แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 909 นายมีน้ำใจมากกว่าแม่นาย



บทที่ 909 นายมีน้ำใจมากกว่าแม่นาย

ชัยยศรู้ว่านรมนเจอใครที่นี่ คุณท่านตระกูลพรโสภณออกไป แล้ว เดาว่าอยู่ข้างนอก แล้วยังมีใครเข้ามาแล้วต้องเคาะประตู อีก?

นรมนไม่เข้าใจ คิมก็ตกตะลึงสักพัก แต่ก็ยังพูดเสียงทุ้ม “รีบ ให้คนอื่นเข้ามาสิ”

“อ่อ โอเคค่ะ”

“เข้ามา!”

นรมนรีบเอ่ยปาก

ช่วงเวลาที่ประตูถูกเปิดออก นรมนก็ตกตะลึง

“เจตต์?”

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอเจตต์

ตั้งแต่เกิดเรื่องแม่ของเขา เจตต์ก็หาที่อยู่รักษาอาการบาดเจ็บ ในขณะนี้จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น มันทำให้นรมนตกใจมาก

แต่เจตต์ไม่พูดอะไรเลย เข้ามาทันที ดึงนรมนขึ้นมา มองด้าน หน้าด้านหลัง ด้านซ้ายด้านขวาหนึ่งรอบ จากนั้นก็กัดฟันพูด ขึ้น “นรมน ที่เธอบ้าไปแล้วเหรอ? คนอื่นแทงเธอ เธอหลบไม่ได้ เหรอ? อีกอย่างคนในตระกูลโตเล็กตายไปหมดแล้วหรือไง? ให้ เธอไปสถานที่ก่อสร้างจัดการเรื่องอุบัติเหตุ? เป็นยังไงบ้าง? บาดเจ็บตรงไหน?”

เห็นท่าทางกังวลของเจตต์ นรมนก็ยิ้มทันที

“ยิ้มอะไร? โดนคนอื่นรังแกจนกลายเป็นแบบนี้ยังยิ้มอีกเห รอ? นี่เธอบ้าไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”

หนวดของเจตต์ตก ดูเหมือนราวกับว่าไม่ได้ดูแลตัวเองมา หลายปี ในขณะนี้ได้ยินข่าวนรมนโดนแทงก็รีบมา ไม่ทันได้จัด ระเบียบตัวเองเลย

นรมนแค่รู้สึกว่าหัวใจอบอุ่น ร้อนระอุ เธอเขย่งปลายเท้ากอด เจตต์ทันที

“พี่ ขอบคุณพี่ที่มาเยี่ยมฉัน

ชื่อเรียกนี้ของนรมน ทำให้เจตต์ขอบตาแดงทันที

“อายุมากแล้ว ยังไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี ถึงเธอไม่ทำเพื่อตัว เอง ก็ทําเพื่อพวกเราคนที่เป็นห่วงเธอ เธอดูแลตัวเองให้ดีๆ ได้ ไหม?”

เจตต์กอดนรมนแน่น

หลังจากเรื่องของแม่ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้ามาเยี่ยมนรมน ที่นี่จริงๆ ตอนแรกคิดว่าตัวเองไม่สนใจก็ได้ แต่เมื่อเขาได้ยินข่าว นรมนโดนคนอื่นแทงจนได้รับบาดเจ็บ ตัวเองก็มาที่นี่อย่าง ควบคุมไม่ได้

ไม่สนว่าทัศนคติของบุริศร์และนรมนที่มีต่อตนจะเป็นอย่างไรเขามาเยี่ยม ถึงปฏิบัติกับเขาเหมือนแต่ก่อน

ดวงตาของเจตค่อนข้างเปียกชื้นแล้ว

นรมนรู้ว่าเขาภูมิใจเย่อหยิ่ง ก็ไม่ไปก็ขณะพูดขึ้น ฉันแนะนำให้รู้จักสักหน่อย แม่ชื่อคิม

นรหันศีรษะคุณน้า เขานิสัยมาก

คิมว่าเธอยิ้มขณะขึ้น “นายควรเรียก

เจตต์ค่อนข้างพูดออก

อย่างไรแล้วเรื่องพวกนั้นแม่เขามันทำให้เขาอับอายกับ

ความอัปยศจริงๆ

“ขอโทษ

หล่อนคือหล่อน นายปะปนกัน และก็กับนรมนมากจริงฉันก็มองออก เป็น โรคมะเร็ง อีกไม่นานก็ฉันกลัวว่าฉันตายแล้วต่อไปนรมน จะคนดูแล ถึงแม้บุริศร์เธอมาก แต่ต้องมีคนครอบครัวตัวเองยมโลก ฉันจะอภัยนาย”
“แม่ แม่พูดอะไรน่ะ?”

ตอนนี้นรมบทนฟังไม่ไหวแล้วที่คิมพูดว่าตัวเองอีกไม่นานก็ ตาย เดือนเธอตลอดเวลาว่าเวลาระหว่างเธอกับคิมเหลือไม่มาก แล้ว

แต่คิมเปิดใจ

เธอลูบมือนรมนแล้วพูดขึ้น “เด็กโง่ คนเราเกิดแก่เจ็บตายเป็น เรื่องปกติ เราไม่สามารถหยุดกฎแห่งธรรมชาติได้ แม่แค่หวังว่า ชีวิตของลูกในอนาคตจะราบรื่นได้ แม่เป็นคนพาลูกมายังโลกใบ นี้ โดยที่ไม่ได้ให้ความรักความห่วงใยกับลูกมากนัก แต่ให้ ความทุกข์กับลูกมาก โชคดีที่ข้างกายลูกยังมีคนที่เป็นห่วงลูก มากมาย แม่ก็วางใจ

“แม่ ไม่มีใครมาแทนที่แม่ได้นะ”

นรมนค่อนข้างเศร้าใจ

เจตต่ไม่คิดว่านรมนจะให้อภัยตน ยิ่งไม่คิดเลยว่าคิมจะไม่ โทษตนด้วย ในขณะนี้ได้ยินคิมฝากฝังก่อนตาย เขาก็รีบพูด ขึ้น “คุณน้า ตราบใดที่เจตต์อย่างผมยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่มีทาง ให้นรมนได้รับความอยุติธรรมเด็ดขาด”

“ดี นายมีน้ำใจมากกว่าแม่นาย

คิมตบบ่าเจต

เธอยืนขึ้นมา พูดกับนรมน “ได้เวลาฉันกลับไปกินยาแล้ว นรมน ออกจากโรงพยาบาลก็กลับมาอยู่บ้านนะ”
“ค่ะ”

ตอนแรกนรมนอยากพูดว่ารอให้บริศร์กลับมาก่อนค่อยว่ากัน แต่พอคิดว่าคิมเหลือเวลาไม่มาก เธอก็รีบพยักหน้าตอบตกลง

คิมไปแล้ว คุณท่านตระกูลพรโสภณก็ตามไปด้วยเช่นกัน

เจตต์มองนรมน ยังคงสับสนกับปัญหาเมื่อครู่นี้

“สรุปเธอบาดเจ็บตรงไหน?”

“ฉันไม่ได้บาดเจ็บ แค่แสดงละครเฉยๆ”

เมื่อนรมนพูดคำนี้ออกมา เจตต์ก็เข้าใจแล้ว

“นี่เธอป่วยเหรอ? เอาชีวิตตัวเองไปล้อเล่นเนี่ยนะ?”

“ก็ไม่เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ?”

“เป็นอะไรก็สายไปแล้วไง บุริศร์ล่ะ?”

นรมนพูดเสียงทุ้ม “ไปต่างประเทศ”

“เธอมีสภาพแบบนี้เขายังไปต่างประเทศอีกเหรอ? เขา….……

“เขามีธุระนิดหน่อยต้องจัดการ และมันก็เพื่อฉันด้วย พี่ไม่ต้อง ถามแล้ว”

นรมนทนฟังไม่ไหวแล้วที่เจตต์ว่าบริศร์ไม่ดี แต่ตอนนี้เธอก็ ไม่รู้ว่าควรอธิบายเรื่องเชษฐ์อย่างไร อย่างไรแล้วไม่นานหลังจาก นี้ทุกคนก็คงรู้กันหมด ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันก็แล้วกัน

แต่เจตต์คิดว่านรมนแค่ไม่อยากฟังเขาว่าบุริศร์ว่าไม่ดีเฉยๆ ก็เลยไม่พูดแล้ว

“พวกกานต์ล่ะ?”

“กานต์ออกไปกับอาสามฉันแล้ว อีกเดี่ยวอาจจะกลับมา พี่รอ เขาเหรอ?”

นรมนคิดว่าเจตต์ต้องการตามหากานต์

เจตต์วางของในมือไว้บนโต๊ะ นรมนพบว่ามันคือเกมคอลโซล

รุ่นล่าสุด

“ให้กานต์เหรอ?”

“อืม ถึงรู้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะ แต่ก็ต้องเล่นของเล่นเด็กๆ บ้าง ไม่งั้นฉันจะรู้สึกหดหู ไม่ว่าเขาจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องรับไว้”

เห็นเจตต์มีท่าทางเอาแต่ใจแบบนี้ นรมนก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้

“โอเค ฉันจะต้องให้เขารับไว้

“อันนี้ให้กิจจา”

เจตต์หยิบหนังสือทางการแพทย์เล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า

ส่งไป

“ขอบคุณค่ะ”

นรมนรู้ว่าเจตต์ใส่ใจมากจริงๆ รีบรับมาแทนเขา แต่เธอนึก เรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ทันที

“พี่ให้เขาเองดีกว่าไหม?”
“เขาก็อยู่โรงพยาบาลเหรอ?”

คิ้วเจตต์ขมวดขึ้นมาเล็กน้อย

นรมนรู้สึกหลังคอมีลมหนาวพัดมาเล็กน้อย เธอยิ้มแย้มพูด ขึ้น “ไม่ใช่แค่เขานะ มักมูลด้วย”

“นรมน นี่เธอเป็นแม่คนได้ยังไง? ลูกสามคนมีสองคนอยู่โรง พยาบาลเหรอ? เธอเห็นโรงพยาบาลเป็นบ้านเธอหรือไง?”

“พี่เบาหน่อย อย่าทำให้ฉันตกใจกลัว ในท้องฉันยังมีอีกคน

นรมนลูบท้องตัวเองทันที และเจตต์ตกตะลึงไปทั้งร่าง

“เธอว่าไงนะ?”

“ฉันบอกแล้วว่าพี่จะเป็นคุณอาอีกครั้ง พี่ พี่ต้องเตรียมของ ขวัญชิ้นใหญ่ให้ฉันด้วยนะ ไม่งั้นฉันจะไม่เห็นด้วย

นรมนยิ้มกว้างมองเจตต์

เจตต์ยังอยู่ในความตะลึง แต่ก็ยังพยักหน้า

“โอเค ฉันจะเตรียม

เจตต์ที่อยู่ในสภาพนี้มีความเป็นคุณชายหน้าตาดีแห่งเมือง ชลธีตรงไหนกัน?

นรมนคุยกับเขาอีกสักพักหนึ่ง เจตต์ก็ลุกขึ้นไปตามหาพวกเด็กๆ
เธอก็โล่งใจอย่างอดไม่ได้

กลุ่มคนมากมายมาเยี่ยมเธอ ความกดดันสูงมากจริงๆ กำลังคิดอยู่ ธรณีก็มา เขาให้คนนำอาหารเสริมถุงใหญ่ถุงเล็ก เข้ามา นรมนก็จะร้องไห้ทันที

“อาเล็ก คุณตั้งใจจะให้ฉันอยู่ที่นี่ถาวรเหรอ?”

“เธอบาดเจ็บตรงไหน? ฉันซื้ออาหารเสริมที่ดีที่สุดมาให้เธอ ได้ยินว่าบุริศร์ไม่อยู่ สองสามวันนี้ฉันจะได้ดูเธอกินข้าวพอดีเลย พยายามบำรุงร่างกายให้เต็มที่ ภรรยาของเทวินนั้นฉันให้คนไป จัดการแล้ว ไม่ให้หล่อนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในนั้น เธอไม่ ต้องเป็นห่วงนะ คนที่กล้ารังแกหลานสาวฉัน มันไม่อยากมีชีวิต อยู่แล้วล่ะ”

ท่าทางปกป้องของธรณีเหมือนกับบุริศร์ไม่มีผิดเลย

นรมนค่อนข้างอยากร้องไห้จริงๆ

“อาเล็ก ฉันไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ ฉันแค่แกล้งทำ คุณ ดูสิ ร่างกายฉันสบายดีมาก”

ระหว่างที่พูดนรมนก็จะกระโดดลงจากเตียงให้ธรณีดู แต่ธรณี ห้ามเอาไว้

“อย่ากระโดด! ถึงจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ในท้องยังมีลูกนะ ถ้าเธอกระโดดแล้วล้มจะทำยังไง? ฉันจะไปหาเด็กที่ไหนชดใช้บุ ริศร์?”
นรมนรู้สึกร้องไห้ไม่ค่อยออกแล้ว

“ฉันไม่ต้องการอาหารเสริมพวกนี้จริงๆ นะคะ

“ต้องรับเอาไว้ ไม่งั้นฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน รอเธอออกโรง พยาบาลเมื่อไรฉันก็ไปเมื่อนั้น

ได้ยินธรณีพูดแบบนี้ นรมนยังพูดอะไรได้อีกล่ะ?

เธอรับอาหารเสริมไว้ สีหน้าธรณีถึงได้ดีขึ้นมาก

ด้วยการดูแลของธรณี นรมนโดนบังคับให้ดื่มซุปไก่หนึ่งชาม รังนกหนึ่งชาม และอื่นๆ เธอดื่มไม่ลงแล้วจริงๆ

ธรณีเห็นเธอมีท่าทางเจ็บปวดทรมานมากจริงๆ ก็ปล่อยเธอไป “ตอนกลางคืนอยากกินอะไร? ฉันจะให้คนรับใช้ที่บ้านทำ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ตอนกลางคืนฉันจะไปกินข้าวที่บ้านคุณตา

นรมนตัดสินใจจะหนี

ให้ธรณีบำรุงตัวเองแบบนี้ต่อไป ไม่นานเธอจะได้รับสาร อาหารมากเกินไปแล้ว

กว่านรมนจะไล่ธรณีไปได้ เมื่อนอนบนเตียงผู้ป่วยเพียงคน เดียวก็ถอนหายใจหนักหน่วง แต่ในใจก็ยังอบอุ่น

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ในโทรศัพท์มีหลายๆ คนมอบความ เป็นห่วงให้ตน แต่ทางด้านพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนไม่มีข่าว คราวเลยสักนิด
เรื่องที่เธอโดนแทง ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างโกลาหล เป็นไป ไม่ได้ที่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนจะไม่เห็นข่าว แต่ตอนนี้พวกเขา ไม่ส่งข้อความมาแม้แต่ข้อความเดียว นรมนเกิดความรู้สึกไม่ดี หลายอย่างจริงๆ

เธอรู้ว่าเนตรากลับมาแล้ว พวกเขามีลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองก็ อาจจะต้องล่าเอียงบ้าง แต่การเพิกเฉยความรู้สึกของเธอ โดยตรงแบบนี้มันทำให้เธอค่อนข้างยากที่จะทน

นรมนปักเลื่อน โทรศัพท์ หยุดที่เบอร์โทรศัพท์แม่นรมน ต้องการกดโทรออก แต่รู้สึกว่าตัวเองมีข้อบกพร่องบางอย่าง บางทีพวกเขาอาจจะยุ่งล่ะมั้ง

ปลอบตัวเองแบบนี้ นรมนก็วางโทรศัพท์ลง

และไม่รู้ว่าบุริศร์กลับมาเมื่อไร ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เธอกลัว ว่าจะทำให้ธุระของบุริศรเสียเวลา ไม่กล้าโทรหาเขาอยู่ตลอด ในขณะนี้บริศร์ออกไปหนึ่งวันแล้ว และไม่รู้ว่าทางด้านฐานวิจัย ปลอดภัยหรือไม่

ทันใดนั้นนรมนก็พบว่าตัวเองคิดถึงเขามากจริงๆ คิดถึง มากๆ

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ค้นรูปบุริศร์ออกมาดู มุมปากยกขึ้น เล็กน้อย ดวงตามีความอ่อนโยนผ่านไป

สุดท้ายก็ควบคุมความคิดถึง ในก้นบึ้งจิตใจไม่ได้ นรมน โทร หาบุริศร์ แต่ช่วงที่โทรศัพท์รับสาย สีหน้านรมนก็เปลี่ยนไปทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ