แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1329 ฉันอยากเจอคุณอารอง



บทที่ 1329 ฉันอยากเจอคุณอารอง

เมื่อนรมนและบุริศร์มาถึง มิลินก็อยู่ไม่รู้ว่ากลัวใครจำได้หรือ อะไรก็แล้วแต่ มิลินสวมเสื้อคลุม คลุมตัวเองอย่างมิดชิด ถ้านร มันไม่คุ้นเคยกับเธอมากเกินไป ก็คงจำเธอไม่ได้จริงๆ

มิลินไม่คิดว่านรมนจะมาด้วย จึงกระอักกระอ่วนนิดหน่อยทันที

“คุณนาย คุณก็มาเหรอ?”

มิลินมองนรมนอย่างค่อนข้างรู้สึกผิด ไม่รู้ทำไม เมื่อเผชิญหน้า กับนรมน เธอจะรู้สึกขาดความมั่นใจ โดยไม่คาดคิด

อาจจะเพราะทุกคนเป็นผู้หญิง อาจจะเพราะเข้าใจความรู้สึก ของนรมนที่มีต่อบริศร์ ดังนั้นหลังจากทำเรื่องใส่ให้บริศร์ เธอรู้ ว่าบริศ อาจจะให้อภัยเธอได้ แต่นรมนอาจจะไม่ เธอจึงค่อนข้าง กังวล

นรมนเข้าใจบางอย่างในแววตามิลิน พูดตามตรง สำหรับวิธี การของมิลินนรมนไม่พอใจมากจริงๆ แต่ฟังคำอธิบายของบุริศร์ แล้ว เธอก็เป็นแม่คนเหมือนกัน ลองคิดว่าถ้าเป็นตัวเอง ถ้าเธอ คือมิลิน ก็คงเลือกทำเหมือนกันล่ะมั้ง

เธอถอนหายใจ แล้วพูดเสียงทุ้ม “บอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่คุณรู้ อดีตผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ฉันจะบอกกิจจาให้เข้าใจ

นรมนรู้ว่าคนที่มิลินใส่ใจมากที่สุดในตอนนี้คือใคร สิ่งที่เธอ ไม่ต้องการเห็นมากที่สุดคือหล่อนแยกทางกับกิจจา แต่ความจริงมักน่าหมดหนทางเช่นนี้

ดวงตามิลินเป็นประกายเล็กน้อย ในดวงตามีน้ำตาส่องแสง

ลูกชายตายไปแล้ว ตอนนี้ยังตายไม่มั่นคงอีก ขณะนี้กิจจา เทียบเท่าลูกชายคนที่สองของเธอ เธอไม่อยากให้กิจจาเกลียด เธอจริงๆ ถึงแม้จะนิดเดียวก็ทนไม่ได้ ขณะนั้นรมนพูดสิ่งที่เธอ ใส่ใจออกไปหมดแล้ว มิลินยังพูดอะไรได้อีกล่ะ? ยังมีความกังวล อะไรอีก?

“ขอบคุณค่ะคุณนาย ฉันจะบอกพวกคุณเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันรู้ ทั้งหมด แต่ก็หวังว่าพวกคุณจะช่วยฉันเอาเถ้ากระดูกลูกชายฉัน กลับมาได้ไหม? ฉันเองไม่มีความสามารถนี้ นอกจากทำตาม ความต้องการของพระราชา แต่ถ้าจะให้ฉันทำร้ายผู้ใหญ่บ้าน และคุณนายจริงๆ ฉันทำไม่ได้”

มิลินคือคนของหมู่บ้านดารายน เพื่อหมู่บ้านดารายนเธอสูญ เสียไปเยอะเกินไป ตอนนี้กว่าผู้ใหญ่บ้านดารายนจะปรากฏตัว ขึ้น ไม่ว่าอย่างไรเธอก็หักหลังไม่ได้ แต่เธอก็เป็นแม่คนหนึ่งเช่น กัน ทนไม่ได้ที่ลูกชายตายอย่างไม่สงบ ทำได้แค่ฝากความหวัง ทั้งหมดไว้ที่นรมนและบริศร์

“ฉันสัญญากับเธอ”

นรมนไม่ได้พูด นี่คือเรื่องระหว่างบุริศร์และมิลิน ถึงเธอจะเป็น ภรรยาของบุริศร์ และสัญญากับมิลินได้ แต่เธอรู้สึกว่าคำพูดนี้ให้ บุริศร์พูดจะดีกว่า บุริศร์ก็เข้าใจเธออย่างที่คิดไว้ เอ่ยปากขึ้น เรียบๆ โดยทันที
ได้รับการรับรองจากบริศร์ มีลินก็โล่งใจ ไม่มีความกังวลอะไรแล้ว

เธอพูดเสียงทุ้ม “ฉันรู้คุณอารองบุญทิวาอยู่ที่ไหน ฉันพาพวก คุณไปได้นรมนตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“คุณอารองอยู่ประเทศหรือเปล่า?”

“เปล่า คุณอารองอยู่ที่นี่ค่ะคำพูดมิลินทำให้นรมนตกตะลึงเล็กน้อย แต่บุริศร์ไม่ ประหลาดใจอะไร

“อยู่แถวๆ นี้เหรอ?”

มิลินพยักหน้าพูดขึ้น “ใช่ อยู่แถวๆ นี้”

ทั้งร่างนรมนูตกตะลึง

เธอไม่คิดว่าตัวเองและคุณอารองจะอยู่กันใกล้ขนาดนี้ แต่ไม่มี ที่อยู่และข่าวคราวของคุณอารองมาตลอดเลย คุณอารองจะ กังวลแค่ไหนนะ

“อยู่ที่ไหน?”

การแสดงออกของนรมนค่อนข้างตื่นเต้นมิลินพูดเสียงทุ้ม “ตามฉันมาสิ”

บุริศร์จับมือนรมนแน่น เขารู้นรมนรีบร้อนอยากเจอบุญทิวาแต่เขาก็กลัวว่าหลังจากนรมนเจอบุญทิวาแล้วจะทนไม่ค่อยได้ “นรมน คุณฟังฉันนะ เดี๋ยวไม่ว่าจะเจออะไร คุณจะต้องใจ

เย็นๆ”

ก่อนหน้านั้นรมนเคยคิดและคาดเดาไว้มากมาย แต่เมื่อได้ยิน บุริศร์พูดแบบนี้ก็ยังชะงักเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ เจ็บหัวใจ

บุริศร์พูดแบบนี้ได้ แสดงว่าต้องเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก ถึง ตอนนั้นเธอก็กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ได้เช่นกัน แต่เห็นท่าทาง กังวลของบุริศร์ หัวใจนรมนก็มีกระแสน้ำอุ่นไหลผ่านไม่มากก็ น้อย ความไม่สบายใจและกระสับกระส่ายพวกนั้นก็ค่อยๆ สงบ ลงอย่างช้าๆ

“ฉันรู้แล้ว”

เธอพูดเสียงทุ้ม แต่หนักแน่นมาก

บุริศร์จึงพูดกับมิลิน “ไปกันเถอะ”

มิลินพานรมนและบริศร์ออกมาจากหมู่บ้านดารายน ระหว่าง นั้นไม่มีใครมาหยุด หนึ่งเพราะบุริศร์ได้ออกคำสั่งไว้ สองเพราะมี ลินทำตัวค่อนข้างถ่อมตนมาก ไม่มีใครจำได้ว่าเป็นเธอ

หลังจากคนกลุ่มหนึ่งออกมาจากหมู่บ้านดารายนแล้ว ก็หยุดที่ แถวๆ หมู่บ้านน้ำใส

ถนนเส้นนี้นรมนเดินอยู่บ่อยครั้งในช่วงนี้ แน่นอนว่าค่อนข้างคุ้นตา
“มาที่หมู่บ้านน้ำใสทำไม? หรือว่าผู้ใหญ่บ้านเตชิตของ หมู่บ้านน้ำใสน่าสงสัย?”

ตอนนี้นรมนรู้สึกว่าไม่มีใครไว้ใจได้แล้ว

แต่มิลินส่ายหน้าพูดขึ้น “ไม่ใช่ค่ะ คุณอารองบุญทิวาอยู่แถวๆ

“ว่าไงนะ?”

ดวงตานรมนเบิกกว้างทันที

คิ้วบุริศร์ก็ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

ที่นี่พื้นที่ราบตลอดทาง ไม่มีที่ใดๆ ให้คนหลบซ่อนได้ มิลินบ อกว่าคุณอารองบุญทิวาอยู่ที่นี่ เขาดูอย่างไรก็ไม่ใช่ “มิลิน เธอแน่ใจนะว่าใช่ที่นี่?”

“ค่ะ”

มิลินพยักหน้า จากนั้นก็พาบุริศร์และนรมนเดินไปที่หมู่บ้าน ขนาดเล็กแห่งหนึ่งแถวๆ หมู่บ้านน้ำใส

หมู่บ้านขนาดเล็กแห่งนี้คนไม่เยอะ และไม่ได้ครึกครื้นเท่าไร นัก แต่ละครัวเรือนก็อยู่ห่างกันค่อนข้างไกล พื้นที่ก็ค่อนข้างกว้าง

ใหญ่

มิลินพาพวกเขามาที่หน้าบ้านที่ดูธรรมดาๆ หลังหนึ่ง แล้วพูด เสียงทุ้ม “คุณอารองบุญทิวาอยู่ในนี้ค่ะ

นรมนก็ไม่คิดว่าคุณอารองจะถูกเอาตัวไว้ที่สถานที่สำหรับมวลชนแบบนี้ ไม่สนว่าใครจะเป็นอย่างไรจริงๆ

ดวงตาบุริศร์เป็นประกายเล็กน้อย ควักมีดสั้นสำหรับทหาร ออกมาจากรองเท้าบูตแล้วยื่นให้นรมน พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เดี่ยว เข้าไปแล้วระวังตัวให้ดี ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ต้องป้องกันตัวเองให้ นะรู้ไหม?”

นรมนตกตะลึงเล็กน้อย และพยักหน้าทันที

มิลินเหลือบมองพวกเขา แล้วพูดเสียงทุ้ม ไม่ต้องลำบาก ขนาดนั้น ฉันปล่อยหนอนออกไปได้นะ ให้คนด้านในหลับสนิท จากนั้นพวกคุณก็จะทำอะไรสะดวก แต่อย่าทำเสียงดัง ฉันกลัว มันจะดึงดูดคนข้างนอก”

ได้ยินมิลินพูดแบบนี้ บุริศร์และนรมนก็รู้ว่าที่นี่มีการเฝ้าระวัง บริเวณรอบนอก

พวกเขามองไปรอบๆ โดยไม่รู้ตัว พบว่าภูมิประเทศของที่นี่มัน

ง่ายต่อการป้องกันและยากต่อการโจมตีจริงๆ

“โอเค”

ถึงแม้บุริศร์จะรู้สึกไม่ดีกับหนอน แต่ในเวลานี้เขาต้อง ยอมรับว่าเทคนิคของมิลินมันปลอดภัยกว่า

พวกเขามากันแค่สามคนด้วย ถ้าคนด้านในมีเยอะมากเกินไป การไปช่วยชีวิตครั้งนี้จะกลายเป็นการรนหาที่ตาย

บุริศร์ระมัดระวัง แน่นอนว่านรมนก็ไม่ใจร้อน ฟังบุริศร์ทั้งหมด แค่มีเขาอยู่ นรมนก็ไม่กระวนกระวาย
มิลินเห็นบุริศร์ตกลง ก็หยิบกล่องขนาดเล็กใบหนึ่งออกมา จากกระเป๋า ในนั้นบรรจุอะไรนรมนก็รู้ แต่แค่นึกถึงหนอนของ ประเภทนั้น เธอก็ตัวชาไปทั้งร่าง ถึงขนาดขนหัวลุกด้วยซ้ำ

ราวกับบุริศร์รู้ว่านรมนหวาดกลัว จึงมาขวางตรงหน้านามน

โดยธรรมชาติ บดบังสายตาเธออย่างสมบูรณ์ หลังจากมีลินปล่อยหนอนออกมา สามคนก็รอคอย ประมาณ สิบกว่านาที มิลินก็พูดเสียงทุ้ม “เข้าไปได้แล้ว”

บริศร์ให้นรมนอยู่ด้านหลัง มิลินอยู่หลังสุด ทั้งสามคนรีบเดิน เข้าไปในบ้าน

บ้านไม่ได้ใส่กลอน

เมื่อบริศ เปิดห้อง ด้านในก็มีกลิ่นหอมของอาหารลอยมา ดู เหมือนคนในครอบครัวนี้เพิ่งทำอาหารเสร็จยังไม่ทันได้ทานมัน

ในบ้านมีหกคน ชายสามคน หญิงสามคน ขณะนี้นอนหลับอยู่

บนโต๊ะ

นรมนรู้ความน่าอัศจรรย์ของหนอน ไม่ได้สำรวจในเวลานี้ แต่ตามหาคุณอารองบุญทิวาทั่วทุกที่ แต่ทั้งบ้านมีอยู่สี่ห้อง นร มนตามหาทั้งในและนอกอยู่สามรอบก็ไม่เห็นคนอื่นๆ นอกจาก หกคนนี้เลย

มิลินพูดเสียงทุ้ม “คุณนาย คุณอารองบุญทิวาอยู่ใต้ดิน คำพูดนี้ทำให้สีหน้านรมนเปลี่ยนไปทันที
ห้องใต้ดินเหรอ?

คนของที่นี่จะไม่สร้างห้องใต้ดิน แค่ขุดห้องใต้ดินไว้เพื่อเก็บ ผักและอื่นๆ โดยเฉพาะ

คุณอารองบุญทิวาคงไม่ได้อยู่ในห้องใต้ดินหรอกนะ? นรมนคิดแบบนี้ บุริศร์และมิลินก็เดินไปทางห้องใต้ดินก่อน

ไม่รู้ว่าเดี๋ยวจะได้เจอคุณอารองบุญทิวาหรือเปล่า นรมนจึง รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ ถึงขนาดหยุดหายใจนิดหน่อยด้วยซ้ำ

บุริศร์เปิดประตูห้องใต้ดิน กลิ่นเหม็นเปรี้ยวพุ่งเข้ามาทันที แม้แต่นรมนที่อยู่ด้านหลังบุริศร์ก็ยังสำลักกลิ่นจนถอยหลังไป หนึ่งก้าว และไอซ้ำๆ

กลิ่นเหม็นเปรี้ยวแบบนี้คนจะอยู่ได้อย่างไร?

นรมนปิดจมูก พยายามระงับประสาทสัมผัสกลิ่นของตัวเองให้ มากที่สุด แล้วกระโดดลงตามบุริศร์ไป

มิลินโรยผงบางส่วนไว้หน้าประตูห้องใต้ดิน นรมนเหลือบมอง ถึงแม้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ตอนนี้ทำได้แค่เชื่อใจมิลินว่าไม่ ทําร้ายพวกเขาก็พอ

เธอหันหน้าไปมองบุริศร์อีกครั้ง เห็นหางตาบุริศร์มองการกระ ทำของมิลินแล้วไม่ได้แสดงออกอะไร นรมนก็วางใจ

แค่บุริศร์เห็นแล้ว เดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น นรมนก็เชื่อ ว่าบุริศร์สามารถจัดการมันได้
ทั้งสามคนลงไปที่ห้องใต้ดินแล้วก็ได้ยินบริศ พูดเสียงทุ้ม “ระวังเท้า”

นรมนเปิดไฟฉายโทรศัพท์ เห็นปลายเท้ามีอุจจาระแห้งๆ อยู่ ทุกหนแห่ง ก็ขยะแขยงจนแทบอาเจียนออกมา

บริศร์ค่อนข้างเสียใจแล้วที่ให้นรมนลงมา “นรมน ไม่งั้นคุณไปรอข้างบนไหม?”

“ไม่ ฉันอยากเจอคุณอารอง

นรมนรู้ว่าบุริศร์กลัวตัวเองทนไม่ไหว แต่เดินมาถึงที่นี่แล้ว เธอ จะถอยกลับได้อย่างไร?

และสภาพแวดล้อมตรงหน้าทำให้อึดอัดมากจริงๆ เธอยังไม่รู้ ว่าคุณอารองอยู่ที่ไหน จะขึ้นไปก่อนได้อย่างไร?

บริศร์ก็รู้ว่าโน้มน้าวนรมนไม่ได้ แต่ก็อยากลองดู ในขณะนี้ ได้ยินคำตอบนรมน เขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้าพูด ขึ้น “ตามฉันมาติดๆ เดี๋ยวถ้ามีอะไรน่าอึดอัด อย่าลืมบอกฉันเด็ด ขาดนะ รู้ไหม?”

“อืม”

กลิ่นปัสสาวะในทุกๆ ที่ทำให้นรมนหายใจค่อนข้างลำบาก เธอรู้สึกว่าขณะที่เอ่ยปากพูด กลิ่นเหล่านั้นก็พุ่งเข้าไปในปากเธอ ตามลมหายใจเธอเข้าไปในหลอดอาหาร น่าขยะแขยงจนอยาก จะอาเจียนอาหารที่กินไปตอนกลางวันออกมาให้หมดเลย แต่ ตอนนี้บุริศร์กำลังเป็นห่วง มิลินยังอยู่หลังสุด เธอจะไร้ประโยชน์แบบนี้ไม่ได้

นรมนกลั้นความรู้สึกอยากอาเจียนเอาไว้ก้าวไปข้างหน้าตาม หลังบุริศร์อย่างระมัดระวัง ถึงพยายามไม่ให้ตัวเองมองปลาย เท้าให้มากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ยิ่งเดินไปข้างหน้ามากเท่าไรก็ ไม่มีที่สำหรับปลายเท้ามากขึ้นเท่านั้น

มองอุจจาระและความยุ่งเหยิงของที่นี่ สุดท้ายนรมนก็อดไม่ ได้ที่จะอาเจียนออกมา และสีหน้ามิลินก็ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไร

บุริศร์ลูบหลังนรมนเบาๆ ในดวงตามีความสงสารและปวดใจ และในเวลานี้ ก็เกิดเสียง โซ่เหล็กเคลื่อนดังขึ้นมาเบาๆ ทำให้ นรมนหยุดอาเจียนทันที ทั้งร่างเกร็งขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ