แค้นรักสามีตัวร้าย

บทที่ 447 คุณมีเรื่องอะไรห้ามปิดบังฉันนะ



บทที่ 447 คุณมีเรื่องอะไรห้ามปิดบังฉันนะ

นรมนดีอกดีใจ โดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่พ่อนรมนพูดอาจจะถูก

ตั้งแต่เด็กจนโตบุริศร์ก็อยู่อย่างสูงส่ง แล้วยังเป็นผู้ชายแมนๆ อีกด้วย อาจจะไม่เข้าใจหัวอกของผู้หญิงซึ่งก็เป็นเรื่องที่ให้อภัย กันได้

อีกอย่างเขายอมแบบนี้ แบบครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมลดความ หยิ่งผยองในตัวเพื่อมาขอโทษตัวเอง นรมนรู้สึกว่าตัวเองน่าจะ ควรหยุดได้แล้วจริงๆ

ไม่ว่ายังไงซะ พอนรมนก็พูดถูกแล้ว ไม่ว่าบริศทำอะไรก็ตาม จากพื้นฐานแล้วก็คือหวังดีและทำเพื่อพวกเธอกับลูกๆทั้งนั้น

นรมนสมมุติฐานในใจตลอดเวลา จากนั้นรับสายของบริศร์ขึ้น

มา

“คุณไปไหนเนี่ย? ฉันโทรหาคุณก็ไม่รับสายเลย พ่อให้คุณ กลับมาทานข้าวเย็น คุณหาเวลาว่างกลับมาเถอะนะ”

นรมนเอ่ยปากออกมาโดยตรง ไม่ให้โอกาสบุริศร์ได้พูดอะไร

บ้างเลย

บริศ อึ้งไปเลยเล็กน้อย

เขาฟังน้ำเสียงที่ให้อภัยของนรมนออกได้อย่างชัดเจนแล้ว ถึงแม้ไม่ได้พูดออกมาตรงๆก็ตาม แต่ว่าน้ำเสียงและระดับเสียงก็ ถือว่าเร็วไวและเบาๆ

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ บุริศร์ต้องดีอกดีใจเป็นอย่างมากเลยที เดียว แต่ว่าตอนนี้ อารมณ์ของเขาเข้มขรึมเล็กน้อย

“เกรงว่าจะไม่ได้นะ ฉันต้องออกไปทำงานที่ต่างจังหวัด

คำพูดของบริศ ทำให้นรมนองค้างเล็กน้อย

“มีเรื่องอะไรรึเปล่า?

เธอกังวล

รู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวเองคือผู้ถูกกระทำ เรื่องที่กมลถูก ลักพาตัวไป เธอรู้สึกว่าบุริศรทำเกินไป แต่ว่าตอนนี้คิดๆดูแล้ว บุ ริศ งานเยอะทุกวัน ตัวเองก็ช่วยเขาแบกภาระไว้ไม่น้อยเลยที เตียว?

คิดถึงตรงนี้ นรมนเสียใจขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ตัวเองอาจจะแคร์เรื่องอะไรบางอย่างมากเกินไป

บุรีศร์พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “บริษัทที่ต่างประเทศเกิดปัญหาขึ้นมา นิดหน่อย ผมต้องกลับไปจัดการทันที”

“ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่? คุณจำเป็นต้องไปด้วยตัวเอง พฤกษ์ไปไม่ได้หรือ? ”

ตอนนั้นมันไม่อยากจากบุริศร์ไปไหนเลยจริงๆ

ไม่ใช่ว่ารู้สึกอะไรหรอกนะ ก็แต่จากกันอย่างกะทันหันแบบนี้ทําให้เธอไม่ค่อยซิน

ความจริงเมื่อห้าปีก่อน บุริศร์ก็ขึ้นเหนือล่องใต้ และเป็นคนใน อวกาศอยู่บ่อยๆ เพียงแต่ว่าห้าปีก่อนหลังจากพวกเขาได้อยู่ด้วย กันแล้ว บุริศรเฝ้าอยู่ข้างกายเธอมาโดยตลอด ทำให้เธอเคยชิน กับการที่มีบุริศร์อยู่ข้างๆ นี่จู่ๆก็พูดว่าต้องออกไปทำงานที่ต่าง ประเทศ นรมนจึงกระวนกระวายอย่างกระทันหัน

ถ้าทำได้ บุริศร์ก็ไม่อยากจากนรมนไปไหน แต่ว่าเขา……….

เขามองดูร่างกายของตัวเอง และพูดเสียงทุ้มต่ำว่า”เรื่องนี้ผม ต้องไปจัดการด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นช่วงนี้ผมไม่อยู่ข้างกายคุณ คุณต้องระมัดระวังตัวด้วยนะ ผมจะพูดกับพฤกษ์เองว่า ให้คนที่ บ้านฟังคำสั่งของคุณ คุณอยากอยู่ที่บ้านธนาศักดิ์ธนก็อยู่ไป หากอยากกลับไปที่บ้านก็กลับไปอยู่เป็นเพื่อนของคุณแม่ ตอนนี้ สถานการณ์ที่ข้างนอกวุ่นวายมากเลย คุณไม่มีธุระอะไรก็อย่า ออกจากบ้าน หากมีธุระอะไรจริงๆ คุณสามารถไปหาธรณี ผมคิด ว่าเขาต้องช่วยเหลือคุณแน่ หรือว่าไปหาเจตต์ก็ได้ คนคนนั้นถึง จะเชื่อถือไม่ค่อยได้ แต่ว่าดีกับคุณมากเลยทีเดียว ซึ่งก็น่าจะช่วย เหลือคุณอย่างสุดความสามารถแน่นอน”

ได้ยินบริศร์พูดคำพูดเหล่านี้ จู่ๆนรมนรู้สึกถึงความผิดปกติ

“ทำไมคุณต้องพูดแบบนี้? ต้องไปนานมากเลยหรือ? หรือว่า ธุระทางโน้นจัดการอย่างยากเย็นแสนเข็ญ? ที่ผ่านมาคุณไม่ ชอบฉันไปมาหาสู่กับเจตต์ไม่ใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ฉันฟังคำพูด คุณแล้วเหมือนกำลังสั่งเสียอะไรสักอย่าง? บุริศร์ คุณมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่? ”

เซนส์ของนรมนทำให้บริศร์กลัวเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรหรอก นี่ผมกำลังล้อมคอกก่อนวัวหายไป ธุระทาง โน้นผมก็ไม่รู้ว่าต้องจัดการนานแค่ไหน ผมรับรองผมต้อง พยายามกลับมาให้เร็วที่สุด คุณอย่าคิดมากนะ ถ้าเป็นไปได้ คุณ ก็รู้นี่ ผมไม่จากคุณกับลูกๆไปในเวลาแบบนี้หรอก”

นรมนได้ยินบริศ พูดแบบนี้ นิ่งไปทันที

“บุริศร์ คุณมีเรื่องอะไรห้ามปิดบังฉันนะ”

“ผมจะมีเรื่องอะไรกันเล่า?

บริศ อ่อนล้าเล็กน้อย

ผู้หญิงเซนซิทีฟต่อต้านนี้มากเกินไปรึเปล่าเนี้ย?

นรมนไม่ค่อยสบายใจนัก พูดเสียงทุ้มต่ำว่า”เรื่องของกมลฉัน หวังว่าเป็นครั้งสุดท้าย ฉันรู้ว่าคุณหวังดี แต่ว่าฉันเป็นคนนะ และ เป็นภรรยาของคุณอีกด้วย ไม่ใช่อุปกรณ์เสริมของคุณนะ ยิ่ง ไม่ใช่นกขมิ้นที่คุณเลี้ยงเอาไว้ ฉันต้องการผ่านร้อนผ่านหนาวไป กับคุณ และจับมือก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคุณเข้าใจรึเปล่า? ฉันต้องการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคุณ ฉันหวังว่าเวลาที่คุณต้องการ ความช่วยเหลือที่สุด ซึ่งจะเป็นฉันที่อยู่ข้างกายคุณ เราเป็นสามี ภรรยากันนะ และเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ก็ตาม ฉันก็มีสิทธิ์รับรู้ บุริศร์ คุณอย่าปิดบังฉันเด็ดขาดเชียวหล่ะ
บุรีส ทรมานใจอย่างกะทันหัน

เขาอยากบอกอาการของตัวเองในตอนนี้ให้กับนรมนเหลือ เกิน แต่ว่าสุดท้ายก็อดกลั้นเอาไว้

ตอนนี้นรมนมีธุระเยอะแยะมากมาย อีกอย่างร่างกายของเธอ ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ง่ายเลยกว่าที่เรื่องของกมลจะทำให้เธอ ผ่อนคลายบ้าง รู้เรื่องราวของตัวเองอีกจะรับไหวได้ยังไง?

บุริศร์บอกกับตัวเองในใจอย่างไม่ขาดสาย นี่เป็นครั้งสุดท้าย

เพียงแค่เขาผ่านครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย เขาต้องใช้ชีวิตกับ นรมนอย่างมีความสุขแน่นอน วันข้างหน้าไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น มาก็ตามเขาจะไม่ปิดบังเธออีกแล้ว

“คุณคิดอะไรอยู่เนี่ย? ผมจะปิดบังคุณเรื่องอะไร? อย่าคิด ฟุ้งซ่านเลยนะ ผมเป็นคนแบบไหนคุณยังไม่รู้อีกหรือ? ”

บริศ พยายามทำให้เสียงของตัวเองฟังดูแล้วไม่ต่างจากปกติ

ถึงแม้นรมนไม่สบายใจก็ตาม เพียงแต่ว่ากลับพูดเสียงทุ้ม ว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณอย่าทำงานหนักเกินไปก็แล้วกัน มีอะไรก็โทร หาฉัน ใช่แล้ว ฉันกลับไปเก็บสัมภาระให้คุณดีกว่า”

“ไม่ต้องหรอก ฉันให้ธิดาเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์ ทางโน้นค่อนข้างคับขัน ผมต้องไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่ทันไปเยี่ยมคุณ กับลูกๆแล้วนะ คุณกับลูกๆรักษาตัวดีๆด้วยนะ”

ค่าพูดของบริศ ทําให้พรมนเสียใจเล็กน้อย
“รอสักครู่ไม่ได้หรอ? สนามบินไหนฉันไปส่งคุณ”

“ไม่ต้องมาแล้ว ฉันอยู่ที่สนามบินแล้ว จะขึ้นเครื่องบินและบิน เดี๋ยวนี้เลย ถ้าคุณมาฉันยังต้องรอคุณอีก ทางโน้นรอไม่ไหว หรอก นรมน ดูแลตัวเองดีๆนะ ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะรู้รึเปล่า? บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทางโน้นคุณไม่มีธุระอะไรก็อย่าไปเลย ไม่ว่าจะเป็นดุลยาหรือคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ตาม คุณก็ไม่ต้อง สนใจทั้งนั้น ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรก็ตาม คุณก็ถือซะว่าไม่รู้เรื่องราว ก็พอแล้ว ยังไงซะบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่ต้อนรับคุณ ไม่ จําเป็นต้องไปเอาอกเอาใจพวกเขาหรอก”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนองค้างอีกครั้ง

“คุณรู้เรื่องอะไรใช่มั้ย? ”

“รู้อะไรหล่ะ? ”

บุรีศรถามกลับไป

นรมนรีบส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่มีอะไร ฉันแค่รู้สึกแปลกใจ เมื่อก่อนคุณไม่เคยพูดแบบนี้กับฉัน และไม่ให้ฉันไปที่บ้านตระกูล ทวีทรัพย์ธาดาอีกด้วย”

“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้ คุณดูสิคุณนายบ้านตระ ตูลทวีทรัพย์ธาดางงๆเบอลๆเพราะตุลยาอย่างกับอะไรดี ฉันไม่ อยากให้คุณกลับไปลำบากลำบนหรอกนะ ฟังฉันนะ เรื่องที่บ้าน ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคุณอย่าเข้าไปยุ่งเลย? ”

“ได้เลย”
สุดท้ายแล้วนรมนก็ยังไม่ได้พูดเรื่องของคุณนายตระกูลทวี ทรัพย์ธาดาให้กับบริศร์อยู่ดี

บุรีศร์จะไปจัดการธุระที่ต่างประเทศ เดิมทีก็วุ่นวายมากๆอยู่ แล้ว ตอนนี้เขาแสดงจุดยืนว่าไม่อยากให้ตัวเองมีส่วนร่วม สำหรับเรื่องที่บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ถ้าอย่างนั้นเธอก็เชื่อฟัง เขาเถอะ

บอกไปแค่เรื่องราวที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาได้รับยาพิษให้กับ ธรณี วันข้างหน้าที่บ้านพวกเขาจะเป็นยังไงก็ตามล้วนไม่เกี่ยว ข้องกับเธออีกต่อไปแล้ว

บริศ เห็นว่านรมนรับปากแล้ว ถึงได้โล่งอกสักที

“เอาหล่ะ ฉันจะขึ้นเครื่องแล้ว ไม่คุยแล้วนะ บนเครื่องไม่มี สัญญาณ ทางโน้นเวลาอาจจะสลับกัน ฉันถึงแล้วจะโทรหาคุณ นะ”

“อืม เดินทางปลอดภัยนะ มีเรื่องอะไรติดต่อกับฉันบ่อยๆนะ จีนรมนก็อาลัยอาวรณ์ขึ้นมา

ถ้ารู้ล่วงหน้าก่อนว่าเขาจะไปต่างประเทศ และเพื่อไปทำงาน ยังจะงอนเขาทำไมกันเล่า?

“อืม? ”

“หลังจากคุณจัดการธุระทางโน้นเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปท่องเที่ยวมั้ย? คุณเคยรับปากฉันกับลูกๆเอง อย่ากลับ อีก

ตอนนี้นรมนเหมือนกับสาวน้อย น้ำเสียงที่ออดอ้อนออเซาะ และอาลัยอาวรณ์นั้นเกือบทำให้บริศร์ควบคุมไม่ได้

“ได้เลย จัดการธุระครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว ฉันจะพาพวกคุณไป แน่นอน”

“เรารอคุณกลับมานะ”

นรมนวางสายไปอย่างอาลัยอาวรณ์

หัวใจของเขาว่างเปล่าๆอย่างกะทันหัน

ทำไมจู่ๆก็ไปทำงาน ที่ต่างประเทศนะ?

เมื่อกี้ตัวเองก็ลืมถามบุริศร์ว่าไปประเทศไหน จึงคิดเวลาไม่ได้ ได้แต่รอบริศ ติดต่อเธอแล้วแหละ

จู่ๆนรมนรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวเดียวดายเหลือเกิน

เธอหัวเราะแบบประชดประชันโดยไม่รู้ตัว

บุรีศร์ แค่ออกไปทำงานที่ต่างประเทศ เมื่อก่อนใช่ว่าจะไม่เคย ไป ทําไมตอนนี้ถึงปรับตัวไม่ได้หล่ะ?

ก็แค่ไม่กี่วันเท่านั้น อีกไม่นานเขาก็กลับมาแล้ว

นรมนปลอบใจตัวเองอย่างไม่ขาดสาย แต่กลับรู้สึกอยู่เรื่อย เลยว่าไม่ค่อยสบายใจนัก ความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกำลังจะสูญ เสียอะไรไปสักอย่าง
เธอแอบด่าตัวเองในใจ ช่วงนี้อาจจะคิดฟุ้งซ่านมากไปหน่อย เพราะฉะนั้นถึงได้มีความรู้สึกเช่นนี้หรอกมั้ง

หลังจากบุรีศรทางโน้นได้วางสายไปเรียบร้อยแล้ว ป้องมอง หน้าเขา และถามขึ้นมาอีกครั้ง

“คุณแน่ใจหรอว่าแบบนี้ดีจริงๆ? บุริศร์ คุณไปทางโน้น จําเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด คุณต้องรู้นะว่า ถ้าอาการคุณ กำเริบเมื่อไหร่ คุณไม่มีสติเลยนะ เวลาเช่นนี้ ภรรยาคุณอยู่ข้าง กายคุณจะดีที่สุด เธอพูดถูกแล้ว พวกคุณเป็นคนที่จะจูงมือและ ก้าวไปด้วยกัน เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ คุณไม่ควรปิดบังเธอเลยนะ”

“ฉันจะบอกกับเธอยังไง? พูดกับเธอมีแต่จะทำให้เธอกังวลไม่ ว่า ยิ่งไปกว่านั้นต้องตามมาแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นอีกด้วย ถ้า เธอตามมา ลูกๆควรทำยังไง? อีกอย่างหลังจากแท้งลูกเมื่อครั้ง ที่แล้ว อาการของร่างกายเธอคุณใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องเลิกยาเสพติด แบบนี้ลำบากแค่ไหน เธอรับไม่ไหวหรอกนะ ความรักที่เธอมีต่อ ฉันฉันรู้ดีที่สุด คุณจะให้เธอเห็นหน้าตาที่ทรมานของฉันแบบต่อ หน้าต่อตา การที่ถูกจู่โจมทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจแบบนั้น ฉันจะทนเห็นเธอเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน? ”

ทำไมบุรีศร์จะไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองอยากให้อยู่ข้างกายที่สุดก็คือ นรมน แต่ว่าเขาทำไม่ได้

ร่างกายของนรมนทนไม่ไหวแน่!

ป้องกลับไม่คิดแบบนี้

“บุริศร์ บางครั้งผู้หญิงเข้มแข็งกว่าผู้ชายเสียอีก โดยเฉพาะเวลาที่เผชิญกับคนที่ตัวเองรัก คุณทบทวนอีกสักครู่เถอะลูกๆมี แม่ของคุณและพ่อแม่บ้านตระกูลธนาศักตอนดูแลอยู่ ความจริง คุณไม่ต้องกังวลเกินไปหรอก”

“ไม่ต้องกังวลหรือ? ตอนนี้บ้านตระกูลโตเล็กตกอยู่ใน อันตราย คนที่ลงมือกับฉันและคุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาต ยังหาไม่เจอ การจากไปของฉันเป็นความจำเป็น ใครก็ไม่รู้ว่า ต่อมาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถ้าเธออยู่ที่บ้านตระกูลโตเล็ก อย่าง น้อยยังมีตรินท์อยู่ และอย่างน้อยยังมีเจตต์กับธรณีอยู่อีกด้วย แต่ว่าหากอยู่กับฉัน เจอกับความอันตรายอะไรบ้าง ใครจะไปรู้ คุณกับฉันคิดไปเองว่าทำได้อย่างรอบคอบและมิดชิดแล้ว แต่ว่า ถ้าฝ่ายตรงข้ามเล็งเราไว้ตั้งนานแล้ว ตอนนี้ฉันไปไหนก็ตาม คาดว่าฝ่ายตรงข้ามก็ต้องตรวจสอบให้ได้ เวลาที่ฉันอ่อนแอที่สุด อาจจะเป็นโอกาสที่พวกเขาจู่โจมฉัน ถ้านรมนอยู่กับฉัน ฉันไม่ กล้าจินตนาการเลย”

การวิเคราะห์ของบริศร์ และคำพูดของเขาทำให้ป้องอึ้งไปเลย

โดยไม่รู้ตัว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ