เหมาะสมหน่อยได้

ไหม?”

“ที่ผมพูดเป็นความในใจทั้งนั้นนะ

“แหวะ!”

กมลทำท่าคลื่นไส้ออกมาอย่างไม่ไว้หน้าทันที ทำให้บริศร์ต้องช่าเลืองไปมอง

“ไม่สบายเหรอ?”

กมลรีบพูด “ใช่ๆๆ น่าจะเมารถนิดหน่อย หนูกับพี่กิจจาไปนั่ง รถคันข้างหลังดีกว่า อ้อหม่า หนูอยากไปสิบสองปันนา หม่าม เคยรับปากหนูไว้แล้วนะ!”

พูดจบเธอก็ไม่สนใจแล้วว่านรมนกับบริศร์จะมีท่าทียังไง เปิด ประตูดึงกิจจาลงไปจากรถ แล้วยังหันกลับมาแลบลิ้นใส่บุริศร์ อย่างซุกซน ทำหน้าตาทะเล้น

กิจจาหัวเราะพรวดออกมา

กล้าท้าทายบุริศร์อย่างนี้ ก็มีแค่กมลเท่านั้นแหละ

ทั้งสองคนรีบไปที่รถคันข้างหลัง

นรมนพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด “คุณดูสิ พูดอะไรต่อหน้า เด็กๆเนี่ย?!

“พวกเขาควรจะโตได้แล้ว แด๊ดดี้กับหม่ามีอยู่ด้วยกันถ้ามอง อะไรไม่ออกบ้างเลย คงต้องบริหารไอคิวหน่อยแล้วมั้ง

คำพูดที่หน้าไม่อายของบุริศร์ทำให้นรมนพูดไม่ออกจริงๆ

“เลิกกวนได้แล้ว รีบเดินทางเถอะ คุณไม่ได้ยินที่ลูกสาวคุณ บอกว่าจะไปสิบสองปันนาเหรอ?”

“เธอก็ไปเพื่อกินสินะ! ฤดูกาลนี้ระหว่างทางไปสิบสองปันนา เต็มไปด้วยผลไม้อร่อยๆทั้งนั้น
บริศ เข้าใจลูกสาวของตนเองเกินไปแล้ว

นรมนนึกถึงภาพนักกินตัวน้อยของกมลแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะ ยิ้ม “กมลที่เป็นแบบนั้นฉันรู้สึกว่าค่อนข้างเข้าถึงได้ง่ายกว่า

“คุณมีความสุขก็พอ ยัยเด็กแสบนั่นก็มีบุคลิกชอบกินอยู่ พอตัวเลย”

บุริศร์นึกถึงการกินของกมล จึงยิ้มออกมาโดยปริยาย

รถออกตัวแล้ว บุริศร์กลัวว่านรมนจะเหนื่อย จึงปรับที่นั่งของ เธอให้นอนราบลงไป

“นอนสักหน่อย ยังอีกไกล

“เราจะไปจากหมู่บ้านดารายนอย่างนี้ มันไม่ดีหรือเปล่า?” นรมนคิดอยู่ตลอดว่าที่บุริศร์มาที่หมู่บ้านดารายนน่าจะมีธุระ ต้องจัดการ แต่วันนี้ไม่นึกว่าถือโอกาสมาทำความสะอาดสุสาน ของครินท์แล้วก็จะไปสิบสองปันนาตามความต้องการของกมล เลย ไร้สาระเกินไปหน่อยไหม?

แต่บุริศร์กลับยิ้ม “พวกเรามาที่ฝั่งนี้ก็เพื่อท่องเที่ยว ในเมื่อ กมลอยากไปกินที่สิบสองปันนา พวกเราก็ไปเที่ยวตามอำเภอใจ สักหน่อย อีกอย่าง พวกเราเพิ่งถึงหมู่บ้านดารายนก็โดนโจมตี อย่างไม่คาดคิด ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก ใครก็บอกไม่ได้ เมื่อเป็น เช่นนี้ ทำไมพวกเราถึงต้องเป็นเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้รอให้ พวกเขามารวบตัวพวกเราที่หมู่บ้านดารายนล่ะ? คงไม่ดีเท่าเดิน ทางไปเรื่อยเปื่อย อยากไปไหนก็ไป อาจจะเจอโอกาสได้ตอบโต้กลับบ้างนะ”

นรมนเข้าใจได้ในทันที

บุริศร์จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ คุณจะไม่รู้เลยว่าในใจของเขากำลังคิด อะไรอยู่ แต่โชคดีที่นรมนซินแล้วกับบริศร์ที่เป็นอย่างนี้ นอกจาก ความเชื่อใจก็คือความเชื่อใจนั่นแหละ

“จะพูดยังไงก็เป็นความหลักแหลมของคุณทั้งนั้น

“ไม่เป็นความหลักแหลมของภรรยาต่างหาก”

บริศร์โน้มเข้าไปหาทันที

คนขับรถที่ด้านหน้าเอาแผงกั้นขึ้นอย่างเข้าใจสถานการณ์

ใบหน้าของนรมนแดงขึ้นมาทันที

“คุณทำตัวให้เหมาะสมหน่อยได้ไหม? มีคนขับรถอยู่นะ”

“ภรรยา ผมทําตัวเหมาะสมมากแล้วนะ แค่อยากนอนกอดคุณ สักหน่อย ไม่มีความคิดอย่างอื่นเลย

บุริศร์เห็นนรมนเคอะเขิน จึงอดขำไม่ได้

“คุณยังจะหัวเราะอีก”

นรมนรู้สึกว่าอยู่ต่อหน้าของบุริศร์แล้วตนเองสู้ไม่ได้เลยจริงๆ

“ฮ่าๆๆ!”

บุริศร์ไม่เพียงไม่มีท่าทีอ่อนลง แต่กลับหัวเราะดังขึ้นไปอีก
บรมนหมดหนทาง จึงก้มไปที่คอของเขา ประทับริมฝีปากลง ไปทันที

สัมผัสที่อ่อนโยนทำให้บริศตะลึงเล็กน้อย แล้วตามมาด้วย ความประหลาดใจ

ตอนนี้ภรรยาตัวน้อยของเขาเป็นฝ่ายรุกบ้างแล้วนะ

ไม่เลวๆ!

สองมือของเขาโอบไปที่เอวของนรมน ค่อยๆจูบอย่างลึกซึ้ง หลังจากกมลกับกิจจาขึ้นไปอยู่บนรถคันข้างหลังแล้ว จู่ๆเธอก็ กอดแขนของกิจจาเอาไว้ ยิ้มเจ้าเล่ห์

“พี่กิจจา พี่บอกมานะผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร?

กิจจาชะงักเล็กน้อย พูดขึ้นด้วยสัญชาตญาณ “แด๊ดดี้บอกไป แล้วไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นคนทำความสะอาด……

“พี่กิจจา อย่าเอาลูกไม้ที่แด๊ดดี้ใช้หลอกหม่ามาใช้กับหนูนะ หม่ามีก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อหน้าแด๊ดดี้ เท่านั้นแหละ หนูไม่อยากแกล้งไม่รู้เรื่อง ผู้ชายคนเมื่อกี้หน้าตา หล่อใช้ได้เลย อีกอย่างค่อนข้างเหมือนแด๊ดดี้ด้วย เขาเป็นใคร เหรอ?”

กิจจาไม่รู้มาก่อนเลยว่ากมลจะช่างสังเกตเช่นนี้ โดนเธอพูด ฉีกหน้าขนาดนี้ จึงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

“กมล พี่…”
“พี่กิจจา พี่ไม่รักหนูแล้ว”

กมลเบะปากเล็กๆขึ้นมาทันที น้ำตาใสๆ ที่เอ่อล้นอยู่ในเบ้าตา จะร่วงลงมาให้ได้ เห็นแล้วใจจะสลาย

กิจจาหมดแรงต่อต้านอย่างฉับพลัน

“กมล อย่าร้องนะ พี่บอก พี่บอกแล้วโอเคไหม?”

“พี่กิจจาดีที่สุดเลย? !”

กมลรีบยิ้มทั้งน้ำตา กอดแล้วจุ๊บกิจจาโดยไม่ให้ตั้งตัว

หน้ากิจจาแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

“เธอๆๆ…..”

“หนูๆๆๆ! หนูอะไรเหรอ?”

จุ๊บที่ซุกซนของกมลทำให้กิจจาตะลึงงันเล็กน้อย ฉากนี้คุ้นตามากเลยนะ!

ไม่นานก่อนหน้านี้บุณพจน์เหมือนจะโดนแด๊ดดี้ตอบโต้อย่างนี้ สินะ?

วินาทีนี้กิจจาถึงได้เข้าใจความรู้สึกหมดหนทางของบุณพจน์ แล้ว

เผชิญหน้ากับคนที่ตนเองใส่ใจ ต่อให้โดนตอบโต้ก็ยังอยาก ตามใจเหมือนเดิมจู่ๆเขาก็ค่อนข้างเข้าใจบุณพจน์แล้ว
“พี่กิจจา พี่กำลังคิดอะไรอยู่?

กมลเห็นกิจจาเหม่อลอย จึงรีบยื่นมือออกไปโบกๆที่ด้านหน้า ของเขา

กิจจารีบดึงสติกลับมา

“ไม่มีอะไร นึกถึงบางเรื่องน่ะ เธอไม่ได้อยากรู้ตัวตนของผู้ชาย คนนั้นเหรอ?”

“ใช่สิ งั้นพี่รีบๆบอกหนูมา”

กมลหน้าตาสงสัย

กิจจายิ้มแล้วขยี้ๆหัวของเธอ “คนนั้นคือบุณพจน์ พวกเราน่า จะเรียกเขาว่าคุณลุงนะ”

“บุณพจน์? ”

กมลชะงักเล็กน้อย

“เหมือนจะไม่คล้ายกับที่หนูคิดไว้เลย หนูรู้สึกว่าคุณพจน์น่าจะ เป็นคนที่ไร้ความเห็นอกเห็นใจคนหนึ่ง ต้องปฏิบัติกับพวกเรา อย่างเย็นชาติถึงจะถูก แต่ที่หนูเห็นเมื่อเขาเหมือนจะเป็นคน รองรับอารมณ์ที่โดนแดดดี้รังแกมากกว่า เฮ้อ น่าผิดหวัง

กมลสายๆหัว หน้าตาเสียดาย

กิจจาตะลึงเล็กน้อย

ปฏิกิริยาของกมลต่างจากคนทั่วไปจริงๆ
นี่เธอไม่ควรจะสนใจความสัมพันธ์ระหว่างบุณพจน์กับพวกเขา จริงๆเหรอ?

“กมล รู้จักบุณพจน์ด้วยเหรอ?”

“รู้สิ ก่อนหน้านี้นานมากแล้วพี่ก็เคยสืบหาข้อมูลของคนๆนี้ไง หนูแอบดูตั้งหลายครั้ง พี่ก็ไม่ได้ห้าม ตามที่บอกกันว่าเขาเคยเข้า ร่วมการประเมินกองกำลังทหารที่ต่างประเทศ ทั้งยังเป็นคนที่ โดดเด่นในกองกำลังทหารต่างประเทศมาโดยตลอด ถึงขั้นโดน ส่งตัวไปเข้าร่วมการแข่งขันด้านกรีฑาที่เยอรมันเพียงคนเดียว ด้วย แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงสละสิทธิ์การแข่งขัน แล้วเป็นฝ่ายยื่นเอกสารขอออกจากการเป็นทหาร ไม่มีใครรู้ เหตุผล ต่อมาภายหลังเขาสร้างองค์กรนักฆ่าขึ้นมาเอง คน ภายในเป็นทหารรับจ้างทั้งหมด เป็นคนที่เข้าๆออกๆสนามรบ เป็นผู้รอดชีวิตที่ปีนขึ้นมาจากกองคนตายอย่างแท้จริง ตามที่ว่า กันภารกิจที่องค์กรของเขารับไม่มีตัวอย่างของความล้มเหลว แล้วก็มีชื่อเสียงมากในต่างประเทศด้วย”

ตอนที่กมลพูดเรื่องพวกนี้ กิจจานิ่งงันไปเลย

เขามองกมล รู้สึกว่ากมลมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม แต่กลับ ไม่อยากจะเชื่อ

เขายอมเชื่อว่ากมลยังเป็นแค่นักกินตัวน้อยที่เอาแต่กินๆดื่นๆ

เท่านั้นดีกว่า ตระกูลโตเล็กของพวกเขามีเขากับกานต์แบกรับเอาไว้ พอแล้ว ถ้าเป็นไปได้ กิจจาหวังว่ากมลจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ผู้หญิงทั่วไปควรใช้ก็พอแล้ว

เรื่องตีรันฟันแทงพวกนี้ แผนการร้ายพวกนี้ กมลอยู่ห่างๆจะดี ที่สุด

แต่ในหัวของกิจจาก็นึกถึงคำพูดที่นรมนเคยบอกเอาไว้ เธอบอก “ไม่ว่าตอนไหน เขากิจจาต้องเป็นอันดับแรกเสมอ กมลกับกานต์ต้องเลือกที่จะเสียสละเพื่อเขา

คำพูดนี้ทำให้กิจจาหวาดกลัว แต่กลับปวดใจเหลือเกิน

ไม่!

เขาไม่ต้องการให้กานต์กับกมลทำอะไร

ตอนนี้กมลเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว

นึกถึงตรงนี้ กิจจาจึงจับมือกมลเอาไว้ พูดเบาๆ “กมล รับปาก พี่กิจจานะ ต่อไปไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรต้องให้พี่กิจจากับกานต์ เป็นคนแก้ปัญหา เธอแค่มีหน้าที่เติบโตอย่างมีความสุขเท่านั้นก็ พอ สิ่งที่เธอต้องการ แม้จะต้องขึ้นไปคว้าดวงดาวพี่กับกานต์ก็จะ ช่วยให้เธอสมปรารถนา เธอต้องรับปากพี่ อย่าให้ตนเองต้อง เผชิญหน้ากับความอันตราย อย่าไม่ใส่ใจความปลอดภัยของ ตนเองรู้ไหม?”

กมลชะงักเล็กน้อย มองสายตาที่จริงจังสุดๆของกานต์ จู่ๆก็ยิ้ม

“พี่กิจจา หนูลำบากขนาดนั้นถึงจะมีชีวิตรอดมาได้ ก็ต้อง ทำให้ตนเองมีความสุขสิคะ วันนี้เป็นอะไรไป?”
กิจจาได้ยินกมลพูดอย่างนี้ ในใจก็ยิ่งทนไม่ไหว

ตั้งแต่เกิดมากมลก็ทรมานจากอาการเจ็บป่วย และผู้สร้าง ความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ก็คือแม่ของเขาเอง

เขามีเหตุผลอะไรถึงให้กมลกับกานต์มาขวางอันตรายแทน

เขา?

กิจจาพูดอย่างชัดเจน “เธอรับปากพี่”

เขาเคร่งขรึมเกินไป เคร่งขรึมจนทำให้กมลตกใจ “พอแล้ว หนูรับปากพี่ก็ได้ พี่กิจจาเป็นอย่างนี้แล้วน่ากลัวจัง กมลค่อนข้างตกใจ

กิจจาจึงรีบผ่อนคลายสีหน้า พูดขึ้นเบาๆ “พี่จะตั้งใจเรียนหมอ อย่างดี รับรองว่าจะทำให้เธอสุขภาพแข็งแรง ไม่ให้เกิดปัญหา ใดๆอีก พี่สาบาน”

“ไม่ต้องเคร่งขรึมขนาดนั้นก็ได้ พี่กิจจาดีกับหนูยังไงในใจหนูรู้ ดี พี่กิจจา อย่าพูดเรื่องนี้เลย หนูค่อนข้างหิวแล้ว พี่ว่าพวกเรา ควรลงไปซื้ออะไรกินหน่อยไหม? หนูเห็นมะม่วงที่อยู่ข้างทางลูก ใหญ่มากเลย!”

กมลดวงตาเป็นประกาย สายตานั้นราวกับหมาป่าหิวโซที่เจอ อาหารเข้าแล้ว ทำให้กิจจาหลุดพรวดออกมาในทันที

“เธอนี่ รู้จักแต่เรื่องกินนะ”
เขาดึงจมูกของกมลเบาๆ สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู “กินเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าคนไม่รู้จักกัน ไม่กลายเป็นคนโง่เห รอ?”

กมลพูดแล้วก็ให้คนหยุดรถ

หลังจากทั้งสองคนลงจากรถ รถของบุริศร์ที่ด้านนี้ก็หยุดด้วย

“เกิดอะไรขึ้น?”

บริศร์กำลังจูบกับนรมนอย่างเร่าร้อน เกือบจะเกิดเรื่องเลยเถิด แล้ว จู่ๆที่ด้านนี้ก็หยุดรถ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะชะงักงัน แล้วรีบถาม ขึ้น ทั้งยังดึงนรมนขึ้นมาปกป้องไว้ในอ้อมอกด้วย

“ประธานบริศร์ครับ คุณหนูกับคุณชายหยุดรถครับ เหมือนจะ ลงไปซื้ออะไร”

คนขับรถรายงานตามหน้าที่อย่างดี

บริศ มองสภาพแวดล้อมรอบๆ

ที่นี่มีแต่ถนนที่ยืดยาวสายหนึ่ง สองข้างเต็มไปด้วยเทือกเขา ไม่มีบ้านคนเลย จะมีคนขายผลไม้อยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ