แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 654 นี่เรียกว่ากรรมตามสนองหรือเปล่า



บทที่ 654 นี่เรียกว่ากรรมตามสนองหรือเปล่า

“ทำไม ? มีสถานการณ์อย่างอื่นด้วยเหรอ? ”

“ครับ”

“ส่งมา”

บริศ วางสายไปได้ไม่นาน พฤกษ์ก็ส่งข้อมูลของคุณหมอคน

นั้นมาให้

ข้อมูลอย่างละเอียดของคุณหมอถูกตรวจสอบจนถึงต้นตระกูล แปดชั่วอายุคน

บริศร์มองข้อมูลนี้ หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย

คุณหมอคนนี้มีความสามารถก็จริง เพียงแต่นิสัยของเขาไม่ดี

เอาเสียเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยหญิง

เหตุผลที่เขารับผู้ป่วยหญิงมารักษา คือการล่วงละเมิดพวกเธอ ผู้ป่วยหญิงบางรายบอกกับคนอื่นว่า ทำได้เพียงแค่อดทนเพราะ ทําอะไรไม่ได้

มีคนอยากฟ้องร้องเขา แต่เขามีความสัมพันธ์ที่จะทำให้เรื่องนี้ ถูกต้อง

คุณหมอที่มีนิสัยแบบนี้ บุริศร์ไม่ต้องการใช้จริง ๆ

เขาโทรหามิลินทันที
“ทางฝั่งฉัตรยาต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน? #

คำถามของบริศ ทำให้มิลินต้องถามกลับอย่างงงงวย “ทำไมเหรอ? คุณก็รับผิดชอบเรื่องของคุณหนูของตระกูล จันทรวงศ์เหรอ?

“ผมไม่ได้รับผิดชอบ ผมเพียงแค่ต้องการรู้เวลาของคุณ”

“ฉันยังไม่ได้ตกลงว่าจะรักษาให้คุณเลยนะ”

มิลินคิดว่าเป็นเรื่องการสะกดจิตของบุริศร์ จึงตัดสินใจวาง สายทันที กลับได้ยินบุริศร์พูดว่า “ผมถามเพื่อนมน

มิลินนิ่งไปสักพัก

“พวกคุณคืนดีกันแล้วเหรอ?

“คุณไม่หวังให้พวกเราคืนดีกันหรือไง? ”

แน่นอน นรมนอยู่กับคุณแล้วได้รับความทุกข์ทรมานมากเกิน ไป การแยกจากคุณเธอถึงจะมีพื้นที่ของตนเองที่กว้างใหญ่ยิ่ง ขึ้น”

คำพูดของมิลินทำให้บริศ เงียบไปสักพัก

เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?

ตราบใดที่นรมนแยกจากเขาถึงจะมีพื้นที่ที่ยิ่งกว้างใหญ่

บริศร์ไม่ปริปากพูดว่าถูกหรือผิด

“พูดจาไร้สาระให้น้อยหน่อย คอของนรมนคุณรักษาได้ไหม?

บริศร์ก็ขี้เกียจพูดเรื่องเหล่านั้นที่ทำให้ตนเองกลุ้มใจมากขึ้น กับมิลิน

มิลินก็ไม่ได้ปิดบัง

“รักษาได้ แต่ความเสี่ยงสูงมาก หากทำได้ไม่ดีจะมีอันตราย ถึงชีวิต”

บุริศร์มือแข็งทันที

“เป็นไปได้อย่างไร? เธอไม่เพียงแค่เป็นใบ้เหรอ? ทำไมจึง อันตรายถึงชีวิต?

“พูดศัพท์เทคนิคเฉพาะทางกับคุณคุณก็คงไม่เข้าใจ พูดง่าย ๆ ก็คือ ประสิทธิภาพของยาที่ทำให้เป็นใบนั้นรุนแรงมาก ถ้า ต้องการถอนรากถอนโคน มันยุ่งยากมาก รวมทั้งสมุนไพรหา ยากที่เธอใช้ผ่าตัดครั้งล่าสุด ทำให้ประสิทธิภาพการดูดซึมของ ยารวดเร็วเป็นพิเศษ ต้องการรักษาให้หาย ก็ต้องรับความเสี่ยง

คำพูดของมิลินทำให้บริศร์ลังเล

ถ้าไม่รักษา อย่างมากที่สุดนรมนจะไม่สามารถพูดได้ แต่ รับรองว่าไร้ความกังวล ถ้ารักษา ความเสี่ยงนี้เธออาจจะแบกรับ ไม่ไหว

“ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณควรจะถามนรมน ถึงอย่างไรก็เป็นเรื่อง ของตัวเธอเอง คุณทำอะไรไม่ได้ และไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนเธอ ถ้าเธออยากคืนสู่สภาพเดิม ก็เชิญเธอมาตระกูลจันทรวงศ์ ฉันจะรอเธออยู่ที่ตระกูลจันทรวงศ์

มิลินพูดจบก็วางสายไป

บริศร์จมอยู่ในความคิด

แน่นอนว่าเขาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทนนรมน ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ อยากให้เสียงของนรมนกลับมา แต่ถ้ามีราคาที่ต้องจ่ายมากเกิน ไป เขายอมให้นรมนเป็นแบบนี้ดีกว่า

อันที่จริงแบบนี้ก็ค่อนข้างดีแล้วใช่ไหม?

บุริศร์ปลอบใจตนเอง แต่ก้นบึ้งที่อยู่ลึกลงไปที่สุดของหัวใจ กลับรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

นรมนไม่รู้ว่าบุริศร์ทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อเรื่องของเธอ เธอพัก

ผ่อนสักพัก จึงเริ่มหาบ้านบนอินเทอร์เน็ต

บ้านที่นี่ราคาไม่ถูก

นรมนวางแผนซื้อบ้านเป็นสักหลังเป็นของตนเอง

เพราะหลังจากแต่งงาน แม้ว่าประตูบ้านของพ่อแม่จะเปิด ต้อนรับเธอเสมอ แต่เธอรู้ว่าตนเองไม่สามารถกลับไปพักได้นาน ไม่อย่างนั้น พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนคงจะเป็นห่วง ส่วนตระกูล ทวีทรัพย์ธาดา ตอนนี้เธอไม่มีหน้ากลับไป

และบ้านของสามี ตอนนี้เธอคล้ายกับเป็นคนนอกไปแล้ว แม้แต่อาณาจักรรัตติกาลในมือของตนเองก็ขึ้นอยู่กับกิมจิ เธอ ยังจะมีอะไรอีกบ้าง? เมื่อได้รับบาดเจ็บ คิดไม่ถึงว่าเธอจะไม่มีแม้แต่ที่รักษาด้วย

นึกถึงชีวิตที่ขมขื่นของตนเอง ในโรงแรมเล็ก ๆ นึกถึงคืนฝน ตกนั้นที่ตนเองกับกิจจาเกือบตาย ความต้องการซื้อบ้านสักหลัง ของนรมนเพื่อเป็นของตนเองกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนขึ้นมาอีกครั้ง แต่เงินซื้อบ้านไม่ใช่เงินก้อนเล็ก ๆ

เธอนึกถึงห้างGolden Harvest

ในเมื่อบริศ ยกห้างGolden Harvest ให้แก่เธอแล้ว เธอก็ไม่ ทำตัวไร้เหตุผล เพียงแค่ดูว่าเงินในบัญชีของห้างมีเท่าไหร่ค่อย ว่ากัน

เมื่อนรมนตัดสินใจไปห้างGolden Harvestก็รู้สึกลำบากใจ เล็กน้อย

ตอนนี้เธอเป็นแบบนี้ แล้วจะสื่อสารกับพนักงานอย่างไร? หรือ จะต้องใช้ภาษามือ? ถ้าพนักงานไม่เข้าใจจะทำอย่างไร?

สิ่งแรกที่นรมนรู้สึกคือการพูดไม่ได้เป็นเรื่องยากลำบากอย่าง ยิ่ง จนแม้แต่ไม่สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้

กิจการของห้างสรรพสินค้าดีมาก แต่เธอมักจะต้องแสดงตัว

เป็นครั้งแรกที่นรมนคิดว่าต้องรักษาคอของตนเองโดยด่วน แล้ว

เธอส่งเฟซบุ๊กหาคมทิพย์ ให้คมทิพย์นำหนังสือมอบอำนาจ ของเธอไปถอนเงินจํานวนหนึ่งออกจากบัญชีของห้างGoldenHarvest แต่เธอต้องการเอกสารที่ปรึกษาทางกฎหมายของห้าง สรรพสินค้าถึงจะทำได้

นรมนรู้ว่า เรื่องนี้เธอต้องหาบุริศร์เท่านั้น หลังจากลังเลอยู่นาน นรมนจึงส่งเฟซบุ๊กหาบุริศร์ บอกความ

คิดของตนเองให้เขาฟัง

ได้ยินว่านเมนต้องการเบิกเงิน บุริศร์ถามอย่างร้อนใจ “เกิด เรื่องอะไรขึ้นเหรอ? ”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่อยากใช้เงินจำนวนหนึ่ง ในเมื่อ

ห้างGolden Harvestเป็นของฉันแล้ว ฉันก็สามารถเปลี่ยนที่ ปรึกษาทางกฎหมายเป็นคนที่ฉันหามาเองได้ใช่ไหม? นรมนไม่อยากรายงานบริศร์ทุกเรื่อง ความรู้สึกแบบนั้น

เหมือนเด็กคนหนึ่งแบมือขอเงินจากผู้ปกครอง ทุกครั้งต้อง

อธิบายเหตุผล ทำให้คนรู้สึกหดหู่จริง ๆ

บริศ เข้าใจความหมายของนรมนทันที

แต่ก่อนนรมนไม่ชอบรูดบัตร และตอนนี้ยิ่งต้องการแยกกับเขา อย่างชัดเจน ความรู้สึกแบบนี้มันช่างแย่จริง ๆ

แต่บุริศร์ก็ไม่ได้พูดคัดค้านอะไร เพียงแค่บอกว่า “ที่ปรึกษา ทางกฎหมายเป็นคนที่มีมาก่อนของห้างสรรพสินค้า การไล่คน ออกอย่างไม่มีเหตุผลคงจะไม่ดีหรอกใช่ไหม? คุณวางใจเถอะ เขาไม่ใช่คนของผม ถ้าคุณต้องการ ผมจะให้ข้อมูลติดต่อของ เขาแก่คุณ แล้วคุณสองคนก็ไปคุยกันเอง
“ได้ ขอบคุณค่ะ”

คำพูดที่สุภาพและดูห่างเหินของนรมนทำให้บริศ รู้สึกเหมือน มีก้างปลาติดคออีกครั้ง

หลังจากที่นรมนได้สิ่งที่ตนเองต้องการก็ไม่สนใจบุริศร์อีก เหมือนบุริศร์เป็นแค่เพียงคนคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร

ความรู้สึกที่ถูกคนใช้แล้วทิ้งแบบนี้ บุริศร์เพิ่งเคยสัมผัสมัน เป็นครั้งแรก

เขาส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น จากนั้นกดโทรหาพฤกษ์ สั่งให้ ตรวจสอบว่านรมนต้องการเบิกเงินไปทำอะไร

เขาไม่อยากเฝ้าติดตามนรมน เพียงแค่กลัวเธอจะเจอกับ อุปสรรคอีก

และด้วยนิสัยของนรมน ไม่มีทางพูดกับตนเองแน่นอน นรมนติดต่อที่ปรึกษาทางกฎหมาย เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คน ของบุริศร์ จึงค่อยวางใจได้

เธอเล่าสถานการณ์ของตนเองให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายฟัง จากนั้นคาดหวังว่าคมทิพย์จะมาเป็นผู้รับมอบอำนาจของตนเอง เป็นตัวแทนของทุกสิ่งในห้างGolden Harvest

ที่ปรึกษาทางกฎหมายทำสัญญาฉบับหนึ่งสำหรับการมอบ อำนาจนี้ จากนั้นก็มาที่ตระกูลเจริญไชยตามที่อยู่ที่นรมนให้ไว้

คมทิพย์ถูกนรมนเรียกกลับมา ตอนแรกเธอไม่อยากจะรับไว้แต่มองเห็นแววตาเฝ้ารอของนรมน และนึกถึงความไม่สะดวก ของนรมน ในเวลานี้ เธอกล่าวเสียงเบาว่า “ฉันเพียงแค่ดูแลห้าง ให้เธอชั่วคราว รอคอของเธอหายดี ฉันจะส่งคืนให้เธอนะ เรื่องนี้ ต้องเขียนลงในสัญญา ไม่งั้นฉันไม่ทำ

“ได้”

นรมนเข้าใจความหมายของคมทิพย์ จึงอดตอบตกลงด้วย รอยยิ้มไม่ได้

สัญญาการมอบอำนาจถูกเซ็นลงนามอย่างรวดเร็ว

คมทิพย์เป็นตัวแทนของนรมน ตรงเข้าไปที่ประจำการที่

ห้างGolden Harvest และยังตรวจสอบการเงินเป็นอย่างแรก พนักงานทั้งระดับบนและระดับล่างของห้างสรรพสินค้าต่าง เหมือนกับเผชิญหน้ากับศัตรู

พวกเขารู้ว่าเปลี่ยนมือเจ้าของแล้ว ส่วนจะเปลี่ยนเป็นใครนั้น ไม่มีใครรู้ นอกจากบุลิน

วันนี้คมทิพย์มาประจำการเป็นตัวแทนของนรมน ทำให้ทุกคน ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับนรมน

บุลินถูกจัดการเป็นอย่างแรก นอกจากนี้บริศร์ยังทำการกีดกัน เธอทุกรูปแบบ

ตอนนี้เธอเหมือนน้ำท่วมปาก ต้องการหานรมนกลับเข้าใกล้ เธอไม่ได้ เพราะคนของบริศ เฝ้าปกป้องนรมนอย่างลับ ๆ ทำให้ บุลินไม่มีโอกาส
บุลินได้ยินว่านรมนจะมาดูแลห้างGolden Harvest จึง วางแผนหาโอกาสเอะอะโวยวายเมื่อนรมนมาเดินสำรวจ คิดไม่ ถึงว่าคนที่มาจะเป็นคนทิพย์

คมทิพย์รู้จักบุลิน เธอส่งข้อความหาบุริศร์ “คุณนี่มันโง่จัง

เลย? พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งก็รับมือไม่ได้ ยังคิดอยากเอา

คืนให้นรมนไหม? ”

บริศ เคยโดนดูถูกอย่างนี้เมื่อไหร่กัน? สามารถพูดได้ว่าตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบ กับเขา แต่คมทิพย์กล้า

ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ คมทิพย์ก็ไม่เคยเห็นบุริศร์อยู่ ในสายตา

วันนี้ยิ่งเหมือนน้องเล็กบงการให้เขาทำเรื่องต่าง ๆ

บุริศรสูดลมหายใจ บอกตนเอง ต้องการได้ภรรยากลับมา ต้องเคลียร์กับคมทิพย์เพื่อนสนิทของภรรยาคนนี้เสียก่อน

เขาส่งข้อความกลับไปหาคมทิพย์

“จัดการปัญหาภายในหนึ่งวัน

มุมปากของนรมนยกขึ้นเล็กน้อย รู้สึกลำพองใจเป็นพิเศษ บางครั้งได้บงการให้บริศร์ทำสิ่งต่าง ๆ ก็รู้สึกฟินจริง ๆ เธอไม่รู้เลยแม้แต่น้อย หลังจากบุริศร์วางสายก็ออกคำสั่งให้ แก่พฤกษ์
คมทิพย์วางแผนรังควานบริศร์ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายคนที่

เหนื่อยกลับเป็นแฟนหนุ่มของตนเอง แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องคุยกัน ทีหลัง เธอไปฝ่ายการเงินเพื่อเบิกเงินจำนวนหนึ่ง ฝ่ายการเงินก็ไม่

กล้าพูดอะไร

สิ่งแรกที่นรมนทำหลังจากได้รับเงินคือการไปดูบ้าน ณ ช่วงบ่าย นรมนดูบ้านหลังหนึ่งเสร็จ เซ็นสัญญา ชำระเงิน ทําเอกสารรับรอง ทำทุกอย่างเสร็จในรวดเดียว

เมื่อบริศร์ นรมนก็เริ่มหาบริษัทตกแต่งภายในแล้ว

เห็นนรมนทำอะไรพบพับเช่นนี้ บุริศร์อึ้งไปทันที เหมือนเขาเพิ่งจะค้นพบเป็นครั้งแรกว่า นรมนที่อ่อนโยนตรง หน้าตนเอง ยังมีความเด็ดเดี่ยวเช่นกัน

คำพูดของมิลินกระเพื่อม ในสมองของเขาอีกครั้ง

เธอบอกว่า “เพียงแค่นรมนแยกจากคุณ เธอถึงจะมีโลกที่ กว้างขึ้น”

บุริศร์นิ่งไปชั่วขณะอย่างห้ามไม่ได้

จริงเหรอ?

งั้นเขาควรจะปล่อยให้เธอโบยบินไปไหม?

มองเห็นนรมนหาบ้านให้ตนเองอย่างมีความสุข บุริศร์เข้าใจ ทันที สิ่งที่เขาต้องการที่สุด ไม่มีอะไรมากไปกว่าชีวิตที่มีความสุขของนรมน

ในเมื่อเป็นแบบนี้ เขาก็จะทำให้เธอสมหวัง เพียงแต่อย่าได้ คิดถึงเรื่องหย่าเลย สิ่งที่เขาทนได้มากที่สุดก็คือการแยกกันอยู่ บุรีศรีน่าความคิดของตนเองบอกนรมนผ่านทางเฟซบุ๊ก พบว่า

นรมนยังไม่น่าตนเองออกมาจากรายชื่อคนที่ถูกบล็อก

เขาทําได้เพียงส่งข้อความหานรมน

นรมนอ่าน และตอบกลับมาเพียงหนึ่งค่า

“ค่ะ”

บุริศร์รู้สึกว่าตอนนี้นรมนยิ่งพูดกับเขาสั้นลงเรื่อยๆ เหมือนกับ ตนเองเมื่อแปดปีที่แล้วมาก ๆ

นี่เรียกว่ากรรมตามสนองหรือเปล่านะ?

อย่างไรเสียหัวใจของเขาเป็นของนรมนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ไม่สามารถเอากลับคืนได้

งานตกแต่งภายในตำเนินการไปอย่างคึกคัก นรมนเริ่ม ดำเนินการแผนที่สองของตนเองให้บรรลุผล

เธอถามปัญญ์ว่าเมื่อไหร่ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นจะมีเวลา ตอนนี้เธอต้องการให้ตนเองพูดได้อย่างเร่งด่วน

ตราบใดที่ฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติ เธอถึงจะสามารถให้ชีวิต และสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูก ๆ และตนเองได้
ในขณะที่นรมนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดผู้เชี่ยวชาญที่ เธอรอคอยก็มาถึง เพียงแต่สีหน้าของบริศร์กลับดูไม่ได้

เขาไม่สามารถทนให้คุณหมอที่นิสัยไม่ดีมารักษานรมน แต่นร มนจะฟังเขาหรือเปล่า?

เขาจะขัดขวางอย่างไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ