แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 218 เขาประเมินรเมศต่ำไปจริงๆ



บทที่ 218 เขาประเมินรเมศต่ำไปจริงๆ

การที่อยู่ๆ ก็มีคนจำนวนมากมาปรากฏตัวในเวลา นี้มันค่อนข้างที่จะประหลาดไม่น้อย และที่สำคัญก็คือดู เหมือนว่ากำลังมีคนทะเลาะกันอยู่ แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน ไกลแต่บุริศร์กับนรมนก็ยังคงได้ยินเสียงวิวาทของอีก

ฝ่าย

ทว่าเสียงพวกนั้นกลับคุ้นหูไม่น้อย

นรมนเอ่ยเสียงเบา “ทำไมเหมือนฉันจะได้ยิน เสียงของผู้จัดการกิมจิเลยนะ”

“ผู้จัดการกิมจิคนไหน กิมจิของFallen heavenน่ะเหรอ”

“เหมือนว่าจะใช่ค่ะ”

นรมนไม่ค่อยแน่ใจ

ตอนนี้เธอรู้สึกมึนงงไปหมด หูเองก็ได้ยืนไม่ค่อย

ชัด กลัวว่าตัวเองจะฟังผิดไป

แต่ว่าบุริศร์กลับไม่สนใจเขาแบกนรมนแล้วเดิน

ไปข้างหน้าต่อ

ทว่าตอนที่ยังเดินไปไม่ถึงคนพวกนั้น อยู่ๆ ก็มีคน คนหนึ่งปรากฏตัวออกมา

ทำเอานรมนตกใจเกือบตาย แววตาของบุริศร์ เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบในทันที

“ใครน่ะ”
“คุณนรมนครับ ผู้จัดการกิมจิสั่งให้เราพาคุณออก ไปจากที่นี่”

นรมนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่เธอก็บอกเกี่ยวกับ สถานะของจอร์จให้บุริศร์ฟัง

บุริศร์ยังไม่ได้วางใจเท่าไหร่นัก ทว่าเขาก็ยังเดิน ไปยืนข้างๆ จอร์จ

ที่ตรงนั้นมีรถอยู่หนึ่งคัน จอร์จส่งกุญแจรถให้บุรี ศร์ แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “คุณรีบไปก่อนเถอะครับ ตอน นี้ไม่มีคนสนใจพวกคุณ”

“กิมจิให้นายมาอย่างนั้นเหรอ”

นรมนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ใช่ครับ”

จอร์จรีบพยักหน้าทันที

“ตรงข้างหน้ากำลังทะเลาะเรื่องอะไรกันอยู่เห

รอ”

“ผู้จัดการกิมจิให้แขกผู้หญิงคนหนึ่งแกล้งทำเป็น ก่อความวุ่นวาย ตอนนี้พวกเขากำลังโต้เถียงกันอยู่ จึง สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนเอาไว้ได้ พวกคุณรีบ ใช้โอกาสนี้หนีไปเถอะครับ”

จอร์จกล่าวสั้นๆ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป

บุริศร์ไม่รอช้า รีบสตาร์ทรถแล้วขับพานรมนลงไป ที่ด้านล่างภูเขาทันที
คนที่อยู่ด้านล่างดูเหมือนจะถูกเคลียร์ไปหมด แล้ว ไม่เหลือใครเลยแม้แต่คนเดียว

บุริศร์ไม่สนใจใครทั้งสิ้น เขาเหยียบคันเร่งแล้ว ขับออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่นรมนขึ้นรถก็เริ่มที่จะตัวร้อน เธอรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองย่ำแย่มาก ทว่ามือ

กลับคว้าชายเสื้อของบุริศร์เอาไว้ไม่ปล่อย

บุริศร์รู้ดีว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเอามากๆ ดึง

ตัวเธอไว้ตลอดเวลา

รถเร้นหายหายจากผู้คนไปอย่างรวดเร็ว โดยขับ ตรงไปที่สถานพักฟื้น

ตอนที่รถอยู่ในสภาวะมั่นคง นรมนก็หมดสติไป

แล้ว

อีกทั้งร่างกายของเธอยังร้อนจัด

บุริศร์ไม่กล้าที่จะชักช้า เขารีบอุ้มเธอเข้าไปใน ห้องฉุกเฉิน

คุณหมอเริ่มทำการรักษานรมนอย่างรวดเร็ว

พอแม่บุริศร์เห็นเธอเพิ่งจะกลับมาก็ต้องเข้าห้อง ฉุกเฉินทันทีเลยรีบออกมาดู

“เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ” บุริศร์สกปรกไปทั้งตัว อีกทั้งยังมีรอยเลือดเต็มไป หมด คุณนายตระกูลโตเล็กตกใจจนหน้าซีดขาว
ไม่ได้เป็นอะไรครับ นี่เป็นเลือดของนรมนนะ เธอ มีประจำเดือน ความต้านทานของร่างกายก็เลยต่ำ เป็น ไปได้ว่าอาจจะไข้ขึ้นนะครับ”

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน”

คุณนายตระกูลโตเล็กค่อนข้างที่จะละอายใจ

ทว่าบุริศร์กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ่มต่ำว่า “แม่ครับ พอดีว่าวันนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝันนิดหน่อย หลังจากที่นร มนออกมาจากFallen heavenก็ถูกคนสะกดรอยตาม พวกเราเลยออกมาจากทางประตูหลังบ้านของไมค์ แต่ ไม่รู้ว่ามีคนเอาเครื่องติดตามมาติดไว้บนตัวนรมนตั้งแต่ เมื่อไหร่ พวกเราเกือบจะถูกขวางเอาไว้บนภูเขาจนลงมา

ไม่ได้แล้ว”

“อะไรนะ”

คุณนายตระกูลโตเล็กประหลาดใจมาก

“คนที่กล้าลงมือกับนรมนทั้งที่อยู่ในFallen heaven จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ แม่จะให้กิมจิไป ตรวจสอบดู”

บุริศร์จึงเล่าเรื่องที่กิมจิมาช่วยไว้ให้คุณนาย ตระกูลโตเล็กฟัง

คุณนายตระกูลโตเล็กกล่าวเสียงต่ำ “ไม่จำเป็นที่ จะต้องสงสัยในตัวกิมจิ แหวนที่แม่มอบให้นรมนนั้นมี ระบบระบุพิกัดที่แม่นยำ จากนั้นก็จะดำเนินการช่วยเหลือ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเครื่องติดตามที่อยู่บนตัวของนร มน”
ได้ยินแม่บุริศร์พูดแบบนี้ บุริศร์ก็โล่งใจขึ้นมาทันที แค่ไม่ใช่คนของตัวเองก็ดีแล้ว

“ให้คนไปตรวจสอบเถอะ แล้วพฤกษ์ล่ะ”

“ผมให้เขาดึงความสนใจของพวกนั้นอยู่ที่หน้า ประตูบ้านไมค์ แต่ไม่คิดเลยว่าศัตรูจะไม่ติดเบ็ด”

ในตอนนั้นเอง พฤกษ์ก็โทรศัพท์เข้ามา

“ประธานบุริศร์ครับ ผมเห็นว่าพวกที่ตามผมมาขับ รถออกไปแล้ว ผมก็เลยขับรถตามไป พบว่าพวกเขาไปที่ บ้านเก่าของตระกูลวัชโรทัยครับ”

คำพูดของพฤกษ์ทำให้แววตาของบุริศร์เย็นชา

ขึ้นอีกหลายส่วน

“ตระกูลวัชโรทัย! ที่แท้ก็เป็นตระกูลวัชโรทัย นี่เอง!”

เขาประเมินรเมศต่ำไปจริงๆ

เดิมที่ไม่เคยคิดว่ารเมศจะมีความสามารถ มากมายอะไร เป็นเพียงแค่พวกคนรวยธรรมดาเท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครที่เข้าใจในตัวรเมศอย่าง แท้จริงเลยก็ได้

แววตาของบุริศร์เย็นเยียบจนน่ากลัว

คานระหว่างเขากับรเมศเริ่มที่จะขยายใหญ่ขึ้น

เรื่อยๆ

ตอนที่คุณนายตระกูลโตเล็กได้ยินคำเรื่องตระกูล
วัชโรทัย ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เธอกล่าวเสียงต่ำว่า “แม่จะอยู่ดูแลนรมนให้เอง พวกเด็กๆ หลับกันหมดแล้ว ลูกก็ไปพักสักหน่อยเถอะนะ ช่วงนี้ลูกก็นอนไม่ค่อยหลับ เป็นแบบนี้ไม่ดีเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมยังทนได้ แม่ต่างหาก ล่ะ ร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ รีบกลับ ไปพักก่อนเถอะครับ”

บุริศร์ไม่ได้พูดถึงเรื่องผลรายงานสุขภาพราวกับ ว่าเขาลืมมันไปหมดแล้วอย่างสิ้นเชิง

คุณนายตระกูลโตเล็กกลัวว่าเขาจะถามอะไรออก มา จึงพยักหน้าแล้วกลับไปที่ห้อง

ตอนที่มองแผ่นหลังของคุณนายตระกูลโตเล็ก ดวงตาของบุริศร์ก็ส่องประกายเล็กน้อย

เขาไปขอผลรายงานสุขภาพมาจากคุณหมอ ทว่า หมอกลับบอกว่านรมนมาเอาไปแล้ว บุริศร์ก็เข้าใจได้ ทันทีว่ามันหมายถึงอะไร

แม่บุริศร์จะต้องไม่อยากให้บุริศร์รู้เรื่องอาการป่วย ของตัวเองอย่างแน่นอน

บุริศร์สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับอาการป่วยของ แม่บุริศร์ อีกฝ่ายก็เล่าทุกอย่างออกมาโดยไม่ปิดบัง

ส่วนแม่แท้ๆ อย่างป้าโอ บุริศร์ก็ยิ่งไม่สนใจ

ผู้หญิงคนนั้นยอมขายสำนึกและมโนธรรมของตัว เองมาจนถึงขั้นนี้เพียงเพื่ออำนาจและเงินทอง
หล่อนอยากจะฆ่าผู้หญิงคนนี้มาตลอด แต่เธอ กลับคิดทุกอย่างเพื่อเขา รักและทะนุถนอมเขา ทั้งยัง กลัวว่าเขาจะต้องยากลำบาก

กับแม่แบบนี้ยังมีอะไรให้พูดอีกอย่างนั้นเหรอ

เขาถามคุณหมอว่ามีวิธีการรักษาไหม อีกฝ่าย เพียงส่ายหน้า และบอกว่าแม่บุริศร์อาจจะอยู่ได้ไม่เกิน เดือนสิบ

ในใจของบุริศร์เจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทว่าก็ไม่ กล้าที่จะแสดงออก กลัวว่าถ้าแม่บุริศร์รู้เข้าแล้วจะเจ็บ ปวด

ตอนนี้พอเห็นว่าแม่บุริศร์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะ พูดเรื่องอาการป่วยของตัวเอง บุริศร์ก็ถอนหายใจออก มารู้สึกทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย

ไม่ว่าจะมีอำนาจยศฐาหรือทรัพย์สินเงินทอง มากมายแค่ไหน แต่เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเทพเจ้าแห่ง ความตาย ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้นเหมือนกันหมด

เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ห้องฉุกเฉินอีก

ครั้ง

สภาพร่างกายของนรมนย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าจะดี ขึ้นได้ไหม ถ้าหากวันนี้เธอป่วยขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะส่งผล ต่อร่างกายของเธอในวันหน้าหรือเปล่า

บุริศร์เอาแต่กังวลอยู่ตลอดทุกวินาทีที่ผ่านไป

ในที่สุดประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออก ตอนที่นรมนถูกเข็นออกมา บนหน้าของเธอก็ไร้ซึ่งสีเลือด “เธอไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมครับคุณหมอ”

“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ แค่เป็นถูกความ เย็นน่ะ ทว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเธอแย่มากจริงๆ หลังจากเป็นหวัดครั้งนี้ ก็กลัวว่าต่อไปจะต้องเป็นหวัด ทุกครั้งที่มีประจำเดือน จำเป็นต้องดูแลรักษาร่างกายให้ ดีจึงจะเพียงพอ”

คำพูดของคุณหมอทำให้บุริศร์ปวดใจไม่น้อย

“ครับ”

เขาเข็นนรมนกลับไปที่ห้องพักฟื้น

พยาบาลมาช่วยจัดการนรมนให้แล้ว

บุริศร์เห็นเธอนอนหลับลึกก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะขึ้นไปบนเตียงแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

พอถึงช่วงเวลากลางดึก นรมนก็มีไข้สูงอีกครั้ง

เธอเริ่มที่จะพูดเพ้อออกมา

“ไม่ ไม่! ฉันไม่อยากดื่ม! ออกไป!”

“บุริศร์ช่วยฉันด้วย! บุริศร์ คุณอยู่ที่ไหน” นรมนทั้งร้องไห้ทั้งโวยวายราวกับคนบ้า

บุริศร์กอดเธอเอาไว้แน่น แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ผมอยู่ตรงนี้”

นรมนฟังไม่เข้าใจตั้งแต่ทีแรก เธอทั้งคว้าทั้งกัด หลังจากนั้นพอเริ่มที่จะสงบลง ก็อิงแอบและหลับไปในอ้อมกอดของบุริศร์

สำหรับนรมนแล้วนี่เป็นความทรมานประเภทหนึ่ง

ที่นี่คือสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่เมืองชลธี เหมือนกับ เขาได้พานรมนกลับบ้านแล้ว

แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้เขายังไปไม่ได้

ถ้าหากเขายังไม่จัดการเรื่องของรเมศให้สิ้นซาก คนคนนั้นก็จะเหมือนเงาที่คอยติดตามนรมนไปทุกที่ เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่ารเมศรักนรมน แต่ดูจาก

การกระทำของอีกฝ่ายในตอนนี้แล้ว ผู้ชายคนนั้นก็คงไม่

ได้ดีกับนรมนสักเท่าไหร่

บุริศร์กอดนรมนไว้ เปลือกตาของเขาค่อยๆ หนัก อึ้ง จากนั้นก็จมลงสู่ห้วงนิทรา

เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาในเช้าวันที่สอง นรมนก็ลืมตาขึ้นมา เธอมองบุริศร์ที่นอนอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย

ภาพบางส่วนจากเมื่อคืนแล่นผ่านเข้ามาในสมอง อย่างรวดเร็ว จึงทำให้เธอมีปฏิกิริยาบ้างแล้ว

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพ้นจากอันตรายแล้ว หลัง จากนั้นก็เลยกลับมาใช่ไหม

นรมนไม่กล้าขยับ เพราะกลัวว่าจะไปทำให้บุริศร์

ตื่น

ตอนที่สัมผัสได้ว่ามีคนกำลังจับจ้องตัวเองอยู่ บุริ ศร์ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่พอได้ยินเสียงถอนหายใจและเสียงทุกข์ใจของนรมน เขาก็แกล้งทำเป็นหลับต่อ นรมนยกมือขึ้นเบาๆ แล้ววาดลงไปบนคิ้วของบุริ

ศร์

เขาหล่อมากจริงๆ

ดูมานานขนาดนี้แล้ว นรมนรู้สึกว่ายิ่งดูก็ยิ่งมีรสมี

ชาติ

พอถูกผู้หญิงที่ตัวเองรักจับจ้องและกระตุ้นเข้า แบบนี้ บุริศร์ก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวแล้วกดนรมนเอาไว้

ใต้ร่าง

“รู้สึกพอใจกับสิ่งที่กำลังมองอยู่ไหมคุณนายบุรี

ศร์”

การที่อยู่ๆ บุริศร์ก็ตื่นขึ้นมาทำให้นรมนตกใจไม่ น้อย ทันใดนั้นเธอก็ถลึงตาใส่เขาแล้วพูดออกมาอย่าง

โมโห “คุณแกล้งฉันอีกแล้วนะ”

“ความจริงแล้วใครแกล้งใครกันแน่”

บุริศร์ถูกความสามารถในการกลับดำเป็นขาวของ นรมนทำให้พูดไม่ออก ทว่าเขายังคงจิ้มไปที่จมูกของ เธออย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นก็ประทับจูบลงไป

นรมนคิดจะหลบ แต่บุริศร์กลับคล่องตัวเหมือน

เงา

ท้ายที่สุดนรมนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ทำได้เพียงยอม สยบอยู่ใต้อำนาจที่แข็งแกร่งของบุริศร์

ทั้งสองคนจูบรับอรุณกันจนเลือดลมพลุ่งพล่านแต่เธอกลับเป็นประจำเดือนอยู่

นรมนพูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “คุณรีบลุกเร็ว

เข้า ฉันจะไปห้องน้ำ”

“ไปด้วยกันไหม”

บุริศร์พูดออกมาอย่างชั่วร้าย นรมนรู้สึกเพียงว่า ความร้อนบนใบหน้าพุ่งทะยานเสียยิ่งกว่าเดิม

ไม่เอาค่ะ”

เธอผลักบุริศร์ออกแล้วรีบลุกจากเตียง ก่อนจะวิ่ง ตรงเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นเธอทำท่าเหมือนกำลังถูกคนวิ่งไล่ตาม บุ ริศร์ก็อารมณ์ดีขึ้นมาในทันที เขาเลิกผ้านวมขึ้น จึงพบว่า ผ้าปูที่นอนเปียกไปหมดแล้ว

เลือดสีแดงสดพวกนั้นชวนให้คนที่เห็นรู้สึกเวียน

หัวเล็กน้อย

บุริศร์เปลี่ยนผ้าปูที่นอนผืนใหม่ จากนั้นก็นำผืน เก่าไปไว้ที่ระเบียงเพื่อเอาไปซัก

เมื่อนรมนออกมาจากห้องน้ำเธอสังเกตเห็นอะไร บางอย่าง เธอกำลังคิดจะฉวยโอกาสตอนที่บุริศร์ยังไม่รู้ สึกตัวเปลี่ยนผ้าปูที่นอน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าบุริศร์กำลัง ตากผ้าปูที่นอนอยู่ที่ริมระเบียง

ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

ความรู้สึกนี้แปลกมากจริงๆ ทั้งเหน็บชาและไร้ เรี่ยวแรง แต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่น่าประทับใจสายหนึ่ง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ