แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 889 เป็นผู้หญิงน่ะ อย่าโหดร้ายนักเลย



บทที่ 889 เป็นผู้หญิงน่ะ อย่าโหดร้ายนักเลย

“ฉันไม่อยากไป คุณอยู่ไหนฉันก็อยู่ที่นั่น คุณอย่าคิดจะไล่ฉัน ไป ฉันรู้ว่า เรื่องนี้มันกะทันหันมาก แล้วก็แก้ไขได้ยาก คุณกลัวว่า ถ้าฉันอยู่ที่นี่จะทำให้คุณเดือดร้อนใช่ไหม? คุณสบายใจได้ ฉัน ไม่ทำให้คุณเดือดร้อนหรอก ฉันสามารถเข้ามาหาคุณได้ ฉันก็ สามารถพาคุณออกไปได้เช่นกัน ฉันจะไม่ให้คุณอยู่ในนี้นาน

จะพูดยังไงนรมนก็ไม่ยอมฟังบริศร์

ตอนที่บุริศร์รู้ว่านรมนเข้ามาพบตนเองก็ประหลาดใจไปแล้ว อันที่จริงตอนนี้คนที่จะเข้ามาเจอตนเองได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าคนๆนี้จะเป็นนรมน

เป็นสามีภรรยากันมาแปดปี เขาเพิ่งรู้ว่าตนเองเข้าใจนรมน น้อยเหลือเกิน ที่สำคัญที่สุดคือห้าปีนี้ นรมนผ่านอะไรที่ต่าง ประเทศมาบ้าง เขาเอาแต่คิดว่าตนเองรู้ดี แม้แต่เรื่องของรเมศ แต่ตอนนี้ดูแล้วไม่ใช่เลยจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่แค่นั้นด้วย

“ผมเข้าใจความหมายของคุณ แต่นรมน เรายังมีลูกนะ ตอนนี้ คุณก็ท้องอยู่ คุณ…….

“ใช่เรามีลูก มีกานต์ คุณคิดว่าพวกเราไปแล้วทั้งหมดจะดีขึ้น งั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! ในเมื่อคุณอารอง โหดร้ายขนาดนี้ ก็ไม่ คิดจะให้พวกเรามีชีวิตรอดหรอก ในเมื่อคนอื่นไม่อยากให้พวก เราอยู่แล้ว คุณยังจะให้ฉันไปไหนอีก? คุณอาจจะยังไม่รู้สินะ ภาริ ชคือตัวจริง เป็นพี่น้องแท้ๆของคุณ รายงานผลการตรวจดีเอ็นเออยู่ในมือของฉันแล้ว ในเวลาเดียวกันหัวใจของเขาก็ได้รับยา จากภายนอกทําให้หัวใจวายตายอย่างฉับพลัน นี่คือเจตนาฆ่า นะ ถ้าฉันไม่ช่วยคุณ คุณอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกใช่ ไหม?”

คำพูดของนรมนทำให้บริศรขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“พี่น้องแท้ๆจริงเหรอ?”

“ใช่”

นรมนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บางทีคุณอารองอาจจะรู้ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากไปเจอเขา

บริศร์นิ่งเงียบ

นรมนก็ไม่เร่งรัดเขา

เธอมองหน้าบุริศร์ เขาดูหน้าซีดขึ้นมาก อันที่จริงที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่

คนอาศัยอยู่

นรมนถอนใจด้วยความปวดใจ

หลังจากบุริศร์เงียบไปสักพักจึงพูดขึ้น หลังจากออกไป คุณ อารองอยากได้อะไรคุณให้เขาไปได้เลย ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อย ผมรู้ว่าคุณมีวิธี แต่เงินทองเป็นของนอกกาย ถ้าเขาปล่อยพวก คุณไปได้จะดีที่สุด แต่ถ้าไม่ได้ คุณไปหาพฤกษ์ พฤกษ์จะบอกคุณ เองว่าควรทํายังไง”

บริศร์มองนรมน รู้สึกทนไม่ได้
เขาเคยบอกว่าจะปกป้องนรมน แต่ไม่คิดว่า สุดท้ายแล้วยัง

ต้องการให้นมนมาช่วยเหลือตนเอง

“เดือดร้อนคุณแล้ว บางทีผมอาจจะเป็นเคราะห์ร้ายของคุณ ก็ได้ หลังจากแต่งงานกับผมคุณก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขสัก วันเลย”

“ก็ไม่นะ ทุกวันที่อยู่กับคุณฉันมีความสุขมากๆ ไม่ว่าจะทำ อะไร เพียงแค่อยู่กับคุณ ฉันก็พอใจแล้ว

นรมนยิ้มบางๆ

มือของทั้งสองคนจับกันแน่น

นรมนอยากให้เวลาหยุดอยู่อย่างนี้จริงๆ ตนเองก็จะได้อยู่กับ บุริศร์อย่างนี้ตลอดไป แต่เธอรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

เวลาเข้าเยี่ยม ใกล้จะหมดแล้ว

นรมนมองบริศ อย่างอาลัยอาวรณ์ พูดเบาๆ: “คุณรอฉันมา รับคุณนะ”

“ทำเท่าที่ไหวนะ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็อย่าฝืน คุณรู้อยู่แล้ว ผม ยอมอยู่ที่นี่ดีกว่า จะให้คุณเป็นอันตราย”

บริศร์รู้นิสัยของนรมน

นรมนพยักหน้า

จะอาลัยอาวรณ์ยังไง ในที่สุดก็ยังต้องแยกจากกัน ตอนที่นรมนออกมา ดวงตาค่อนข้างแดงก่ำ
ป้องเห็นเธออย่างนี้ จึงรีบถาม “บุริศร์มีวิธีไหม?”

นรมนไม่ได้พูดอะไร ก้าวเท้าเดินไปทันที แต่เดินไปไม่กี่ก้าว เธอก็เห็นธรณีกับคุณท่านตนวร

“อาสามของเรามีอบรม ออกมาไม่ได้ จึงให้อามาดูหน่อย ถึง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้ แต่ก็ยังอยากมาดู เรา นรมน เรื่องเป็นอย่างนี้แล้ว เราปล่อยวางบ้างนะ ไม่ว่าจะยัง ไง ประตูใหญ่ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ยินดีต้อนรับเสมอนะ” ธรณีเข็นรถเข็นเดินเข้ามา

คุณท่านตนวรก็ไม่ยอมน้อยหน้า

“หลานสาว จะพูดยังไงตาของเราก็ยังมีกำลังอยู่บ้าง ถึงเรื่องนี้ ตาจะช่วยไม่ได้ แต่เราวางใจเถอะ ตารับรองบุริศร์อยู่ในนั้นจะไม่ โดนรังแกแน่นอน แล้วก็ไม่มีใครกล้ารังแกเขาด้วย ถ้าเราอยู่ที่ ตระกูลโตเล็กแล้วไม่สบายใจ ก็มาที่ตระกูลพรโสภณนะ ตากับ แม่ของเรารออยู่ที่บ้านเสมอ

นรมนค่อนข้างอบอุ่นใจ

“คุณอา คุณตา หนูไม่เป็นไรค่ะ พวกคุณสบายใจได้ อีกไม่ นานบุริศร์ก็จะได้ออกมาค่ะ

นรมนพูดจบก็ยิ้มแล้วขึ้นรถไป

ป้องอยากจะตามไป แต่นรมนกลับห้ามเอาไว้

“ฉันอยากอยู่เงียบๆคนเดียว คุณชายป้อง ได้ไหมคะ?”
ตอนนี้ ป้องจะบอกไม่ได้ได้เหรอ?

นรมนออกจากสถานที่คุมขัง แยกจากคนของตระกูลทวีทรัพย์ ธาดากับตระกูลพรโสภณแล้ว ก็ขับรถไปอาคารวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีคนเดียว

จัสตินเห็นนรมนมาแล้ว จึงรีบเดินเข้าไป

“คุณนรมนคะ เจอตัวแล้วค่ะ อยู่ที่ห้อง 1308

“ขอบคุณค่ะ ฉันอยากจะคุยกับเขาตามลำพัง พวกคุณรอคุ้ม กันอยู่ด้านนอกนะคะ”

นรมนลงจากรถ ผลักประตูเข้าไปทันที

“ค่ะ”

จัสตินไม่ได้พูดอะไรอีก ยืนรออยู่ด้านนอก

นรมนขึ้นลิฟต์ไปชั้นสิบสาม แต่ตอนที่ถึงชั้นสิบก็มีคนเข้ามา ที่ น่าบังเอิญก็คือ คนที่เข้ามาไม่นึกว่าจะเป็นพ่อนรมนกับเนตรา

“นรมน? ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่? อ้อ ฉันรู้แล้ว เธอต้องรู้ว่าวันนี้ ฉันมาทักทายครูกวินทร์แน่ๆ ก็เลยตั้งใจมาดูฉันทำเรื่องน่าล่ะ สิ? ฉันบอกเลยนะ เธออย่าโอหังไปหน่อยเลย ครูกวินทร์รับฉัน เป็นลูกศิษย์แล้ว ต่อไปฉันก็เป็นคนที่มีระดับแล้ว เธออย่ามาใช้ ลูกไม้ตื้นๆพวกนี้กับฉัน”

เนตราพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

พูดตามจริง นรมนไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอพวกเขาที่อาคารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องของเธอตอนนี้เยอะแยะไป

หมด ขี้เกียจเสียเวลาอธิบายกับเนตรา เธอหันไปอีกด้านทันที ตอนที่เจอพ่อนแมนก็พยักหน้าเล็กน้อย “พ่อคะ พวกพ่อก็ทําความรู้จักกับกวินทร์เสร็จแล้ว นี่กำลังจะ

ขึ้นไปไหนอีกเหรอคะ?”

คำถามของนรมนทำให้พ่อนรมนลำบากใจที่จะตอบ

แต่เนตรากลับพูดขึ้น: “เราจะไปไหนต้องบอกเธอด้วยเหรอ? เธอนั่นแหละ เธอจะไปไหน?”

นโมนไม่อยากจะทะเลาะกับเนตราจริงๆ เธอจึงปิดปากทันที พ่อนโมนกดไปที่หมายเลขชั้นสิบสาม ด้วยความอึดอัดใจ นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย พวกเขาก็จะไปชั้นสิบสามงั้นเหรอ?

แต่ทว่านรมนกลับไม่ได้ถามอะไรอีก เธอรู้สึกได้ว่า เรื่องของ เนตรา ไม่เพียงแต่แม่นรมนเท่านั้นพ่อนรมนก็ด้วยที่ระแวดระวัง เธอ

นโมนไม่อยากใส่ใจ ยิ่งไม่อยากเสียใจ จึงถือโอกาสทําเป็น ไม่เห็นซะเลย

ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้นสิบสาม นรมนเดินออกไปก่อน ก็ได้ยินเสียง ของเนตราพูดขึ้นที่ด้านหลัง: “พ่อ ดูเธอสิ ตามพวกเรามาเหมือน กับนักต้มตุ๋น”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว”

เสียงของพ่อนรมนไม่ดัง แต่ก็ไม่มีความหมายที่จะพูดแทนนร

มนอยู่ในนั้น

แววตาของนรมนจึงหม่นหมองลงเล็กน้อย

เพราะเรื่องของบุริศร์ เดิมทีเธอจึงรู้สึกแย่อยู่แล้ว วันนี้ได้มา เจอพ่อนรมนกับเนตราอีก พูดตามจริง นรมนก็ยิ่งกระวนกระวาย

ใจ

เธอไม่ได้ฟังเนตราพูดอะไรต่อไปอีก เดินไปทางห้อง 1308 ทันที

หลังจากพ่อนรมนกับเนตราออกมาจากในลิฟต์ เห็นคน มากมายบนทางเดินกำลังมองอยู่ แต่ละคนดูเหมือนปีศาจร้าย

จึงรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

“พ่อ ดูสินี่เกิดอะไรขึ้น?

เนตราจับแขนของพ่อนรมนเอาไว้แน่น

พ่อนรมนก็เคยเจอคนเยอะๆ แต่ทว่าฉากตรงหน้าทำให้ตะลึง

งันไปเลย

“ทุกท่าน พวกเราเป็นลูกศิษย์ของครูกวินทร์ มาที่นี่เพื่อพบผู้ ช่วยของเขา”

จัสตินมองๆพวกเขา เห็นนรมนไม่ว่าอะไร จึงพูดขึ้นเรียบๆ “รีบเดินไป ตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่จะหยุดอยู่นานๆ
“ครับๆๆ เราจะไปเดี๋ยวนี้”

พ่อนรมนดึงเนตราเดินไปทางห้อง1302

จนกระทั่งเข้าไปในห้อง เจอผู้ช่วยของกวินทร์ เนตราถึงนึกขึ้น ได้ว่านรมนไปไหนแล้วก็ไม่รู้

ก็หมายความว่าเธอไม่ได้ตามตนเองมางั้นเหรอ?

เมื่อครู่ก็ไม่ได้ยินเสียงนรมนกรีดร้องหรือท่าทางหวาดกลัวเลย ดูแล้วนี่คงเป็นประสบการณ์และความกล้าหาญที่ได้เติบโตมากับ ตระกูลที่ร่ำรวยสินะ

เนตรายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าที่ตอนนี้เธอเป็นสาว สวยแต่เกิดมาฐานะต่ำต้อยล้วนเป็นความผิดของนรมนทั้งหมด

จะอย่างไรพอนรมนก็ถือเป็นเทพคนหนึ่งในโลกของศิลปะ แต่

ตอนนี้เพื่อลูกสาวแท้ๆของตนเอง ไม่นึกว่าจะลดตัวลงมาเพื่อ

ขอร้องผู้ช่วยของกวินทร์ เนตราค่อนข้างดูถูกพ่อนรมนที่เป็นอย่างนี้ แต่เพื่ออนาคตของ

ตนเอง เธอยังต้องอดกลั้นเอาไว้ นรมนไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหนแล้ว แต่ตอนนี้ก็ไม่มีกะจิตกะใจไป

คิด

เธอผลักประตูของห้อง1308

คุณอารองนั่งดื่มชาอยู่ด้านใน ดูแล้วท่าทางไม่ร้อนรนเลย ตอนที่ได้ยินเสียงคนเข้ามาก็เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย จึงเห็นนรมนเดินเข้ามา

แสงอาทิตย์ในตอนนี้ทะลุหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสสะท้อนอยู่บน ร่างของนรมน ทำให้คุณอารองหลงใหลผู้หญิงคนนี้ทันทีช่างสวย เหลือเกิน มิน่าบุริศร์ถึงทำเพื่อเธอได้ทุกอย่าง

สบเข้ากับสายตาที่มีเลศนัยของคุณอารอง ดวงตาที่หลง ทําให้นรมนไม่ค่อยพอใจ

“ถ้าคุณยังมองอีก เชื่อไหมว่าฉันจะควักลูกตาของคุณ? นรมนูพูดอย่างเย็นชา จนกระทั่งนั่งลงไปที่ด้านหน้าของคุณอา

รอง

คุณอารองชะงักเล็กน้อย แล้วยิ้มพูดขึ้น: “หน้าตาสวยขนาดนี้ แต่ปากร้ายนักนะ”

“คุณยังมีเวลามาพูดเล่นกับฉันอีก เยี่ยมจริงๆ

นรมนหยิบแก้วขึ้นมา รินน้ำชาให้ตนเอง วางไว้ที่ปลายจมูก ดมกลิ่นเล็กน้อย ยิ้ม ชาหยุนชั้นดี

เธอจิบไปหนึ่งคำ ท่าทางสงบนั้นทำให้คุณอารองมองด้วย สายตาตกตะลึง

“เธอรู้จักเรื่องชา”

“ฉันยังเข้าใจวิธีฆ่าคนด้วย คุณอยากลองดูหน่อยไหม?” นรมนยิ้มบางๆ แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ คุณอารองส่ายหน้าพูดขึ้น: “ผู้หญิงน่ะ อย่าโหดร้ายนักเลยเธอต้องรู้ไว้นะ ผู้ชายของเธอยังอยู่ในสถานที่คุมขัง จะเป็นการ อยู่ระยะยาว หรืออีกเดี๋ยวก็ได้ออกมา ล้วนแต่เป็นคำพูดของฉัน ดังนั้นเธอควรจะแสดงความนอบน้อมกับฉันสักหน่อย ไม่เสีย เปรียบนักหรอก

“ถ้าฉันบอกคุณว่า ฉันเพิ่งจะออกมาจากสถานที่คุมขัง คุณยัง

มีอะไรจะพูดอีกไหม?”

บรมนมองคุณอารองอย่างเมินเฉย

ต้องบอกว่า คุณอารองคนนี้เทียบกับรูปถ่ายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ของพ่อบุริศร์แล้วดูหนุ่มกว่ามาก แต่ดวงตาคู่นั้นกลับอ่อนโยนได้ ไม่เท่าของพ่อบริศ เลย แค่มองก็รู้สึกถึงความไม่จริงใจแล้ว

หลังจากคุณอารองได้ฟังคำพูดของนรมน รอยยิ้มก็ชะงักงันไป

ชั่วครู่

“เป็นไปไม่ได้!”

“คุณโทรไปถามดูก็ได้ ไม่เป็นไร ฉันมีเวลา

นรมนโยนมือถือของตนเองไปทันที

คุณอารองขมวดคิ้วแน่น เหมือนไม่เชื่อคำพูดที่นรมนพูดมา ทั้งหมด แต่เห็นท่าทางที่สงบนิ่งของนรมน ในตอนนี้แล้ว จึงกลับ ลังเลขึ้นมา

แต่ไม่น่าเป็นไปได้นะ!

นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ