แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1111 นายเหยียดเพศเหรอ



บทที่ 1111 นายเหยียดเพศเหรอ

นรมนเหลือบมอง พบว่าเป็นปาณีโทรมา

เธอคิดอะไรบางอย่างในใจ

“อาธรณี ฝากดูกมลด้วย ฉันจะไปรับโทรศัพท์

นรมนไม่อยากให้ธรณีรู้เรื่องของตุลยา

ตอนนั้นตุลยาเกือบจะทำร้ายคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจนตาย แค้นนี้ธรณีไม่ลืม

“ได้”

ตอนนี้ธรณีอยากจะชดเชยเรื่องที่ตนเองไม่ได้ดูแลเด็กได้ดี เมื่อเห็นนรมนขอร้องเช่นนี้จึงพยักหน้าตกลงทันที

นรมนลูบศีรษะกมลและกล่าวเสียงเบา “เป็นเด็กดีนะลูก หม่า มีคุยโทรศัพท์เสร็จจะรับลูกกลับบ้าน กานต์กับกิจจากลับมาแล้ว

ลูกกลับไปก็จะมีเพื่อนเล่น

“จริงเหรอคะ? เยี่ยมไปเลย!

กมลได้ยินว่าพี่ชายทั้งสองกลับมาแล้ว จึงตั้งหน้าตั้งตารอ อย่างอดไม่ได้

นรมนยิ้ม จากนั้นจึงหยิบมือถือเดินไปที่เงียบๆ

“ว่ามา”
เสียงของนรมนไม่ดังมาก แต่กลับมีอำนาจที่น่าเกรงขาม

ปาณีกล่าวเสียงเบา “คุณนาย ผลตรวจออกมาแล้ว สามารถ ก่อให้เกิดพิษได้จริงๆ หากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานานจะก่อให้ เกิดอาการชาที่เส้นประสาทและภาพหลอน”

ถึงแม้จะคาดเดาผลลัพธ์นี้เอาไว้ล่วงหน้า แต่เมื่อได้ยินปาณี เล่าเรื่องผลการตรวจออกมาจริงๆ แววตาของนรมนยังคงมีความ อึดอัดใจ

นังดุลยา!

คิดไม่ถึงว่าจะอำมหิตเช่นนี้

ดูเหมือนเธอจะเลวจนกู่ไม่กลับแล้ว

“เข้าใจแล้ว อย่าให้คุณตาของฉันรู้เรื่องนี้นะ ไม่ว่าจะพูด อย่างไร สุดท้ายแล้วตุลยาก็คือเด็กที่แม่ของฉันคลอดออกมา คุณตาเป็นคนซื่อตรงมาตลอดชีวิต รู้สึกติดค้างครอบครัวมาก ถึงแม้จะไม่ชอบดุลยา แต่ก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรเธอ ดังนั้นถ้าให้ เขารู้ว่าหลานสาวของตัวเองคิดจะฆ่าตัวเอง มันคงจะกระทบ กระเทือนจิตใจของเขามาก

นรมนกล่าวอย่างเรียบเฉย เพียงแต่แววตากลับเย็นชาอย่าง

“ได้ค่ะ”

ปารีบพยักหน้าตกลง
นรมนจมอยู่ในความคิดสักพักและกล่าวว่า “ส่วนอีกเรื่องหา โอกาสตอนที่ดุลยาไม่อยู่ ช่วยฉันเอาของเข้าไปวางหน่อย

ปาณีแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบรับทันที หลังจากวางสาย นรมนสูดลมหายใจเข้าลึก

เธอไม่ได้เป็นคนใจแคบ แต่ตุลยาทำให้คนผิดหวังเกินไป

“อาธรณี ฉันพากมลกลับก่อนนะ”

“ได้ เดินทางปลอดภัย เดี๋ยวหาเวลาเลี้ยงข้าวเธอ

ธรณีรู้ว่านรมนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ มีเรื่องมากมาย ต้องจัดการ จึงไม่รีบร้อน

“ได้เลย”

นรมนอุ้มกมลขึ้นมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “บอกลาคุณปู่สามสิ

“คุณปู่สามบ๊ายบายค่ะ”

กมลจุ๊ฟลงบนใบหน้าของธรณีหนึ่งที จากนั้นใช้สองมือโอบ รอบลำคอนรมนและพูดอย่างรอคอย “หม่ามี้ พวกเรารีบกลับกัน เถอะ”

นรมนคิดว่ากผลอยากเจอกานต์กับกิจจาจนรอไม่ได้แล้ว จึง อดหัวเราะไม่ได้
ยัยเด็กคนนี้ติดพี่ชายทั้งสองคนมากเลย แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือ กมลเป็นห่วงเรื่องของกินของตนเอง

หากตนเองกลับไปช้า ลุงชูเอาของกินมาให้แล้วและถูกพี่ชาย กินไปจะทําอย่างไร?

กมลเป็นห่วงมาก

นโมนไม่รู้ว่าลูกสาวกำลังคิดอะไรอยู่ อุ้มเธอขึ้นรถทันที จาก นั้นจึงกลับไปที่บ้านตระกูลโตเล็ก

เมื่อกานต์กับกิจจาเห็นกมลก็ดีใจมาก

เย้ สาวสวยของบ้านเรากลับมาแล้ว

กานต์ลูบศีรษะของกมลอย่างเคยชิน

กมลขมวดคิ้วเบาๆ พูดอย่างเมินเฉย “พี่นี่มันน่าเบื่อจังเลย พี่ ทำทรงผมของฉันยุ่งหมดแล้ว”

“จริงเหรอ ? ฉันดูหน่อย”

กานต์คิดจะแกล้งลูบต่ออีกสักหน่อย กิจจาดึงกมลออกไปจาก กรงเล็บอันชั่วร้ายของเขาทันที

“กมล พี่มีของขวัญกลับมาให้เธอด้วย

“หา? ”

แววตาของกมลเปล่งประกายทันที

“เป็นของกินหรือเปล่า?
“เปล่า แต่รับรองว่าเธอต้องชอบแน่นอน”

กิจจาพูดอย่างลึกลับ กมลอดอยากรู้ไม่ได้ และทำให้กานต์ อยากรู้เหมือนกัน

“ของขวัญอะไรเหรอ? กิจจานายใจไม่เลย ทำไมถึงไม่มี

ของฉันด้วย? ”

กิจจาหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อโดนกานต์ถาม

“ก็นายไม่ใช่เด็กผู้หญิงนี่หน่า จะเอาของขวัญไปทำไม”

“โหๆ ๆ กิจจา นายเหยียดเพศเหรอ!”

กานต์ใจคอเหี่ยวแห้ง

และในขณะนั้นเอง เสียงป้าหวานด้านนอกดังขึ้นมา

“คุณหนูกมล มีคนเอาของมาส่งให้คุณค่ะ

“มาแล้วค่ะ”

กมลทิ้งกานต์กับกิจจาทันที เท้าเล็กๆ วิ่งออกไปข้างนอก นรมนแปลกใจเล็กน้อย หันไปถามกานต์ “มันคืออะไรเห รอ? ”

“ผมไม่รู้ครับ ผมไม่ได้เป็นคนส่ง

กานต์ทําหน้างงงวย

กิจจากส่ายหน้า ถึงแม้เขาจะต้องการให้ของขวัญกมล แต่ ตอนนี้ยังไม่ได้หยิบออกมา
กมลไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร เมื่อมองเห็นลุงชูใบ

หน้าเล็กๆ สวยสดงดงาม

“ขอบคุณค่ะลุงชู

กมลให้ป้าหวานน่าของมามอบให้อย่างมีความสุข จากนั้นจึง ยิ้มตาหยีให้ลุงชู “ฝากขอบคุณพี่ให้หนูด้วยค่ะ

“ได้เลยครับ”

ลุงชูพยักหน้า แต่ก็แอบสะดุ้งในใจ

ลูกสาวคนโตของตระกูลโตเล็ก

นี่เป็นเจ้าหญิงน้อยที่คาบซ้อนเงินซ้อนทองมาเกิดจริง ๆ ไม่ แปลกใจที่แต่งตัวดีขนาดนี้ แต่ว่าคุณชายของบ้านเราต้องการ เกี่ยวดองกับตระกูลโตเล็กเหรอ

นี่ดูเหมือนจะเทียบกันไม่ติดเลยนะ

ลุงชูรู้สึกกังวลอย่างห้ามไม่ได้

กมลไม่สนใจว่าลุงชูจะคิดอย่างไร หอบของกิน

“เอ๋ ของกินเยอะจังเลย ใครส่งมาให้เหรอ? ”

ถึงแม้กานต์จะยิ้ม แต่แววตาคมกริบเล็กน้อย

กมลเหลือบมองเขาและตอบอย่างเรียบเฉย “พี่ดนัยส่งมาให้

ได้ยินว่าดนัยส่งมาให้ ถึงแม้กานต์จะคิ้วขมวด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาพอจะเชื่อถือนิสัยของดนัยได้ แต่นี่มัน หมายความว่าอะไร?

สนใจน้องสาวของเขาเหรอ?

รูม่านตาของกานต์หดตัวเล็กน้อย วันไหนเขาจะต้องเจอกับดนัยสักหน่อย

กานต์คิดในใจซ้ำไปซ้ำมา กมลกลับดึงกิจจาไปอย่างไม่สนใจ ใยดี “พี่กิจจา มา พวกเรากินด้วยกัน อร่อยมากเลยนะ ฉันได้ยิน หม่ามี้บอกว่าพี่ไปแอฟริกามา ที่นั่นยากจนมากเลยใช่ไหม? มี อะไรให้กินหรือเปล่า ? พี่ดูผิวแทนไปเลย แล้วก็ผอมด้วย รีบกิน เข้าไปเยอะๆ”

กานต์เห็นท่าทางกระตือรือร้นของกมลแล้วรู้สึกอิจฉา

“กมล ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นพี่ชายแท้ๆ ของเธอ เธอจะไม่ชวน พี่กินด้วยเหรอ? ”

“ไม่ต้องหรอก พี่อยู่ในเขตทหารไม่เคยกินหรือไง? อย่ามา แย่งฉันกับพี่กิจจากินเลย”

กมลปฏิบัติแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเจน

กานต์ยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่กิจจากล่าวด้วยรอยยิ้ม “กมล อย่าเป็นแบบนี้สิ ที่กานต์กินในเขตทหารกับที่น้องให้มันคนละ ความรู้สึกกันรู้ไหม? ”

“ก็ได้ เห็นแก่หน้าของพี่กิจจา ฉันจะให้ปีกไก่อันหนึ่ง
กมลยกปีกไก่ให้กานต์อย่างเสียดาย

กานต์หดหู่ใจ

อะไรเนี่ย

เขาคือคุณชายที่สง่าผ่าเผยของตระกูลโตเล็ก จะไม่มีปัญญา กินปีกกินเลยเหรอ?

“ไม่กินแล้ว”

กานต์ส่งเสียงออกทางจมูกอย่างเย่อหยิ่ง เดิมคิดว่ากผลจะ ต้องมาปลอบตนเอง ใครจะไปคิดว่า กมลจะเอาปีกไก่เข้าปาก ตนเองทันที

“ไม่กินก็เอามา ของฉันกับพี่กิจจาคนละสองชิ้นพอดี ไม่งั้นก็

ไม่รู้จะแบ่งยังไง”

กานต์เสียใจกับคำพูดนี้ทันที

นโมนทนเห็นลูกสาวของตนเองรังแกลูกชายตนเองไม่ได้ จึง

อุ้มกานต์ขึ้นมา

ลูกรัก หม่ามี้เล่นเป็นเพื่อนลูกนะ”

กานต์หนาวสั่นกับเสียงที่นรมนเรียกว่า “ลูกรัก” โดยเฉพาะ

อย่างยิ่งเขาถูกหม่ามอุ้มขึ้นมา

กานต์หน้าแดงทันที

เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “หม่าม ผมเดินเองได้
“ไม่เป็นไรจ้ะ หม่ามีไม่ได้อุ้มลูกนานแล้ว ไปเถอะพวกเราไป เล่นเกมกันที่ห้องหนังสือดีกว่า”

นรมนไม่สนใจว่ากานต์จะอึดอัดหรือเปล่า อุ้มเขาแน่นขึ้นไป ชั้นบน

กานต์ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปที่กิจจา แต่ทำอย่างไร

เขาก็ทําเป็นมองไม่เห็น กานต์โมโหอยากจะร้องไห้

หลังจากนรมนอุ้มเขาเข้ามาในห้องหนังสือจึงวางเขาลง “ลูกรัก ลูกตัวหนักแล้ว”

“หม่าม อย่าเรียกผมว่าลูกรักได้ไหม? ”

กานต์ฟังต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ

อีกไม่กี่วันจะปีใหม่แล้ว ตนเองก็จะอายุห้าขวบ ไม่ว่าอย่างไร ตนเองก็คือหัวหน้าทีมคนหนึ่ง การที่ถูกหม่ามี้เรียกว่าลูกรักทั้งวัน มันใช่เรื่องไหม?

ในที่สุดนรมนก็สังเกตเห็นความไม่สมัครใจของลูกชาย จึง กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ได้ ไม่เรียกว่าลูกรัก เรียกว่า กานต์ดีไหม?

“ครับ”

กานต์ตอบอย่างเย็นชา

“หม่ามี้เล่นเกมกับลูกสักหน่อยไหม?

นรมนรู้สึกว่าเวลาที่ตนเองอยู่กับลูกน้อยเกินไป และตอนกานต์อยู่ต่างประเทศไม่รู้ว่าความผิดปกติทางจิตใจที่ยิงปืนจะ กําจัดหมดไปหรือยัง ดังนั้นเธอจึงอยากใช้เวลาอยู่กับลูกชาย

กานต์ชะงักไป “หม่ามีจะเล่นเกมกับผม? หม่ามี้แน่ใจนะว่าจะ เล่นเป็นเพื่อนผม? ไม่ใช่ผมเล่นเป็นเพื่อนหมา

นโมนรู้สึกเจ็บปวดใจทันที

“กานต์ ลูกเป็นแบบนี้จะไม่มีเพื่อนนะ

นรมนกลุ้มใจ

กานต์กล่าวอย่างไม่แยแส “สิ่งสุดท้ายที่ผมขาดคือเพื่อน

นรมนรู้สึกว่าวันนี้ไม่อาจคุยกันได้รู้เรื่อง

เจ้าเด็กคนนี้ทำตัวไม่น่ารักเลย

เมื่อนรมนกำลังจะพูดว่าให้เขาเล่นไปคนเดียว กานต์ก็ถอน หายใจขึ้นมาและกล่าวอย่างฝันใจ “ดูหม่าเบื่อๆ งั้นผมเล่นเป็น เพื่อนแล้วกัน บอกมา หม่าอยากเล่นอะไร? ”

นรมนรู้สึกว่าถูกลูกชายตนเองเหยียดหยาม

เธอให้กำเนิดเด็กอัจฉริยะคนหนึ่งมันง่ายใช่ไหม

กานต์เห็นนรมนมองตนเองอย่างน้อยใจ จึงถอนหายใจอย่าง ห้ามไม่ได้ “หม่าม ผมไม่ใช่คุณบุริศร์นะ สายตาที่หม่ามองผม แบบนี้มันไม่ถูกต้องหรือเปล่า? ”

“กานต์! ”
“ครับ! ”

กานต์ยืนตัวตรงทันที ท่าทางของทหารที่ได้มาตรฐานทำให้พร มนภาคภูมิใจ

“ลูกไม่อยากเล่นก็ช่างเถอะ”

นรมนรู้สึกว่าตนเองเป็นหม่ามีที่ล้มเหลวอย่างยิ่ง อยากเล่นกับ

ลูกก็หาความชอบร่วมกันไม่เจอ หากไม่สามารถเล่นกับลูกได้ ตนเองไปเรียนแฮกเกอร์ดีไหม?

ถึงแม้ตอนนี้จะเพิ่งเริ่มเรียน เธอก็ไม่จำเป็นต้องชนะกานต์ก็ได้

ยังมีแม่ที่สิ้นหวังกว่าเธออีกไหม?

นรมนหมดอาลัยตายอยากทันที

กานต์ชะงักไปเล็กน้อย เขาพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัวทันที “ไม่ อย่างนั้นพวกเราเล่นRovกันไหม?

“ไม่เล่นแล้ว มันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับลูกไม่ใช่เหรอ? ช่าง เถอะ ลูกเล่นไปคนเดียวนะ หม่าจะกลับห้องแล้ว

นรมนลุกขึ้นอย่างพ่ายแพ้ กลับมีสองมือน้อยๆ ดึงนิ้วมือของ เธอเอาไว้

เธออึ้งเล็กน้อย

กานต์หน้าแดง เขาพูดอย่างเก้อเขิน “เป็นอัจฉริยะมานานแล้ว บางครั้งก็อยากกลับมาเป็นคนปกติบ้าง ไม่งั้นจะเก่งไป

นรมนอึ้งไปอีกครั้ง
คำพูดนี้ทําไมถึงฟังแล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ