แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1056 ภรรยาของคนอย่างบุริศร์มีสิทธิ์นี้



บทที่ 1056 ภรรยาของคนอย่างบุริศร์มีสิทธิ์นี้

พอบุรีศรีสัมผัสได้ถึงสายตาของนรมนแล้ว อยู่ดีๆ ก็รู้สึก เสียใจขึ้นมา

“ที่รัก ปล่อยฉันครั้งหนึ่งนะ!”

ถ้าหากว่าเป็นปกติละก็ นรมนเห็นบริศร์เป็นแบบนี้คงดีใจไม่ น้อย แต่ว่าตอนนี้เป็นช่วงพิเศษ เห็นภรรยาอดอยากปากแห้ง แบบนี้ ต้องทำยังไงดี?

นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที

คิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่าจะมีวันที่บุริศร์ถูกตัวเองแกล้งได้ถึง

ขนาดนี้

“ฉันก็ยังไม่ได้บอกว่าจะทำอะไร คุณคิดไปไกลถึงไหนแล้ว?” นรมนทั้งพูดทั้งหัวเราะ พร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูแล้ว

โยนไปที่ศีรษะของบุริศร์

“นั่งลง”

บุริศร์ก็ไม่กล้าที่จะขัดขืน

ตอนนี้ขอเพียงแค่นรมนไม่ขอเรื่องนั้น จะขอเรื่องอะไรก็ได้ หมด

หลังจากที่บุริศร์นั่งลง นรมนก็เอาผ้าขนหนูเช็ดผมให้เขาจน แห้ง พร้อมกับเอาไดร์เป่าผมมาเป่าให้ พอทำทุกอย่างเสร็จ เธอถึงยื่นชุดให้เขา

“ต่อไปถ้าไม่เช็ดให้แห้งก่อนห้ามออกมา มีประโยคหนึ่งเคย กล่าวว่า เสน่ห์ผู้ชายทำให้ลุ่มหลง คุณเคยได้ยินไหม? คุณออก มาแบบนี้ฉันอาจจะคิดไปไกลได้”

“แล้วเป็นความผิดของฉันเหรอ?” บริศร์ทนกลั้นไม่ไหวจึงหัวเราะขึ้น

“ไม่ใช่ความผิดคุณ แล้วเป็นความผิดของฉันงั้นเหรอ?” “ก็ได้ ความผิดฉันเอง”

บริศ ยอมรับผิดด้วยความเต็มใจ จนนรมนไม่รู้จะแหย่เขายัง

ไงแล้ว

“ตอนนี้ปล่อยฉันไปก่อนนะ

ทั้งสองคนพูดคุยกันสักพัก บุริศร์ก็ไปที่ห้องทำงานเพราะมี

เรื่องงานของบริษัทต้องจัดการ

นมนนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน

วันที่สองตอนที่ตื่นขึ้นก็พบว่าเป็นเวลาสิบโมงกว่าแล้ว และบุรี ศร์ก็ไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ เธอแล้ว

ผู้ชายคนนี้วันก่อนยังบอกว่าจะพาตัวเองออกกำลังกายตอน เช้า แต่วันนี้ก็ยังให้นางตื่นสายอีกแล้ว

นรมนบิดขี้เกียจไปมา พร้อมกับจัดการตัวเองเรียบร้อยก็ยังไม่ เห็นบุริศร์
ป้าหวานยกรังนกเข้ามาให้เธอ

“คุณนาย คุณท่านบอกว่าให้ท่านดื่มหลังตื่นนอนค่ะ”

“เขาไปไหน?”

บุริศร์จามออกมาทันที และรู้สึกเหนื่อยไปทั้งตัว แปลกจริง เมื่อคืนไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ทำไมถึงได้เหนื่อย ขนาดนี้?

ป้าหวานรีบพูดขึ้น “คุณท่านบุริศร์ออกไปบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ แล้ว เหมือนว่าที่บริษัทมีงาน และบอกว่าคุณนายไม่ต้องรอ ตอน เที่ยงคงจะกลับมาไม่ได้

“ก็ได้”

นรมน โบกมือไปมา และพอดื่มรังนกหมด ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น มาเลื่อน Weiboดูด้วยความเคยชิน แล้วอยู่ๆ สีหน้าของเธอก็ เปลี่ยนไป

นักข่าวของศิลปินจยาได้ประกาศว่าทำพังแล้ว

เป็นได้ยังไง?

พริมาเป็นคนของบุริศร์ เรื่องการทำงานนั้นไม่ต้องพูดถึง และ เรื่องของจยานั้น เพียงแค่หาหลักฐานได้ก็สามารถเคลียร์ ปัญหาได้แล้ว ทำไมถึงฟังได้

นรมนเห็นในWeiboกำลังเม้นด่าจยาทั้งหมดเลย แถมยัง ลามมาถึงบริษัทผลิตภาพยนตร์ของนรมนอีกด้วย คิ้วของเธอขมวดแทบติดกัน

“ฉันออกไปข้างนอกหน่อย”

นรมน ใส่เสื้อคลุมทันที พร้อมกับไปบริษัทของบุริศร์ แต่ดันประตูทางเข้า

ทำไมมาที่?

นโมนขมวดคิ้วมองหล่อน แต่ยังลงจากรถ

“นรมน ฉันของกับพี่ไหม?

อรอุรชาขวางนรมนเอา

นรมนรีบกัน”

พูดจบเธอกำลังเดินออกแต่หล่อนกลับเข้ามาขวาง

“นรมน เรื่องต้องการให้ช่วยจริงๆ นะ ขอนรมนเริ่มไม่แล้ว

ฉันรู้ฉันพูดชัดหรือว่า ของเธอมีปัญหา ไม่ได้ยินเห รอว่าฉันบอกว่าตอนฉันเรื่องต้องจัดการ”

แต่เรื่องฉันเร่งรัดมาก

อรอุรชาก้มหน้าพร้อมใบหน้าที่เสียใจ
บรมนสบถออกมาแล้วพูดขึ้น เรื่องของเธอมันเร่งรัด แล้วคิด ว่าคนอื่นว่างงั้นเหรอ? เธอเป็นเงินหยวนเหรอ? ทุกคนต้อง ห้อมล้อมเธออย่างงั้นเหรอ? เธอคิดให้ดีๆ ว่าตอนนี้เธอกำลัง ร้องขอให้ฉันช่วยอยู่ ฉันช่วยเธอก็ถือเป็นน้ำใจ ฉันไม่ช่วยก็เป็น สิทธิของฉัน เธอมาทำท่าทางน่าสงสารแบบนี้ให้ใครดูเหรอ? ”

เรื่องของบริษัทอยู่ในช่วงคับขัน นรมนไม่มีอารมณ์มาเสวนา กับหล่อน ในตอนนี้ เพราะหล่อนเองก็ไม่ได้สำคัญอะไร จะไปโทษ นรมน โมโหก็ไม่ได้

แต่อรอุรชากลับไม่คิดแบบนั้น

หล่อนคิดว่านรมนจงใจแกล้งตัวเอง จึงทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้น “ฉันรู้ เจตต์กับขวัญตาจดทะเบียนกันแล้ว พี่ก็เลยดูถูกฉันอย่าง นั้นใช่ไหม? ไม่สิ พี่อาจจะดูถูกฉันตั้งแต่แรกแล้ว ฉันเองที่โง่ เสียดายที่คิดว่าพี่เป็นคนดี”

นรมนยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น พร้อมกับจ้องอรอุรชาด้วยความ

โมโหถึงขีดสุด

“เธอคงคิดว่าตัวเองเป็นคนจนแล้วพูดอะไรก็ฟังขึ้นใช่ไหม เธอ เป็นกลุ่มคนอ่อนแอพวกเราก็ต้องยอมอย่างงั้นเหรอ? ใครสนใจ ในความจนของเธอ? หลีกไป!”

นโมนพูดจบก็ผลักอรอุรชาออก

แรงของเธอไม่มาก ถึงแม้ว่าจะมีความโกรธ ก็ยังออมมือไว้อยู่ แต่อรอุรชากลับล้มลงไปที่พื้นทันที พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
“พี่นรมน ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉัน?”

เสียงของหล่อนไม่ดังมาก แต่ก็สามารถทำให้คนที่อยู่รอบข้าง ได้ยินกันหมด

“แฉะ” มีเสียงดังขึ้นเสียงหนึ่ง นรมนรู้สึกแค่ว่ามีแสงสว่างจ้า ขึ้นมา และเพียงแค่แวบเดียวบรรดานักข่าวก็ต่างมาล้อมเธอเอา ไว้ทันที

“คุณนายบุริศร์ ได้ยินว่าคุณเป็นประธานกรรมการบริษัท splendor เอนเตอร์เทนเมนต์ คงไม่ใช่เป็นเพราะปัญหาเรื่อง ศิลปินของบริษัทคุณที่ชื่อ ณัจยาแล้วเอามาลงกับคนบริสุทธิ์ หรอกใช่ไหม?”

“คุณนายบุริศร์ ถึงคุณจะเป็นภรรยาของคุณบุริศร์ ก็ไม่ควรจะ ใช้กำลังรังแกคนอื่นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”

เหล่าบรรดานักข่าวต่างพากันวิจารณ์และตั้งคำถาม

ถ้าหากว่าตอนนั้นรมนยังไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าเป็นยังไงก็

คงโง่มาก

เธอหันไปมองอรอุรชาแวบหนึ่ง และมองเห็นตอนที่หล่อนยัง

ไม่ทันจะหุบยิ้ม

นรมนจึงไม่รีบร้อนในทันที

เธอเอามือขึ้นมากอดอกพร้อมกับจ้องไปที่อรอุรชา แล้ว หัวเราะขึ้น เธอเป็นคนบริสุทธิ์งั้นเหรอ?”
“คุณนายบุริศร์ ……….

ตอนนี้ขนาดซานเรียกชื่อ นรมน หล่อนยังเปลี่ยนการเรียกเลย

“ไม่เรียกฉันว่า พี่นรมนแล้วเหรอ? ก็ดี ในเมื่อนักข่าวพวกนี้ก็ อยู่ งั้นเราก็มาพูดเรื่องที่เธอจงใจวิ่งตัดหน้ารถของฉันเพื่อ ต้องการค่าเสียหาย รถของฉันก็ไม่ใช่รถมียี่ห้ออะไรก็ แค่Cayenne ค่าซ่อมแซมฉันจะสั่งให้คนส่งไปให้เธอ ฉันหวังว่า เธอจะจ่ายค่าซ่อมแซมภายในหนึ่งอาทิตย์ เพราะรถคันนั้นฉันใช้ เป็นประจําและขับคล่องมือแล้ว”

คำพูดของนรมนทำให้สีหน้าของอรอุรชาซีดขาวหมดแล้ว จ่ายค่าซ่อมแซมทั้งหมดภายในหนึ่งอาทิตย์งั้นเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง?

ค่าซ่อมแซมนั่นไม่ว่ายังไงก็น่าจะเกือบแสนกว่า

“พี่นรมน ก่อนหน้านี้พวกเราไม่ได้ตกลงกันแบบนี้นี่นา ฉันเคย บอกว่าจะแบ่งจ่ายให้พี่

อรอุรชารีบพูดขึ้นทันที

นรมนกลับพูดเสียงต่ำ อันนั้นมันเธอพูดเอง เหมือนฉันยังไม่ ได้รับปาก”

ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าไม่จำเป็น เพราะยังไงเงินแค่แสนกว่าไม่ ได้มากสำหรับเธอ แต่สำหรับอรอุรชานั้นถือว่าเป็นจำนวน มหาศาล แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว ความใจดีของตัวเองกลับไม่ได้รับการตอบแทนที่ดีนัก

อรอุรชาร้องไห้ขึ้นมาทันที

“พี่นรมน ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น ยังไงในบ้านพี่ก็ยังมีรถอีก มาก ไม่ลอง….……………

“รถเยอะมันก็เป็นเรื่องของฉัน มันเกี่ยวกับเธอด้วยเหรอ? วิ่ง ชนรถแล้วก็ต้องชดใช้ มันก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลไม่ใช่เหรอ? หรือว่าเธออยากจะฟ้องศาลเหรอ? แบบนั้นก็ได้นะ ถึงแม้ว่าเรื่อง นี้จะผ่านไปแล้ว แต่ว่าตรงที่จอดรถยังมีวิดีโออยู่ ไม่งั้นพวกเรา โทรแจ้งตำรวจเลยตอนนี้ แล้วปล่อยให้ตำรวจเป็นคนดำเนิน การ

นโมนพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วย อรอุรชารีบแย่งโทรศัพท์จากมือนรมนไปทันที “พี่นรมน พี่ต้องการบีบคั้นฉันถึงจะสบายใจงั้นเหรอ?” อรอุรชาร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร

นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณนายบุริศร์ ตระกูลโตเล็กก็มีธุรกิจมีบ้าน ไม่เห็นต้องมา รังแกกับคนตัวเล็กอ่อนแอแบบนี้เลยไม่ใช่เหรอ?”

“คนตัวเล็กอ่อนแอ? คุณรู้ความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหรอถึง ได้มาพูดกับฉันแบบนี้?”

สีหน้าของนรมนเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที
นักข่าวว่าจน

คุณบุริศร์ คุณแสดงหรือว่าคุณคิดว่าคุณเป็นภรรยาของบุรีศ แล้วคุณจะทำอะไร ได้เหรอ? แล้วสามารถเหรอ

“ภรรยาของบุริศร์มีสิทธิ์แบบมีปัญหาอะไรคุณไม่

พอใจเหรอ?

บุริศร์ไม่ว่าลงตั้งแต่ตอนไหน พอได้ยินนักข่าวพูดแบบนี้รีบเข้าโอบนรมนเอาไว้ทันที สายตาเยือกเย็นของเขาราวกับ เป็นคนดาบ ไปจ้องคนพวกนั้นทันที

นัก

คุณชาย……………

เรื่องอรอุรชาจงใจชนรถภรรยาผมจนอุตส่าห์เมตตา ความอะไร แต่ใครว่าเธอกลับบุญคุณ ตอนกลับยังมาเรื่องไม่ต้องฝ่ายถูกคนเอาเปรียบงั้นเหรอผู้หญิงอ่อนแอ แล้วร้องไห้ บีบน้ำตาออกมาสองสามหยดต่อหน้าคนสามารถพูดผิดถูกงั้นเหรอ? แต่พวกคุณที่กลับมองแค่นอกโดยไม่สนใจผิดถูกงั้นเหรอ?

บริศร์ถามมาเป็นชุดจนมาแล้ว
ขณะนั้นนรมนก็รู้สึกว่าบุริศร์ในตอนนี้นั้นเท่มาก

บุรี รหันไปมองรอบๆ และเห็นว่าอรอุรชากำลังจะใช้จังหวะนี้ ร้องไห้ออกมา เขาจึงรีบพูดขึ้นจับเธอเอาไว้ แล้วนำตัวไปให้ ตำรวจ ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครยังอยากจะทําร้าย ภรรยาฉันได้อีก ภรรยาของคนอย่างบุริศร์ จะให้หมาแมวที่ไหน มารังแกได้ง่าย!”

ประโยคนี้นั้นต่าอรอุรชาเข้าเต็มๆ

จนรอบนี้อรอุรชาร้องไห้ออกมาจริงๆ แล้ว แต่ว่านรมนเห็น น้ำตาของหล่อนจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว

หล่อนจงใจใช้เวลานี้มาขวางหน้าที่หน้าบริษัทของบุริศร์ และ ยังเรียกนักข่าวมากดดันเธอ ด้วยเหตุผลอะไรน่ะเหรอ?

นรมนพอจะรู้อยู่แก่ใจดี

เธออดใจไม่ได้ที่เจตต์ไม่ได้เลือกหล่อน ไม่อย่างนั้นละก็เรื่อง

นี้คงไม่ง่ายที่จะจัดการ

อรอุรชาเห็นคนของบริศร์มาแล้ว ก็รีบขอความช่วยเหลือจาก บรรดานักข่าว

“พวกคุณไม่ควรจะเอาแต่ดูสิ่งที่พวกเขาทำสิ”

แต่ว่าบรรดานักข่าวเห็นสีหน้าของบริศร์แบบนั้นก็ไม่มีใคร กล้ายื่นมือเข้าช่วย

ตอนที่อรอุรชาถูกพาตัวไป หล่อนก็หันมาจ้องนรมนด้วยความโกรธแค้น แววตาที่เกลียดชังนั้นทําให้นรมนพูดอะไรไม่ออก

เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองได้ไปทำอะไรให้ผู้หญิงคนนี้

บริศร์โอบเธอเอาไว้ พร้อมกับหันไปมองบรรดานักข่าวแล้วพูด ขึ้น เรื่อง ในวันนี้ควรจะเขียนออกมายังไงทุกท่านคงน่าจะรู้ดี ผม เองก็ไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่หวังว่าหลังจากนี้ถ้าสื่อต้องการจะ เล่นงานภรรยาของผมก็ควรจะรู้ให้ละเอียดและรู้เรื่องราวจริงๆ ก่อน ไม่อย่างงั้นผมเกรงว่าทุกท่านพอถึงเวลานั้นอาจจะไม่มีงาน ให้ทา

ประโยคนี้พูดออกมาแล้วเป็นการข่มขู่ที่ชัดเจนมาก แต่เสียดายกลับไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยสักคน บุริศร์จึงเดินโอบนรมนเข้าไปในบริษัททันที

ตอนนี้คนในบริษัทเห็นนรมนต่างก็มองด้วยความเคารพ ก็ ช่วยไม่ได้ ใครก็รู้ว่าตอนนี้คุณบุริศร์เป็นคนเอาใจภรรยาแล้ว ใครก็ไม่กล้าแม้แต่จะทำให้เขาไม่พอใจในเวลานี้

ทุกคนมองนรมนด้วยความเคารพตลอดทางจนเข้ามาถึงห้อง

ทํางานของบุริศร์

พอเข้ามาถึง บุริศร์ก็ล็อกประตูทันที จนนรมนต้องมองอย่า

ผู้ชายคนนี้จะทำอะไร?

ตอนนี้เขาสามารถใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกได้แล้วหรือ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ