แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 194 พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีเอง



บทที่ 194 พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีเอง

หลังจากจัดการเรื่องกมลเสร็จ คุณนายตระกูลโต เล็กก็ออกมา แต่ว่าผลตรวจของเธอต้องรออีกสองวัน ถึงจะออก บุริศร์จึงทำได้แค่รอ

คุณนายตระกูลโตเล็กกลับไม่ได้รู้สึกเป็นกังวล อะไรมาก ราวกับไม่คิดว่าร่างกายของตัวเองมีปัญหา อย่างไรอย่างนั้น แบบนี้ก็ยิ่งทำให้บุริศร์ไม่มั่นใจ

ในตอนที่ไมค์โทรมา บุริศร์ก็กำลังกินข้าวกับเด็กๆ เมื่อได้ยินว่าไมค์อยากเจอเขา เขาจึงพูดขอตัวกับ คุณนายตระกูลโตเล็กแล้วจึงออกไป

ไมค์เชิญบุริศร์มาที่คลับแห่งหนึ่ง

“มาแล้วเหรอ?”

ไมค์นั่งอยู่บนโซฟา ไม่ได้อะไรมากมายกับการมา ถึงของบุริศร์ กลับกันปล่อยให้บุริศร์หยิบจับอะไรได้ ตามสิบาย

เมื่อคนรอบข้างเห็นท่าทีแบบนี้ของไมค์ ก็รู้ถึง ตำแหน่งสถานะของบุริศร์ ว่าต้องเป็นเพื่อนที่คบกันมา นานแน่นอน

“ขอแนะนำสักหน่อยนะ นี่คือเพื่อนๆของฉัน ปัจจุบันร่วมงานกับตระกูลวัชโรทัยเอาสิพูดเลย นาย อยากเริ่มจากใคร?”

เมื่อรอให้บุริศร์นั่งลงไมค์ก็เริ่มเอ่ยปากพูด
จู่ๆบุริศร์ก็รู้สึกว่ามีเพื่อนแบบนี้นี่มันดีจริงๆ ตัวเขา เองยังไม่พูดอะไรเลย ไมค์ก็เดาออกแล้ว

“เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง แต่ว่าจำเป็นต้องพึ่งความ ช่วยเหลือจากนายจริงๆ ฉันไม่อยากติดค้างน้ำใจกับ คนอื่น แค่นายคนเดียวก็พอแล้ว”

บุริศร์เดินมานั่งลงข้างๆไมค์

เมื่อไมค์ได้ยินบุริศร์พูดออกมาแบบนี้ ก็บอกให้ทุก คนแยกย้ายไป

ในตอนที่ในห้องเหลือแค่สองคน ไมค์ก็เทเหล้า ให้บุริศร์หนึ่งแก้ว “ฉันได้ยินมาว่านายสงสัยผลตรวจ ของหมอในโรงพยาบาลของฉันเหรอ?”

“ไม่ได้สงสัย แต่แค่ไม่แน่ใจว่าควรทำยังไง ก็ เลยจ้างผู้เชี่ยวชาญทุกคนมาดูให้มันรู้แล้วรู้รอดไป”

บุริศร์ค่อนข้างกดดันกับเรื่องนี้จริงๆ

ไมค์เป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกับบุริศร์ เขาเคย

ถูกบุริศร์ช่วยชีวิตเอาไว้ตอนที่อยู่ในสนามรบ หลังจาก ปลดประจำการทั้งสองก็ติดต่อกันอยู่ตลอดเดิมที่บุริศร์ ก็วางแผนจะมาสร้างอาณาเขตที่อเมริกา แต่ว่ายัง ไม่ทันได้ดำเนินการ ก็เกิดเรื่องขึ้นกับกมล ตอนนั้น เขาจึงไม่มีแรงใจจะขยับขยายอะไรเท่าไหร่ เลยต้อง หยุดชะงักไป

คิดไม่ถึงเลยว่าการมาอเมริกาครั้งนี้ยังต้องขอ ความช่วยเหลือจากไมค์อีก
“เวลาก็ผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ พริบตาเดียว เรา ก็ปลดประจำการได้ตั้งหลายปีแล้ว”

ไมค์คิดถึงชีวิตในตอนนั้นเป็นอย่างมาก น่า เสียดายที่สุดท้ายเขาก็ต้องปลดประจำการ

“ใช่ ช่วงเวลาที่พิเศษแบบนั้นกลายเป็นอดีตที่ไม่

สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว” บุริศร์เองก็คิดถึง แต่เขาก็รู้ว่าคนเราควรเดินไป ข้างหน้า มองไปข้างหน้า

ทั้งสองชนแก้วกันเสร็จ ไมค์ก็ถามขึ้นมาว่า “ตกลงนายกับรเมศบาดหมางเรื่องอะไรกัน? ถึงทำให้ เขาเพ่งเล็งนายขนาดนี้?”

“เกลียดเพราะแย่งผู้หญิง แค้นเพราะจะฆ่าลูก” ดวงตาของบุริศร์ทอแววเคียดแค้น

“หมายความว่ายังไง?”

ไมค์ไม่เข้าใจ บุริศร์จึงบอกเรื่องของนรมนกับเขา ไป รวมไปถึงเรื่องอาการป่วยของกมลหลายปีที่ผ่าน มานี้ด้วย

เมื่อฟังที่บุริศร์พูดจบ ไมค์ก็สบถออกมาอย่าง เกรี้ยวกราด “ใช้ไม่ได้! เรื่องบาดหมางระหว่างผู้ใหญ่ ไปเกี่ยวอะไรกับเด็ก? ทำไมต้องลงมือกับเด็ก?”

“ตอนนี้ฉันต้องการแค่ช่วยเมียฉันกลับมา ฉันเสีย ลูกชายไปแล้วคนหนึ่ง ฉันจะเสียเมียไปอีกคนไม่ได้”
เมื่อนึกถึงเรื่องกานต์บุริศร์ก็รู้สึกเคียดแค้นเป็น อย่างมาก

ไอ้เด็กแสบแสนเย่อหยิ่งนั่น

ไอ้แสบที่ไม่เคยเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ เอาแต่เรียกเขา ว่าคุณบุริศร์ตอนนี้อยู่ที่ไหนกันนะ?

บุริศร์รู้สึกขมขื่น จึงยกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียว

ไมค์ได้ยินเรื่องของกานต์มาบ้าง จึงพูดออกไปว่า “ฉันเชื่อว่าต้องมีเบาะแสอะไรแน่ๆ ขอแค่อยู่ในถิ่นของ ฉัน ฉันรับประกันว่าฉันช่วยนายตามหาเจอแน่”

“ขอบคุณนะ เพื่อน”

“เอาล่ะ ช่วงนี้นายเครียดเกินไปแล้ว เพราะงั้น วันนี้ไม่เมาไม่กลับ ฉันรู้จักนิสัยนายดี นางคิดจะไป ดักซุ่มที่ตระกูลวัชโรทัยคืนนี้ใช่ไหม? ทางที่ดีฉัน แนะนำว่าอย่าเลย การคุ้มกันในเวลากลางคืนของ ตระกูลวัชโรทัยแน่นหนาเป็นพิเศษ ไปตอนกลางวันดี กว่า พรุ่งนี้ฉันจะหาเหตุผลให้รเมศออกมาข้างนอก นายก็ใช้โอกาสนี้ไปที่นั่นซะ ส่วนจะเข้าไปยังไงนั้น ฉันมีวิธีก็แล้วกัน”

ไมค์ทนมองบุริศร์ใช้ชีวิตอย่างเครียดๆไม่ได้ จึง ต้องเอ่ยปากพูดออกไป

บุริศร์พูดยิ้มๆว่า “ก็ยังเป็นนายที่รู้จักฉันดีที่สุด”

“คนที่รู้จักนายดีที่สุดคือตรินท์ต่างหาก แต่เขา

กลับไม่อยู่ซะแล้วสิ ว่าแต่เด็กกิจจานั่นเป็นลูกของตรินท์เหรอ?”

บุริศร์พยักหน้า

“ดีเลย ให้ฉันเป็นพ่อเลี้ยงเขาสิ”

“ไม่ให้”

บุริศร์ปฏิเสธฉับ จนไมค์ไม่ชอบใจ

จากนั้นทั้งสองก็เริ่มพูดถึงเรื่องในอดีต พูดถึง เรื่องโชคชะตาหลายปีที่ผ่านมาหลังจากที่แยกกัน คุย กันไปดื่มกันไป จนค่อยๆเมา

บุริศร์คิดมาตลอดว่าต่อให้ดื่มเยอะขนาดไหนตัว เองก็จะไม่เมา แต่ทำไมตอนนี้ถึงได้รู้สึกว่ารสชาติของ เหล้าถึงขม และดื่มยากถึงเพียงนี้?

เหมือนเขาเห็นนรมน เธอกำลังยิ้มให้เขาเหมือน

เมื่อห้าปีที่แล้ว

บุริศร์ลุกพรวดขึ้นมา พร้อมกับเดินตรงเข้าไปหา ภาพฝันข้างหน้า แต่ว่านรมนไปไหนแล้ว?

“นรมน นรมน..

เขาหกล้มลงกับพื้น ด้วยสภาพน่าเวทนา บุริศร์ทรุดอยู่กับพื้นเป็นเวลานาน ไหล่ของเขาสั่น

“นรมน ขอโทษ ผมขอโทษ”

ไหว เสียงพูดอัดอั้นหลั่งไหลออกมา ไมค์เดินเข้าไปพยุงเขาลุกขึ้นมาอย่างสงสารจับใจแล้วพูดเสียงเบาว่า “นอนเถอะ พรุ่งนี้ทุกอย่างจะ ดีเอง”

บุริศร์ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อยหรือเพราะอะไร เขาถึง หลับไปในทันที

ไมค์หาผ้าห่มมาห่มให้เขา จากนั้นก็หันหลังเดิน ออกจากห้องไป

เขาจุดบุหรี่สูบ ท่ามกลางควันบุหรี่ใครก็ไม่ สามารถเดาสีหน้าของเขาออกได้

หลังจากสูบหมดมวล ก็มีคนเดินมายืนข้างๆไมค์

“คุณชายครับ”

“ตรวจสอบตลาดมืดในอเมริกาทั้งหมด ฉันอยากรู้ สถานการณ์ของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง อายุสักสี่ห้าขวบ ไม่ว่ายังไง ก็ต้องรู้ให้ได้ว่าอยู่ในตลาดมืดไหน”

ดวงตาของไมค์ทอแววเย็นยะเยือก

แม้ว่าจะค่อนข้างประหลาดใจกับคำสั่งของไมค์ แต่ลูกน้องข้างๆก็ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

ไมค์อยู่ข้างนอกอีกสักพัก ถึงได้เดินเข้ามาในห้อง บุริศร์หลับไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หลับสนิทอะไร ไมค์นอนลงข้างๆเขา ไม่นานจากนั้นก็หลับไป เมื่อบุริศร์ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ก็รู้สึกปวดหัวตุบๆ นี่เขาเมาขนาดนี้เลยเหรอ!
บุริศร์ส่ายหัว จากนั้นก็มองไมค์ที่ยังหลับอยู่ ผู้ชายคนนี้ยังเหมือนเดิมเลย ไม่รู้จักรักษาภาพลักษณ์ เลยสักนิด ถึงได้นอนไม่สนโลกอยู่บนพื้นแบบนั้น ไม่ กลัวหนาวหรือไงนะ

บุริศร์ถีบเขา จน ไมค์สะดุ้งตื่น

“ทำอะไรวะ?”

“ลุก! รีบไปนัดหมายรเมศออกมาข้างนอกได้แล้ว” “นี่ลูกพี่ ให้ฉันนอนอีกสักนิดมันจะตายหรือไง?”

ไมค์บ่นอุบอิบอย่างไม่พอใจ

บุริศร์พูดยิ้มๆออกมาว่า “ตาย ฉันร้อนใจจะตาย อยู่แล้ว นายรู้ไหมว่าฉันไม่ได้เจอเมียมานานเท่าไหร่

แล้ว?”

“เมียนายไม่ใช่เมียฉัน จำเป็นต้องให้ฉันร้อนใจไปถึงจะพูดออกมาอย่างนี้ แต่ไมค์ก็ยังลุกขึ้นมาล้าง หน้าล้างตา จากนั้นก็เดินออกจากคลับไปพร้อมกับบุริ

ด้วยเหรอ?”

ศร์

บุริศร์ไม่ได้กลับไปที่โรงพยาล แต่ตรงมาซุ่มมอง แถวๆบ้านตระกูลวัชโรทัย

ไม่นาน รเมศก็ได้รับสายจากไมค์โดยนัดเขาออก ไปคุยเรื่องที่ดินตรงชานเมือง

รเมศขมวดคิ้วเล็กน้อย
ได้ยินมาว่าไมค์คนนี้ติดต่อยากมาก ก่อนหน้านี้ เขาเคยนัดไมค์ออกมาเจรจาเรื่องที่ดินตรงนั้น แต่ว่า อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจเขา พอตอนนี้จู่ๆก็มานัดเขา ออกไป เขาจึงคาดเดาว่าต้องเกี่ยวกับบุริศร์แน่ๆ

เมื่อนึกถึงบุริศร์ รเมศก็รู้สึกเกลียดจนต้องกัดฟัน กรอด แต่เขาไม่กล้ามีเรื่องกับไมค์ สุดท้ายจึงต้อง จัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วออกไปตามนัด ก่อนจะไปเขาก็แวะไปดูนรมน นรมนยังคงไม่มี

ท่าทีสนใจเขา แต่รเมศไม่สนหรอกนะ

“รอให้ผมจัดการบุริศร์เสร็จ คุณก็จะอยู่กับผมได้ อย่างสบายใจ นรมน ผมรอได้นะ ผมรอมาแล้วตั้งห้า ปี อีกไม่กี่วันหรอก”

รเมศจูบหน้าผากของนรมน แต่นรมนกลับหัน

หลบ

เพราะมือและเท้าถูกมัดไว้เป็นเวลานาน ทั้งร่าง ของนรมนจึงแข็งที่อ แค่เห็นว่ารเมศจะเข้ามาใกล้ เธอก็รู้สึกขนลุกชันไปทั้งตัว

รอยแผลบนร่างกายนับวันยิ่งจางลง อีกไม่กี่วันก็ คงหายดีแล้ว ถึงตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าจะถูกรเมศ บังคับให้ทำอะไรอีก

พอคิดถึงผลลัพธ์แบบนั้น เธอก็รู้สึกขนลุกไปหมด รเมศเหยียดกายลุกขึ้นเดินจากไป พร้อมกับ

เสียงล็อกประตูจากด้านนอก
นรมนแทบไม่อยากจะเชื่อ ว่ารเมศที่เคย ทะนุถนอมเธอ ตอนนี้จะขังเธอไว้ในห้องใต้ดินราวกับ เธอเป็นสัตว์เลี้ยง

ปกติแทบจะไม่มีใครมาที่ห้องใต้ดินเลย มีแค่ตอน กินข้าวเท่านั้นถึงจะมีคนมาบังคับให้เธอกิน ถ้าเธอกิน ไม่ลง คนพวกนั้นก็จะให้น้ำเกลือเธอแทน

ช่วงที่ผ่ามานี้ นรมนมึนเบลอ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไป นานเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าบุริศร์ไปแล้วหรือยัง และไม่รู้

ว่าการผ่าตัดของกมลเป็นยังไงบ้าง

ตอนที่เธอหายตัวไปเธอไม่ทันได้บอกเรื่องกมลกับ บุริศร์เลย แล้วบุริศร์รู้ได้ยังไง?

รเมศเป็นคนบอกเหรอ?

เขาจงใจล่อบุริศร์มาที่อเมริกาเพื่อที่จะจัดการบุริ

ศร์ใช่ไหม?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็กังวลเป็นอย่างมาก

เธอดิ้นจนข้อมือและข้อเท้าของเธอเสียดสีกับ เชือก จนเลือดไหลออกมา แต่เธอไม่สนใจ

เธอต้องหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้!

ต้องหนีให้ได้!

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก นรมน

ขมวดคิ้ว

ตอนนี้ไม่ใช่เวลากินข้าวนี่ ใครมา?
นรมนเตรียมป้องกันตัว แต่กลับได้ยินเสียงแห ลมๆของคนใช้ข้างนอกดังขึ้นมาเสียก่อน

“นี่ สายยางอยู่ทางนี้ นั่นมันห้องใต้ดิน เจ้านาย ของเราไม่อยู่ คุณจะเข้าไปไม่ได้นะ”

เมื่อได้ยินที่คนใช้พูด หัวใจของนรมนก็เต้นแรงใน

ทันที

คนนอกเหรอ?

แบบนั้นเธอขอความช่วยเหลือได้หรือเปล่า?

ทว่านรมนกลับไม่สามารถสลัดสิ่งที่ปิดปากตัวเอง

ออกไปได้

เพราะกลัวว่าเธอจะร้อง รเมศจึงหาของมาปิดปาก

เธอเอาไว้

นรมนส่งเสียงร้องอู้อื้อออกไป น่าเสียดายที่เสียง ไม่ถูกส่งออกไปเลย เธอพยายามตะโกน ร่างกายเปียกโชก รอย

เลือดบริเวณข้อมือข้อเท้าเพิ่มมากขึ้น ทว่าเสียงเท้า

ข้างนอกกลับค่อยๆไกลออกไป ไกลขึ้นเรื่อย..

นรมนสิ้นวังแล้ว

ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้เธอต้องเป็นอย่างนี้ไปตลอด

เหรอ?

หลังจากที่รเมศจัดการบุริศร์เงียบๆ เธอจะมีชีวิต รอดอยู่คนเดียวแบบนี้นะเหรอ?
ไม่!

ไม่ได้

ให้เธอเอาหัวกระแทกพื้นตายดีกว่า มีชีวิตแบบนั้น

ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้

ถ้าเธอคิดจะฆ่าตัวตาย จะมีโอกาสที่รเมศจะส่ง เธอไปโรงพยาบาลไหม? พอถึงตอนนั้น พอจะมี โอกาสหนีไหมนะ?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆนรมนหัวเราะออกมา หัวเราะจนน้ำตาไหล

เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพื่อหาโอกาสรอด ต่อให้ต้อง เลือดตกยางออก จนแทบจะหมดลมหายใจ เธอก็ไม่ อยากอยู่ในที่มืดๆแบบนี้ทั้งวันทั้งคืน

เธออยากกลับบ้าน!

เธออยากกลับไปอยู่กับบุริศร์และกมล กลับไปอยู่ กับครอบครัวของเธอ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ