แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 874 ฉันจะฆ่าแก



บทที่ 874 ฉันจะฆ่าแก

หลังจากกมลและกิจจาวิ่งออกมาจึงพบว่าเสื้อผ้าที่ตนเองสวม ใส่น้อยชิ้นเกินไป

“หนาวจังเลย! ”

เธอฝ่ามือเล็ก ๆ และปล่อยลมหายใจออกมาอย่างต่อเนื่อง จมูกเล็ก ๆ แตงด้วยความหนาวเย็น

กิจจารีบจูงมือของเธอ

“ไป กลับบ้านไปสวมเสื้อโค้ต

“ไม่ต้องหรอก ถ้าถูกแด๊ดดี้เห็นเข้าก็แย่เลย เขาต้องไม่ให้พวก เราออกไปแน่นอน และยิ่งให้เขารู้ว่าพวกเราจะไปหาอาป้อง ก็ยิ่ง จบเห่ ไปเถอะ เรียกรถไปก็ได้

กมลปฏิเสธทันที

กิจจารู้ ถ้ากมลดื้อรั้นขึ้นมาวัวสิบตัวดึงกลับไม่ได้ เขารีบถอด เสื้อคลุมของตนคลุมไปบนร่างกายของกมล

“สวมไว้นะ เดี๋ยวจะเป็นหวัด”

กมลรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นมาทันที เพียงแต่หันไปมองกิจจา จึง เอ่ยถามอย่างกังวลว่า: “พี่กิจจา พี่ไม่หนาวเหรอ?

“ไม่เป็นไรหรอก พี่เป็นผู้ชาย ทนได้อยู่แล้ว! ”
กิจจาพูดอย่างมีศักดิ์ศรี แต่กลับตัวสั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งสองคนเรียกแท็กซี่ออนไลน์และออกไป

หลังจากบุริศร์อุ้มนรมนกลับเข้ามาในห้องนอน ก็ปรับอุณหภูมิ เครื่องปรับอากาศ จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้า และนอนไปพร้อมกับน มน

ผ่านไปไม่นาน สองคนเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุดและหลับไป โดย ไม่รู้เลยสักนิดว่ามีเด็กสองคนในบ้านหนีออกไป

หลังจากนาวินเสร็จธุระ จึงพากานต์กลับมา กลับไม่พบกมล และกิจจา แต่คิดว่าบุริศร์กลับมาก่อนพวกเขา ถ้าเกิดเรื่องขึ้นกับ เด็ก ๆ บุริศร์น่าจะต้องตามหาเป็นอันดับแรก

หลังจากนั้นกานต์จึงไปดูที่ห้อง พบว่าบริศร์กับนามนกำลังพัก ผ่อน เขาจึงถอยออกมา

“แด๊ดดี้อาจจะพาพวกเขาไปส่งที่บ้านคุณปู่สาม

กานต์พูดเช่นนี้ และกลับไปที่ห้องของตนเองศึกษาค้นคว้าการ เจาะรหัส

ไม่มีใครรู้ว่าเด็กสองคนนั้นออกไปจากบ้าน

หลังจากกมลกับกิจจาขึ้นรถไป ก็ยังคงพูดจ้อกแจ้ก กิจจาฟัง อย่างเงียบสงบเช่นเคย ไม่ลืมอ่านหนังสือในมือ รู้สึกหงุดหงิดใจ ที่ตนเองเรียนรู้ได้ช้าเกินไป ทั้งสองคนไม่เห็นว่าเครื่องมือทาง ของแท็กซี่ออนไลน์ได้ปิดลงไปแล้ว และเส้นทางของพวกเขาก็ หลุดออกจากเส้นทางที่ถูกต้อง
หลังจากขับมาได้สักพัก กมลเงยหน้าขึ้น กลับพบว่าไม่คุ้นกับ เส้นทางนี้ จึงรีบออกแรงดึงกิจจา

“พี่กิจจา พี่ว่าที่นี่คือที่ไหน? ฉันจำไม่ได้ว่าไปบ้านอาป้องทาง

กิจจารีบเงยหน้า จึงพบว่าเส้นทางไม่ถูกต้อง

“คุณอาคนขับ คุณมาผิดทางแล้วครับ”

กิจจารีบพูดออกมา

คนขับกลับพูดด้วยรอยยิ้มเย็นชา : “จริงเหรอ? ไม่ผิดนะ เส้นทางนี้ถูกต้อง”

กิจจาสังเกตเห็นความอันตรายทันที

เขาดึงกมลมาไว้ในอ้อมแขน กระซิบว่า รีบแจ้งตำรวจ” กมลนิ่งไปสักพัก เมื่อจะหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง กลับถูกคน ขับแย่งไป จากนั้นโยนทิ้งออกไปนอกหน้าต่าง

“แจ้งตำรวจ? พวกเธอสองคนเป็นเด็กน่ารักซะทีเดียวเชียว จะแจ้งตำรวจทำไม! เดี๋ยวอาจะเล่นเกมกับพวกหนูดีไหม? ”

คนขับรถอายุประมาณสี่สิบปี เรียกแทนตัวเองต่อหน้าเด็กว่า คุณอาอย่างหน้าไม่อาย ตอนที่เขาพูดสายตาเอาแต่จ้องมองไปที่ กมล ท่าทางหยาบคายเช่นนั้นทำให้คิ้วของกิจจาขมวดขึ้นมาใน ชั่วพริบตา

“แกคิดจะทําอะไร? ฉันจะบอกแกให้นะ พ่อของพวกเราไม่ใช่คนธรรมดา ! แกควรจะคิดให้ดีก่อนทำอะไรพวกเรา ไม่อย่าง นั้น พ่อของพวกเราจะทำให้แกต้องรับผิดชอบ

ในขณะที่พูดกิจจากพากมลไปปกป้องไว้ด้านหลัง พยายามขัด ขวางสายตาที่คนขับรถมองกมลอย่างสุดความสามารถ

สายตานั้นทำให้คนไม่สบายใจอย่างยิ่ง

กมลซุกอยู่ด้านหลังกิจจา หวาดกลัวอย่างยิ่ง

เธอมองเห็นกิจจากมือถือเอาไว้ในมือ และสายตาของคนขับ ก็ไม่ได้สังเกตเห็นตรงนี้ชั่วขณะ เธอจึงซุกตัวไปพลางพร้อมกับ หยิบมือถือมา รีบส่งข้อความหาบุริศร์

“แด๊ดดี้ ช่วยด้วย! มีคนจะทำร้ายพวกเรา! ”

เพราะมือถือของกิจจาเรียกแท็กซี่ออนไลน์ กมลจึงรีบส่งเลข ทะเบียนรถไปให้อย่างรวดเร็ว จากนั้นซ่อนมือถือเอาไว้ในรอง เท้าบู๊ทของกิจจา

กมลทำทุกอย่างนี้เสร็จตกใจแทบแย่

คนขับมองเห็นแววตาของกิจจาแข็งกร้าว จึงอดหงุดหงิดไม่ได้

“แกไอ้หนู แกมองอะไร? ฉันจะบอกแกให้นะ แกทำตัวดีดีซะ แล้วฉันจะพาแกไปขายให้กับครอบครัวที่มีเมตตา ไม่อย่างนั้น ฉันจะเอาแกไปขายที่หุบเขายากจน ถึงตอนนั้นรับรองว่าแกจะ สบาย แกไสหัวไปที่นั่นให้ฉัน อย่าเสียเวลาเรื่องดีงามของฉัน

คนขับรถพูดและขับไปในที่เปลี่ยว
ประตูรถถูกล็อก เด็กทั้งสองคนคิดจะหนีก็หนีไม่ได้

ในตอนนี้กิจจากระวนกระวายใจ

เขาปกป้องกมลอย่างแน่นหนา ถึงแม้จะยังเด็ก แต่กลับพูด อย่างใจเย็น “แกมองเสื้อผ้าที่พวกเราสวมใส่ไม่ออกเหรอ? หรือแกไม่รู้ว่าสถานที่ที่แกรับพวกเรามาคือคฤหาสน์? ฉันไม่ได้ แกจริง ๆ นะ ถ้าแกทำอะไรพวกเรา แกอยู่ในเมืองชลธีไม่ได้แน่

คนขับรถกลับหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า “วันนี้กล้อง วงจรปิดที่นั่นของพวกแกทำการตรวจและซ่อมแซม ไม่มีใครรู้ว่า ฉันไปรับพวกแกจากที่นั่น ฉันคิดว่าผู้ใหญ่ของพวกแกก็ไม่รู้ว่า พวกแกออกมา ดูสิลูกสาวตัวน้อยสวมอะไร? ไม่สวมเสื้อโค้ ตด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าพวกแกแอบหนีออกมา? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่าไม่มีคนรู้ว่าฉันทำอะไรกับพวกแก หลังจากนี้ฉันเอา พวกแกไปขายที่ไหน พ่อแม่ของพวกแกก็หาไม่เจอ ไอ้หนู แกรีบ หลีกไปซะ ฉันไม่ได้สนใจแก

ในขณะที่พูด คนขับรถก็ขยับเข้ามาคว้าตัวของกมล

“กรี๊ด! พี่ชาย! ”

กมลตกใจร้องเสียงดัง

คนขับรถกลับมีความสุขอย่างยิ่ง

“ร้องไปเถอะ ที่นี่คือชานเมือง ไม่มีใครมาหรอก ถึงแม้พวกแก ร้องจนคอพังก็ไม่มีใครได้ยิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่ยิ่งเรียกฉัน ว่าคุณอาฉันยิ่งคึกคัก
แววตาของคนขับแย่ลง เสื่อมทรามอย่างยิ่ง

ดวงตาของกิจจาหรี่ลงทันที

ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าคนขับคิดจะทำอะไรกมล แต่เขากลับรู้ว่า คนขับไม่ได้มีเจตนาที่ดี

“ฉันขอเตือนแกนะ อย่าเข้ามาใกล้พวกเรา ไม่อย่างนั้นฉันจะ ไม่เกรงใจแกแล้ว!

ถึงแม้กิจจาจะตัวเล็ก แต่ตอนนั้นกลับเต็มไปด้วยความพึ่งผาย คนขับถูกเขาขู่ จากนั้นก็นึกถึงที่ตนเองถูกเด็กตัวเล็กขู่ รู้สึก โกรธทันที

“ไอ้เวรเอ๊ย พูดดีด้วยไม่ฟังต้องให้บังคับใช่ไหม ฉันคิดว่าแก คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว! ”

คนขับรถยกมือ โบกไปที่กิจจา

กิจจาไม่ขยับเขยื้อน รอเมื่อคนขับรถลงมือ เขายกขาขึ้นทันที

กวาดไปที่ร่างกายส่วนล่างของคนขับ

“แม่งเอ๊ย ไอ้หนูนี้ก็ไม่ธรรมดา”

คนขับรีบกลับมาตั้งรับ

และในขณะนั้นเอง กมลก็ลุกขึ้นทันที ยื่นสองมือออกไปจิ้มตา คนขับรถ

“ฉันจะจิ้มตาของแกให้ตาย! ”
กมลมีแรงไม่มาก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนขับรถเจ็บจนเอา มือมาปิดตาไว้ และถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว

กิจจาถือโอกาสเปิดประตูรถ ดึงกมลวิ่ง

“ไอ้หนู ไอ้นังหนู พวกแกหยุดนะ! คนขับรถนํ้าตาร่วง

ถูกเด็กสองคนรังแกแบบนี้ เขารู้สึกเสียหน้าเกินไป ถ้าวันนี้ไม่ สามารถจับไอ้เด็กสองคนนี้ได้ คงยากที่จะขจัดความหงุดหงิดใน ใจออกไป

โชคดีที่กมลได้รับการฝึกฝนในพื้นที่ทหารสองสามวัน ตอนนี้ ถึงแม้ความแข็งแกร่งของร่างกายจะไม่เท่ากับเมื่อก่อน แต่ยัง สามารถก้าวย่างตามกิจจาได้

ความจริงแล้วเธอรู้สึกกลัวมา แต่กลับฮึกเหิมเล็กน้อย

“พี่ เมื่อกี้ฉันจิ้มตามันด้วย! ”

“รู้แล้ว กมลเยี่ยมจริง ๆ รีบตามมาเร็วเข้า

กิจจาสังเกตภูมิประเทศ ที่นี่ลงไปเป็นป่า ไม่ใช่สถานที่ที่ดีให้ พวกเขาหลบหนี

“กมล พวกเราวิ่งไปที่ถนนใหญ่”

“ได้”

กมลรีบวิ่งตามกิจจาไป
แต่ถึงอย่างไรทั้งสองก็ยังเป็นเด็ก ถึงแม้จะฝึกทหารมาได้ไม่กี่ วัน ความแข็งแรงทางกายภาพเพิ่มขึ้น แต่ยังก้าวเดินไม่เร็ว ไม่ทันไรก็ถูกคนขับรถไล่ตามทัน

คนขับรถคว้าคอเสื้อของกมลเอาไว้เป็นอันดับแรก จากนั้นจึง ลากไปทันที กมลถูกเขาดึงเขาไปในอ้อมแขน

“นังหนู คิดไม่ถึงว่าจะกล้าจิ้มตาฉัน เดี๋ยวฉันจะทำให้แกได้รู้ ว่าอะไรที่เรียกว่าตายดีกว่าอยู่

คนขับรถไม่ไล่ตามกิจจา กอดกมลไว้ในอ้อมแขนและวิ่งไปใน

รถ

กิจจาอึ้งไป ตระหนักได้ว่าเป้าหมายของคนขับรถกมล เขารีบ

วิ่งกลับไป

“ปล่อยน้องสาวของฉันเดี๋ยวนี้! ”

อาจเป็นเพราะถูกกระตุ้นจนศักยภาพออกมา กิจจาพุ่งเข้าใส่ อย่างบ้าคลั่ง คว้าต้นขาของคนขับและกัดลงไป

“อ๊าก! เจ็บ! แกไอ้เด็กบ้า! ”

คนขับรถถีบไปที่หน้าอกของกิจจาด้วยความเจ็บ

กิจจาสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวที่พรั่งพรูออกมา แต่มองเห็นท่าทาง หวาดกลัวของกมล เขาไม่กล้าปล่อยมือ และไม่กล้าปล่อยปาก ออก แต่กัดลงไปที่คนขับรถอย่างไม่หยุด เพื่อต้องการให้เขา ปล่อยกมลออกมา
“รนหาทีตาย!

เกิดความคิดที่จะฆ่าขึ้นในแววตาอันเจ็บปวดของคนขับรถ กมลร้องไห้อย่างโศกเศร้า

“พี่ชาย ไม่ต้องกัดแล้ว! อย่าทำร้ายพี่ชายของฉันนะ! อย่า นะ!

กมลพยายามดิ้นรน แต่คนขับรถไม่ฟัง เขาเตะไปที่หน้าอก ของกิจจาไม่หยุด

มุมปากของกิจจามีเลือดซึมออกมา ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขาไม่ ปล่อยมือ

กมลร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง มองเห็นคนขับรถยังคงโหดร้าย เช่นนี้จึงยื่นมือออกไปข่วนทันที

“แกไอ้คนชั่ว! ฉันจะขวนแกให้ตาย! แกทำร้ายพี่ชายของ

กมลเหมือนกับลูกแมวน้อยที่ถูกยั่วโมโห เล็บอันแหลมคมข่วน

ลงบนใบหน้าของอีกฝ่าย ไม่ถึงสองครั้งก็ชวนจนเลือดออก

“อ๊าก! ”

คนขับรถโมโห เขาโยนกมลออกไปทันที

ที่นี่มีความลาดชันพอดี หลังจากโยนกมลออกไป จึงกลิ้งลงไป

ตามทางลาด

“กมล! ”
หัวใจของกิจจาแทบหยุดเต้น

กมลเคยผ่าตัดมา ร่างกายไม่แข็งแรงมาก กิจจารู้สถานการณ์ เหล่านี้ วันนี้เธอถูกคนขับรถโยนลงไปจากที่สูงเช่นนี้ กิจจาไม่ อยากจะคิด

“ฉันจะฆ่าแก! ”

กิจจาโมโหหยิบก้อนหินด้านข้าง และขว้างไปที่คนขับรถ

เขาไม่สนใจว่าคนขับรถทั้งต่อยทั้งเตะร่างกายของตนเอง คว้า อะไรได้ก็ปาสิ่งนั้น จนแม้แต่ใช้มวยทหาร หลังจากหลบหลีกการ โจมตีของคนขับรถ เขาก็เข้าโจมตีคนขับรถอย่างบ้าคลั่งต่อ

ดวงตาของกิจจาเป็นสีแดง

แค่คิดว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับกมล เขาก็ควบคุมพลังทำร้าย ล้างภายในร่างกายไม่อยู่

ตอนแรกคนขับรถยังอยู่ในฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่เมื่อได้พบกับ ความหมดหวังของกิจจา สุดท้ายเขายังหวาดกลัว

“แม่งเอ๊ย วันนี้ฉันซวยแล้ว! ”

คนขับรถถีบกิจจาออก และรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานไป นอกจากเขาจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังต้องสูญเสียอีกด้วย

กิจจาถูกเขาถีบจนแน่นหน้าอกหายใจเกือบไม่ออก แต่เขายัง เป็นห่วงกมล จึงรีบวิ่งที่ทางลาด แต่เพราะเจ็บหน้าอกมากเกินไป เขาโซเซอย่างไม่ทันตั้งตัว ล้มลงไปบนพื้นทั้งตัว ไม่ว่าอย่างไรก็ในไม่ขึ้น

“กมล กมลไม่ต้องกลัวนะ พี่มาแล้ว

กิจจาลุกไม่ขึ้น เขาทำได้เพียงคลานไปข้างหน้า เลือดสีแดงซึม ลงบนพื้นดิน ด้านหลังเขาเป็นรอยเลือดยาว จนคนเห็นแล้ว สยดสยอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ