แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 1207 สถานที่ที่มีคุณก็คือสวรรค์



บทที่ 1207 สถานที่ที่มีคุณก็คือสวรรค์

เมื่อบริศ พูดค่านี้ออกมา สีหน้าคุณท่านตนวรก็เปลี่ยนแปลง ทันที และนรมนก็มองบุริศร์อย่างประหลาดใจ มักรู้สึกว่าตอนที่ เขาพูดประโยคนี้ในน้ำเสียงมันมีความเหี้ยมเกรียมเล็กน้อย

คือภาพลวงตาของตัวเองเหรอ?

นรมนไม่กล้าพูด เธอนึกถึงท่าทางบุริศร์ก่อนหน้านี้ที่ปฏิบัติกับ ตน บุริศร์ในตอนนั้นเหมือนไม่รู้สึกตัว ตอนนี้ล่ะ?

เธอมองบุริศร์อีกครั้ง สีหน้าแววตาชัดเจน ไม่มีท่าทางไม่รู้สึก ตัวเลยสักนิด จึงขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ คุณท่านตนวรชะงักไปแค่ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อมองบุริศร์ก็เอ่ยปาก

ขึ้นเรียบๆ

“เรื่องนี้มันคือการเคลื่อนไหวทางการทหาร เธอก็น่าจะรู้ เรามี ข้อตกลงในการรักษาความลับ เรื่องนี้พูดไม่ได้”

“อ๋อ ก็จริงครับ มีข้อตกลงในการรักษาความลับ

บุริศร์ยิ้มทันที ยิ้มอย่างชั่วร้ายมาก ทำให้นรมนหัวใจแกว่ง อย่างช่วยไม่ได้

เขาในอดีตจะไม่ยิ้มแบบนี้ แต่ยิ้มนี้ทำให้รู้สึกว่างดงามจนล่ม เมือง ถึงขนาดมีความเจ้าชู้น่าหลงใหลด้วย

นรมนเดินไปข้างหน้ากอดแขนเขาเอาไว้ทันทีแล้วพูดขึ้น
“ทำไมจู่ๆ คิดจะถามเรื่องหมู่บ้านดารายนล่ะ?”

“ไม่มีอะไร นึกขึ้นได้ก็เลยถามเฉยๆ และตอนนี้พี่คริชณะก็ถูก ตรวจสอบ ฉันกลัวว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้อง ก็เลยถามดู

บุริศร์พูดคำนี้ก็สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ คุณท่านตนวรมองเขา ถึงจะรู้สึกว่าดวงตาบุริศร์เมื่อครู่นี้มันมี

ความดุร้ายจริงๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีแล้ว

บางทีเขาอาจจะดูผิดเองล่ะมั้ง

คุณท่านตนวรปรับอารมณ์จิตใจแล้วพูดขึ้น “นี่พวกเธอจะไป เที่ยวกันที่ไหน? ตัดสินใจกันเรียบร้อยหรือยัง?”

“ยังครับ ไปเดินดูตามใจชอบ

บุริศร์เอ่ยปากเรียบๆ น้ำเสียงอ่อนโยน แตกต่างกันเหมือน คนละคนกับท่าทางตอนถามเมื่อครู่นี้

นรมนกลัวบุริศร์เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง จึงรีบดึงแขนเขาแล้วพูด ขึ้น “ฉันเตรียมเสื้อผ้าบางส่วนแล้ว คุณเข้าไปดูหน่อยว่ามีอะไร ต้องเพิ่มไหม”

บุริศร์มองนรมน ยิ้มสักหน่อย ไม่ได้พูดอะไร ตามนรมนเข้าไป

ในห้องนอน

เพิ่งเข้ามาในห้องนอน นรมนก็ปิดประตูห้อง มองบุริศร์แล้ว พูดโดยแสร้งทำเป็นโกรธ “เมื่อคุณทำฉันตกใจแทบตายแล้ว นะ? แววตานั้น ท่าทางนั้น น้ำเสียงตอนถาม เหมือนอยากจะทุ่มสุดตัวกับคุณตาฉันเลย

“ถ้าฉันทุ่มสุดตัวกับเขาจริงๆ คุณจะทํายังไง?”

บุริศร์ยื่นมือออกไป ทัดผมบนหน้าผากนรมนไว้ด้านหลัง ดวงตาอ่อนโยน

บรมนตกตะลึงเล็กน้อย

“คุณหมายความว่าไง? หรือคุณอยากจะทำอะไรกับคุณตาฉัน จริงๆ เหรอ? บุริศร์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณใช่ไหม? ฉันรู้สึกว่าหลัง ลินถอนพิษให้คุณ คุณก็เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน โดยเฉพาะ กับคุณตาฉัน คุณจะขอความเป็นธรรมให้หมู่บ้านดารายนเห รอ?”

นรมนถามอย่างตรงไปตรงมา

คราวนี้บุริศร์ตกตะลึงเล็กน้อย

เขารู้นรมนฉลาด แต่ไม่คิดว่าเธอรู้สึกไวยิ่งขึ้น ความคิด พิถีพิถัน ที่ตนถามเมื่อครู่นี้มันควบคุมไม่ได้ ดึงดูดการคาดเดา มากมายของนรมนได้

บุริศร์จับหลังคอเธอทันที ริมฝีปากเย็นเล็กน้อยแย่งชิงลม หายใจนรมนภายในพริบตาเดียว

นรมนดิ้นรน อยากจะผลักเขาออกแต่แรงไม่มากพออย่างใจ หวัง ไม่นานนักภายใต้การโจมตีของบุริศร์ก็ละลายกลายเป็นน้ำ บ่อหนึ่ง บุริศ อุ้มขึ้นเตียงไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ
เมื่อเธอตระหนักได้ ตัวเองก็นอนอยู่ในอ้อมแขนบุรีศร์แล้ว

ลมหายใจคุ้นเคยผสมกับความหอมเย็นๆ ทำให้นรมนขมวด คิ้วเล็กน้อย

“คุณอย่าใช้วิธีนี้ในการเบี่ยงเบนความสนใจฉัน บุริศร์ ถ้าวัน นี้คุณไม่อธิบายอย่างมีเหตุผลกับฉัน ฉันจะไม่ตกลง

พูดจบ นรมนก็หันหน้าไปอย่างอุ่นเคือง

บริศร์ยิ้ม ยื่นแขนยาวออกอีกครั้ง โอบนรมนให้มาอยู่ในอ้อม แขนตัวเอง แล้วพูดเสียงทุ้ม “ท่าทางตอนคุณอารมณ์เสียนี่สวย ยั่วยวนจริงๆ”

“คุณ ออกไปนะ!”

นรมนยื่นหมัดมาทุบเขา ทำให้บริศร์หัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง เขาไม่ได้หัวเราะร่าเริงแบบนี้มานานมากแล้ว นรมนตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้

บุริศร์รู้สึกถึงการอึ้งของนรมน ยื่นนิ้วออกมาจิ้มหน้าผากเธอ หนึ่งที่ก่อนพูดขึ้น “คุณวางใจซะ ฉันไม่เป็นอะไร ตอนที่มิลิน ถอนพิษให้ฉันเธอวางพิษสีทองตัวหนึ่งไว้ในร่างกายฉัน บางครั้ง ก็ระงับความเหี้ยมไว้ไม่ได้แค่นั้น

“อะไรนะ?”

นรมนนั่งขึ้นมาทันที

“มิลินอยากตายเหรอ? ไม่คิดว่าจะใส่พิษให้คุณ!”
“ถ้าไม่ปลูกพิษสีทอง ฉันก็ต้องตาย

บริศ เล่าเรื่องพิษในความทรงจำกับเรื่องหมู่บ้านดารายนให้ นรมนฟัง

หลังจากนรมนฟังจบ ก็ไม่พูดอะไรอยู่นานมาก

เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

น่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

“แม่คุณต้องการอะไร? ตายไปแล้วยังไม่ปล่อยคุณไปอีก เธอ ไม่อยากให้คุณใช้ชีวิตเหมือนคนปกติเหรอ? แม่คนอื่นล้วนเสี่ยง ชีวิตให้ลูกตัวเองสบายดีกันทั้งนั้น แต่เธอล่ะ? ถึงเธอจะตายไป แล้ว ก่อนตายยังวางแผนร้ายกับคุณอีก บุริศร์ ตอนนี้ฉันอยากไป หมู่บ้านดารายนเอาศพแม่คุณมาเงี่ยนจริงๆ”

“ได้”

คำพูดบุริศ ทำให้เสียงกริ้วโกรธของนรมนหยุดกะทันหัน

“คุณว่าไงนะ?”

“คุณอยากเฆี่ยนศพไม่ใช่เหรอ? เธอเป็นเถ้ากระดูกแล้ว เฆี่ยน ศพไม่ได้ แต่เอาเถ้ากระดูกขึ้นมาน่าจะได้

บุริศร์พูดอย่างไร้ความรู้สึก ทำให้นรมนอ้าปากทันที ไม่รู้ควร พูดอะไรแล้ว?

เอาเถ้ากระดูกขึ้นมา?

นี่เป็นทำลายกระดูกกระจายเถ้าถ่านใช่ไหม?
บริศ เกลียดป้า โอรุนแรงขนาดนี้เชียว

นรมนจับมือบุริศร์ไว้ทันที ครุ่นคิดสักพักก่อนพูดขึ้น ไม่งั้นเรา อย่าเพิ่งออกไปไหนดีกว่า ฉันจะไปหาป้องที่บ้านหน่อย บางที ป้องอาจจะมีวิธีเอาพิษสีทองออกจากร่างกายคุณก็ได้

“ฉันสืบดูแล้ว พิษสีทองมันไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ มันมีประโยชน์มากมาย ตอนนี้อารมณ์ฉันไม่มั่นคงไม่ใช่เพราะ พิษสีทอง แต่เพราะความเหี้ยมโหดของพิษในความทรงจำทำให้ ฉันสองจิตสองใจ”

บุริศร์จับมือนรมน นอนราบบนเตียง มองเพดานแล้วพูดเสียง ทุ้ม “ที่คนในหมู่บ้านดารายนปลูกพิษในความทรงจำให้กับคน รุ่นหลัง เพียงแค่ให้พวกเขาได้รู้สึกเข้าไปในการสังหารหมู่ครั้ง นั้น ให้เหล่าลูกหลานรุ่นหลังของเขาได้เห็นอย่างชัดเจนว่าคนใน ตระกูลตัวเองถูกฆ่ายังไง ความกริ้วโกรธและความเกลียดชังนั้น มันลึกอยู่ในความทรงจำมากกว่าพูดด้วยปาก และพิษในความ ทรงจำนี้คงเพาะเลี้ยงออกมาด้วยความไม่พอใจและความโกรธข องบรรพบุรุษ ดังนั้นความเหี้ยมโหดนี้อาจจะเปลี่ยนจิตใจคน ก็ได้”

“แล้วต้องทํายังไงดี?

นรมนไม่อยากให้บริศร์เปลี่ยนจิตใจ และไม่อยากให้บุริศร์ถูก พิษอะไรควบคุมด้วย

เขาคือบริศร์ของเธอ คือสามีของเธอ ห้ามออกหน้าเพื่อคนเห็น แก่ประโยชน์ส่วนตนเหล่านั้นในหมู่บ้านดารายน
ความกังวลของนรมนนั้นบุริศร์รับรู้อย่างดี

เขาลูบผมเธอ ยิ้มขณะพูดขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วง ปลูกพิษ แน่นอนว่าถอนพิษได้ และสามีคุณเป็นคนที่โดนควบคุมได้ ตามใจชอบเหรอ? ฉันอยากทำอะไรไม่อยากทำอะไร ไม่ต้องให้ คนอื่นมาสั่ง ถึงจะเป็นความไม่พอใจกับความเหี้ยมโหดของ บรรพบุรุษก็ตาม ตราบใดที่ฉันไม่อยาก ใครก็บังคับฉันไม่ได้ ตอนนี้สิ่งที่ฉันอยากรู้มากที่สุดก็คือ หมู่บ้านดารายนก่อกรรมทำ ชั่วอะไรไว้ ถึงทำให้ทหารเผาทั้งหมู่บ้านล้อมรั้วเด็ดขาดแบบนี้?”

นี่คือสิ่งที่บุริศร์อยากรู้

สําหรับการแก้แค้นล่ะ?

ช่างมันไปเถอะ

ตอนนี้ภรรยาและลูกๆ เขามีชีวิตที่ไม่สงบสุขเหรอ?

ต้องให้ตัวเองไปอยู่ในความคับข้องใจของคนรุ่นก่อน สมอง เขาพังแล้วเหรอ?

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ จิตใจนรมนที่แขวนเอาไว้ก็ถือว่าวางลง แล้ว

เธอนอนในอ้อมแขนบุริศร์ พูดขึ้นเสียงทุ้ม “คุณทำฉันตกใจ แทบตาย ฉันนึกว่า……..

“นึกว่าอะไร? นึกว่าฉันโดนพิษควบคุม จะแก้แค้นให้หมู่บ้าน ดารายนเหรอ? ฉันว่างมากเหรอ?”
ประโยคนี้ทำให้นรมนพ่นหัวเราะออกมาทันที

“แล้วที่เมื่อคุณหน้าตาดุร้ายถามคุณตาฉันแบบนั้น? ฉันนึก

ว่าคุณจะทําร้ายคุณตาฉันแล้ว ไม่ใช่สิ คุณถามคุณตาฉัน แปลว่า ปีนั้นคุณตาฉันเข้าร่วมการเคลื่อนไหวครั้งนั้นเหรอ?”

“อืม”

บริศ เห็นสีหน้านรมนก็รู้ว่าเธอเดาได้แล้ว ก็ไม่ได้ง คำตอบ พยักหน้าทันที

“ได้ยังไง?”

สมองนรมนวูบผ่านอะไรไปอย่างรวดเร็ว แต่จับไว้ไม่ได้ ก็ได้

ยินบุริศ พูดต่อ “ไม่ใช่แค่คุณตาคุณนะ ยังมีเชษฐ์ และคนใน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาด้วย” บุริศร์พูดจบก็เห็นดวงตานรมนหลง เขารู้นรมนเดาอะไรบาง

อย่าง

“สามครอบครัวเราล้วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้เชษฐ์ตายแล้ว คุณอา รองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็สาบสูญไร้ร่องรอย นงลักษณ์คุณป้า คนโตตระกูลพรโสภณของคุณก็โดนลักพาตัวไปตั้งแต่เล็กๆ ฉัน สงสัยว่าเรื่องราวชุดนี้มันเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านดารายนทั้งหมด

นรมนดึงแขนบุริศร์ทันทีแล้วถามขึ้น “งั้นคุณต้องไปหมู่บ้านดา รายนเหรอ?”

“ฉันต้องไป เพื่อความจริง แต่ก็เพื่อกมลด้วย
คำพูดบุริศ ทําให้นรมนชะงักอีกครั้ง

เธอนึกถึงที่กมลออกตัวบอกว่าอยากไปเที่ยวที่หมู่บ้านดาราย

ตั้งแต่กมลออกมาจากตระกูลทวาทสินก็ขอแบบนี้ และเป็นไป ได้อย่างมากว่าไปหมู่บ้านดารายนคือความคิดของใครสักคนใน ตระกูลทวาทสิน

งามสุดา? หรือดนัย?

พวกเขาอยากให้กมลไปหมู่บ้านดารายนทำอะไรล่ะ?

หรือคดีของคริชณะเกี่ยวข้องกับหมู่บ้านดารายน

ความสงสัยมากมายนี้ทำให้นรมนูปวดศีรษะ เหมือนไหมพรม ลูกหนึ่ง เส้นที่เหลืออยู่ทุกที่ แต่เอาของที่อยู่ในนั้นออกมาไม่ได้

เห็นนรมนปวดประสาทแบบนี้ บุริศร์ก็จับเธอไว้ทันที แล้วพูด ด้วยเสียงอ่อนโยน ไม่ต้องไปคิดแล้ว ปัญหาทุกอย่างมีทางออก ตอนนี้คิดเยอะขนาดนี้ก็ใช่ว่าจะเดาอะไรออก เดินแล้วดูไปทีละ ก้าวดีกว่า”

“คุณวางแผนยังไง? ถ้าทุกอย่างนี้มันเกี่ยวข้องกันทั้งหมด เส้น ทางที่เราไปหมู่บ้านดารายนจะไม่สงบสุขแน่นอน”

นี่คือความกังวลของนรมน

ถ้ามีแค่เธอกับบริศร์สองคนก็ไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้พวกเขาจะ พาเด็กๆ ไปด้วย
สถานที่ที่ถ้าไม่ระวังจะทำร้ายเด็กๆ จะเป็นสถานที่ดีได้อย่างไร บุริศร์กลับยิ้มขณะพูดขึ้น “ใครบอกเราจะไปหมู่บ้านดารายน โดยตรง?”

“ฮะ?”

“เราจะไปเดินเล่นที่อื่นก่อนก็ได้ ตั้งหลายปีแล้ว เวลาที่พา เด็กๆ ออกไปเที่ยวก็มีไม่เยอะจริงๆ ตอนนี้กว่าจะมีโอกาสนี้ ทำไมต้องให้เรื่องของคนอื่นมาทำให้แผนเดิมเราเสียด้วย? ความจริงของหมู่บ้านดารายนเป็นแค่เรื่องที่มีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ จะรู้หรือไม่รู้มันเกี่ยวอะไรกับชีวิตของเรา? ตอนนี้เรื่องหลักๆ ของ เราก็คือไปเที่ยว อะไรเรียกว่าเที่ยว? ผ่อนคลายอารมณ์ โอบกอด ธรรมชาติ ท่องโลกกับสวรรค์กับเด็กๆ นั่นถึงเรียกว่าเที่ยว คุณนายบุริศร์ คุณมีสถานที่อยากไปเป็นพิเศษไหม?”

บริศร์มองไปด้วยความรักจริงใจ นรมนรู้สึกตัวเองทนไม่ไหว แล้วจริงๆ

“ฉันไม่รู้ แค่มีคุณอยู่ ทุกที่คือสวรรค์สำหรับฉัน ประโยคนี้ของนรมนทำให้บริศร์ตกตะลึงทันที

หวนนึกถึงทุกประสบการณ์หลังจากนรมนติดตามตน ที่ไหน คือสวรรค์เหรอ? นี่มันนรกชัดๆ เลยล่ะ

แต่หญิงทีมคนนี้กลับเต็มใจที่จะยอมลำบากเสียสละ จะให้เขา ปล่อยมือไปได้อย่างไร? ไม่รักได้อย่างไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ