แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 245 ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น



นรมนเร่งรีบก้มหน้าลง แต่ก็ไม่สามารถปกปิด อาการตกใจที่มีอยู่ในใจของเธอ

ทำไมถึงเป็นเธอได้?

ผู้หญิงที่ชื่อคิมคนนี้ ทำไมถึงได้หน้าคล้ายกับผู้ หญิงในรูปที่เธอเอามาจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจัง เลย

จู่เธอก็นึกถึงรูปถ่ายครอบครัวของตุลยาขึ้นมา หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นแม่ของตุลยางั้นหรอ?

คงไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกมั่ง?

หัวใจของนรมนเต้นแรงมาก

คิมรู้สึกแปลกใจถามเธอ: “หนูนรมน หนูรู้จักฉัน หรอกคะ?”

“อ่อ เปล่าค่ะหนูไม่ได้รู้จักคุณหรอกคะ แค่เคย เห็นคุณจากในรูปถ่ายครอบครัวของตุลยาน่ะค่ะ เลยรู้สึกประหลาดใจหน่อย”นรมนยิ้มแล้วพูด

ตอนที่คิมได้ยินชื่อตุลยา เธอได้ขมวดคิ้วเล็ก

น้อย
“ที่แท้ก็ตุลยาเองหรอ หนูเป็นเพื่อนกับตุลยาซิ

นะ?

“อ้อ ไม่ใช่ค่ะ หนูเคยเจอเธอที่สถานที่พักฟื้น

หลายครั้งและมีปากเสียงกันหน่อย” นรมนไม่คิดอยากจะเป็นเพื่อนกับตุลยาแน่

ผู้หญิงคนนี้เคยป่าวประกาศว่าจะแย่งผู้ชายของ เธอ เธอจะไปเป็นเพื่อนกับหล่อนได้ยังไง? เธอไม่ได้ ปัญญาอ่อนสักหน่อย?

แต่คิมก็ไม่ได้สนใจยิ้มแล้วพูด: “หนูบาดเจ็บมา ฉันพอเรียนการแพทย์มาบ้าง เลยช่วยทำแผลให้หนู ที่นี่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก หมอไม่ค่อยยอมมา ถึงที่นี่กัน ถ้าหนูรู้สึกไม่ค่อยดีก็รีบไปที่โรงพยาบาล ให้คุณหมอดูหน่อย”

“ขอบคุณมากเลยนะคะที่ช่วยหนู หนูไม่รู้ว่าควร ตอบแทนคุณยังไงดี”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้า ฉันชอบที่สงบ และชอบทำ อะไรคนเดียว เลยชอบมาวาดภาพอะไรพวกนี้ที่นี่ บ่อยๆ ตู้เย็นในครัวมีของกินอยู่ ถ้าหนูหิวก็ไปทำ อะไรกินเองได้นะ ไม่ต้องสนใจฉัน บางครั้งฉันก็เป็น คนนิสัยประหลาด

คิมพูดจบก็เดินออกไปเลย
หล่อนเป็นคนแปลกจริงด้วย

นรมนคิดอยู่ในใจ ท้องรู้สึกหิวๆแล้ว พูดปฏิเสธ ไปตอนนี้ก็ดูจะปลอมเกิดไป อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็ ไม่มีที่ให้ไปด้วย

เธอตามคิมออกมาจากห้องมืด แล้วเห็นคิมเดิน ตรงดิ่งเข้าห้องในไป

“คุณแม่ตุลยา คุณจะพักผ่อนแล้วหรอกคะ? หนู ไปทำอะไรทานหน่อย คุณทานเสร็จแล้วค่อยเข้า นอนดีมั้ยคะ”

เธอมองออกว่าคิมดูง่วงมากแล้ว เลยเปิดปาก ถามหล่อน

คิมหยุดเดินครู่นึง หันมาพูดกับนรมน: “ฉันยัง ไม่ได้แต่งงาน เพราะฉะนั้น หนูเรียกฉันว่าคุณคิมห์ รือว่าคุณน้าคิมก็ได้

“หะ? คุณคือแม่ของตุลยาไม่ใช่หรอกคะ?” นรมนรู้สึกงง

คิมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ : “ฉันเป็นแม่ของตุล ยา แต่ฉันไม่ได้แต่งงาน”

คำอธิบายนี้ยิ่งทำให้นรมนมีนงงเข้าไปใหญ่ แต่ เธอก็ไม่กล้าจะถามต่อ
คิมเดินขึ้นชั้นสองแล้วเข้าห้องไป วินาทีที่ประตู ปิด นรมนก็ยังไม่หยุดคิดเรื่องนี้

ไม่ได้แต่งงาน แต่เป็นแม่ของตุลยา และตุลยาก็ บอกเองว่ารูปนี้เป็นรูปถ่ายครอบครัวของเธอ เรื่อง มันเป็นมายังไงกันแน่?

เธอคิดอยู่ครึ่งค่อนวันก็คิดไม่ออกเลยเลิกคิดไป เลย

นรมนเข้าไปในห้องครัว พอเปิดตู้เย็นก็เห็นในตู้ เย็นมีของเต็มไปหมด ดูท่าแล้ว คิมคงต้องชอบมา อยู่ที่นี่คนเดียวจริงๆซะด้วย

ไม่รู้ว่า ตุลยาจะจู่ๆมาโผล่ที่นี่หรือเปล่า ถ้าไม่ละ ก็เธออยู่ที่นี่ไปก่อนหลายวันก็น่าจะดี แต่ไม่รู้ว่าคิม จะอนุญาตหรือเปล่าสิ

นรมนถอนหายใจเบาๆที่นึง แล้วหยิบไข่ไก่และ มะขือเทศออกมาสองลูก ไม่นานทำบะหมีน้ำซุปไข่ก็ เสร็จ

พอทำเสร็จ นรมนตักแบ่งออกมาสองถ้วย แล้ว ยกถ้วยนึ่งเดินขึ้นไปชั้นสอง

“คุณน้าคิม หนูทำบะหมี่ไข่มาให้ค่ะ หน่อยแล้วค่อยนอนนะคะ” คุณอาทาน

นี่เธอถือว่าเอาของๆคนอื่น แล้วเอาความดีใส่ตัวอยู่นะ แต่อย่างน้อยเธอก็รู้มารยาทไม่ใช่หรอ?

ตอนที่ คิมเปิดประตูออกมานั้น เหมือนเธอเพิ่งจะ อาบน้ำเสร็จ เห็นบะหมี่ที่อยู่ในมือของนรมนแล้ว เธอ อึ้งไปอยู่ครู่นึง เหมือนนึกเรื่องอะไรขึ้นได้น้ำตาเธอ คลอเบ้าทันทีที่เห็นบะหมี่ไข่ในมือของเธอ

“คุณน้าคิมคุณอาเป็นอะไรไปคะ? หรือว่าต้น หมอที่หนูใส่ในนี้ฉุนจนแสบตาคุณอาหรอคะ?”

นรมนเห็นสถานการณ์แบบนี้แล้วทำอะไรไม่ถูก

คิมกลับใส่หัว แล้วพูดขึ้นเบาๆ : “ฉันต้มบะหมี่ไม่ เป็น นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ทานบะหมี่ง่ายๆแบบ นี้”นรมนได้ยินแล้วรู้สึกเขินๆ

“เอ่อ หนูคิดว่านี่ก็ดึกมากแล้ว ทานอะไรจืดๆ

หน่อยน่าจะดีกว่า ถ้าคุณน้าคิมคิดว่ามันจืดชีดเกิน ไป เดี๋ยวพรุ่นนี้เช้าหนูจะตั้งใจทำใหม่อีกถ้วยให้คุณ อานะคะ”

“ไม่ต้องหรอกจา นี่น่าทานมาก ขอบใจหนูมาก เลยนะ”

คิมรับบะหมีมาแล้วยิ้ม จากนั้นก็ปิดประตูห้องไม่

เชิญนรมนเข้าไปนั่งแม้แต่คำเดียว

นรมนจับจมูกตัวเอง ที่เกือบจะชนกับประตู คิมผู้หญิงคนนี้แปลกจริงๆ
เธอใส่หัวที่นึ่ง แล้วลงไปถึงชั้นล่าง รู้สึกหิวจน ทนไม่ไหวแล้ว ซดบะหมี่ถ้วยนึงเข้าไปอย่างรวดเร็ว อย่างกับหมาป่าที่หิวจัดมาหลายวัน นี่ค่อยยังรู้สึกว่า ตัวเองมีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

มือถือของเธอรู้สึกจะตกหายไประหว่างทาง และเธอก็เพิ่งจะสังเกตเห็น

แต่ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่มีคนตามสืบที่อยู่ของเธอ

ได้

นรมนเห็นว่าในวิลล่ามีโทรศัพท์บ้านติดอยู่ แต่ ไม่รู้ว่าสามารถใช้งานได้หรือเปล่า ตามด้วยเดินขึ้น ชั้นสองไป

“คุณน้าคิม หนูขอใช้โทรศัพท์ที่วิลล่าของคุณ อาหน่อยได้มั้ยคะ? ”

“ได้สิ”

เสียงของคิมดังมาจากห้องเบาๆ เสียงเหมือน

กำลังร้องไห้

เธอร้องไห้หรอ?

ไม่ใช่มั่ง?

ก็แค่บะหมี่ถ้วยเดียว รสชาติแย่ขนาดนั้นเลย

หรอ?
นรมนเกาหัวของตัวเองที่นึง รสชาติของบะหมี่ ถ้วยนั้นก็น่าจะใช้ได้อยู่นะ อย่างน้อยเมื่อก่อนกานต์ และกมลก็ชอบทานมากเลย

เธอไม่เข้าใจ และก็ไม่ไปถามหาสาเหตุอีก ใน เมื่อคิมก็เป็นคนแปลกอยู่แล้ว

เธอลงไปชั้นล่าง แล้วหยิบโทรศัพท์โทรหาบุริศร์ ตอนที่โทรศัพท์รับขึ้น เสียงเย็นชาของบุริศร์ก็ ดังมา

“ใครครับ?”

“คุณบุริศร์ ฉันเอง! ”

นรมนรีบบอกชื่อตัวเองไป

“คุณอยู่ไหนเนี่ย? นรมน คุณนี่มันเก่งมากเลยใช่ มั้ย? ถึงได้กล้าโดดลงจากรถแบบนี้! นายพฤกษ์ ไม่มีสมองคิดคุณก็ไม่มีสมองไปด้วยใช่มั้ย? รถขับ เร็วขนาดนั้น คุณไม่หว่งขาคุณบ้างเลยใช่มั้ย? หรือ ว่าคุณคิดว่าคุณเป็นมนุษย์รีไง?”

บุริศร์ได้ยินว่าเป็นนรมน หัวใจที่แขนอยู่บนเส้น ด้ายได้ระเบิดออกมาในที่สุด

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งวันแล้ว ยังไม่มีข่าวคราว ของนรมนเลยแม้แต่นิด แม้กระทั่งนายพฤกษ์ก็ไม่รู้ ว่าเธอหายไปไหน แถบมือถือของเธอก็ปิดเครื่อง
สถานการณ์แบบนี้ บุริศร์ทำอะไรไม่ได้เลย และ ที่ก่อสร้างก็ดันยังมาเกิดเรื่องขึ้นอีก เขาแยกตัวออก มาไม่ได้เลย

บุริศร์แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว เหลือแค่ไม่ได้ ประกาศหาคนในทีวี

ดีที่เหมือนรเมศก็กำลังหาคนอยู่ นี่ถึงทำให้เขา รู้สึกเบาใจหน่อย

ตอนนี้ ได้ยินนรมนโทรศัพท์กลับมาแล้ว หัวใจ ของบุริศร์เป็นห่วงแทบตาย

นี่เป็นครั้งแรก ที่นรมนรู้สึกว่าปอดของบุริศร์ ทำงานดีเยี่ยมมาก พูดที่นึงยาวเหยียดโดยไม่ถอน หายใจเหนื่อยเลย

เธอเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูระยะนึง รอให้ เขาพูดจบก่อน เธอถึงจะพูดต่อ: “ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่หัวเข่าถลอกหน่อย คุณวางใจเถอะค่ะ มีป้าคนนึง ช่วยฉันไว้ อยู่ที่วิลล่าหลังนึงที่ห่างจากตัวเมือง มือ ถือก็ตกหลุนระหว่างทาง แต่แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่มีใคร ตามสัญญาณมือถือแล้วหาฉันจนเจอ คุณไม่ต้อง เป็นห่วงฉันหรอกนะคะ ตอนนี้ฉันสบายดีจริงๆ”

“ป้าคนนึง? ป้าที่ไหน? คุณรู้จักมั้ย? เชื่อใจได้ หรือเปล่า? นรมน ตอนนี้สถานการณ์คับขันมาก คุณ รอผมอีกสองวัน ภายในสองวัน ผมต้องจัดการเรื่องที่ก่อสร้างเสร็จได้แน่ พอถึงตอนนั้น ผมจะพาคุณจาก ไปแน่นอน ป้าคนนั้นเป็นใครมาจากไหน? คุณรู้มั้ย? ผมจะให้นายพฤกษ์ไปสืบมา

“อย่านะคะ ! อย่าเชียวนะคุณ! ”

นรมนได้ยินก็ร้อนรนใจ

“คุณบุริศร์ คุณให้นายพฤกษ์ไปสืบประวัติของ ป้าคนนี้ คุณอยากให้รเมศรู้ว่าฉันอยู่ไหนหรือไม่? คุณวางใจเถอะ ตอนนี้ฉันปลอดภัยมาก ไม่ต้องเป็น ห่วงฉันจะใช้เบอร์นี้โทรหาคุณทุกวันเลยค่ะ คุณ บอกว่าสองวัน ฉันก็จะให้เวลาคุณสองวัน ฉันรอคุณ นะคะ แต่ว่าระหว่างนี้ คุณต้องระวังรเมศไว้นะคะเขา ไม่ยอมลามือง่ายๆแน่

นรมนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องคดีของบุริศร์

คดีฆาตกรรมในเขตก่อสร้างไม่ได้จัดการได้ จ่ายๆ ตอนนี้เขาไม่สามารถแยกร่างแล้วทำอะไร พร้อมๆกันได้ เธอไม่อยากให้เขาเป็นห่วงเธออีก

บริศร์รู้สึกเป็นห่วง

“แต่สถานการณ์ของคุณในตอนนี้ผมก็เป็นห่วง คุณมากเลยนะครับ

วางใจเถอะค่ะที่นี่เปลี่ยวมาก ฉันก็ไม่ออกไป ไหน อย่างมากสุด ก็แค่อยู่ที่นี่สองสามวัน รอให้บ้าเธอจากไป ถึงตอนนั้นฉันก็จะไปจากที่นี่ด้วย ไม่มี ใครรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่หรอกคะ กลับกัน รเมศก็คงเดาไม่ ได้แน่ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ ฉันถือว่าปลอดภัยมาก คุณไปจัดการเรื่องของคุณให้เสร็จก่อนเถอะค่ะ จบ แล้วเราค่อยมานัดพบกัน”

“คุณไม่เป็นไรจริงๆแน่นะ?”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันบอกคุณแล้วไง? ว่าฉันจะโทร หาคุณทุกคืน คุณจะได้รู้ว่าฉันสบายดีวางใจเถอะ ค่ะ”

นรมนปลอบใจบุริศร์

ถึงแม้บุริศร์ก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี แต่ตอนนี้ก็ไม่มี วิธีอื่นแล้ว

แผนการลงมือแบบลับๆของรเมศทำให้พวกเขา ไม่ทันรับมือ อยากให้นรมนจากไปอย่างปลอดภัย ตอนนี้ก็คือห้ามให้ใครรู้ว่าเธออยู่ไหน

บุริศร์ถอนหายใจที่นึ่ง : “ดูแลตัวเองดีๆด้วย ต้องการอะไรก็บอกผม ไม่อย่างนั้น ก็ให้ป้าคนนั้นไป ซื้อมือถือให้คุณเครื่องนึง เสร็จเรื่องผมจะคืนเงินให้ เธอเอง ใช่แล้ว คุณมีเงินติดตัวมั้ย? ถ้าเกิด….”

“พอได้แล้วคุณ คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกคะ ฉันดูแลตัวเองได้วางใจเถอะ”
นรมนถูกบุริศร์ถามแบบนี้แล้ว ถึงนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้ ตัวเองไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เงิน แต่ตอนนี้ เธอจะกล้าพูดเรื่องนี้กับบุริศร์ได้ยัง ไง ?

ถ้าเขารู้ว่าตอนนี้เธอไม่มีอะไรติดตัวเลย ถึงตอน นั้น ไม่แน่ว่าเขาจะพลิกแผ่นดินอเมริกาทั้งประเทศก็ จะมาหาเธอให้ได้

เพื่อที่ไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็นขึ้น อีก นรมนได้แต่ต้องปลอบใจบุริศร์ให้สงบลงได้ก่อน

ได้ยินนรมนพูดแบบนี้แล้ว ถึงแม้บุริศร์ก็ยังไม่ วางใจ แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นนอกจากนี้แล้ว

“ขอโทษนะ ที่ทำให้คุณต้องลำบาก”

บุริศร์คิดมาตลอดว่าตัวเองกับนรมนได้อยู่ด้วย กันอีกครั้งนั้น เขาต้องให้ชีวิตที่ดีที่สุดกับเธอได้แน่ ตอนนี้ ทั้งสองคนได้สารภาพความในใจทุกอย่าง แล้ว และคิดเหมือนกันทุกอย่าง ต้องอยู่ด้วยกันจน แก่เฒ่าแน่นอน แต่ใครจะไปรู้ว่ารเมศเป็นตายร้ายดีก็ ไม่ยอมปล่อยมือ แถมตอนนี้ยังกดดันพวกเขาอย่าง หนัก แม้แต่ปกป้องนรมน เขายังไม่มีปัญญา

และนี่ทำให้เขาเสียใจมาก

นรมนฟังออกว่าบุริศร์กำลังเสียใจ
ตั้งแต่เล็กจนโต เขาเกิดมาในตระกูลร่ำรวย อยากได้อะไรก็แค่สั่ง อยู่เหนือมาตลอด ไม่เคยต้อง ลำบากมาก่อน ตอนนี้ เพื่อเธอและลูกแล้ว มาถึงที่ อเมริกาที่ๆไม่คุ้นเคยแบบนี้ แถมยังมีลูกๆและเธอ คอยถ่วงอยู่ข้างกาย ความรู้สึกอัดอั้นตันใจนี้ คงเป็น ครั้งแรกที่เขาเคยประสบมา

“คุณบุริศร์ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น การที่ได้ อยู่กับคุณ เป็นเรื่องที่ฉันมีความสุขที่สุด คุณวางใจ เถอะคะ ฉันต้องดูแลตัวเองให้ดีแน่ นี่ก็แค่ชั่วคราว รอผ่านช่วงนี้ไปได้ พวกเรากลับไปถึงเมืองชลธี จะ ได้เป็นอิสระสักที เมื่อถึงตอนนั้น คุณก็ยังคือท้องฟ้า เมืองชลธีเช่นเคย และฉันก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความ สุขภายใต้การปกป้องของคุณ แบบนี้ดีจะตายไม่ใช่ หรอ?”

นรมนพูดอย่างมีความสุข แต่หัวใจของบุริศร์ทำ ยังไงอารมณ์ก็ไม่ดีขึ้น

สถานการณ์ตอนนี้ของพวกเขามีอุปสรรค มากมาย หลังจากนี้ รเมศจะทำอะไรต่อ ใครก็ไม่ สามารถรู้ได้ เขาอยากจะให้เรื่องทั้งหมดนี้มันจบ โดยเร็ว แล้วพานรมนกลับประเทศของพวกเขาไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ