แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 317 ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่มาทิ้งแถวนี้



บทที่ 317 ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่มาทิ้งแถวนี้

รถขับมุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลใจกลางเมือง พฤกษ์เปิดเพลง บนรถอย่างใส่ใจ เพลงช้าๆสบายๆ ทำให้อารมณ์ของผู้ฟัง ค่อนข้างสงบ

ตอนนี้อารมณ์ของคนทิพย์ค่อยๆสงบลงภายใต้เสียงเพลง

สบาย ๆ

เธออดไม่ได้ที่จะหันมามองพฤกษ์

พฤกษ์เป็นผู้ชายที่มีหน้าตาธรรมดา โครงหน้าไม่ได้คม ขนาดนั้น แต่กลับมีเสน่ห์มาก มองดูแล้วมันให้ความรู้สึกคน สบายมาก

ปกติคมทิพย์ไม่ได้ให้ความสนใจกับคนๆนี้มากนัก ตอนนี้ เพิ่งจะมาสังเกตเห็นว่าไม่ว่าจะคุณธรรมหรือจริยธรรมของ พฤกษ์ เป็นสิ่งที่คนธรรมดาล้วนไม่ได้มีกัน

“วุฒิการศึกษาของคุณคือระดับไหน?” คมทิพย์อดที่จะถามไม่ได้

พฤกษ์อึ้งไปสักพัก ตอบโดยจิตใต้สำนึก “ระดับปริญญา โทคู่”

“ปริญญาโทคู่? วุฒิการศึกษาสูงแบบนี้ทำไมถึงมาเป็นผู้ช่วยให้บริศร์ล่ะ? ไม่รู้สึกเสียดายเหรอ?”

คมทิพย์จบแค่ปริญญาตรี ระดับปริญญาโทสําหรับเธอ แล้วนั้นสุดยอดมากๆ

เธอคิดมาโดยตลอดว่าผู้ช่วยรอบข้างบริศ เอาแค่การ ศึกษาระดับปริญญาตรีก็พอ

พฤกษ์กลับยิ้มแล้วตอบ “ผมเรียนหนังสือที่สหรัฐอเมริกา ประธานบริศ เป็นคนสนับสนุนผมให้เรียนจบปริญญาตรี จากนั้นให้ผมยืมเงินไปเรียนระดับปริญญาโทคู่ที่ สหรัฐอเมริกา ถ้าไม่มีประธานบริศร์ ก็ไม่มีผมในตอนนี้ ดัง นั้นหลังจากที่ผมจบกลับมา ก็มาคืนหนี้ไงครับ”

“บุริศร์มีเงินเยอะขนาดนั้น ไม่ขาดเงินแค่นี้ของนายหรอก”

คมทิพย์พูดความจริง เธอไม่ชอบบริศร์ รู้สึกว่าบุริศร์ไม่ได้ เป็นอะไรขนาดนั้น หรือพูดได้ว่าคมทิพย์เกลียดคนรวย ทำให้ไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับทายาทเศรษฐี

ถ้าไม่ใช้เพราะนรมนชอบบุริศร์เสมอมาละก็ ชาตินี้เธอคง ไม่ชายตามองบุริศร์เลย

แต่พอพูดแบบนี้แล้ว เธอก็จบปริญญาสนับสนุนโดยบรมน

เมื่อคิดถึงตรงนี้เธอและพฤกษ์มีบางอย่างที่เหมือนกัน คม ทิพย์ไม่รู้ว่าทำไม ในใจเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา พฤกษ์กลับส่ายหัวแล้วพูด “พูดแบบนี้ไม่ได้ แม้ว่าประธานบริศร์จะมีเงินแค่ไหน นั้นก็เป็นเงินของประธานบริศร์ เขาไม่ ได้มีหน้าที่มาช่วยผมไม่ใช่เหรอครับ? แต่ในตอนที่ผม ต้องการความช่วยเหลือ ประธานบริศ เป็นคนช่วยผม อีกทั้ง ไม่เคยบอกให้ผมคืนเงินเลย เกิดเป็นคนต้องรู้จักสำนึกบุญ คุณ ถ้าไม่มีประธานบริศร์ละก็ ตอนนี้ผมคงเป็นคนที่จบแค่ มัธยมศึกษาเท่านั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้จะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ

เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมทิพย์ไม่ได้ เจาะจงเถียงกลับ

ดูเหมือนในอดีตเธอจะมีอคติกับบริศร์หน่อย

บางทีทายาทเศรษฐีก็มีคนที่หลงเหลืออยู่บ้าง?

คมทิพย์ถามตัวเอง ไม่ได้พูดอะไรต่อ

พฤกษ์ก็ไม่ได้พูดประเด็นอะไรขึ้น บรรยากาศในรถกลับไม่ ได้รู้สึกอึดอัด ค่อนข้างเงียบมากกว่า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่อง ของเพลง หรือเป็นเพราะเรื่องของคน

นรมนมองพวกเขาพูดคุยกันจากด้านหลัง จู่ๆ ก็รู้สึกว่า ระหว่างพวกเขาก็เหมาะสมกันดี

แม้ว่าพฤกษ์จะเป็นแค่ผู้ช่วย แต่นรมนรู้ว่าหลายปีนี้ หนี้ที่ พฤกษ์ติดบุริศร์ได้คืนไปหมดแล้ว อีกทั้งยังเปิดบริษัทกับบริ ศร์อีก เขามีก็หุ้นส่วน ถ้าทิ้งตำแหน่งผู้ช่วยไปพฤกษ์ก็ถือว่า เป็นคนรวยคนหนึ่ง เพียงแค่ว่าพฤกษ์ไม่ทำตัวเป็นที่สนใจเท่านั้น

เรื่องพวกนี้นรมนรู้จากบริศร์โดยไม่ตั้งใจ

เป็นพฤกษ์ที่ไม่ยอมไปจากบริศร์และบริษัทยั่วยุกรุ๊ปจำกัด ไม่งั้นละก็ ตามกำลังเศรษฐกิจที่พฤกษ์มีในตอนนี้ จะออกไป ก่อตั้งบริษัทก็ดี หรือว่าไม่ทำอะไรเลย รอแค่แบ่งโบนัส สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย

แม้ว่าคมทิพย์จะดูแมนๆ ใจกล้าหน่อยๆ แต่จริงๆแล้วเธอ แค่ใช้พวกนี้มาปกปิดความอ่อนแอและเปราะบางของตัวเอง เท่านั้น

เธอเป็นผู้หญิงที่ต้องการความรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด

แต่ทายาทเศรษฐีทั่วไปนั้นคมทิพย์ไม่ชอบ หรือพูดได้ว่า รังเกียจเลยก็ว่าได้ เลยทําให้นรมนอยากจะแนะนำทายาท เศรษฐีให้กับคุมทิพย์ สุดท้ายก็จบลงโดยไม่มีบทสรุป

ตอนนี้ผมทิพย์ดูเหมือนจะสนใจพฤกษ์ขึ้นมาบ้าง เธอหวัง ว่าทั้งสองจะสามารถบรรลุผลสำเร็จ

เป็นเด็กกำพร้าทั้งหมด รับรู้ความรู้สึกเดียวดายแบบนั้น อยู่แล้ว บางทีอาจจะต่างฝ่ายต่างรักษาก็ไม่แน่ แต่กระดาษบางๆ นรมนอยากจะรีบฉีกใจจะขาด

เธอหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง มองดูวิวทัศน์ด้านนอก จู่ๆก็รู้สึกว่าทุกเรื่องมันกำลังไปในทางที่ดี
บางทีความสุขของเธอและบริศร์อาจจะใกล้เข้ามาแล้ว

ก็ได้

พอคิดแบบนี้ เธอก็รู้สึกคิดถึงบุรีศรีขึ้นมา

นึกถึงท่าทีงของบุริศร์ในตอนที่ออกมา นรมนอดไม่ได้ที่ จะหัวเราะเสียงเบา

แม้ว่าคนทิพย์จะกลังฟังเพลง แต่ก็ได้สังเกตนรมน เห็น นรมนยิ้มคนเดียวอย่างดื้อๆ รู้สึกกลุ้มใจทันที

“คุณนายของนายถูกบุริศร์วางยาหลงเสน่ห์หรือเปล่า? นายดูท่าที่เธอหวั่นไหวในตอนนี้ ยิ่งกว่าอาการเมื่อแปดปีที่ แล้วอีก”

คมทิพย์พูดกับพฤกษ์เสียงเบา อดที่จะทรยศนรมนไม่ได้

แปดปีก่อน?”

“นายไม่รู้เหรอ? นรมนรักแรกพบกับบุริศร์ ตอนนั้นบุริศร์ ยังมีแฟนอยู่เลย เธอก็หลงเสน่ห์ของบุริศร์ไม่ไหว ไม่รู้ว่าโดน อะไรเข้าสิง หลังจากกลับหอพักก็เป็นอาการแบบนี้ นายว่า เธอเป็นแม่ของลูกสองคนแล้ว ทำไมยังดูเหมือนนึกถึงตอนที่ แต่งงาน บุริศร์ต้องวางยาเสน่ห์ใส่เธอแน่ๆ

คมทิพย์ยิ่งดูยิ่งเหมือน

ดูท่าทีนรอนที่อินในความรัก แววตาลึกซึ้ง ถ้าคนที่ไม่รู้ละ ก็คงคิดว่าปริศร์ยืนอยู่ข้างนอกแล้วล่ะ
พฤกษ์เหลือบมองนรมนจากกระจกรถ ยิ้มแล้วพูด “ความ รักระหว่างคุณนายและประธานบริศร์นั้นลึกซึ้งไม่มีวันลืม มี หลายเรื่องไม่ใช่คนนอกอย่างพวกเราจะไปมองว่าไม่เหมาะ สม ก็ไม่เหมาะสม มีความรักก็เหมือนเราดื่มน้ำ จะร้อนจะ หนาวก็รู้อยู่แก่ใจ คุณอาจมองว่าคนนั้นไม่ได้ดีกับเธอ แต่ ใครจะรู้ว่าคนนั้นให้ได้แม้กระทั่งชีวิตของตัวเองเพื่อเธอ ตอนอยู่สหรัฐอเมริกา คุณนายตกน้ำ คลื่นลูกใหญ่มาก ไม่มี ใครกล้ากระโดดลงไปเลย ประธานบริศร์กลับโดดลงไปโดย ไม่ได้คิด แรงดันน้ำแรงมาก หน่วยกู้ภัยยังทนไม่ได้ แต่ ประธานบริศร์กลับอยู่ในทะเลนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ตอนที่ขึ้น มาร่างกายเย็นแข็งไปหมด ขนาด ในตอนที่สลบยังเรียกชื่อ ของคุณนายอยู่เลย”

พอได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ คนทิพย์ไม่ได้ตอบอะไร และไม่ ได้เถียงกลับ

จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามุมมองก่อนหน้านี้ที่มีต่อบริศร์อาจจะเป็น เพียงด้านเดียวขึ้นมา

มองดูท่าทีที่มีความสุขของนรมนแบบนี้ คมทิพย์ถอน หายใจแล้วพูด “นายเป็นผู้ช่วยของบุริศร์ ก็คงต้องช่วยเขา พูดอยู่แล้ว ยังไงฉันไม่สนหรอก ถ้าหากในอนาคตบุริศร์ไม่ดี กับนรมน ฉันยังคงไม่ปล่อยเขาไปแน่

“ครับ”
จู่ๆพฤกษ์ก็รู้สึกได้ทันทีว่าคมทิพย์ผู้หญิงคนนี้ปากแข็งแต่

ใจอ่อน

จริงๆแล้วเธออาจจะเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบริศร์ไปแล้ว แต่เสียดายไม่ยอมรับสักที

เขายิ้ม ไม่ได้พูดอะไรต่อ

รถขับมาถึงโรงพยาบาล ใจกลางเมืองอย่างรวดเร็ว

พฤกษ์จอดรถไว้ใกล้ปากประตูโรงพยาบาล พูดกับนามน ว่า “คุณนายครับ คุณกับคุณคมทิพย์ลงรถรอก่อนสักแปปนะ ครับ ผมไปจอดรถ

“เอากุญแจรถมาให้ฉัน นายอุ้มคมทิพย์เข้าไปหาหมอเลย หนาวมาทั้งคืน ขาทั้งคู่คงชา ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ทาง ของโรงพยาบาล ฉันคุ้นเคยดี เดี๋ยวฉันไปจอดเอง

นรมนดึงสติกลับจากที่ครุ่นคิด เพิ่งพบว่ามาถึงปากประตู หน้าโรงพยาบาลแล้ว ยังไงก็มีใจจับคู่คุมทิพย์กับพฤกษ์อยู่ แล้ว นรมนก็ต้องสร้างโอกาสให้พวกเขา

คมทิพย์รู้สึกเขินอายขึ้นมา

“ฉันว่ารอเธอไปกับฉันดีกว่า

“โอ้ย เธอออเซาะแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? พฤกษ์คุ้นเคย กับที่นี่มาก ให้เขาไปกับเธอ ฉันค่อยสบายใจหน่อย อีกอย่าง พอจอดรถเสร็จ ฉันยังต้องไปซื้อผลไม้ให้บุรีศร์อีก กมลก็จะกินบ้าง ให้พฤกษ์ไปกับเธอเถอะ ฉันไว้ใจ

คำพูดของนรมนทําให้พฤกษ์อึ้งไปนิดๆ แต่เมื่อเป็นคำสั่ง ของนรมน พฤกษ์ก็เชื่อฟังอย่างมาก

“คุณคมทิพย์ คุณไว้ใจได้ ผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดีเลย

คำพูดนี้ทำให้หน้าของคมทิพย์แดงขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่ใช่ ฉันแค่รู้สึกไม่ชินค้ารบกวนคนอื่น

คมทิพย์พูดเสียงเบา

พฤกษ์ยิ้มบางๆแล้วพูด “ไม่เป็นไรครับ งานของผมก็คือ แก้ไขปัญหาให้กับคุณและประธานบริศร์ครับ อีกอย่างคุณไม่ ได้เป็นปัญหานะครับ”

คำพูดสุดท้ายของพฤกษ์ทำให้คมทิพย์พูดไม่ออกเลย

เมื่อเห็นพวกเขาเป็นแบบนี้ นรมนก็ไล่พวกเขาลงรถไป

“รีบพาคมทิพย์ไปหาหมอ ถ้าช้าไปเป็นอะไรขึ้นมาละก็ รอ ดูว่าฉันจะจัดการนายยังไง

นรมนผลักพฤกษ์ลงรถ

พฤกษ์รู้สึกกลุ้มใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คุ้มคมทิพย์ ขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปในโรงพยาบาล

นรมนยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าสองคนนี้เหมาะสมกัน
อืม!!

ไม่คิดว่าเธอจะมีวันที่เป็นกามเทพได้ด้วย

พอนึกถึงตรงนี้ นรมนก็หัวเราะอย่างดื้อๆ แล้วเอารถไป จอดตรงที่จอดรถ จากนั้นก็ซื้อชมพู่จากซุปเปอร์มาร์เก็ต แถวๆนั้นให้บริศร์ และซื้อนมให้กมลอีกด้วย

ในตอนที่กลับเข้าห้องผู้ป่วย กมลเพิ่งหลับไป บุริศร์วาง หนังสือนิทาน ในมือลง ดูออกว่าเพิ่งเล่านิทานให้กมลไป

ในตอนที่เห็นนรมนกลับมา แววตาของบริศร์มีความดีใจ วาปผ่าน แต่ก็รีบเปลี่ยนทันที จากนั้นก็ทำท่าที่นิ่งเฉย

แกล้ง!

แกล้งเข้าไป!

นรมนบ่นในใจ และยื่นชมพู่ไปให้บริศร์

“อ่ะ ชื้อให้นาย”

“ไม่ต้องการ! ไปซื้อของดีเพื่อนสนิท ให้เพื่อนเลยไป

พอบริศร์พูดก็รู้สึกได้ถึงความพึง

นรมนขมวดจมูก สูดดมไปทั่ว ถามอย่างจริงจัง “กลิ่นอะไร เนี่ย?”

“กลิ่นอะไร?”
บริศ ตกใจกับสีหน้าจริงจังของนรมน รีบสูดดมตามขึ้นมา

เขาสูดจมูก ดมซ้ายทีมขวาที ราวกับสุนัขตัวใหญ่

บรมนหัวเราะออกมาทันที

“บุริศร นายไม่รู้สึกเหรอว่าในห้องมีกลิ่นไอของความ หึง? ก็ไม่รู้ว่าใครกันที่มาถึงแถวนี้ กลิ่นฉุนจังเลย”

บริศ ตะลึงไปทันที เพิ่งพบว่าตัวเองถูกนรมนแกล้ง

เขามองนรมนอย่างรังเกียจ “ปัญญาอ่อน”

“ใช่ไง ถึงแม้กระทั่งผู้หญิง ปัญญาอ่อนจริงๆ แต่ว่าท่าที ของนาย ในเมื่อกี้คล้ายกับสุนัขตัวใหญ่มาก! อุ้ย ฉันลืมเอา โทรศัพท์ถ่ายไว้ได้ยังไง!

“นรมน!”

บริศร์รู้สึกว่าความเป็นศักดิ์ศรีเป็นผู้ชายของตนถูกท้าทาย

ผู้หญิงคนนี้ยิ่งอยู่ยังไม่รู้จักที่สูงที่ซะแล้ว ตอนนี้ยังกล้า

เอาเขาไปเปรียบเป็นสุนัขตัวใหญ่อีกใช่ไหม? ดูเหมือนว่าถ้าเขาไม่จัดการเธอ เธอคงไม่เชื่อฟังซะแล้ว

บุรีศร์ลุกขึ้นโดยจิตใต้สำนึก นรมนตกใจจนรีบหันหลังวิ่ง หนี แต่กลับสะดุดล้ม โดยขาตัวเอง

“โอ้ย!”
เมื่อเธอเห็นว่าจะล้มลงพื้นแล้ว มีแขนที่แข็งแกร่งคู่หนึ่ง กอดเอวเธอไว้ ในขณะที่วิงเวียนหัว เธอตกอยู่ในอ้อมกอดที่ คุ้นเคยและเร่าร้อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ