แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1052 ทานก็ยังคงไม่สามารถหยุดปากของคุณได้



บทที่ 1052 ทานก็ยังคงไม่สามารถหยุดปากของคุณได้

“มาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่

บุรีศร์ที่กำลังเก็บโทรศัพท์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นรมนพูดด้วยน้ำสียงอ่อนหวาน อาหารเสร็จแล้ว ล้างมือทาน ข้าวกัน”

“ครับ”

ขณะที่บุริศร์ลุกขึ้นนั้น นรมนรีบยื่นมือมาพยุงเขา

“ผมไม่เป็นไรแล้ว ผมลุกขึ้นเองได้

“ให้ฉันพยุงคุณเถอะนะ ตอนนี้คุณเหมือนระเบิดที่ตั้งเวลาไว้ จะระเบิดขึ้นเมื่อไรไม่รู้”

คำพูดของนรมนทำให้มุมปากบุริศร์กระตุกขึ้น

“เมื่อสักครู่โทรศัพท์หาอินทรีเหรอ” นรมนถามขึ้นลอยๆ

“อืม เนตราไตวายเฉียบพลัน

ค่าพูดของบุริศร์ทำให้นรมนชะงัก

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้

บุริศร์แค่มองก็รู้ว่าเธอนั้นกำลังคิดมากเรื่องอะไร จึงรีบพูดขึ้น”ไม่เกี่ยวกับพวกเรา น่าจะเป็นเพราะโตของเธอมีปัญหาอยู่ก่อน แล้ว เพียงแต่อาการมาออกในเวลานี้

“อย่างนั้นคุณวางแผนทำอย่างไรต่อ

นรมนพยุงบุริศร์นั่งลงบนเก้าอี้

บริศร์มองนรมน ทันใดนั้นยิ้มแล้วพูดขึ้น “ผมอยากดูฉาก ละคร ๆ”

“หือ”

นรมนมึนงงเล็กน้อย

“รอดูนะ แต่ว่าคุณวางใจได้เลย ผมไม่ยอมให้เนตราตาย หรอก ผมจะส่งเธอไปที่โรงพยาบาล สำหรับความผิดของเธอ ผม จะให้ทางตำรวจรับเรื่องต่อ และเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ตอนนี้จิตใจรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง

บริศร์รู้ว่านรมนเป็นคนจิตใจดี แม้ว่าจะถูกคนทำร้าย ก็ไม่ อยากให้ตัวเองมือเปื้อนเลือดและติดคดีฆ่าคนเพราะเนตรา บุรี ศรไม่อยากให้เธอเป็นห่วงจุดๆนี้ แต่แม้ว่าจะเข้าสู่กระบวนการ ทางกฎหมายแล้ว เขาก็มีวิธีของตัวเองในการทวงความยุติธรรม ให้กับนรมน

คนที่ทําร้ายภรรยาของเขา เข้าเรือนจำแล้วทุกอย่างก็จบลง แบบง่ายๆได้อย่างไร เพียงแต่ว่าคำพูดเหล่านี้เขาไม่มีทางพูดกับ นรมนก็เท่านั้น

เรื่องบางเรื่องควรจะปกปิดนรมนไว้ดีกว่า
บุรีศร์ทีสมองกำลังแล่น นรมนพยักหน้า

“แบบนี้ดีที่สุด ฉันไม่ใช่ไม่อยากแก้แค้น เพียงแต่ว่าพวกเรามี ลูกชายลูกสาว ยังมีธุรกิจที่ใหญ่โตของครอบครัว เพื่อเนตราคน เดียว ที่เป็นขยะนั้นมันไม่คุ้ม บางครั้งฉันเองก็คิดว่าหนามยอก ต้องเอาหนามบ่ง ตาต่อตาฟันต่อฟันถึงจะสาสม ทำแบบนี้แล้ว รู้สึกสะใจจริงๆ ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ แต่ลูกๆของพวกเราล่ะจะ ทำอย่างไร บางคนก็เหมือนกับหนูแมลงสาบที่อยู่ในมุมมืด พวก เขามีชีวิตอยู่ในความมืดมาตลอดทั้งวัน และมักจะออกมา ทําร้ายในยามที่พวกเราไม่ได้เตรียมการป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นลูก คนไหนหรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ฉันก็ไม่สามารถรับได้ บุริศร์ เมื่อฉันรักคุณแล้ว มีลูกกับคุณแล้ว ใจฉันก็เซาะลง คุณเข้าใจฉัน ไหม”

“ผมเข้าใจ ผมเข้าใจอย่างดี วางใจเถอะ ต่อไปจะไม่ทำให้คุณ ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว”

บุริศร์กุมมือของนรมนไว้แน่น นรมน โล่งใจขึ้นไม่มากก็น้อย

“รีบทานเถอะ วันนี้ฉันได้ทำเมนูแผ่นปอดสองสามีภรรยา อาหารที่คุณชอบทานที่สุดด้วย

“หือ คุณฝึกเรียนทําอาหารนี้ด้วยเหรอ”

บริศ รู้สึกประหลาดใจ

อันที่จริงเขาก็ไม่มีอาหารจากโปรดที่อยากทานจริงๆ เพียงแต่เมื่อห้าปีก่อนหลังจากที่นรมนถูกฝังอยู่ในทะเลเพลิง เขาก็สนใจ อาหารนี้เป็นพิเศษ และก็เป็นครั้งแรกที่คิดถึงนรมน โดยผ่าน อาหารเมนูนี้

ห้าปีผ่านไปจึงกลายเป็นความเคยชิน ไม่คิดว่านรมนจะจำ ใส่ใจ

ความอบอุ่นประกายแวบเข้ามาในดวงตาของบุริศร์

นรมนพูดอย่างภูมิใจว่า “แน่นอน ฉันเป็นอัจฉริยะนะ อยากจะ เรียนรู้วิธีทำของเมนูอาหารง่ายนิดเดียว”

“ใช่ๆๆ ภรรยาของผมนั้นฉลาดหลักแหลมที่สุด ไม่อย่างนั้นจะ คลอดลูกๆที่ฉลาดให้ผมได้อย่างไร”

การพูดอวยของบุริศร์ยิ่งอยู่ยิ่งไหลลื่น

มุมปากนรมนยกยิ้มขึ้น

“ทานเถอะ ทานก็ยังไม่สามารถหยุดปากของคุณได้”

ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่มุมปากของนรมนกลับอดไม่ได้ที่จะ ยกยิ้มขึ้น ช่างตราตรึงมาก

บริศร์รู้สึกว่าหากสามารถหยุดเวลานี้ได้ก็คงจะดี

หลังจากที่ทั้งคู่ทานอาหารเสร็จ นรมนต้องการอยากไปจีบพัก ยามบ่ายสักหน่อย บุริศร์จึงอาศัยจังหวะนี้ไปที่วิลล่าริมชายหาด คนของวินเซนต์เห็นบริศร์มา จึงลุกยืนขึ้นอย่างเป็นระเบียบ

“เฮียบุริศร์”
“วินเซนต์ออกไปทําธุระ เรื่องทางนี้ได้มอบหมายให้ใคร บริศ ถามด้วยเสียงเบาๆ ท่าทางที่ไม่โมโหแต่ทรงพลังของ เขาทำให้ทุกคนรู้สึกเกรงกลัว

“มอบหมายให้กับปยหัวหน้าหน่วยสองครับ

“เรียกเขามาพบผม”

บุริศร์เดินตรงเข้าไปที่ห้องหนังสือของวินเซนต์

ห้องหนังสือของวินเซนต์เหมือนกับตัววินเซนต์ ที่เต็มไปด้วย บรรยากาศเย็นยะเยือก ให้ความรู้สึกหดหู แต่บนโต๊ะทำงานของ เขามีรูปคู่วางไว้ หญิงสาวที่อยู่ในนั้นยิ้มอย่างร่าเริงสดใสประทับ ใจคน แต่กลับสามารถหยุดอยู่แค่ในรูปถ่ายตลอดไปเท่านั้น

บริศร์หยิบรูปถ่ายขึ้น ในใจรู้สึกหน่วงนิดๆ

ภารกิจสายลับในตอนนั้นได้สูญเสียสหายร่วมรบไม่เพียงแต่ ทรรศยาคนเดียว แต่ว่าคนที่รักเธออย่างสุดซึ้งเช่นนี้ก็เห็นทีจะมี แต่วินเซนต์ ได้ยินมาว่าพ่อแม่ของทรรศยาทำใจได้แล้วกับการ เสียสละของเธอ แต่ตอนนี้เพราะชื่อเสียงโด่งดังของวินเซนต์ ทำให้ได้รักษาระยะห่างกับวินเซนต์ ไม่ยอมให้เขาไปที่เซ่นไหว้ ทรรศยาอีก

อดีตนักบินที่ภาคภูมิใจที่สุดของค่ายทหาร ตอนนี้กลับเข้าไป เขตสุสานผู้กล้าไม่ได้ เซ่นไหว้หญิงสาวที่ตัวเองรักไม่ได้ ความ เจ็บปวดทรมานเช่นนี้ก่อนหน้านั้นบุริศร์ไม่เข้าใจ ตอนนี้เมื่อผ่าน เรื่องราวเหตุการณ์ที่นรมนถูกฝังในทะเลเพลิงแล้ว ถึงได้เข้าใจความเจ็บปวดทรมานนั้นได้อย่างถี่ถ้วน

ตัวเองเมื่อห้าปีก่อนนั้นแทบไม่กล้าจะหวนกลับไปคิดถึงอีก ความคิดของเขาถูกเสียงเคาะประตูขัดจังหวะขึ้น “เฮียบุริศร์”

ปทัยเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา เห็นบริศร์ถือรูปคู่ของทรรศยา กับวินเซนต์จึงตกใจชะงัก จากนั้นพูดเสียงเบาๆขึ้น “เฮียบุริศร์ ครับ ลูกพี่ของพวกเราไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามแตะต้องรูปถ่าย ใบนี้ เคยมีลูกน้องคนหนึ่งแตะต้องแล้วโดนลูกพี่ตัดมือทั้งสอง ข้างทิ้ง”

“อย่างนั้นก็บอกวินเซนต์ว่าผมแตะต้องไปแล้ว ดูสิว่าเขาจะตัด มือของผมทิ้งไหม”

บริศ กล่าวเบาๆ แต่ปทัยกลับตัวสั่นสะท้านขึ้น

“ขออภัยครับ เฮียบุริศร์ ที่ผมก้าวก่ายมากเกินไป

“ไม่เป็นไร คุณคือคนของวินเซนต์ ช่วยเขาปกป้องสิ่งของไม่มี อะไรที่ต้องตาหนิ”

บริศร์วางรูปถ่ายลงแล้วหันหลังมามองปทัย

คนนี้เป็นคนอย่างไรเขานั้นไม่อาจจะตัดสินได้ แต่ว่าคนที่วิน เซนต์สามารถเชื่อใจได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

“ผมเรียกคุณมาเพราะมีเรื่องให้คุณจัดการ

“เฮียบุริศร์ เชิญกล่าวมาได้เลยครับ”
ปทัยรีบยืนตรงขึ้น

จากนิสัยท่าทางของคนเหล่านี้สามารถมองออกได้ว่าวินเซนต์ นั้นฝึกฝนพวกเขาตามเงื่อนไขบังคับของกองกำลังทหารพิเศษ ถ้าหากว่าพวกเขาเป็นสมุนซ้ายขวาของวินเซนต์โดยตลอดถือว่า ใช้ได้เลย แต่ถ้าหากมีใครเกิดทรยศขึ้นมานั่นคือสิ่งอันตรายที่ ซ่อนอยู่

บุริศร์ก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แต่เขาก็พูดขึ้น เบาๆ นําตัวเนตราไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลทหาร จากนั้นเรียบ เรียงความผิดของเธอแล้วส่งไปให้กับทางการตำรวจ และหาวิธี นำเรื่องไตวายฉับพลันของเนตราไปบอกกล่าวกับพ่อแม่นรมน สามารถทําได้ไหม”

“รับประกันว่าภารกิจจะสําเร็จครับ”

ปทัยได้เดินออกไป บุรีศร์อยู่ในห้องหนังสือก็รู้สึกหดหู่มาก เขาต้องการจะออกจากที่นี่ แต่กลับเห็นคอมพิวเตอร์ของวิน เซนต์เปิดอยู่ จึงถอนหายใจแล้วก็จับเมาส์ขึ้น มีหน้าต่างเด้งขึ้น มา แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

บุริศรทองดูอยู่สักพัก จากนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์ลงเงียบๆ

เขาเดินออกมาจากตัววิลล่าริมชายหาด แล้วขับรถเข้ามา จนถึง ในเมือง ถึงได้โทรศัพท์หาพฤกษ์

“ช่วงนี้มีเวลาหรือเปล่า ไปทำธุระนอกสถานที่หน่อยได้ไหม ทางฝั่งพฤกษ์มีเสียงที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรดังลอยมา
เขารีบหยิบโทรศัพท์แล้วสวมกางเกงยีน จากนั้นเดินมาที่ ระเบียง

“ประธานบริศร์มีอะไรรับสั่งครับ

“อยู่กับทิพย์เหรอ”

บุริศร์จุดบุหรี่มวนหนึ่งขึ้น

พฤกษ์กระแอมขึ้นด้วยความเขินแล้วพูดขึ้น”อึมครับ”

“เดิมทีก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาอันมีค่าของพวกคุณ แต่ว่า เรื่องนี้นอกจากคุณแล้วไม่มีคนที่ผมจะวางใจได้อีกแล้ว

คำพูดของบริศ ทำให้พฤกษ์ขึงขังขึ้น

เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

“ผมกลัวว่าวินเซนต์จะเกิดเรื่อง พฤกษ์ ผมอยากให้คุณไปยูน นานสักหน่อย ปกป้องวินเซนต์อย่างเงียบๆ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ความปลอดภัยของวินเซนต์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

คำพูดของบุริศร์ทำให้พฤกษ์ตกใจชะงัก

“อินทรีเขาไปยูนนานเหรอครับ ไม่ได้อยู่ที่เมืองชลธีหรอกเหรอ”

“เพราะเรื่องส่วนตัวขอผมถึงได้ไปยูนนานคุณมีเวลาหรือเปล่า”

“ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
บริศ พูดเสียงเบาๆ คุณก็ต้องระวังตัวด้วย คุณก็รู้ว่าผมก็เป็น ห่วงคุณไม่แพ้กัน

“ผมรู้ครับ วางใจเถอะประธานบริศร์ ผมจะดูแลตัวเองให้ดี ใช้ แล้ว กิมจิส่งข่าวมาให้ผมเมื่อไม่กี่วันก่อน บอกว่าที่ยูนนานมี ความวุ่นวายเล็กน้อย คุณคิดว่าผมจะสามารถนำคนของเราส่วน หนึ่งไปด้วยได้ไหม”

บุริศร์ขมวดคิ้วขึ้น

กิมจิคนนี้ถ้าพฤกษ์ไม่เอ่ยถึง เขาแทบเกือบจะลืมคนคนนี้ไป แล้ว ตอนนี้เมื่อได้ยินชื่อของเขา จู่ๆรู้สึกห่างเหินจัง

บุริศร์นั้นรู้ว่ากิมจิชอบนรมน เคยทรยศนรมนเพราะเรณุกา ถึง ได้เสียใจมาโดยตลอด ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ตอนนี้อย่าเพิ่งพาคนของเราไปด้วยเลย คุณคอยสังเกตดู กิมจิไปก่อน ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอย่างไรกับนรมน ถ้าหากยังเห็น นรมนนั้นเป็นนายหญิง เฉพาะคนที่อยู่ในมือของเขาก็สามารถ จัดการความวุ่นวายทางยูนนานให้อยู่หมัดได้

“ครับ”

เมื่อวางสายโทรศัพท์ลง พฤกษ์ก็ออกมาจากระเบียง แล้วเห็น คมทิพย์ได้แต่งกายเรียบร้อยพร้อมที่จะจากไป

“จะไปแล้วเหรอ”

พฤกษ์ใช้มือทั้งสองข้างโอบล้อมตัวคมทิพย์ไว้ อยากจะง้อ เอาใจสักหน่อย แต่กลับถูกคมทิพย์ใช้มืออุดปากไว้
“เป็นบุรีศรีเหรอ”

“อืม”

“จะออกไปอีกแล้วเหรอ”

“อืม”

พฤกษ์รู้สึกว่าสายตาที่คมทิพย์มองตัวเองนั้นได้แปรเปลี่ยนไป จึงรีบโอบแขนแน่นขึ้นแล้วพูดว่า “หรือคุณจะไปท่องเที่ยวกับผม ด้วย

คมทิพย์คิดไม่ถึงว่าพฤกษ์จะชวนตัวเอง ความหงุดหงิดเมื่อสัก ครูได้มลายหายไปฉับพลัน

“ฉันไม่ไปด้วยหรอก บุริศร์ส่งคุณไปต้องเป็นงานที่เร่งด่วน แน่นอน ฉันไปด้วยก็ไม่สามารถเที่ยวชมวิวทิวทัศน์กับคุณได้ แถมยังต้องเป็นเลขาของคุณอีก ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงานหนัก นะ คุณรีบไปทำงานเสร็จให้เร็วๆแล้วรีบกลับมาก็พอแล้ว อีก อย่างฉันยังต้องอัดเพลงด้วย ริชาร์ดเร่งฉันสองสามรอบแล้ว”

พฤกษ์เห็นคนทิพย์อารมณ์ดีขึ้นจึงได้ถอนหายใจโล่งอก

“ตกใจหมดเลย ถ้าหากคุณไม่ยกโทษให้ผม ผมคงกินไม่ได้ นอนไม่หลับ”

“แหวะ! ฉันไม่เชื่อหรอก ใช่แล้ว คุณช่วยทำธุระให้ฉันหน่อย ได้ไหมระหว่างทางที่คุณออกไปทำธุระ

พฤกษ์ย่อมตอบตกลงคำร้องขอของคนทิพย์
“คุณพูดมา”

“ช่วยฉันสืบหาข่าวคราวของมายด์หน่อย”

“มายด์เหรอ”

พฤกษ์คิ้วขมวดขึ้น รู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหู แต่จำไม่ได้ว่าเป็นใคร

คมทิพย์พูดเสียงเบาๆ “ปัญญ์ส่งข่าวมาจากต่างประเทศ บอก ว่าการรักษานั้นเป็นไปด้วยดี สามารถลงพื้นที่ฟื้นฟูสมรรถภาพ ได้แล้ว แต่ถ้าต้องการให้ดีเต็มร้อย คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีก หนึ่งปีครึ่ง เขาเอ่ยถึงมายด์คนนี้กับฉัน ก็คือครอบครัวของป้อง สาวของปวีรา ตอนนั้นได้มาที่ตระกูลเจริญไชยของเราแล้ว แต่ ต่อมาเชษฐ์ได้ทำลายตระกูลเจริญไชยลง คนจึงได้หายไปอย่าง ไร้ร่องรอย ฉันถูกเรื่องของตระกูลเจริญไชยกดทับจนทำให้ลืมคน คนนี้ ปัญญ์ขอร้องให้ฉันสืบค้นหา คุณช่วยหน่อยนะ

ทันใดนั้นพฤกษ์เอามือตบหน้าอกแล้วพูดขึ้น “คุณวางใจได้ ค่าก๋าชับของน้องภรรยาผม ผมจะต้องทำให้สำเร็จอย่าง แน่นอน”

ขณะกำลังพูด โทรศัพท์ของคมทิพย์ได้ดังขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ