แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 872 ให้ผมกระทืบก่อนแล้วค่อยพูด



บทที่ 872 ให้ผมกระทืบก่อนแล้วค่อยพูด

“ฉันออกมาได้อย่างไรนายไม่จำเป็นต้องรู้ นายควรรู้แค่เพียง นายมาจากที่ไหน ตอนนี้ก็กลับไปที่นั่นซะ

บุริศร์สีหน้าเย็นซา

ภาริชมองออกไปข้างนอก มีแต่คนของบุริศร์อยู่ทุกที่ จึงอดหรี่ ตาลงไม่ได้

“ฉันไม่เชื่อว่านายจะกล้าทำอะไรพ่อ

“นั่นคือพ่อของนาย ไม่ใช่ฉัน ฉันเติบโตขึ้นมาจากตระกูลโต เล็ก คนที่อบรมเลี้ยงดูฉันมาคือพ่อของฉันที่ตายไปแล้ว ส่วนคน ที่นายพูดถึง นั่นคือคนบ้า นายอยู่กับเขามาตลอด นายก็เลย กลายเป็นบ้าไปด้วย

บุริศร์พูดจบ จึงมองไปที่นรมนอีกครั้ง

“เจ้านี้ไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม? คุณไม่ถึงว่าคุณจะจำผมไม่ ได้ ? เขาไม่ได้รังแกคุณใช่ไหม?

นรมนสัมผัสได้ถึงความหึงจากน้ำเสียงของบุริศร์

“เปล่า เพียงแค่ทะเลาะกับฉัน”

“เขาเกือบทำให้หม่ามแท้ง คุณน้าโพนี่อยู่ที่บ้านแล้ว”

กานต์พูดแทรกขึ้นมาจากด้านนอก
ดวงตาของบุรีศร์มืดมนลงในชั่วพริบตา

“คิดไม่ถึงว่านายจะใช้ตัวตนของฉันทะเลาะกับผู้หญิงของ ฉัน? ฉันทำให้เธอน้อยใจไม่ลงด้วยซ้ำ คิดไม่ถึงว่านายจะ กล้า? *

บุริศร์พูดจบ ตรงไปที่ภาริชทันที

ภาริชรีบตอบโต้ กลับมองเห็นโอกาส จึงออกอุบาย จากนั้นวิ่ง อย่างสุดฝีเท้า

“ขัดขวางมันเอาไว้

บริศ ดูหมิ่นไม่น้อย

คนแบบนี้ยังจะมีหน้าใช้ใบหน้าเดียวกับตนเองออกมาเที่ยว หลอกลวงต้มตุ๋น?

นาวินดึงกานต์ไปอยู่ด้านข้าง ทันทีที่ภาริชวิ่งออกมา ลงมือกับ

เขาทันที

ภาริชอาจจะคิดไม่ถึงว่าพละกำลังของนาวินจะร้ายกาจเช่นนี้ ผลลัพธ์ของการบล็อกส่งผลให้แขนชา คิดจะวิ่งออกไปอีกก็เป็น

ไปไม่ได้

“พาตัวลงไป”

บุริศร์สั่งอย่างไม่แยแส ไม่ใจอ่อนเลยสักนิด

“บุริศร์ นายกล้าเหรอ? นายรู้เอาไว้นะ พวกเราคือพี่น้องกัน หรือนายจะทําร้ายพี่น้อง
ภาริชยังคงตะโกนเสียงดัง ในขณะที่จู่ ๆ ธิดาก็กลับมา

“ประธานบริศร์ คุณนาย”

นรมนนิ่งไปชั่วคราว มองนาวินด้านนอก และมองธิดา สมอง ผูกปมเรื่องราว

ทำไมเธอจึงรู้สึกว่าสมองมึนตึบ

“ธิดา คุณไม่ได้ไปไหนเหรอ?

“เปล่าค่ะ คุณนาย ฉันอยู่ในเมืองชลธีตลอด เพียงแต่เป็นการ จัดฉากของประธานบริศร์ ให้พวกเราอยู่เฉยสักพักหนึ่ง

คำพูดของธิดาทำให้นรมนมองไปทางบริศร์อย่างงุนงง “กลับไปผมจะเล่าให้ฟัง เด็กดี”

เมื่อบริศรสบตากับนรมน คนทั้งคนก็อ่อนโยนลงมาก ๆ

ธิดากล่าวด้วยรอยยิ้ม : “ประธานบริศร์ เป็นไปตามที่ท่าน คาดเดา ท่านเพิ่งจะไป คุณท่านรองก็ฉวยโอกาสหลบหนีออกไป เดาว่าตอนนี้คงจะใช้ภาริชถ่วงเวลาอีก ให้ตนเองมีโอกาส พยายามหลบหนีไปได้

“เป็นไปไม่ได้! พ่อของฉันไม่มีทางทิ้งฉันเอาไว้! หลายปีที่ ผ่านมาเขากับฉันพึ่งพาอาศัยกัน

ภาริชได้ยินธิดาพูดแบบนี้ จึงพยายามดิ้นรนทันที

บริศร์กลับกล่าวอย่างเย็นชา : “อย่าเพิ่งรีบแสดงละครต่อ หน้าฉัน นายกับเขาวางแผนตั้งหลายปี รีบกลับมาทันทีเมื่อเรณูกาลงจากตำแหน่ง หรือเพื่อให้ฉันรู้ว่ามีพวกนายอยู่? เพียงเพื่อ โอนเงินบางส่วนจากตระกูลโตเล็ก? อาจจะพูดได้ว่าคุณอารอง คิดหาหนทางมานานหลายปี หรือว่าถูกฉันโจมตีก็ทนไม่ไหวแล้ว จากนั้นจึงรีบหนีไป? ฉันไม่เชื่อ! พวกนายยังต้องมีจุดประสงค์ อื่นอีกใช่ไหม? ไม่อย่างนั้น ทำไมพวกนายต้องจัดการตระกูล เจริญไชยด้วย? ตระกูลเจริญไชยมีอะไรที่พวกนายสนใจ? ฉัน คิดว่านายจงใจยอมแพ้ ทางฝั่งคุณอารองก็จะส่อให้เห็นว่าวิ่งหนี เพื่อล่อคนของฉัน ซื้อเวลาให้นาย? นายอยู่ในบ้านตระกูลโต เล็กมาคืนหนึ่งแล้ว เจอสิ่งของที่นายต้องการหรือยัง? ”

ได้ยินบริศร์พูดเช่นนี้ หัวคิ้วของนรมนชมวดเล็กน้อย รู้สึกว่ามี เรื่องซับซ้อนอยู่ข้างในมากมาย และสีหน้าของภาริชกลับเปลี่ยน ไปเพราะคําพูดของบริศร์

“เอาตัวลงไปและเฝ้าให้ดี

บุริศร์ออกคำสั่ง ภาริชถูกนาวินพาตัวไป

ส่วนธิดาพวกานต์ออกไป

เมื่อภายในห้องเหลือแค่เพียงนรมนกับบุริศร์ นรมนยังคงมี ท่าทางงุนงง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”

มองเห็นแววตางงงวยของนรมน บุริศร์จับมือของเธอ จึงพบว่า มือของเธอเย็นมาก

“ไม่สบายหรือเปล่า? หรือสิ่งที่กานต์พูดเป็นความจริง? เจ้านั่นเกือบทําให้คุณโกรธจนแท้ง? สภาพร่างกายของคุณเป็น อย่างไรบ้าง? โพนี่ว่าอย่างไร? ช่างเถอะ ผมโทรไปถามเธอเอง ดีกว่า”

บุริศร์พูดแล้วก็จะไปโทรศัพท์ กลับถูกนรมนขวางเอาไว้

“อย่าไปรบกวนโพนี่เลย ฉันไม่เป็นอะไร เมื่อเช้าฉันทะเลาะกับ ภาริช ทำให้ฉันหงุดหงิดจริง ๆ ตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่า บุริศร์ เป็นอะไรไป? เรื่องเพียงเล็กน้อยต้องถึงขนาดนี้เลยเหรอ? แถม ยังทะเลาะกันต่อหน้าลูก ๆ บอกว่าจะพาลูก ๆ ไปเขตทหาร ตอน นั้นทำให้ฉันโมโหแทบคลั่งจริง ๆ ”

นรมนพูดไปเรื่อย ๆ สีหน้าของบริศร์กลับยิ่งดูไม่ได้ “เขาทะเลาะกับคุณต่อหน้าลูก ๆ ?

“ใช่ น่าโมโหจริง ๆ ทำให้กมลตกใจจนร้องไห้ แค่นรมนนึกถึงก็ท่าทางเศร้าโศกเสียใจของกมลก็เจ็บปวด หัวใจมาก

บุริศร์โทรหานาวินทันที

“ให้ผมกระทืบก่อนแล้วค่อยพูด”

ในครั้งนี้นรมนไม่ได้ห้ามเอาไว้ภาริชเป็นคนกวนโอ๊ยจริง ๆ หลังจากโทรศัพท์เสร็จ บุริศร์พยุงนรมนนั่งลงบนเก้าอี้ เขาถูมือของนรมนไปมา จนได้อุณหภูมิที่ต้องการจึงหยุดลง “ขอโทษนะ ทำให้คุณตกใจหมดเลย”
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมีคุณอารองกับการซ โผล่ออกมา? ”

ได้ยินนรมนถามเช่นนี้ บุริศร์จึงตอบเสียงเบา ไม่นับว่า อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาหรอก ตั้งแต่ผมรู้ว่าคุณอารองยังไม่ตายในวัน นั้น ผมก็เตรียมตัวป้องกันตั้งแต่วันนั้นเลย เพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ยังมีภาริชอยู่ด้วย”

“ภาริชบอกฉันว่า ปีนั้นป้าโอทำเด็กหลอดแก้ว เพื่อรับรอง อัตราการรอดชีวิต จึงใช้ตัวอ่อนหลายตัว เพียงแต่รอดมาได้สาม คน คุณอารองเก็บเอาไว้คนหนึ่ง เดาว่าคงเตรียมป้องกันอะไร

นรมนเล่าสิ่งที่ได้ยินมาจากภาริชให้บริศร์ฟัง

บุริศร์พยักหน้า

“ไม่แปลกใจเลย ฉันยังคิดว่ามีคนเปลี่ยนใบหน้าอีกแล้ว”

“พูดอะไรเนี่ย? ”

นรมนถีบเขาหนึ่งที บุริศ เพียงแค่หัวเราะ

“เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นหลังจากที่คุณกลับไปตระกูลโต เล็ก? ”

“เมื่อผมได้รับสายจากกานต์ ผมก็ไม่สบายใจ พ่อของผมจาก โลกนี้ไปแล้ว ทำไมถึงยังมีคนอ้างตัวว่าเป็นพ่อของผมมาตามหา ผมอีก? ตอนนั้น ในสมองผมนึกถึงคุณอารอง เพียงแต่คมทิพย์ บอกว่าผมพาคนไปจัดการตระกูลเจริญไชย ผมจะไม่ยอมเป็น แพะรับบาปนี้ แต่ต้องการรู้ว่าเป็นใคร ดังนั้นผมจึงให้นาวินและคนอื่นตามผมอยู่อย่างลับ ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม ไม่ อนุญาตให้ส่งเสียง และไม่อนุญาตให้ออกมา

บุริศร์เทน้ำร้อนให้นรมนหนึ่งแก้ว จากนั้นจึงกล่าวอย่างผ่อน คลาย: หลังจากผมกลับไปก็ได้เจอกับคุณอารอง เขาเหมือน กับพ่อของผมสุด ๆ แต่แววตากลับไม่เหมือนกัน พ่อของผมตรง ไปตรงมา มีเมตตา ส่วนคุณอารองคนนี้ดูไม่สัตย์ซื่อ แววตามี ความชั่วร้าย เขาบอกผมว่าต้องการไปคุยที่ห้องทำงาน ผมจึงไป แต่หลังจากเข้าไปก็ถูกคนทำให้สลบ ”

ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนตึงเครียดขึ้นมาทันที

“อีกฝ่ายฝีมือดีมากเลยเหรอ? สามารถทำให้คุณสลบได้?

บริศ รีบพูดปลอบโยน : “เปล่าหรอก ผมแกล้งทำเป็นสลบ ไม่อย่างนั้นผมจะตรวจสอบฐานที่มั่นของคุณอารองได้อย่างไร? และจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาต้องการอะไร? หลังจากผมสลบไป คุณ อารองก็ให้คนยัดผมเข้าไปในรถ อ้างว่าต้องการกลับ จึงออกไป จากตระกูลโตเล็กได้อย่างเปิดเผย เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าในบ้านยัง มีภาริชที่หน้าตาคล้ายกับผม ถ้าผมรู้ เมื่อคืนผมต้องให้นาวิน กระทืบเขาแน่นอน”

พูดถึงตรงนี้ แววตาของบุริศร์คลุมเครือไปด้วยความแค้น เคืองและหดหู่ใจ

“ไม่เป็นไรหรอก เขาก็ไม่ได้ทำอะไรฉัน แค่ทะเลาะกันเฉย ๆ ฉันเองก็เข้าใจผิด คาดไม่ถึงว่าจะยังคิดว่าคุณกลั่นแกล้งฉันอีก แล้ว ฉันยังบ่นกับกานต์อยู่เลย บอกว่าคุณใจแคบ พูดจริงนะตอนนั้นฉันรู้สึกน้อยใจแทบแย่ จนแม้แต่คิดจะหย่ากับคุณด้วย

ทันทีที่นรมนพูดคำนี้ออกมา บุริศร์กระชับเอวเธอแน่น พูด อย่างโมโหว่า: “คุณยังพูดว่าจะหย่ากับผมอย่างไม่กระดากใจ อีกเหรอ? คุณไม่รู้จักสามีของคุณเหรอ? ไม่ว่าผมจะโมโหหรือ ทรมานใจอย่างไร ผมก็ไม่มีทาง ใส่อารมณ์กับคุณ เรื่องนี้คุณไม่รู้ เลยเหรอ? ”

“นี่ไม่ใช่ว่าคมทิพย์วางแผนกับคุณ ฉันยังคิดว่าคุณไม่สามารถ ข้ามอุปสรรคนี้ไปได้”

นรมนรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนโง่

เธอไม่เคยคิดว่าหลังจากตรินท์ตายไปยังจะมีผู้ชายที่หน้าตา เหมือนบุริศร์ปรากฏตรงหน้าเธออีก

เพียงแต่เห็นท่าทางโมโหของบุริศร์ในตอนนี้ เธอรีบพูดเอาใจ ว่า “เอาล่ะ ๆ ทั้งหมดคือความผิดของฉันเอง ฉันมีตาหามีแวว ไม่ แยกคุณไม่ออก ทั้งหมดเป็นฉันเองที่ไม่ดี คุณเห็นแก่ที่ฉัน เกือบแท้งยกโทษให้ฉันได้ไหม? ”

ฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าของบุริศร์กังวลอย่างมาก

“จะไม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลจริง ๆ เหรอ? เมื่อวานตอนผม ออกไปไม่ได้บอกให้คุณอยู่ในบ้านของป้องเหรอ ? คุณกลับมา ได้อย่างไร? ”

“ฉันเป็นห่วงคุณ ทั้งคืนไม่โทรไม่ส่งข้อความมา ฉันยังคิดว่าคุณยังโกรธอยู่ ตีสี่ฟ้ายังไม่สางทำธุระเสร็จก็รีบกลับมา ปรากฏ ว่ากลับถูกการชด่าจนฉันต้องทะเลาะกับเขายกใหญ่”

นรมนพูดถึงตรงนี้ก็แอบเหลือบมองบุริศร์ เหมือนกับภรรยาตัว น้อยที่ทําผิดพลาด

บุริศร์จะตำหนิเธอได้อย่างไร?

เขาถอนหายใจ ลูบไล้เส้นผมของนรมนและกล่าวว่า “คุณ นะ คิดถึงคนอื่นมากเกินไป

“อืม เมื่อวานคมทิพย์อารมณ์เสียมาก ตอนนั้นคุณก็โมโหสุด ๆ ฉันกลัวว่าคุณจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอจริง ๆ

“จะเป็นไปได้อย่างไร? อย่างไรเสียเธอคือเพื่อนสนิทของคุณ เพื่อคุณ ขาทั้งสองข้างของปัญญ์ถึงกลายเป็นแบบนั้น ผมจะคิด เล็กคิดน้อยกับเธอได้อย่างไร เพียงแต่เรื่องนี้ค่อนข้างน่าแปลก จริง ๆ ถึงแม้ภาริชจะพาคนไปจัดการตระกูลเจริญไชย แต่มัน เพราะว่าอะไร? ตระกูลเจริญไชยมีอะไรอยู่ในมือที่คุณอารองกับ ภาริชต้องการ? แต่ก่อนก็ไม่เคยได้ยินว่าตระกูลเจริญไชยมีของ ล้ำค่าอะไร”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนนิ่งไปชั่วคราว และกล่าวเสียงเบา ว่า “ฉันมักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ ชายแดนของชยนต์ คุณลองคิดดูสิ พวกเขาไปหาชยนต์ที่ ชายแดนเพื่อฉัน แต่ไปตั้งนานไม่มีข่าวคราวอะไร ทันใดนั้นก็เกิด เรื่องขึ้นกับตระกูลเจริญไชย ปัญญ์ก็มาขาหัก พวกเราควรจะเริ่ม ตรวจสอบจากชยนต์สักหน่อยดีไหม? ”
“รู้ว่าคุณจะทำแบบนี้ คุณคงคิดดีแล้ว ตอนนี้เรื่องของตระกูล เจริญไชยยังไม่มีต้นสายปลายเหตุ ถ้าตรวจสอบไม่รู้ว่าจะต้องใช้ เวลานานแค่ไหน การแข่งขันการประกวดออกแบบรอบแรกของ คุณมีเวลาไม่มากแล้ว คุณยังต้องการตรวจสอบจริง ๆ เหรอ?

ได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ นรมนพูดอย่างแน่วแน่ : “ถึงแม้จะไม่ เข้าร่วมการประกวดออกแบบ ฉันก็จะต้องให้คำอธิบายแก่คน ทิพย์และตระกูลเจริญไชย! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ