แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 526 ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ติดกับ



บทที่ 526 ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ติดกับ

เสียงฝีเท้าหยุดลงที่หน้าประตูห้องนอนของนรมน ทว่ากลับไม่มี เสียงเคาะประตูและไม่มีคนเข้ามา นโมนขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเดิน จากนั้นก็

เดินตรงไปที่ประตู แล้วเปิดมันออกทันที

“คุณนายคะ!”

คนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือป้าหวาน

ท่าทีเป้าหวานมองมาทําให้นรมนแปลกใจเล็กน้อย

“ทำไมป้าหวานถึงได้มาอยู่หน้าห้องฉันล่ะคะ มีอะไรหรือ เปล่า”

“ไม่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ก็แค่…ก็แค่…” ป้าหวา นอีกๆ อักๆ

ยิ่งป้าหวานเป็นแบบนี้ นรมนก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงลับลมคมใน

“ตกลงแล้วมีอะไรเหรอคะ”

“คุณชายรองบอกว่าอยากจะพักผ่อนสักหน่อย ไม่ต้องการให้ ใครเข้ามารบกวน แต่ว่าโทรศัพท์ของเขาตกอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อกี้นี้ก็มีคนโทรมา ฉันก็เลยไม่รู้ว่าควรจะไปปลุกคุณชายรองดึ หรือเปล่า ดังนั้นก็เลยมาถามคุณนายน่ะค่ะ”

ป้าหวานรับเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา จากนั้นก็นำโทรศัพท์ส่งให้นรมน

ทว่านเมนกลับไม่รับมันไว้

ภายในห้องมีกล้องวงจรปิด

นอกจากนี้ครินท์จะโง่ขนาดทำโทรศัพท์ตกเอาไว้ในห้องนั่ง เล่นได้ยังไง

ปัจจุบันนี้โทรศัพท์มีความสำคัญกับคนเราตั้งมากมายขนาด ไหนกัน

เห็นได้ชัดว่านี่คือกับดักอย่างหนึ่ง

แล้วป้าหวานก็ยังไม่ไปหาดรินท์โดยตรง แต่กลับวิ่งมาถาม เธอ เรื่องนี้หมายความว่าอะไร นรมนยังคงพอมองออกอยู่บ้าง

แต่ว่าป้าหวานไม่ใช่คนของคุณนายตระกูลโตเล็กอย่างนั้นเห

รอ

ดูเหมือนว่าตนท์จะมีความสามารถมากจริงๆ แม้กระทั่งคน ของคุณนายตระกูลโตเล็กก็ยังสามารถควบคุมเอาไว้ได้

นรมนมองป้าหวานแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “นี่เป็นโทรศัพท์ของคุณชายรอง ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะทำตัวเป็นเจ้า ข้าวเจ้าของป้าเอาไปให้คุณชายรองเขาเถอะค่ะ”

“แต่คุณชายรองกำชับไว้ว่าไม่ให้คนไปรบกวนนี่คะ” เห็นได้ชัดว่าป้าหวานทั้งกังวลใจและอับอายมากเป็นพิเศษ นรมนกล่าวเสียงเย็นว่า “สิ่งต่างๆ ล้วนมีลำดับความสำคัญ
ตอนนี้ครินท์เป็นประธานของตัวกรุ๊ป ถ้าหากมีเรื่องใหญ่อะไร ล่าช้าไปละก็ ป้ากับฉันก็คงแบกความรับผิดชอบเอาไว้ไม่ไหวแน่ ถูกครินท์สักยกก็ยังดีกว่าทำเรื่องสำคัญเสียหาย ไปเถอะค่ะ

ป้าหวานยังคงเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย

“ถ้าอย่างนั้นคุณนายน้อยไปแทนดีไหมคะ ถึงยังไงคุณก็เป็นพี่ สะใภ้ของคุณชายรอง เขาคงไม่ทําอะไรให้คุณลำบากใจแน่

“ป้าหวานลืมสถานะของตัวเองไปแล้วเหรอคะ ในบ้านหลังนี้ ป้ายังจะสามารถเรียกไข้ฉันยังไงก็ได้อีกงั้นเหรอ

สีหน้าของนรมนมืดครึ้มลงในทันที

ป้าหวานหดตัวลง อาจเพราะคิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ นรมนจะมีท่าที เคร่งขรึมแบบนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ จะใช้งานคุณนะคะคุณนายน้อย ฉันเพียงกลัวคุณชายรองนิต หน่อยก็เท่านั้น ช่วงนี้เขามีท่าทีไม่ค่อยเหมือนกับเมื่อก่อน บาง ครั้งเวลาอยู่คนเดียวมองตาเขาแล้วฉันก็รู้สึกกลัวเอามากๆ

เมื่อได้ยินป้าหวานพูดแบบนี้ นรมนก็ไม่รู้ว่าคนคนนี้ตั้งใจจะ บอกอะไรเธอหรือเปล่า แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่สามารถที่ จะไปพบตรินทได้

นี่มันกับดักที่ตนท์วางไว้ชัด ๆ ในเมื่อรู้แล้วว่ามันเป็นกับกัด แต่ก็ยังคงก้าวเท้าเข้าไป หากท่าแบบนั้นเธอคงโง่มากจริงๆ

“พูดไร้สาระอะไรกันคะ ตรินท์ยังคงเป็นคนที่อ่อนโยนและสง่า งามเช่นเดิม ป้าอย่าได้พูดว่าร้ายคุณชายรองอีกนะ ระวังคุณแม่จะกลับมาลงโทษป้าล่ะ แล้วก็รีบเอาโทรศัพท์ไปให้คุณขายรอง เร็วเข้าเถอะค่ะ”

ป้าหวานรับหมุนตัวออกไปด้วยสีหน้าลำบากใจ

นรมนก็ไม่คิดจะตั้งอยู่ที่นี่ต่อให้นาน เธอรีบปิดประตูแล้วเดิน ตรงไปยังห้องน้ำ

เธอกลัวว่าในห้องน้ำจะมีกล้อง จึงสำรวจอยู่พักหนึ่ง ยังดีที่ ไม่มีอะไร

ตกลงแล้วครินท์กำลังคิดจะทําอะไรกันแน่

นรมนรีบอาบนํ้า ตอนที่ออกมาก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถยนต์ดัง ขึ้นมาจากข้างนอก

“ใครไปไหนเหรอคะป้าหวาน”

นรมนเช็ดผมพลางเดินไปเปิดประตู จึงพบกับป้าหวานที่ห้อง นั่งเล่นเข้าพอดี เลยถือโอกาสถามไปสักประโยค

“พอคุณชายรองรับโทรศัพท์แล้วเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นที่ บริษัท จึงออกไปแล้วค่ะ”

คำพูดของป้าหวานทำให้นรมนหรี่ตาลงเล็กน้อย บังเอิญมีเรื่องด่วนต้องไปขนาดนี้เชียวเหรอ

นี่เป็นการหาเวลาให้เธอได้ไปพบกับคนของประธานเคนใช่ หรือเปล่า
นรมนูรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันบังเอิญเก็บไป

เธอก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เป็นธรรมดาที่จะพอมองออกว่ามีลับลม คน ใน

บางทีที่ครินท์พาพวกเด็กๆ ออกไปเล่นเพื่อสร้างโอกาสให้ คนของประธานเคนมาพบเธอก็ได้

แล้วประธานเคนเป็นคนของใครกันล่ะ

ครินท้อย่างนั้นเหรอ

ถ้าเป็นคนของครินท์ละก็ การที่เธอออกไปตามนัด นั่นก็แปล ว่าเธอกำลังสงสัยครินท์อยู่ และยังเป็นการเปิดโปงตัวเองอีก ด้วย

แต่ถ้าหากไม่ไป แล้วประธานเคนกลับเป็นคนของบุริศร์ขึ้นมา แบบนั้นก็จะต้องพลาดข่าวคราวเกี่ยวกับบริศร์ไป

อย่างไรตอนนี้บริศร์ก็ขาดการติดต่อไปแล้ว บางทีประธาน เคนคนนั้นอาจจะรู้อะไรบางอย่าง

นรมนรู้สึกยุ่งเหยิงในใจ ไม่รู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไรจึงจะดี

เวลาแต่ละนาทีผ่านไป ในที่สุดกมลที่หลับไปจนถึงบ่ายสาม ตื่นขึ้นมาแล้ว และยังอยากจะไปหากิจจา

นรมนไม่อาจเปลี่ยนใจลูกสาวได้ จึงจำต้องพาเธอไปที่ห้อง ของเด็กชาย

ทว่ากิจจายังไม่ตื่น
บรมนรู้สึกปวดใจเล็กน้อย เธอกล่าวกับถมลว่า “พี่กิจจายังไม่ ตื่น ลูกอย่าเพิ่งไปรบกวนพี่เขาเลยนะ กลับไปวาดภาพที่ห้องกับ หม่ามี้ดีไหมคะ”

“ไม่เอาค่ะ หนูอยากอยู่เป็นเพื่อนพี่กิจจ้า พี่เขายังคงบาดเจ็บ อยู่ ตอนนกมลชอบอยู่กับกิจจามากเป็นพิเศษ

นรมนเองก็พูดอะไรไม่ได้

“ถ้าอย่างนั้นลูกก็เป็นเด็กดีนะ อย่าไปรบกวนพี่กิจจานั่งดู การ์ตูนคนเดียวไปก่อนดีไหมเอ่ย

กมลยอมถอยให้ก้าวหนึ่ง

นรมนเปิดการ์ตูน ให้เธอแล้วเดินออกไปจากห้อง

หลังจากกลับมาที่ห้องเธอก็เอาแต่พลิกไปพลิกมาอยู่ตลอด ไม่รู้เป็นเพราะปัญหาด้านสุขภาพหรือเปล่าถึงได้ทำให้เธอหลับ ไปโดยไม่รู้ตัว

กว่าเธอจะตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาหกโมงเย็นเข้าไปแล้ว

ท้องฟ้าภายนอกเริ่มที่จะมืด

นรมนลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง

กมลกับกิจจาเล่นต่อจิ๊กซอว์ที่กานต์ทิ้งไว้ เมื่อป้าหวานเห็นเธอ ลงมา จึงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณนายน้อยจะทานข้าวไหมคะคุณชายน้อยกับคุณหนูน้อยต่างหิวกันหมดแล้ว” “ครินท์กลับมาหรือยัง”

บรมนเผลอถามขึ้นมา

ป้าหวานส่ายหน้าแล้วพูดว่า “คุณชายรองโทรศัพท์มาบอกว่า บริษัทมีปัญหา คืนนี้คงไม่กลับมาทานข้าวและพักผ่อนที่บ้าน บอกให้พวกเราไม่ต้องเปิดประตูรอคุณเขาเอาไว้ค่ะ

ค่าพูดนี้ราวกับไว้ให้นรมนฟัง โดยเฉพาะ

เธอพยักหน้าและยิ้มเยาะในใจ

ยังคงสร้างโอกาสให้เธอจริงๆ

ทวานรมนได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว

ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนของประธานเคน หรือว่าคิดจะทำ อะไร วันนี้เธอก็ไม่มีทางที่จะไปตามนัด

ความสำคัญของบริศร์และเด็กๆ อยู่เหนือความอยากรู้อยาก เห็นพวกนั้น

ป้าหวานไม่รู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงรีบเรียกเด็กๆ

ไปที่โต๊ะกินข้าว

เพราะว่าตนท์ไม่อยู่ ทุกคนจึงกินข้าวกันอย่างไม่พิถีพิถัน อยู่ๆ กิจจาที่เพิ่งจะกินข้าวไปได้ครึ่งถ้วยก็ถามขึ้นมาว่า “หม่า มี มีข่าวจากคุณลุงบ้างไหมครับ
เขาเป็นห่วงกานต์อยู่ตลอด แต่พออยู่ต่อหน้ากมลเขาก็ไม่กล้า ที่จะถามตรงๆ จึงได้แต่ถามอ้อมๆ เท่านั้น

นรมนมองเขาก่อนจะยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “รีบกินข้าวเถอะจะ คุณลุงของเธอใกล้จะกลับมาแล้ว

“แดด ไปไหนเหรอคะหม่ามี

กมลเงยหน้าถามบรมน

เพราะว่าช่วงนี้บริศร์ไม่ค่อยที่จะกลับบ้าน กมลเองก็ชินแล้ว เธอคิดว่าบุริศร์กำลังยุ่งอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ไม่ได้ เข้ามาพัวพันอะไร

นรมนมองไปยังลูกสาว เด็กน้อยที่แสนบริสุทธิ์คนนี้นี่นะ ถ้า ฉลาดได้สักครึ่งหนึ่งของกานต์ก็คงดี แต่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่รู้จะได้ไม่เหนื่อย เธอจะได้มีความสุขกว่าเด็กทั่วไปสักหน่อย

นรมนลูบศีรษะของเธอแล้วพูดออกมาว่า “แด๊ดดี้ของลูกมีเรื่อง ให้ต้องออกไปข้างนอก ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมเหรอจ๊ะ คิดถึงแซ๊ดดี้อย่างนั้นเหรอ”

“อื้อ คิดถึงค่ะ กลับมาแล้วหนูจะพูดกับแด๊ดดี้ว่าอย่าได้ทำงาน แบบไม่คิดชีวิตบ่อยๆ บ้านของพวกเรามีเงินพอใช้แล้ว

กมลพูดอย่างแก่แดด

นรมนรู้สึกขมขื่นในใจ

เงิน เป็นสิ่งที่แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราไม่เคยขาดไป
สิ่งที่พวกเราขาดคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและความ ปลอดภัยต่างหาก

พูดเรื่องพวกนี้กับกมลไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่มีทางที่จะ เข้าใจ

“ลูกรีบกินเถอะจ๊ะเด็ก

ขณะที่เด็กทั้งสองคนกำลังกินข้าวอยู่นั้น นรมนกลับรู้สึกกินไม่

ลง

เธอกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับบริศร์ ทางฝั่งของกิมจิก็ไม่มีข่าว คราวเลยแม้แต่น้อย ทั้งตระกูลโตเล็กในตอนนี้ก็ยังถูกสอดส่อง จนไม่สามารถเก็บความลับเอาไว้ได้ หากเธอจะโทรศัพท์ก็ต้อง เป็นไปอย่างระมัดระวัง

ตอนนี้เธอเป็นเหมือนนกที่ถูกขังอยู่ในกรง ไม่สามารถที่จะทำ อะไรได้

เมื่อถึงเวลาสองทุ่มเธอก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งใจ

ไม่ได้ดูสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเมื่อกลางวันไม่ เคยเจอผู้ชายคนนั้นและไม่เคยได้ยินว่าเขานัดเจอเธอตอนสอง ทุ่มมาก่อน

ป้าหวานนำนมมาให้นรมนแก้วหนึ่งแล้วค่อยออกไป

จนกระทั่งเวลาสามทุ่มกว่าๆ นรมนจึงวางหนังสือลง จากนั้นก็ ล้างหน้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง
ครินท์ที่กำลังดูกล้องวงจรปิดอยู่นั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย เลขาข้างๆ เขาเป็นคนที่มาใหม่ที่ครินท์เลื่อนตำแหน่งให้หลัง จากขึ้นเป็นประธานของตัวกรุ๊ป ชื่อว่าม

มมองภาพตรงหน้าแล้วกล่าวเสียงเบาว่า

“ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ติดเบ็ดนะครับ

“แน่ใจใช่ไหมว่าวันนี้คนของประธานเคนได้ไปพบเธอที่สวน สนุก”

ครินท์เล่นปากกาที่อยู่ในมือพลางถามขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ

บั้มรู้ดีว่ายิ่งตรินท์เป็นแบบนี้ ก็ยิ่งไม่ง่ายที่จะไตร่ตรอง

“คนของพวกเราเห็นเองกับตาว่าเลิฟไปพบเธอ ส่วนว่าพูด เรื่องอะไรกันนั้น เป็นเพราะอยู่ไกลเกินไปพวกเราจึงได้ยินไม่ค่อย ชัด แต่พี่น้องสองสามคนที่รู้จักวิธีอ่านปากยังพอรู้ประเด็นสำคัญ อยู่บ้าน เขาบอกว่าคืนนี้ให้ไปเจอกันที่Aegean Cafeตอนสอง ทุ่ม”

“แต่ตอนนี้ก็สามทุ่มครึ่งแล้ว

“บางทีเพราะเธอไม่รู้จักเลิฟ เลยอาจคิดว่ามันเป็นกับดักก็ได้

ครับ”

ครินทแค่นเสียงเย้ยหยัน

“นรมนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากจริงๆ ผู้หญิงแบบนี้ต้องมาอยู่ ข้างกายพี่ชายของฉันช่างเสียเปล่าจริงๆ ถ้าเขมิกาฉลาดได้สักครึ่งหนึ่งของเธอละก็ ไม่แน่ว่าก็คงแตกต่างไปจากตอนนี้”

คำพูดของครินท์ทำให้บั้มไม่รู้จะตอบรับอย่างไร จึงได้แต่ยืน นิ่งอยู่เงียบๆ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องกลับไปดูเสียหน่อยแล้วกว่าพี่สะใภ้ของ ฉันคนนี้ใจเย็นจริงๆ หรือเปล่า”

ครินท์ลุกขึ้นแล้วโยนปากกาลงบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดกับบั้มที่ อยู่ข้างๆ “ถ้าไม่มีอะไรก็ช่วยฉันจับตาดูต่อไป ที่ควรดูก็ดู ส่วนที่ ไม่ควรดู นายเองก็รู้ดี

“ครับๆ ผมเข้าใจครับ

บั้มรีบพยักหน้า

บั้มรู้ดีว่าตนท์หมายความว่าอย่างไร

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นห้องนอนของนรมน ถ้าหากบังเอิญนรมน เผลอเปิดเผยเรื่องดีงามอะไรเข้า เขาก็ไม่กล้าที่จะมองอย่างเด็ด

ขาด

แต่บั้มไม่เข้าใจเลยสักนิด ในเมื่อครินท์เกลียดบริศร์กับนามน ขนาดนี้ แล้วทำไมต้องสนใจความบริสุทธิ์ของนรมนด้วย

แน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่ถามคำถามนี้ต่อหน้าตรินท์หรอก นอกจากเขาจะเบื่อชีวิตตัวเองจนเกินไป

กระทั่งตอนที่ตรินท์ออกไปแล้ว มก็ยังคงรู้สึกว่าหายใจเย็น เยียบที่อยู่ในอากาศยังคงไม่หายไปไหนเป็นเวลานาน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ