แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 649 ให้ตึงจนตายไปเลย



บทที่ 649 ให้ตึงจนตายไปเลย

“กิจจา?”

นรมนตามหาทุกที่ด้วยความกังวลใจ

ดมทิพย์เห็นนรมนลงมาด้วยความกระวนกระวายใจ ก็ถามขึ้น อย่างอดไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น?

“กิจจาหายตัวไปแล้ว”

นรมนรีบทํามืออย่างรวดเร็ว

คมทิพย์ขวางเธอไว้แล้วพูดขึ้น “กิจจาน่าจะอยู่ในห้องนะ ฉัน อยู่ห้องรับแขกตลอด ไม่เห็นเขาลงมา ไม่แน่เขาอาจจะซ่อนที่ไหน สักแห่ง ฉันจะไปหากับคุณ

นรมนมองตาคมทิพย์ แล้วพยักหน้า

ทั้งสองกลับมาที่ห้องอีกครั้ง ก็ไม่เห็นเงากิจจาทุกที่

ทันใดนั้น คมทิพย์ก็ได้ยินเสียงในตู้เสื้อผ้า เธอดึงนรมน แล้ว ไปที่ตู้เสื้อผ้า

นรมนรีบเดินไป เปิดตู้เสื้อผ้าออกทันที เห็นกิจจากำลังมองหา

อะไรบางอย่างในตู้เสื้อผ้า

“กิจจา หนูกำลังหาอะไร?”

คมทิพย์รีบเอ่ยปาก
แต่กิจจาไม่สนใจเธอ

นรมนมองท่าทางกิจจา ปวดใจแทบตาย เธออยากดึงกิจจา ออกมา แต่กิจจาให้ตายอย่างไรก็ไม่ออก ยังคงหาอยู่

ไม่มีทางเลือก นรมนูทําได้แค่ปล่อยให้กิจจาหาต่อไป คมทิพย์เห็นภาพนี้ ก็ถอนหายใจพูดขึ้น “กิจจาทำแบบนี้ต่อไป มันไม่ใช่วิธีการ นรมน คุณต้องส่งเขาไปรักษาที่ศูนย์พักฟื้น

ตอนแรกนรมนไม่มีความสามารถด้านการเงิน เงินเดือนนัก แปลทุกเดือนก็เพียงพอสำหรับเธอและกิจจา ตอนนี้บริศร์ให้ ห้างGolden Harvestเธอแล้ว เธอคิดว่าสิ่งที่คมทิพย์แนะนำถูก ต้อง

กิจจายังเล็ก เธอห้ามยืดเยื่ออาการป่วยของกิจจา นรมนมองกิจจา ทำมือพูดขึ้น “สองสามวันนี้ฉันจะจับตาดูสัก หน่อย”

เห็นนรมนตกลงแล้ว คมทิพย์ก็ประหลาดใจมาก อย่างไรแล้ว นรมนก็เป็นห่วงกิจจามาก ไม่อยากให้เขาอยู่ห่างจากเธอมันเป็น เรื่องปกติ

เธอเปิดโทรศัพท์ ชี้ไปที่สถานพักฟื้นแห่งหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ที่นี่ ไม่เลว ฉันเคยค้นหามาแล้ว และเคยไปดูกับปัญญ์มาแล้วด้วย สภาพแวดล้อม การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดี มาก”

นรมนเห็นคนทิพย์ดูสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้บอกตนมาตลอด ก็อดนึกถึงศักดิ์ศรีของตัวเองไม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะศักดิ์ศรีของตัวเอง บางทีคนทิพย์อาจจะให้เงิน เธอตั้งแต่แรก ให้เธอพากิจจาไปหาหมอ

ถึงแม้คุณหมอบอกว่ากิจจาต้องการให้ญาติอยู่ด้วย แต่คุณ

หมอก็บอกเช่นกันว่า พวกเขาไม่ใช่มืออาชีพ

นรมนมองคมทิพย์ ทำท่าทางพูดขึ้น “ขอบคุณนะคมทิพย์ ช่วยถามสถานพักฟื้นให้ฉันหน่อยว่าสามารถเปิดสองห้องแยก กันได้ไหม ฉันกับกานต์จะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนกิจจา ไม่ยังไง กิจจาก็ห้ามโดนกักบริเวณ เขาเป็นแบบนี้แล้ว ฉันไม่อยากให้เขา แย่อีก”

“โอเค ฉันจะช่วยคุณถาม

คมทิพย์หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไป

ในที่สุดกิจจาก็พบสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว ก็ยิ้มออกมาอย่างมี ความสุข

นรมนถึงได้เห็นว่า มันคือแท็ปเล็ตเกมที่กานต์เคยออกแบบให้

กิจจา

ตอนนั้นเมื่อออกมาจากตระกูลโตเล็ก เธอบังเอิญเอาออกมา ด้วย ไม่คิดว่ากิจจาจะหาสิ่งนี้อยู่

นรมนูย่อตัวลง มองตากิจจา ทำท่าทางถามขึ้น “หนูอยากเอา มันไปหากานต์ใช่ไหม?”
กิจจาพยักหน้า

ทันใดนั้นนรมนก็รู้สึกแย่แทบตาย

ตอนแรกกิจจาเคยร่าเริงแค่ไหนกันนะ

เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กิจจา ล้างหน้าให้ จัดระเบียบเรียบร้อย แล้ว ถึงได้พากิจจาไปโรงพยาบาล

บอดี้การ์ดตระกูลโตเล็กยังคงอยู่ แต่บุริศร์ไม่อยู่แล้ว

นรมน โล่งใจ

โชคดีที่เขาไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นตัวเองไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขา อย่างไร

ทั้งคู่เข้าห้องผู้ป่วยไป กานต์กำลังอ่านหนังสืออยู่ เมื่อเห็นพวก เขามา ก็ยิ้มดีใจ

“หม่ามี้ พี่”

เสียงกานต์เรียก “พี่” ทำให้กิจจาตกตะลึงเล็กน้อย ทันใดนั้น ตาก็แดงขึ้นมา

เขาอ้าปาก ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“พี่ เป็นอะไร? พี่ไม่ควรเรียกฉันว่าเฮียเหรอ? หรือเห็นฉันเป็น แบบนี้แล้วพี่ไม่มีความสุข?”

กานต์มองกิจจาอย่างคาดหวัง

นรมนรู้สึกแย่เล็กน้อย ใช้กระดาษและปากกาบอกกานต์ว่ากิจจาปวย เป็นโรคออทิสติก เธอไม่มีทางบอกกานต์ให้รู้เรื่องว่า อะไรเรียกว่าออทิสติก แค่บอกว่าตอนนี้กิจจาไม่ชอบพูดแล้ว หวัง ว่ากานต์จะพูดกับเขาเยอะๆ

กานต์ตกตะลึงไปทั้งร่าง

ทำไมเขาออกมาได้ไม่นาน ทุกคนก็เปลี่ยนไปหมดเลยล่ะ?

คุณย่าก็เปลี่ยนไป แด๊ดดี้หม่ามีก็ไม่อยู่ด้วยกันแล้ว หม่าเป็น ใบ้ ตอนนี้แม้แต่กิจจาก็กลายเป็นไม่ชอบพูดแล้ว

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ในหัวสมองกานต์มีคำถามนับไม่ถ้วน แต่ไม่กล้าถามนรมน เขากลัวหม่ามี้เสียใจ

เขาดึงมือกิจจานั่งหน้าเตียงตัวเอง มองแท็ปเล็ตในมือกิจจา

อดไม่ได้ที่จะนึกถึงบางอย่าง

“เกมที่ฉันออกแบบให้พี่ พี่ผ่านหมดหรือยัง?”

ได้ยินกานต์ถามตนแบบนี้ กิจจากรีบพยักหน้า มุมปากยิ้ม

เขินๆ

เห็นปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาแล้วนรมนก็ตื่นเต้น

ไม่คิดว่ากิจจาจะสื่อสารกับกานต์

นี่หมายความว่าเขาอยากสื่อสารกับโลกภายนอก ใช่ไหม? แต่ ต้องดูว่าเป็นใคร ใช่ไหม?

เธออยากไปถามคุณหมอ ถึงได้ค้นพบว่านี่ไม่ใช่โรงพยาบาลพวกเขาในตอนแรก

เธออยากโทรหาคมทิพย์ แต่ความลำบากใจทําให้เธอหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาแล้ววางมันลง

จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองเศร้ามาก ตอนนี้ไม่มีใครให้แบ่งปันเลย

และในตอนนี้ ปัญญ์ก็มาถึง

“พี่นรมน”

นรมนหันศีรษะไปทันที เมื่อเห็นปัญญ์ จู่ๆ ก็รู้สึกดีใจเล็กน้อย เขาจับมือเธอแล้วแสดงท่าทางอย่างต่อเนื่อง บนใบหน้ามีรอย ยิ้มและความโล่งใจเพิ่มขึ้น

บริศ รู้จากปากลูกน้องว่านรมนมาแล้ว แถมพากิจจามาด้วย เขาก็รีบมา

หนึ่งเดือนกว่าแล้ว เขาไม่รู้ว่ากิจจาเป็นอย่างไรบ้าง แต่เห็นนร มนจับปัญญ์แล้วทำท่าทางอะไรบางอย่างด้วยความดีใจอยู่ที่ หน้าประตู

ดวงตาเขาหลง จากนั้นก็ยืนพิงประตูดูอย่างนั้น

นรมนบอกปัญญ์ ว่ากิจจาเริ่มสื่อสารกับโลกภายนอกแล้ว นี่ เป็นสัญญาณที่ดีใช่ไหม?

ปัญญัตกตะลึง จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ใช่ๆๆ เป็นสัญญาณที่ ดี เดี๋ยวเราพาเขาไปหาหมอสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจจะฟื้นฟูเร็ว มากก็ได้นะ”
นรมนรีบพยักหน้า

เพราะว่าดีใจ มือเธอจึงจับปัญญ์ไม่ปล่อยเลย ตัวเองก็ไม่ได้ สังเกตว่าบุริศร์ด้านนอกประตูนั้นดวงตายิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

ทันใดนั้นปัญญ์ก็ตัวสั่น ราวกับโดนสัตว์ร้ายจ้องมองอยู่

เขาหันศีรษะไปทันที ก็เห็นบริศร์

ดวงตาบุริศร์เย็นชา มีเจตนาฆ่าเล็กน้อย แต่ไม่สามารถซ่อน ความหึงหวงในสายตาได้

ปัญญเข้าใจทันที

เขามองมือนรมนที่อยู่บนข้อมือตัวเอง อดไม่ได้ที่จะจับมือนร มนอย่างยั่วยุทันทีแล้วพูดขึ้น “พี่นรมน พี่อย่าตื่นเต้นเกินไป นั่ง ลงก่อนค่อยพูด”

ดวงตาบุริศร์พุ่งมาทันทีเหมือนลูกศร

ปัญญ์แอบดีใจเล็กน้อย

ไอ้กากเอ๊ย!

นายเป็นเฮียที่เมืองชลธี พอมาที่เมืองก็หมดสภาพ อีกอย่าง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับนรมน แต่เห็นท่าทางนรมน ในตอน นี้ เขาก็ปวดใจอย่างมาก ยิ่งรู้สึกเสียใจ

ในเมื่อนรมนไม่มีความสุข เขาก็ไม่ให้บริศร์มีความสุขเช่นกัน

หึงเหรอ?
ก็ให้งจนตายไปเลย

เมื่อคิดแบบนี้ ปัญญ์ก็เข้าใกล้นรมน ยื่นมือออกไปจับปอยผม บรมน

นรมนเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัยเล็กน้อย ก็เห็นปัญญ์ยิ้มแล้วพูด ขึ้น “อย่าขยับ เดี๋ยวจะเสร็จแล้ว

เธอคิดว่าบนศีรษะเธอมีอะไรเปื้อนอยู่ ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ อย่างไรแล้วปัญญ์ก็อายุน้อยกว่าเธอสามปี นรมนก้มหน้ามองกิจจาและกานต์ต่อไป

ดวงตาบุริศร์ยิ่งเย็นชาขึ้น

ตอนเช้าที่ลานจอดรถ นรมนปฏิเสธจูบตน ตอนนั้นเขาคิดว่า ยังมีปมอดีตในใจ แต่ตอนนี้เห็นนรมนไม่ปฏิเสธการกระทำของ ปัญญูเลยสักนิด บุริศร์ก็ดึงแทบตายแล้ว

ปัญญ์ก็ยังจงใจ ลูบผมสวยของนรมนแล้วเอามาดม พูดขึ้น “พี่

นรมน พี่ใช้ยาสระผมอะไร? หอมจัง

วิธีการลูกเล่นเดิมๆ ทำให้บริศแทบอาเจียนออกมา แต่ ท่าทางนรมนนั้นได้ผลมาก ยิ้มแล้วทำมือพูดขึ้น “แค่ยาสระผม ธรรมดา”

บริศ ทนมองต่อไปไม่ได้แล้ว

เขารีบเดินเข้าไป ตบมือปัญญ์ลงมือทันที จากนั้นก็ดึงนรมน

ออกมา
นรมนตกตะลึงเล็กน้อยที่บุริศร์ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน เมื่อเธอ ได้สติกลับมาก็ถูกบุริศร์ลากออกมานอกห้องผู้ป่วยแล้ว

“ตอนนี้แค่ไม่ใช่ฉัน ใครๆ ก็ทำอะไรคุณได้ใช่ไหม?”

บุริศร์บอกตัวเองว่าห้ามโกรธ ห้ามโมโห แต่ภาพเมื่อครู่นี้นั้น เหมือนฝันร้าย อย่างไรก็กำจัดมันไม่ได้

นรมนตกตะลึง หัวสมองคิดไม่ออกเล็กน้อย ในใจเธอ ปัญญ์ แค่น้องชายเท่านั้น จะเป็นอย่างที่บุริศร์พูดได้อย่างไร?

ปัญญ์ยังจุดไฟไม่มากพอ เดินตามออกมา แย่งนรมน ในมือบุรี ศร์ไป แล้วพูดขึ้น “ประธานบริศร์ คนที่จะหย่ากันแล้ว สนใจผลก ระทบหน่อยได้ไหม? อย่าแตะต้องคู่หมั้นของฉัน

“คู่หมั้น?”

บุริศร์และนรมนตกตะลึงพร้อมกัน

“ฉันไม่ใช่ ..……….

นรมนอยากทํามืออธิบาย แต่ถูกปัญญ์จับมือสองข้างเอาไว้ จากนั้นก็พูดขึ้น “พี่นรมน รู้ว่าพี่ไม่อยากพูดกับเขา แต่ไม่ช้าก็เร็ว ยังไงก็ต้องรู้ไม่ใช่เหรอ? ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องนี้ให้ฉันพูดเองดี กว่า”

พูดจบ เขาก็ยิ้มให้นรมน จากนั้นก็หันศีรษะไปพูดกับบุริศร์ “ประธานบุริศร์ ในเมื่อคุณเห็นแล้ว ก็จะไม่ปิดบังคุณ พี่นรมน ตกลงแต่งงานกับฉันแล้ว ดังนั้นคุณรีบจัดการเรื่องหย่ากับเธอให้ เร็วที่สุด ทุกคนก็โอเคหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? อีกอย่างนะ ได้โปรดนําสถานะคุณไว้ด้วย คุณเป็นแค่อดีตสามี ไม่ใช่สามี ดังนั้น รบกวนอย่าทําอะไร นรมนฉัน ฉันเห็นแล้วไม่พอใจมากเลยนะรู้ ไหม?”

“ไม่พอใจใช่ไหม? ได้ เราไปต่อยกันไหมล่ะ ในใจบริศ ยิ่งโกรธ สีหน้าก็ยิ่งใจเย็น

อดีตสามี?

เขากับนรมนยังไม่ได้หย่ากันนะ! ไอ้เด็กผมเหลืองมันกล้าพูด ได้ไงว่าเขาเป็นอดีตสามี

ในใจบริศ มีความโกรธอยู่ตลอดเวลา

นรมนเห็นบุริศร์โกรธจริงๆ แล้วก็รีบไปขวางปัญญ์

เธอรู้ว่าปัญญ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบุริศร์ แต่ปัญญ์ดันพูดอย่างรุน หาที่ตายว่า “พี่นรมน พี่อย่ามาขวางฉัน พี่รอดูว่าฉันจะสั่งสอนได้ ชั่วคนนี้แทนพี่ยังไง ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันไม่เคยแพ้การต่อสู้มา ก่อน ไม่ต้องเป็นห่วง

พูดจบ ปัญญ์ก็ยังลูบศีรษะนรมน ท่าทางสนิทสนมนั้นกระตุ้นบุ

ริศร์โดยตรง

“ไม่เคยแพ้ใช่ไหม? ไป! ”

บุริศร์ยิ้มเยาะ

นรมนรู้ว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิด

เธอหยุดปัญญ์สุดชีวิต น่าเสียดายที่ปัญญ์ไอ้เด็กดื้อไม่รู้จักอันตรายเลยสักนิด อ้อมตัวนรมนูทันที แล้วเดินตามบุรีศไปด้าน

หลัง โรงพยาบาล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ